Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน – ตอนที่ 527 แจกวิชาฝีมือเหมือนแจกขนม

บทที่ 527 แจกวิชาฝีมือเหมือนแจกขนม
หลังจากที่ฝึกฝนร่วมกันเป็นเวลาสองสามชั่วโมง ซูหยางก็ประทับ
ผนึกตระกูลไว้บนร่างของจางซิวยิง
“ช่างเป็นรอยจารึกที่สวยมาก…” จางซิวยิงลูบคำผนึกตระกูลที่อยู่
ต่ำลงไปจากบริเวณท้องของเธอด้วยสีหน้าหลงใหล ราวกับว่าแม่ที่
ลูบคลำท้องของตนเองตอนท้อง
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ตระกูล” ซูหยางกล่าวกับเธอด้วยรอยยิ้ม
เวลาผ่านไปหลังจากที่พวกเขาได้ชำระล้างร่างกายแล้ว ซูหยางก็ยื่น
ส่งแหวนมิติให้กับเธอและกล่าวว่า “มีหินวิญญาณอยู่ในนั้นสิบล้าน
ก้อน และมีวิชาการต่อสู้ระดับเซียนอยู่ในนั้นสองสามเล่ม”
“เดิมทีข้าต้องการที่จะให้วิชาฝีมือระดับเซียนกับเจ้า แต่เพราะว่า
ตอนนี้เจ้าฝึกวิชาฝีมือจากนิกายดอกบัวเพลิงมีรากฐานฝังลึกแล้ว
นอกจากว่าเจ้าจะทำลายพลังการฝึกปรือตอนนี้และเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น
มิเช่นนั้นเจ้าก็มิอาจที่จะฝึกวิชาฝีมือใหม่ได้”
“อย่างไรก็ตามขอเวลาข้าสักพัก แล้วข้าจักสร้างวิชาใหม่เอี่ยมที่ใช้
วิชาฝีมือที่เจ้าฝึกปรืออยู่ในปัจจุบันเป็นฐานให้ วิธีนี้เจ้าก็จักสามารถ
ฝึกวิชาที่เหนือกว่าได้โดยมิต้องจำเป็นที่จะเริ่มการฝึกฝนใหม่”
“ท-ท่านสามารถสร้างวิชาฝีมือใหม่ได้รึ…” จางซิวยิงมองดูเขาด้วย
ดวงตาเบิกกว้าง จากทุกสิ่งที่เธอได้ยินมาในวันนี้ นี่บางทีอาจจะเป็น
สิ่งที่น่าตกใจที่สุด เนื่องจากว่าพรสวรรค์ที่จำเป็นในการสร้างวิชา
ฝีมือนั้นต้องมีมากมายมหาศาลอย่างแท้จริง
“แน่นอน ถึงแม้ว่าข้ายากจะทำเช่นนี้เพราะว่ามันค่อนข้างเหนื่อย”
หลังจากนั้นชั่วขณะจางซิวยิงก็พูดขึ้นว่า “แต่ท่านจะได้รับวิชาฝีมือ
ของนิกายดอกบัวเพลิงได้อย่างไร มีเพียงแต่ศิษย์ที่ยอมให้ได้เห็นมัน
และท่านก็เป็นถึงผู้นำนิกายของสำนักอื่น”
“เจ้าคงจะประเมินความสามารถของเซียนต่ำไป ข้ามิจำเป็นต้องอ่าน
วิชาที่แท้จริงเพื่อทำความเข้าใจมัน พวกเราได้ร่วมฝึกฝีมือมาหลาย
ครั้งแล้วตอนนี้ และข้าสามารถเดาถึงวิชาฝีมือจากปราณหยินในร่าง
เจ้าอย่างเดียวได้” เขากล่าวด้วยหน้าตามั่นใจ
“อะไรกัน… ของแบบนั้นก็เป็นไปได้ด้วยรึ” จางซิวยิงจ้องมองดูเขา
ด้วยใบหน้างงงัน
เขาพยักหน้าและพูดต่อหลังจากนั้นชั่วขณะ “มิว่าอย่างไรข้าจักให้ผู้
อาวุโสนิกายรับรู้ถึงการคงอยู่ของเจ้า เจ้าสามารถเลือกที่พักที่ว่าง
หลังไหนก็ได้ที่เจ้าชอบ”
“เช่นนั้นมีบ้านหลังไหนที่ใกล้กับที่พักของท่านหรือไม่ ข้าอยากจะ
อยู่ใกล้กับท่าน” เธอถาม
“ข้าจักย้ายเข้าไปยังศาลาหยินหยางในเร็ว ๆ นี้ ในเมื่อปราณไร้ลักษณ์
ที่นั่นมีความเข้มข้นมากกว่า และมีเพียงผู้อาวุโสนิกายที่ยอมให้พัก
อาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณนั้น อย่างไรก็ตามในเมื่อเจ้าเป็นศิษย์ดั้งเดิม
และคนในตระกูลข้า ข้าสามารถจัดเป็นข้อยกเว้นให้กับเจ้าได้”
“ขอบคุณซูหยาง” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มสดใส
“ข้าจักมาหาเจ้ายามเมื่อข้าเสร็จสิ้นกับวิชาฝีมือใหม่ของเจ้า ถ้าเจ้า
ต้องการอะไรก่อนหน้านั้น เจ้าเพียงแค่ติดต่อข้าโดยใช้หยกสื่อสาร”
“อย่างไรก็ตามข้ามีศิษย์หลายร้อยคนรอข้ามอบวิชาฝีมือให้กับพวก
เขาอยู่ในตอนนี้”
“ข้าจักพบกับท่านทีหลัง ซูหยาง” จางซิวยิงกล่าวกับเขาก่อนที่พวก
เขาจะแยกย้ายกันไปคนละทาง
เวลาผ่านไปหลังจากนั้นเมื่อซูหยางไปถึงพื้นที่ชุมนุม เขาก็เรียกศิษย์
ใหม่ทุกคนจากสาขาการฝึกฝีมือแบบปกติมา
เมื่อเหล่าศิษย์ได้รับการเรียกตัวจากซูหยาง พวกเขาทุกคนต่างก็พา
กันพุ่งตรงมายังพื้นที่ชุมนุมด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าของพวกเขา
เต็มไปด้วยความคาดหวัง
ครั้นเมื่อพวกเขาทั้งหมดมารวมตัวกันแล้ว ซูหยางก็กล่าวกับพวกเขา
ว่า “ข้าจักมอบวิชาฝีมือให้กับพวกเจ้าทั้งหมดซึ่งเหมาะสมที่สุดกับ
พรสวรรค์ของเจ้าให้ในวันนี้ แต่ก่อนที่พวกเราจะเริ่ม ขอให้ข้ากล่าว
ไว้ก่อนว่าครั้นเมื่อวิชาฝีมือนี้ตกอยู่ในมือเจ้าแล้ว จักเป็นความ
รับผิดชอบของเจ้าในการที่จะปกป้องมัน”
“มิว่าเจ้าสูญเสียมันไปหรือว่ายกให้ผู้อื่น ถ้าวิชาฝีมือนี้ตกอยู่ในที่มัน
มิควรจะอยู่ ข้าจักทำลายพลังการฝึกปรือของเจ้าในทันที และขับไล่
เจ้าออกไปจากนิกาย คงจะเข้าใจกันชัดเจนแล้วใช่ไหม”
เหล่าศิษย์พากันพยักหน้าในทันทีด้วยสีหน้าหวาดหวั่นบนใบหน้า
หากว่าพวกเขาต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่พวกเขาจะต้องยอมเสีย
คัมภีร์วิชาฝีมือหรือไม่ก็ต้องตาย พวกเขาคงต้องยอมตายดีกว่า
เพราะว่าพวกเขาพบว่าการล่วงเกินซูหยางนั้นน่ากลัวกว่าความตาย
“ดี เช่นนั้นเข้าแถว ศิษย์นอกจักได้รับวิชาฝีมือก่อนเป็นอันดับแรก
ในเมื่อพวกเจ้ามีมากที่สุด”
เหล่าศิษย์นอกต่างพากันเข้าแถวตรงหน้าซูหยาง
จากนั้นเขาก็ทำการแจกวิชาฝีมือเหมือนแจกขนมให้กับเหล่าศิษย์
พร้อมกับให้คำอธิบายคร่าว ๆ ถึงวิชานั้น
หลายชั่วโมงให้หลัง เมื่อบรรดาศิษย์นอกทั้งหมดได้รับวิชาฝีมือของ
ตนเองแล้ว ซึ่งพวกเขาทุกคนล้วนได้รับวิชาฝีมือระดับสวรรค์ ซู
หยางก็เรียกศิษย์ในออกมา
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง สุดท้ายก็เป็นตาของศิษย์หลักที่จะรับวิชา
ฝีมือของพวกเขา
“ว-วิชาฝีมือระดับเซียน”
เหล่าศิษย์หลักต่างพากันจ้องสมบัติล้ำค่าในมือของตนด้วยดวงตา
เบิกกว้างและกรามอ้าค้าง จนถึงบัดนี้ศิษย์ก่อนหน้านั้นล้วนได้รับ
เพียงแค่วิชาฝีมือระดับสวรรค์
และในก่อนหน้านี้ซูหยางได้เกริ่นว่าเขาจะให้วิชาระดับเซียน เหล่า
ศิษย์ต่างไม่กล้าที่จะเชื่อจนกระทั่งพวกเขาได้เห็นด้วยตนเอง
“ท่านผู้นำนิกายซูช่างเป็นคนใจกว้างที่สุดในโลกอย่างแท้จริง… ข้า
มิเคยคิดว่าข้าจักได้ฝึกวิชาระดับเซียนในขณะที่เป็นเพียงแค่ศิษย์”
ครั้นเมื่อศิษย์ทุกคนได้วิชาฝีมือเป็นของตนเองแล้ว ซูหยางก็กล่าวกับ
พวกเขาว่า “แม้ว่าพวกเจ้าทุกคนตอนนี้มีวิชาฝีมือแล้ว พวกเจ้าก็มิ
สามารถที่จะเอาชนะหรือล่าสัตว์วิญญาณได้โดยปราศจากวิชาการ
ต่อสู้ ดังนั้นครั้นเมื่อพวกเจ้าได้ทำความคุ้นเคยกับวิชาฝีมือของ
ตนเองแล้ว ข้าต้องการให้พวกเจ้าทั้งหมดไปเลือกวิชาการต่อสู้จาก
หอคัมภีร์พ้นพิสัย วิชาจู่โจมสำหรับเอาชนะคู่ต่อสู้ วิชาป้องกัน
สำหรับป้องกันการโจมตี และสุดท้าย วิชาเคลื่อนไหวที่จักช่วยเจ้า
หลบหลีกการโจมตีที่ร้ายแรงถึงชีวิต”
“หอคัมภีร์พ้นพิสัยมีสามชั้น ชั้นแรกบรรจุวิชาการต่อสู้ระดับปฐพี
ลงไป ชั้นสองบรรจุวิชาการต่อสู้ระดับสวรรค์ และสุดท้ายแต่ไม่ใช่
ที่สุดก็คือชั้นสามซึ่งบรรจุวิชาระดับเซียน”
“ในเมื่อพวกเจ้าทั้งหมดล้วนเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ ข้าจักกำหนดให้นี่
เป็นข้อยกเว้น ยอมให้พวกเจ้าทุกคนได้เข้าเยี่ยมทั้งสามชั้นมิว่าเจ้าจะ
เป็นศิษย์ระดับใดก็ตาม อย่างไรก็ตามเจ้าจักมีเวลาเพียงแค่หนึ่งปีใน
การเรียนวิชาเหล่านี้ ในเมื่อสิ่งต่าง ๆ จักเปลี่ยนไปเมื่อมีศิษย์มาถึง
มากขึ้นในปีหน้า”
“ตอนนี้ พวกเจ้ามีคำถามอะไรต่อข้าหรือไม่ก่อนที่ข้าจักปล่อยพวก
เจ้าแยกย้ายกันไป” ซูหยางกล่าวกับพวกเขา

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

ซูหยางถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตที่หน้าผาบาปนิรันดร์ ที่ซึ่งมีแต่อาชญากรสุดชั่วช้าเหี้ยมโหดเท่านั้นอาศัยอยู่ ความผิดของเขา ล่อลวงภรรยาของเทพจันทรา ลักพาน้องสาวของราชันย์มังกร และร่วมเรียงเคียงหมอนกับลูกสาวสุดที่รักของจักรพรรดิสวรรค์ สุดท้ายเขาพบกับชายชราลึกลับซึ่งช่วยให้เขาหนีออกจากคุกโดยการส่งไปสู่ร่างใหม่ ในชีวิตใหม่ ซูหยางสาบานว่าจะตามหารวบรวมคนรักของเขาใหม่ และโอบพวกเธอไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset