Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน – ตอนที่ 490 เผชิญหน้าตระกูลซุน

บทที่ 490 เผชิญหน้าตระกูลซุน
“อะไรนะ เห็นคู่หมั้นข้าจูบอยู่กับชายคนที่ตระกูลซุนอ้างว่าเป็นญาติ
ห่าง ๆ งั้นรึ เป็นไปไม่ได้” มู่ชุนต่อยหมัดลงบนโต๊ะ ทำโต๊ะพังเป็น
ตัวที่สี่ในอาทิตย์นี้
“มันเป็นความจริง นายน้อย ตามคำสั่ง พวกเราได้ตามพวกเขาทุก
วินาทีที่พวกเขาอยู่บนถนน และพวกเราก็ได้เป็นพยานว่าพวกเขาจูบ
กันภายในร้านอาหารกระต่ายหยก”
“ร้านอาหารกระต่ายหยกรึ พาข้าไปที่นั่น” มู่ชุนพลันยืนขึ้นและกล่าว
ว่า “ข้าได้เพิกเฉยเรื่องโกหกไร้สาระนี้มานานเกินไปแล้ว ข้าจักต้อง
ไปดูคู่หมั้นของข้าและญาติห่าง ๆ ของเธอ”
“ข้าก็ได้ทนมาพอแล้วเช่นกันเรื่องนี้” มู่หลานพ่อของเขาก็ยืนขึ้นเช่นกัน
และกล่าวว่า “เช่นนั้นข้าก็จักไปเยี่ยมตระกูลซุนด้วยตัวข้าเอง”
เวลาถัดไป มู่หลานก็ไปถึงที่บ้านตระกูลซุนด้วยท่าทีที่เหมือนกับว่า
พ่อแม่ของเขาเพิ่งถูกฆ่า
“ย้ายก้นของเจ้าออกมาที่นี่ ตระกูลซุน” มู่หลานคำรามสุดเสียง จ้อง
มองไปยังคนภายในตระกูลซุนที่ยังวุ่นวายอยู่กับธุระของตนเอง
หลังจากนั้นไม่นานนัก ซุนเหรินและซุนเฉียนก็มาปรากฏตัวต่อหน้า
มู่หลานพร้อมกับขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจกับความหยาบคาย
ของมู่หลาน
“ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นผู้นำตระกูลมู่ ตระกูลซุนก็มิใช่สถานที่ที่เจ้าสามารถ
มาวางก้ามได้ตามใจปรารถนา ผู้นำมู่” ซุนเฉียนกล่าวกับอีกฝ่าย
“ทำไมเจ้าถึงกลับมาที่นี่ ถ้าเจ้ามาที่นี่เพื่อที่จะพูดเรื่องลูกสาวของข้า
ใกล้ชิดสนิทสนมเกินไปกับญาติของเธอ เช่นนั้นข้าก็มิมีอะไรที่จะ
พูดอีก” ซุนเหรินถอนหายใจ
“ตระกูลซุน ตระกูลมู่ของข้าต้องเหมือนกับคนโง่ในสายตาของเจ้า
ในตอนนี้ ใช่ไหม” มู่หลานควันขึ้นหน้า หน้าผากของเขาเส้นเลือด
ปูดโปน
สองคนตระกูลซุนต่างพากันสบสายตากันด้วยความสับสนก่อนที่จะ
กล่าวว่า “เจ้าพูดอะไรกัน”
“อย่ามาแกล้งทำเป็นโง่ ชายคนนั้นที่สวมหน้ากากเห็นชัดว่าไม่ใช่
เพียงแค่ญาติ เมื่อในที่สุดพวกเราก็จับได้คาหนังคาเขาว่าพวกเขาจูบ
กันในที่สาธารณะ” มู่หลานเผยเหตุผลที่เขามาที่นี่
“อ-อะไรนะ” ซุนเหรินดวงตาเบิกกว้างด้วยความตระหนก ราวกับว่า
เธอไม่สามารถเชื่อสิ่งที่เธอเพิ่งได้ยิน
“พวกเขาจูบกันในที่สาธารณะรึ ทำไมพวกเขาจึงทำอะไรที่อื้อฉาว
เช่นนั้นในที่สาธารณะ พวกเขาคงมิโง่ขนาดนั้น” ซุนเหรินครุ่นคิด
ในใจ
“อะไรเป็นข้อพิสูจน์ว่าพวกเขาจูบกันในที่สาธารณะ” ซุนเฉียนพลัน
ถาม
“โอ เจ้ามิรู้รึ ตระกูลมู่ของข้าได้ติดตามพวกเขาตลอดอาทิตย์ที่ผ่าน
มา คอยดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาทุกฝีก้าวอย่างเงียบ ๆ และเมื่อ
มินานมานี้ พวกเราจับได้ว่าพวกเขาจูบกันที่ร้านอาหารกระต่ายหยก”
คิ้วที่ขมวดบนใบหน้าของซุนเหรินยิ่งลึกขึ้นไปกว่าเดิม คิดในใจว่า
“มิมีทางที่เพียงแค่พวกขี้ข้าจากตระกูลมู่จะสามารถติดตามคนที่อยู่
ในเขตอัมพรวิญญาณได้โดยมิถูกสังเกตพบ นี่เห็นชัดว่าเป็นกับดัก
อย่างไรก็ตามข้ายังคงมิสามารถบอกได้ว่ามันเป็นกับดักหรือไม่ต่อ
ตระกูลมู่หรือว่าต่อพวกเราเอง”
“เจ้ารู้ไหม เจ้าสามารถแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อไปได้ แต่ทว่าตระกูลมู่
ของข้าจักมินั่งอยู่เฉย ๆ ยอมรับความอัปยศนี้อีกต่อไป ลูกข้า มู่ชุน
คงจะไปเผชิญหน้าพวกนั้นแล้วในตอนนี้ ครั้นเมื่อเขายืนยันได้ว่า
พวกเขาทำเรื่องอื้อฉาว เขาคงจักฆ่าเจ้าคนสวมหน้ากากนั่นโดยมิสน
ว่าจะมีความเป็นมาอย่างไร” มู่หลานหัวเราะเสียงดัง
“อะไรนะ”
สกุลซุนทั้งสองคนต่างอุทานออกมาด้วยใบหน้าตกใจ
“จ-เจ้ากำลังพยายามที่จะฆ่าลูกตัวเองงั้นรึ” ซุนเฉียนมองดูมู่หลาน
ด้วยหน้าตาสงสาร
“เจ้าหมายความว่าอย่างไรเช่นนั้น” มู่หลานพลันขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกได้
ถึงลางร้าย
“ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็มิมีความจำเป็นที่จะต้องปกปิดตัวตนของ
เขาอีกต่อไป” ซุนเหรินส่ายหน้า
“ชายสวมหน้ากากนั่น… ตัวตนที่แท้จริงของเขาก็คือ ซูหยาง”
สุดท้ายซุนเหรินก็เปิดเผยตัวตนของเขาให้กับมู่หลาน
“ซ-ซูหยางรึ…” มู่หลานยืนอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าตื่นตะลึง เขาไม่ได้
จดจำชื่อนี้ได้ในทันที แต่หลังจากครุ่นคิดไปได้ไม่กี่วินาที ดวงตา
ของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจหลังจากที่รู้
“โอไม่ อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม ลูกข้า” มู่หลานรีบหันกายและพุ่งกาย
ออกจากตระกูลซุนด้วยร่างกายที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อเย็นเยียบ
“เราควรตามเขาไปดีไหม” ซุนเฉียนกระซิบ
“แน่นอน” ซุนเหรินพยักหน้า
ชัดเจนว่ามู่หลานกำลังมุ่งตรงไปที่ไหน ดังนั้นพวกเขาจึงทำการ
ติดตามอีกฝ่ายไป
ในเวลานั้นที่ร้านอาหารกระต่ายหยก หนึ่งในร้านอาหารหรูหราที่
ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในเมือง ซูหยางและซุนจิงจิงก็กำลัง
นั่งกินเนื้อวิญญาณอย่างผ่อนคลายราวกับว่ามันเป็นอาหารธรรมดา
ทันใดนั้นระหว่างการรับประทานอาหารเที่ยงกันอยู่นั้น ก็เกิดความ
ปั่นป่ วนขึ้นที่ทางเข้าของร้านอาหาร
“นายน้อยมู่ ท่านมาทำอะไรที่นี่– อา”
มู่ชุนเดินกระทืบเท้าเข้าไปในร้านอาหารราวกับช้างตกมันในเวลา
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ถึงกับเตะพนักงานต้อนรับออกไปพ้นทาง
ผู้คนที่อยู่ภายในร้านอาหารพากันหยุดกินเพื่อดูฉากนี้ ในเมื่อพวกเขา
ต่างรู้กันว่าทำไมนายน้อยของตระกูลมู่จึงมาปรากฏตัวในที่แห่งนี้
ด้วยอารมณ์รุ่มร้อน
“อือ โอ สุดท้ายนายน้อยมู่ก็ปรากฏตัวที่นี่” หนึ่งในลูกค้าที่นั่นกระซิบ
“เขาต้องได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว…”
“เขาใช้เวลานานพอดู”
ในขณะที่ลูกค้าพากันกระซิบกระซาบกัน มู่ชุนก็กวาดสายตาไปใน
ร้านอาหารด้วยดวงตาหรี่แคบจนกระทั่งสังเกตเห็นหญิงสาวสวยนั่ง
อยู่ใกล้กับด้านหลังของร้านอาหาร
เพียงแค่มองผ่าน ๆ ในครั้งแรก เขาก็ตกตะลึงไปกับความสวยของ
ซุนจิงจิง แต่เมื่อเขาจำได้ว่าตนเองมาที่นี่ทำไม เขาก็เดินกระทืบเท้า
ไปยังอีกฝ่ายพร้อมกับพุงโย้ที่ส่ายไปมาตลอดทาง
“ซุนจิงจิง นี่หมายความว่าอะไรกัน เจ้าบ้านี้เป็นใครกัน”
เมื่อสุดท้ายมู่ชุนได้มาถึงที่โต๊ะของพวกเขา ซุนจิงจิงและซูหยางก็ได้
หยุดกินและมองดูร่างที่เตี้ยและอ้วนกลมที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าซุนจิงจิงไม่ได้ตอบคำถามของเขา มู่ชุนก็
กล่าวต่อว่า “ข้ากำลังถามคำถามเจ้า ซุนจิงจิง อย่าคิดว่าข้ามิรู้ว่าเจ้า
จูบกับชายคนนี้ก่อนหน้านี้ในร้านอาหารแห่งนี้ เจ้าถือว่าเป็นหญิง
ของข้าแล้ว และเราก็หมั้นหมายกันแล้ว ถ้าเจ้ามิต้องการที่จะให้ข้า
ฆ่าเขา ก็จงตอบข้ามา”
“ข้าควรถามเจ้าคำถามเดียวกัน” ซูหยางพลันกล่าวขึ้นในขณะที่เขา
เช็ดริมฝีปากของเขาอย่างสง่างามด้วยผ้าผืนหนึ่ง “ไอ้โง่ตัวไหน
ปล่อยหมูออกมาจากกรง มันทำให้ความอยากอาหารของข้าป่ นปี้”

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

ซูหยางถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตที่หน้าผาบาปนิรันดร์ ที่ซึ่งมีแต่อาชญากรสุดชั่วช้าเหี้ยมโหดเท่านั้นอาศัยอยู่ ความผิดของเขา ล่อลวงภรรยาของเทพจันทรา ลักพาน้องสาวของราชันย์มังกร และร่วมเรียงเคียงหมอนกับลูกสาวสุดที่รักของจักรพรรดิสวรรค์ สุดท้ายเขาพบกับชายชราลึกลับซึ่งช่วยให้เขาหนีออกจากคุกโดยการส่งไปสู่ร่างใหม่ ในชีวิตใหม่ ซูหยางสาบานว่าจะตามหารวบรวมคนรักของเขาใหม่ และโอบพวกเธอไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset