Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน – ตอนที่ 461: ประชุมศิษย์นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย

 

“ท่านกลับมาตั้งเมื่อไหร่ ท่านผู้นำนิกาย และท่านไปที่ไหนมาตลอดทั้งอาทิตย์” ผู้อาวุโสซุนถามหลังจากที่พวกเขาเข้าไปในอาคาร

 

“ได้โปรด มิจำเป็นต้องเป็นทางการเช่นนั้น ท่านเพียงแค่เรียกข้าว่า ซูหยาง ตามปกติ” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ได้รับซุนจิงจิงมาร่วมตระกูลแล้ว ซึ่งก็จะทำให้ผู้อาวุโสซุนกลายเป็นปู่ของเขาเช่นกัน

 

“สำหรับคำถามของท่านนั้น ข้าเพิ่งกลับมา และข้าไปที่ทวีปใต้ชั่วขณะ”

 

“ด-เดี๋ยวก่อน.. อะไรนะ ทวีปใต้” ผู้อาวุโสซุนหยุดเดินและมองเขาด้วยสายตางงงัน

 

“ถึงแม้ว่าท่านจะมีวิธีข้ามทะเลหยก แต่นั่นก็ต้องการเวลาอย่างน้อยห้าปีก่อนที่ท่านจะไปถึงอีกทวีป อย่าว่าแต่ไปกลับ อีกทั้งท่านก็ยังไปแค่อาทิตย์เดียว”

 

“ให้ถือเสียว่าข้ามีวิธีเดินทางที่รวดเร็วมาก…” ซูหยางตอบผ่านๆด้วยรอยยิ้ม

 

“…”

 

หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ ผู้อาวุโสซุนก็หันไปมองดูหญิงสาวที่มีผิวสีแทนข้างกายเขาและถามว่า “หญิงสาวคนนี้เป็นใครกัน อย่าบอกข้าว่าท่านรับตัวเธอมาจากทวีปใต้เช่นกัน”

 

“ท่านช่างเฉียบแหลมสุดยอดในวันนี้ ผู้อาวุโสซุน หรือว่าเป็นเพราะท่านทะลุผ่านเข้าสู่เขตปฐพีวิญญาณ”

 

“ส-สวัสดี ข้าเรียกว่าชินเหลียงหยู และข้าก็มาจากทวีปใต้จริงๆ ด้วยเหตุผลบางอย่างข้าจักติดตามซูหยางนับตั้งแต่วันนี้ ข้าขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย” ชินเหลียงหยูแนะนำตัวอย่างสุภาพให้กับผู้อาวุโสซุน ในเมื่อดูเหมือนว่าเขาจะมีความสัมพันธ์อันดีกับซูหยาง

 

“อ-อือ” ผู้อาวุโสซุนพยักหน้าและกล่าวด้วยสายตาตื้นตัน “ข้าคือผู้อาวุโสซุน ผู้อาวุโสของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย ข้ามิเคยพบใครจากทวีปใต้มาจนกระทั่งถึงวันนี้ ดังนั้นนับว่าเป็นความยินดีที่ได้พบกับเจ้า”

 

หลังจากที่พวกเขาแนะนำตัวกันไปแล้ว ชินเหลียงหยูก็ถามว่า “อืม… ท่านเรียกซูหยางว่า “ผู้นำนิกาย” เมื่อกี้นี้ นี่หมายความว่าเขาเป็น…”

 

“ใช่แล้ว ตอนนี้ข้าเป็นผู้นำนิกายของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย สถานที่ต่ำต้อยที่มีศิษย์เพียงไม่กี่สิบคนในเวลานี้” ซูหยางกล่าว

 

“ว้าว… ผู้นำนิกาย…”

 

ชินเหลียงหยูประทับใจ แม้ว่าจะมีสำนักในทวีปใต้เช่นกันแต่ก็ไม่มากนัก ดังนั้นตำแหน่งเจ้าสำนักจึงได้รับการยกย่องเป็นอย่างมากในทวีปใต้มากกว่าในทวีปตะวันออก ที่ซึ่งมีนับสิบนับร้อยสำนักเฉพาะตัว

 

“ว่าแต่ว่าสิ่งต่างๆเป็นอย่างไรบ้างนับตั้งแต่การแข่งขัน” ซูหยางถามเขา

 

“เอ้อ… อย่างที่เห็นข้างนอกนั่น พวกเราต้องจัดการกับเหตุการณ์แบบนั้นเกือบทุกวันหลังจากที่การแข่งขันจบ แต่นั่นก็เป็นดังคาดในเมื่อพวกเราเป็นสำนักแรกที่ได้เป็นแชมป์ของการแข่งขันระดับภูมิภาคนอกจากสำนักกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนั้นศิษย์ของเราก็ได้ฝึกฝนอยู่อย่างเงียบๆภายในห้องของตนเองรอคอยให้ท่านกลับมา”

 

“ข้าเข้าใจ…” ซูหยางพยักหน้า

 

สองสามนาทีหลังจากนั้น ซูหยางก็กลับไปที่ห้องของตนเอง ฟางซีหลานและซุนจิงจิงต่างก็นั่งขัดสมาธิบนเตียงฝึกฝนวิชาอย่างเงียบๆ

 

เมื่อพวกเธอสังเกตเห็นว่าประตูเปิด พวกเธอก็หยุดฝึกและลืมตาขึ้น

 

“ซูหยาง ท่านกลับมาแล้ว”

 

ครั้นเมื่อพวกเธอเห็นใบหน้าเขา พวกเธอก็พลันกระโดดออกจากเตียงด้วยความตื่นเต้นทั่วทั้งใบหน้า ซุนจิงจิงถึงกับเข้ามากอดเขาโดยตรง

 

“ข้ากลับมาแล้ว” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“…”

 

เมื่อชินเหลียงหยูเห็นสาวสวยสองคนนี้ เธอก็คิดสงสัยว่าพวกเธอก็เป็นคู่เคียงของเขาเช่นเดียวกันหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซุนจิงจิงซึ่งมีกลิ่นอายคล้ายเขา

 

“เด็กสาวข้างกายเจ้าเป็นใครกัน” ฟางซีหลานถามเขาครั้นเมื่อเธอสังเกตเห็นอีกฝ่าย ซึ่งแน่ชัดว่าไม่ได้มาจากที่ใกล้เคียงนี้

 

“ผิวช่างสวยเหลือเกิน ดูช่างเรียบเนียนด้วยเช่นกัน” ซุนจิงจิงตรวจสอบดูเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า

 

“สวัสดี ข้าชื่อชินเหลียงหยู ข้ามาจากทวีปใต้ และข้าได้ติดตามซูหยางมาที่นี่”

 

เธอแนะนำตัวเองอย่างรวดเร็ว

 

“ทวีปใต้รึ”

 

เด็กสาวทั้งสองคนมองดูเธอด้วยดวงตาเบิกกว้าง

 

“นั่นเป็นที่ซึ่งอาจารย์ของเจ้าพาไปรึ ซูหยาง ไปยังทวีปใต้รึ” ฟางซีหลานถามเขา

 

“หือ อาจารย์ของข้ารึ” ซูหยางเลิกคิ้วด้วยท่าทางสงสัย

 

“เอ๋ ถ้าเช่นนั้นสาวสวยผมขาวมิได้เป็นอาจารย์เจ้ารึ คนที่พาเจ้าและหงอวี้เอ๋อร์ไปหลังจากที่จบการแข่งขัน” ฟางซีหลานมีสีหน้าสับสนเช่นเดียวกัน

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า…” ซูหยางหัวเราะหลังจากที่รู้ว่าคนที่เธอกล่าวถึงนั้นเป็นใคร แล้วส่ายหน้า

 

“เธอมิใช่อาจารย์ของข้า”

 

“อย่างนั้นรึ…”

 

แม้ว่าเธอจะสนใจชิวเยว่ แต่ฟางซีหลานก็ไม่ได้ถามต่อ

 

“อย่างไรก็ตาม พวกเราไปยังที่ซึ่งคนอื่นอยู่กันเถอะ ข้าได้ให้ผู้อาวุโสซุนรวบรวมทุกคนแล้ว” ซูหยางกล่าวกับพวกเธอ

 

ในเวลาถัดไป ซูหยางก็เข้าไปยังอีกห้อง ที่ซึ่งโหลวหลานจีและศิษย์คนอื่นๆได้รอเขาอยู่ที่นั่น

 

“ศิษย์พี่ชาย สุดท้ายท่านก็กลับมา”

 

เหล่าศิษย์รุ่นเยาว์ต่างพากันกระโดดเมื่อพวกเขาเห็นใบหน้าของเขา

 

“ใจเย็นๆ ตัวเล็ก ข้าจากไปเพียงแค่ประมาณอาทิตย์เดียวเท่านั้น” ซูหยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“ยินดีต้อนรับกลับมา ซูหยาง” โหลวหลานจีกล่าวกับเขาด้วยรอยยิ้มโล่งอก ในเมื่อเธอได้แต่กังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้างหรือไม่

 

ไม่กี่วินาทีถัดมา เมื่อชินเหลียงหยูเข้าไปในห้อง ทุกคนที่นั่นต่างพากันหันเหความสนใจไปที่เธอ

 

แม้ว่าผิวของเธอจะเป็นสิ่งหายากในที่แห่งนี้ แต่พวกเขาก็ให้ความสนใจกับตัวตนของเธอมากกว่า ในเมื่อพวกเขาไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน

 

“…”

 

ชินเหลียงหยูกลายเป็นประหม่าไปในทันที นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นหน้าตาคนไม่คุ้นเคยมากมายปานนี้ในครั้งเดียว และพวกเขาทั้งหมดล้วนมีความเกี่ยวข้องกับซูหยาง ซึ่งทำให้เธอยากที่จะคิด

 

“ขอให้ข้าแนะนำทุกคนถึงเพื่อนคนหนึ่งที่ข้าพบที่ทวีปใต้ ชินเหลียงหยู เธอจักอยู่กับพวกเรานับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดังนั้นให้อ่อนโยนกับเธอด้วย” ซูหยางกล่าวกับพวกเขา

 

จากนั้นเขาก็หันไปหาชินเหลียงหยูและกล่าวต่อว่า “ผู้คนที่นี่ล้วนเป็นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย ข้าจักบอกข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องพวกเขาและนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยให้กับเจ้าในภายหลัง”

 

“ทวีปใต้รึ” 

 

ตามคาด คำพูดนั้นเป็นสิ่งที่เหล่าศิษย์ที่นั่นต่างพากันให้ความสนใจมากที่สุด

 

เมื่อสังเกตเห็นความสนใจของพวกเขา ซูหยางก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “มันเป็นเรื่องยาว”

 

“ข้าพนันว่า…” โหลวหลานจีพึมพัมด้วยเสียงงงงัน

 

“อย่างไรก็ตามในเมื่อข้าได้กลับมาแล้ว พวกเราก็กลับไปยังนิกายกันเถอะ ยังมีงานอีกมากมายที่ต้องทำให้เสร็จ ข้ายังจะต้องปรึกษาเกี่ยวกับอนาคตของพวกเราหลังจากที่พวกเรากลับไปมากกว่านี้”

 

ดังนั้น นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยก็เริ่มตระเตรียมการเดินทางกลับไปยังนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

ซูหยางถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตที่หน้าผาบาปนิรันดร์ ที่ซึ่งมีแต่อาชญากรสุดชั่วช้าเหี้ยมโหดเท่านั้นอาศัยอยู่ ความผิดของเขา ล่อลวงภรรยาของเทพจันทรา ลักพาน้องสาวของราชันย์มังกร และร่วมเรียงเคียงหมอนกับลูกสาวสุดที่รักของจักรพรรดิสวรรค์ สุดท้ายเขาพบกับชายชราลึกลับซึ่งช่วยให้เขาหนีออกจากคุกโดยการส่งไปสู่ร่างใหม่ ในชีวิตใหม่ ซูหยางสาบานว่าจะตามหารวบรวมคนรักของเขาใหม่ และโอบพวกเธอไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset