Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1261 : กลืนเปลวไฟหลากสี!

  แต่ถึงแม้หวังชงเซียวอยากจะร้องไห้แต่เขาก็ดีใจอย่างมากที่ได้รู้ว่า ตนนั้นช่างโชคดียิ่งนักที่ได้มาพบกับหลิงหยุน อย่าว่าแต่จะให้เขาเป็นลูกน้องของหลิงหยุนเลย เขาพร้อมที่จะคาราวะหลิงหยุนเป็นอาจารย์ด้วยซ้ำ หากหลิงหยุนยินยอม..

  หลิงหยุนถึงกับหัวเราะออกมาพร้อมกับตอบไปว่า ในเมื่อเราหยิบของของผู้อื่นมาโดยไม่บอกเจ้าของเช่นนี้ ก็ต้องนำกลับไปคืนเจ้าของจึงจะถูกต้องไม่ใช่รึ แต่เอาเถิด.. เพียงแค่แพะตัวเดียวคงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนัก.. 

   ถ้าเช่นนั้นคุณชายมีภารกิจสำคัญใดให้ข้าทำอย่างนั้นรึ! 

  หลิงหยุนยิ้มพร้อมตอบหวังชงเซียวไปว่า ตอนนี้ก็เกือบจะตีสี่แล้ว ข้าว่าเจ้าไปหาที่พักผ่อนก่อนจะดีกว่า แต่ห้ามกลับไปที่โรงประมูลโดยเด็ดขาด!     เอ่อ.. 

   คุณชาย..ในขั้นลิ่วเฉิงชี่นี้ ข้าไม่ต้องกินไม่ต้องนอนติดต่อกันได้ถึงเจ็ดแปดวัน 

  ความหมายของหวังชงเซียวก็คือเขาสามารถติดตามหลิงหยุนไปได้ทุกที่นั่นเอง..

   เจ้าต้องการกลับไปที่บ้านกับข้างั้นรึ! หลิงหยุนยิ้มมุมปากพร้อมกับถามไปตามตรง

   ข้าเป็นลูกน้องของคุณชายย่อมไม่กล้าร้องขอ คุณชายได้โปรดพิจารณาตามความเหมาะสมเถิด.. 

  หลิงหยุนหยิบยันต์บำบัดระดับหกออกมาส่งให้หวังชงเซียวพร้อมกับสั่งว่า  นี่คือยันต์บำบัดระดับหก เจ้าจัดการรักษาบาดแผลที่มือทั้งสองข้างของเจ้าก่อน.. 

  บาดแผลทั้งสองของหวังชงเซียวนั้นเกิดจากการประมือกับหลิงหยุนก่อนหน้านี้นั่นเองแต่ถึงแม้จะเป็นบาดแผลเล็กน้อย แต่หวังชงเซียวก็รู้สึกเจ็บแปลบอยู่ตลอด..    ขอบคุณคุณชาย! 

  หวังชงเซียวเอ่ยขอบคุณหลิงหยุนด้วยความดีอกดีใจที่หลิงหยุนมอบยันต์บำบัดล้ำค่าให้ตนใช้รักษาอาการบาดเจ็บเช่นนี้

  หลิงหยุนเห็นหวังชงเซียวเก็บยันต์ไว้เช่นนั้นจึงรู้ได้ทันทีว่าเขาไม่คิดที่จะใช้มัน แต่เขาก็ไม่สนใจ และบอกกับหวังชงเซียวว่า

   ข้าไม่สามารถพาเจ้ากลับไปที่บ้านได้จริงๆเจ้าไปหาที่พักชั่วคราวในปักกิ่งก่อน แล้วข้าจะติดต่อเจ้ากลับไปอีกที.. 

   น้อมรับคำสั่งคุณชาย! หวังชงเซียงตอบกลับทันทีเช่นกัน

  จากนั้นทั้งคู่ต่างก็ให้ข้อมูลติดต่อของกันและกันหลิงหยุนเหลือบมองเจ้าแพะสีขาวพร้อมกับพูดขึ้นว่า

   ในเมื่อเจ้าเองก็ไม่มีธุระอะไรเร่งรีบก็นำเจ้าแพะนี้กลับไปที่เดิมเถิด.. 

   ขอรับ! 

  และหลังจากที่หวังชงเซียวจากไปพร้อมกับแพะสีขาวตัวใหญ่แล้วหลิงหยุนก็เรียกรถออกมาจากแหวนจักรวาล และขับกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลหลิงทันที

   คืนนี้ช่างเป็นคืนที่มีความสุขจริงๆ! 

  หลิงหยุนพึมพำออกมาอย่างอารมณ์ดีระหว่างทางที่ขับรถกลับบ้านเพราะในคืนนี้เขาได้รับผลประโยชน์อย่างมากมายมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดจำนวนมาก และสมบัติล้ำค่าต่างๆที่จะเป็นประโยชน์ต่อตระกูลหลิงยิ่งนัก

   รีบกลับบ้านดีกว่า.. 

  หลิงหยุนนึกถึงภูเขาไฟหลากสีด้วยความตื่นเต้นดีใจและรีบเหยียบคันเร่งบึ่งรถไปอย่างรวดเร็ว

  ระยะทางจากวงแหวนที่ห้าตะวันออกไปจนถึงคฤหาสน์ตระกูลหลิงนั้นห่างกันเพียงแค่สิบกว่ากิโลเมตรเท่านั้น หลิงหยุนจึงขับกลับไปถึงอย่างรวดเร็ว

  เมื่อเข้าไปในห้องของตนเองหลิงหยุนก็ได้สร้างค่ายกลสกัดจิตหยั่งรู้ของคนภายนอกขึ้น เพราะมีสมบัติล้ำค่าบางชิ้นที่เขาไม่ต้องการให้คนในตระกูลหลิงได้รู้เช่นกัน

  อย่างเช่นภูเขาไฟหลากสีเป็นต้น..

  หลังจากที่สร้างค่ายกลเสร็จเรียบร้อยแล้วหลิงหยุนก็รีบนำภูเขาไฟหลากสีออกมาสำรวจทันที ภูเขาไฟหลากสีนี้มียอดทั้งหมดห้ายอด และมีเปลวไฟทั้งหมดห้าสีที่กำลังลุกโชน

   พ่อหนุ่มสายตาของเจ้าเฉียบคมยิ่งนัก อีกทั้งยังมีความรอบรู้มากมาย สมบัติล้ำค่าอย่างภูเขาไฟหลากสีเช่นนี้ เจ้ายังสามารถได้มันมาครอบครอง.. 

  ระหว่างที่หลิงหยุนกำลังชื่นชมอยู่กับภูเขาไฟหลากสีนั้นเสียงของพู่กันจักรพรรดิแห่งมวลมนุษย์ก็ดังขึ้นท่ามกลางจุดซือไห่..

   โอ้..อาวุโสกล่าวชนเกินไป! 

  ไม่บ่อยนักที่พู่กันจักรพรรดิจะยอมสื่อสารกับตนเมื่อได้ยินเช่นนั้นหลิงหยุนจึงถึงกับหัวใจพองโต

   เจ้าจะมั่วชื่นชมความงามของมันอยู่ทำไมกันเล่ารีบกลืนเปลวไฟทั้งห้าเข้าไปเร็วเข้า? อย่าได้รีรอให้เสียเวลา.. 

  พู่กันจักรพรรดิแห่งมวลมนุษย์เอ่ยเร่งเร้าหลิงหยุน

   เอ่อ.. 

  หลิงหยุนมีสีหน้ากระอักกระอ่วนและมีท่าทีลังเล

   เจ้าเด็กโง่..นี่เจ้าคิดจะยึดเปลวไฟห้าธาตุไว้ใช้แต่เพียงผู้เดียวงั้นรึ! 

  พู่กันจักรพรรดิเอ่ยตำหนิในความขี้เหนียวของหลิงหยุนจากนั้นจึงพูดต่อว่า  เปลวไฟห้าธาตุนี้จะช่วยบ่มเพาะพลังหยินและหยางในกายเจ้า จากนั้นจะกลับกลายเป็นเปลวไฟห้าธาตุหยินหยาง ส่วนตัวข้าเองกับตาเฒ่านั่นก็ยังจะได้ประโยชน์จากมันด้วย.. 

  หลิงหยุนรีบถามกลับไปทันที ไม่ทราบอาวุโสทั้งสองจะได้ประโยชน์ใดจากเปลวไฟห้าธาตุนี้งั้นรึ 

   พวกเราก็จะเปลวไฟห้าธาตุสามารถซ่อมแซมตัวเองน่ะสิ! 

  พู่กันจักรพรรดิแห่งมวลมนุษย์เคยผ่านศึกสงครามครั้งใหญ่ในอดีตมาและจำต้องซ่อมแซมรักษาตนเอง

   แต่เจ้าอย่าได้กังวลใจไปว่าเปลวไฟห้าธาตุหยินหยางนี้จะถูกพวกเราดูดซับเข้าไปจนหมดเพราะพวกเราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพียงแต่ต้องการใช้ความร้อนของเปลวไฟนี้ซ่อมแซมตลอดทั้งวันทั้งคืนต่างหาก.. 

  และแน่นอนว่าหลิงหยุนไม่เคยกลัวพู่กันจักรพรรดิแห่งมวลมนุษย์และสมุดจักรพรรดิแห่งผืนแผ่นดินจะขโมยเปลวไฟห้าธาตุของตนไป เพราะตราบใดที่มีทั้งสองอยู่ด้วยเช่นนี้ ไม่ว่าจะเกิดอันตรายอะไรเขาก็จะปลอดภัย..

   ขอบคุณอาวุโสที่ชี้แนะ! 

  จากนั้นหลิงหยุนก็อ้าปากกว้างพร้อมกับก้มหน้าลงดูดกลืนเปลวไฟห้าธาตุเข้าไปทันที!   เปลวไฟห้าธาตุนั้นไม่ร้อนและไม่สามารถเผารนวัตถุอื่นได้ หลิงหยุนจึงสามารถดูดกลืนเข้าไปได้อย่างง่ายดาย..

  หลังจากที่เปลวไฟห้าธาตุถูกดูดกลืนเข้าไปในท้องเปลวไฟเหล่านั้นก็ได้ห่อหุ้มพลังหยินและหยางทั้งหมดไว้ทันที และกระบวนการบ่มเพาะหยิน–หยางก็ได้เริ่มต้นขึ้น

  เวลานี้จุดตันเถียนของหลิงหยุนได้มีเปลวไฟห้าสีลุกโชนโชติช่วงอยู่ตลอดเวลา..

  ดวงตาปลาหยินและปลาหยางเองก็ถูกเปลวไฟทั้งห้าโอบล้อมบ่มเพาะเช่นกัน!

   ฮ่า..ฮ่า.. คงจะอีกราวครึ่งเดือน เปลวไฟห้าธาตุนี้ก็จะกลายเป็นเปลวไฟห้าธาตุหยินหยางแล้ว! 

  หลิงหยุนนึกถึงประโยชน์ที่จะได้รับตามมาหลังจากบ่มเพาะเปลวไฟห้าธาตุหยินหยางได้สำเร็จก็ถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความดีอกดีใจ   เจ้าคงดีใจมากสินะ!แต่ก็ไม่แปลกที่เจ้าจะมีความสุขเช่นนี้!  พู่กันจักรพรรดิแห่งมวลมนุษย์เอ่ยขึ้น ก่อนจะเงียบไปและคร้านที่จะสื่อสารกับหลิงหยุนอีก

  หลิงหยุนจึงพอคาดเดาได้ว่าสมบัติชิ้นอื่นๆนั้นคงไม่อยู่ในสายตาของพู่กันจักรพรรดิแห่งมวลมนุษย์เป็นแน่..

  หลังจากที่เปลวไฟห้าธาตุถูกหลิงหยุนกลืนลงท้องไปแล้วแต่สีสรรของภูเขาไฟยังคงสวยงามไม่น้อย เพียงแต่ไม่มีเปลวไฟหลากสีลุกโชติช่วงให้เห็นอีกเท่านั้น..

  แต่ถึงกระนั้นนี่ก็คือภูเขาไฟหลากสีของจริงแม้เปลวไฟทั้งห้าสีของมันจะดับลงแล้ว แต่หากตั้งทิ้งไว้อีกสักช่วงระยะเวลาหนึ่ง เปลวไฟทั้งห้าก็จะลุกโชนขึ้นได้อีกครั้ง

  นี่จึงนับเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแท้จริง!

  หลังจากนั้นหลิงหยุนก็มองเข้าไปในแหวนจักรวาลของตนเองอีกครั้ง ในที่สุดเขาก็เรียกศิลาห้าสีออกมา..   หลิงหยุนถือศิลาห้าสีซึ่งมีทั้งสีม่วงสีขาว สีเหลือง สีแดง และสีดำไว้ในมือ พร้อมกับร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น

   ภายในจะมีไขหยกอยู่หรือไม่นะ! 

  ตั้งแต่ที่หลิงหยุนได้ศิลาห้าสีมานั้นเขาก็เก็บมันเอาไว้ภายในแหวน และไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไหร่นัก เพราะไม่มีพลังชีวิตกระจายออกมาเลยแม้แต่น้อย

  แต่เป็นเพราะความสวยงามของมันและเป็นหินที่หาได้ยาก หลิงหยุนจึงได้เก็บเอาไว้ก่อน อีกทั้งเขาเองก็ไม่ได้ขัดสนเงินทองจึงไม่คิดที่จะขายมันไป

  เขาจำได้ว่าตั้งแต่ซื้อหินนี้มาเขาใช้ประโยชน์จากมันไปเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น คือตัดหินทั้งห้าสีขนาดเท่าฝ่ามือไปทำเป็นเครื่องประดับมอบให้กับเย่ซิงเฉิน

  หลิงหยุนใช้พลังจิตควบคุมกระบี่กังฉีออกมาเพื่อที่จะเริ่มตัดหินสีแดงดูก่อน เขาค่อยๆควบคุมกระบี่กังฉีให้เจาะเข้าไปด้านในของหินทีละเล็กทีละน้อย และใช้จิตหยั่งรู้สอดส่องไปตามร่อง และเมื่อใดที่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่ปลดปล่อยออกมา นั่นย่อมหมายถึงความสำเร็จ!

  หนึ่งเซ็นติเมตร..สองเซ็นติมตร..

  แต่เมื่อเจาะเข้าไปลึกถึงห้าเซ็นติเมตรจนเป็นรอบวงกลมแล้วกลับไม่มีพลังชีวิตไหลหลั่งออกมาเลยแม้แต่น้อย หลิงหยุนจึงได้แต่ผิดหวัง

  แต่ทันทีที่เขาใช้กระบี่กังฉีผ่าเข้าไปตรงกลางระหว่างช่องที่แซะไว้นั้นจู่ๆพลังชีวิตที่แข็งแกร่งก็พวยพุ่งออกมาอย่างน่าอัศจรรย์ มันหนาแน่นถึงขนาดที่หลิงหยุนต้องใช้เวลาดูดซับถึงสี่อาทิตย์เลยทีเดียว

   ฮ่า..ฮ่า.. ในที่สุดมันก็คือไขหยกแดงชั้นเยี่ยมจริงๆด้วย! 

  หลิงหยุนร้องตะโกนออกมาอย่างมีความสุข..

  จากนั้นหลิงหยุนจึงใช้กระบี่กังฉีค่อยๆแซะเอาไขหยกแดงที่ฝังอยู่ด้านในออกมาอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย

   โอ้โห!ช่างเป็นไขหยกแดงที่มีขนาดใหญ่มากจริงๆ! 

  ไขหยกแดงเม็ดนี้เป็นรูปทรงกลมและมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบสิบสองเซ็นติเมตรเลยทีเดียว มีสีแดงคล้ายโลหิต และใสเป็นประกาย

  หลิงหยุนถือไขหยกแดงไว้ในมือเขาสัมผัสได้ถึงความละเอียดอ่อน และอบอุ่นของมัน อีกทั้งยังรู้ได้ว่ามันสามารถเชื่อมต่อกับเลือดในกายของเขาได้ ทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที

   ช่างเป็นสมบัติที่ล้ำค่ามากอีกหนึ่งชิ้นทีเดียว!ขนาดของมันใหญ่กว่าไขหยกม่วงที่เพิ่งได้มาหลายเท่านัก.. 

  ไขหยกแดงนี้เป็นหินพลังชีวิตที่สามารถช่วยเพิ่มโลหิตในร่างกายของมนุษย์ได้สามารถใช้ได้ดีกับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง หรือผู้ที่ต้องเสียเลือดมาก  ไขหยกแดงนี้ใช้ได้ทั้งในทางการแพทย์อีกทั้งยังช่วยในการเพิ่มพลังในการต่อสู้ได้อีกด้วย!

  และหากนำมาตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยหลิงหยุนก็จะสามารถใช้เป็นวัตถุในการสร้างค่ายกลได้อีกด้วย และหากเขาอยู่ในค่ายกลที่สร้างขึ้นด้วยไขหยกแดง เขาก็จะสามารถควบคุมการไหลเวียนของโลหิตในร่างกายของตนเองได้ ทำให้มีผลต่อพลังในการต่อสู้อย่างมาก!

  อีกทั้งยังสามารถใช้ในการกลั่นโอสถได้เช่นกัน!

  หลิงหยุนนั่งชื่นชมและดูดซับเอาพลังชีวิตจากไขหยกแดงเข้าไปอยู่ครู่ใหญ่ แล้วจึงรำพึงรำพันออกมาว่า

   ในเมื่อมีไขหยกแดงก็น่าจะมีไขหยกสีอื่นๆด้วยเช่นกัน! 

  ภายใต้ความตื่นเต้นดีใจหลิงหยุนเริ่มลงมือแซะเอาไขหยกสีอื่นๆออกมาอีก โดยเริ่มจากหินสีม่วง และครั้งนี้หลิงหยุนก็มีประสบการณ์จากการแกะหินสีแดงแล้ว เขาจึงใช้เวลาไปเพียงแค่เจ็ดถึงแปดนาทีเท่านั้น ก็สามารถแซะเอาไขหยกม่วงออกมาได้

   โอ้..ขนาดใหญ่เท่าๆกับไขหยกแดงเลยทีเดียว! 

  หลิงหยุนร้องอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นและไขหยกม่วงนี้ก็มีขนาดใหญ่กว่าไขหยกม่วงที่เขาได้มาหลายเท่านัก

  หลิงหยุนไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้นเขาเริ่มลงมือแกะก้อนหินสีอื่นๆอีก ในที่สุดเขาก็ได้ไขหยกขาว ไขหยกเหลือง และไขหยกดำที่มีขนาดใกล้เคียงกันมาครอบครอง

   ฮ่า..ฮ่า.. ฮ่า.. 

  หลิงหยุนหัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุขแทบไม่ต้องพูดถึงมูลค่าของไขหยกทั้งห้าสี และด้วยประสิทธิภาพของไขหยกทั้งห้าสีนี้ เขาจะสามารถกลั่นโอสถสร้างรากฐานปราณได้อย่างไม่ยากนัก!

  นอกเหนือจากไขหยกทั้งห้าสีล้ำค่านี้แล้วหลิงหยุนยังสามารถนำหยกที่ห่อหุ้มนี้ไปทำเป็นเครื่องประดับขายได้อีก..

  หลังจากที่จัดการผ่าศิลาห้าสีไปแล้วหลิงหยุนก็กำลังนึกถึงราชาหินก้อนโต และตัดสินใจเรียกมันออกมาจากแหวนจักรวาลทันที

  แต่ครั้งนี้หลิงหยุนไม่ได้ใช้กระบี่กังฉีในการผ่าแต่เปลี่ยนมาใช้กระบี่เหินเงาธนูแทน เพราะราชาหินมีขนาดที่ใหญ่มาก สูงถึงครึ่งเมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึงหนึ่งเมตร อีกทั้งพื้นผิวยังมีลักษณะขรุขระอีกด้วย

   เป็นไปตามที่คาดไว้จริงๆ! 

  หลังจากที่ใช้กระบี่เหินเงาธนูตัดเข้าไปได้เพียงแค่สี่สิบเซ็นติเมตรหลิงหยุนก็สัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่รุนแรงยิ่งนัก!

  พลังชีวิตของไขหยกเขียวนั้นมีคุณสมบัติคล้ายกับพลังชีวิตที่ได้รับจากสมุนไพรที่ให้พลังชีวิตคือทำให้ผู้ที่ได้รับไปมีพลังวังชาและมีชีวิตชีวา..

  นอกเหนือจากจะสามารถนำมาใช้ในการกลั่นโอสถและปลุกเสกยันต์แล้วไขหยกเขียวยังช่วยให้ผู้ฝึกบ่มเพาะตนก้าวข้ามอุปสรรค์ต่างๆได้ และยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย

  ไขหยกเขียวแวววาวนี้มีความสูงถึงสี่สิบเก้าเซ็นติเมตรและมีเส้นผ่าศูนย์กลางสามสิบหกเซ็นติเมตร รูปลักษณ์ของมันมีลักษณะคล้ายกับราชาหิน และมีน้ำหนักเท่ากับหนึ่งในสิบส่วนของราชาหิน..

   แค่นี้ก็มากพอแล้ว! 

  หลิงหยุนไม่นึกไม่ฝันว่าตนเองจะได้ไขหยกที่ล้ำค่าถึงหกสีมาครอบครองเช่นนี้และนี่นับเป็นหินพลังชีวิตที่ล้ำค่าอย่างมากในโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่

 

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร
Status: Ongoing
ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset