Dungeon Defence – ตอนที่ 96

 

 

 

 

 

 

“นะ..นี่มันไอ้นั่นสินะ? ‘ที่ตอนนี้เป็นที่พูดถึงกันอยู่’

 

“เเม่งเอ้ย เราต้องการใครสักคนที่อ่านภาษาออก เราจะตัดสินใจว่าไอ้นี่มันใช่หรือเปล่า” “มีใครตอนนี้รู้วิธีอ่านบ้างไหม”

 

“อืม ถ้ามี เเกคิดว่าพวกเขาจะเกลือกกลั้วกับคนอย่างเเกเรอะ?’

 

“ในบรรดาตัวอักษร อย่างน้อยข้าก็รู้วิธีออกเสียงครึ่งหนึ่งของพวกมันอยู่ แม้ว่าข้าจะหน้าตาหล่อเหลา แต่เพราะครอบครัวของข้ามีกระดูกสันหลังราฐานครอบครัวมั่นคงดีนาเหวย”

 

“ถึงมันจะเป็นกระดูก เเต่กระดูกของเเกมันอาจจะเป็นแค่กระดูกชิ้นเล็กๆก็ได้ ถ้าเเกจะอ่าน ก็ควรจะอ่านได้ทุกตัวอีกษรสิฟะ ทำไมถึงอ่านได้แค่ครึ่งเดียวล่ะ? หยังกับว่าเเกกำลังอวดอ้างว่ามีความสามารถซึ่งโคตรจะไร้ค่าออกมาเลลย”

 

‘งั้นเเกก็อ่านมันเองเเล้วกัน’

 

ภาพที่ 2 บทที่ 3 ฉบับที่ 4

 

“ฉันอ่านได้คร่าวๆอยู่นะ– เดี๊นวจะอ่านให้เท่าที่ทำได้ละกัน อืมมม. เฮ้ ให้แน่ใจว่าพวกนายสองคนควบคุมตัวเองหน่อยก็ดีนะ โอเคไหม? ฉันได้ยินมาว่ามีทหารตั้ง 200 นายถัดจากหน่วยของเราไปหัวร้อนหลังอ่านเจ้านี่จบ “

 

“เงียบ”

”ชู่ว”

”หุบปาก”

 

”รูดซิปปาก”

 

”อ่านๆไป”

 

”เงียบๆ”

 

“มาดูกัน. อืมม. จากอ่่านดูเหมือนว่าจะเป็น ‘สุนท–”

 

“อา’?”

 

“อะเเฮ้ม มนุษยชาติเอ๋ย จงสดับ-.”

 

“ได้ยินข่าวไหม”

 

“ข่าวลือไหน”

 

“ได้ยินมาว่ามีผู้ชาย 10 คนถูกประหารชีวิตด้วยการประหารชีวิตในคราวเดียว เพราะพวกเขาถูกจับได้ว่าแอบอ่านหนังสือของคนทรยศมนุษยชาติ”

 

“ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมคนถึงพยายามอ่านอะไรแบบนั้น เราอยู่ในสนามรบที่ง่ายที่จะตายอยู่เเล้ว แต่พวกเขายังต้องการที่จะทำให้ชีวิตที่ตายง่ายอยู่เเล้วตายง่ายไปอีก”

 

‘ใครจะไปรู้. ข้าเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน-‘ “มนุษยชาติจงสดับ.”

 

“สดับ.”

 

“ประวัติศาสตร์นานมาทั้งหมดจนถึงตอนนี้เป็นประวัติศาสตร์ของความขัดแย้งทางชนชั้น”

‘มีสงครามสองครั้งในโลก หนึ่งคือสงครามระหว่างมนุษย์และปีศาจ•

 

– นี่มันยังไม่ชัดเจนเหรอ?”

 

“อา. เชี่ยเอ้ย หยุดเเทรกซะที”

 

“มันยากมากมั้งเเค่อ่านๆให้จบไปน่ะ? ตาของเเกเป็นนกกาเหว่าคู่หนึ่งหรือหูของเเกติดเชื้อ เเต่ถ้าให้ข้าเดาคิดว่าสมองของเเกมันปัญญาอ่อน”

 

“ดูสิ ไอ้เวรนี่พูดจาไพเราะเหลือเกิน”

 

“แล้วไง? เอ้าต่อๆ?”

 

“•-.-เค้าว่าจับพวกเเอบอ่านได้มากกว่าเมื่อวาน และพวกเขาถูกประหารชีวิตทั้งหมดเลย.”

 

“ไม่น่า ทำไมถึงตายจากการอ่านบางคำมีมากกว่าไอ้บ้าที่ตายในการต่อสู้ในสงครามกันว่ะ

 

 

ภาพที่ 3 บทที่ 3 เล่ม 4

 

“ยังไงก็ได้ ไปถอนรากถอนโคนแหล่งที่มาของข่าวลือความชั่วร้ายและจับพวกมันมาซะ”

 

“แต่ ท่าน มีคนจงใจกระจายพวกมันไปทั่วกองทัพเลยนะ”

 

‘ใครบางคน’ ไม่รู้สิ เมื่อวานนี้ เรายึดการแจกแจงเอกสารบางส่วนได้และค้นพบกองต้นฉบับ…..”  

 

ฉันเห็นโสเภณีซ่อนมันไว้บนร่างกายของพวกนาง เนื่องจากทหารจะได้รับโทษประหารหากพบว่ามีอยู่ในครอบครอง แนวโน้มในตอนนี้หนังสือจึงถูกทิ้งไว้กับโสเภณี เมื่อพวกเขาออกไปตีโสเภนีเหล่านั้น พวกเขากลับมาหลังจากอ่านต้นฉบับแล้ว นอกจากนี้ยังมีโสเภณีอีกมากที่สามารถอ่านคำศัพท์ได้ง่ายๆได้ด้วย—”

 

“พูดตรงๆ. มีข้อจำกัดในการควบคุมสิ่งนี้ด้วย” ‘อย่างน้อยสถานการณ์ในกองทหารพันธมิตรของเราก็ดีขึ้น เนื่องจากองค์หญิง องค์หญิงจักพรรดิทรงได้รับความนิยมอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ โอกาสที่จิตใจของทหารของเธอจะหวั่นไหวนั้นหาได้ยากอยู่”  

 

“แต่ทหารของชาติอื่น—”

 

“จุ๊”  

หุบปาก”

 

“เงียบ”  

 

“รูดซิปปาก”

 

“เงียบๆดิ๊”  

 

‘ความจริงที่ว่ามีสงครามที่ดำเนินมายาวนานยิ่งกว่านั้น’

 

“สงครามที่ดำเนินมาเป็นเวลากว่า 1,500 ปีที่ผ่านมาโดยไม่มีการหยุดพักเลยแม้แต่น้อย”

 

“มนุษย์เอ๋ย รู้หรือไม่ว่าสงครามนั้นคืออะไร  

 

‘นั่นสิ”  

‘นั่นสิ”  

‘นั่นสิ”

‘นั่นสิ”

‘นั่นสินะ’

 

‘เราไม่สามารถเอาหัวโสเภณีทุกคนไปได้!”

 

“ทุกครั้งที่โสเภณีถูกฆ่า วิธีบรรเทาความต้องการทางเพศในกองทหารของเราจะหายไป ผู้บัญชาการ โปรดยกโทษให้กับความไม่สุภาพของผู้พันคนนี้ อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถทำสงครามกับทหารที่ถูกความต้องการทางเพศบังตาได้!”

 

“พวกขุนนางของประเทศเราที่เป็นพวกส่งเสบียง พวกเขาร้องเรียนว่าว่าพวกเขาจะเริ่มการพิจารการยุติสงครามและเราจะกลับไปเมืองหลวง•-.’

 

‘ไอ้พวกหมูสารเลวพวกนั้นเเม่งเอ้ย  

 

มีชีวิตอย่างขี้เกียจสุขสบายในด้านหลัง–•!”  

 

‘นั่นคือสงครามทำลายล้างที่คงอยู่ตลอดไป’

 

“เมื่อเทียบกันแล้ว สงครามระหว่างมนุษย์กับปีศาจนั้นช่างโง่เง่า มนุษย์และปีศาจขัดแย้งกันเองเพียง 8 ครั้งตั้งแต่กำเนิดโลก อย่างไรก็ตาม สงครามครั้งใหญ่นั้นยังคงดำเนินต่อไปทุกปี ทุกเดือน ทุกวัน และทุกวินาที”

 

“ปวงประชา”

 

“ทาส”

 

“ขุนนาง”

 

“สามัญชน”

 

“บารอน”

 

“ข้ารับใช้”

 

‘ผู้ปราบปราม’

 

‘ผู้ถูกกดขี่’

 

“ชาวครูเซดทั้งหมดรวมกัน จำนวนผู้ถูกประหารชีวิตในข้อหากบฏเมื่อวานนี้ในที่สุดก็ถึง 100 คน หนึ่งร้อยคนในวันเดียว ผู้หลบหนีและอาชญากร ยังไม่นับจำนวนทหารที่ฝ่าฝืนคำสั่งด้วยซ้ำ ด้วยอัตราเท่านี้ เราอาจจบลงด้วยการล่มสลายก่อนที่เราจะสามารถต่อสู้สงครามได้ด้วยซ้ำ”

 

‘ต้องมีสายลับที่ไหนสักแห่ง’

 

‘คงไม่ใช่สายลับธรรมดาๆ สายลับต้องมีอำนาจหน้าที่ในวงในเเน่ๆ’.’ ข้าแน่ใจว่าสายลับมีการสนับสุนนที่เทียบได้กับประเทศทีเดียวกำลังดำเนินการทรยศเราอยู่เบื้องหลังตลอดมา”

 

“มันเกินความสามารถของเราแล้วที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูที่อยู่ข้างหน้า แต่มีผู้ทรยศที่บุกเข้ามาทางด้านหลังของเราอีกว่าไหม? นี่เป็นสงครามสองข้างที่หนักทีเดียว ข้าไม่คิดเลยว่าวันที่ข้าจะมาอิจฉาสังคมของปีศาจจะมาถึง”

 

‘เราจำเป็นต้องใช้มาตรการที่รุนแรงกว่านี้’ ‘ฝ่าบาท การตัดสินใจด้วยฝ่าบาท เราต้องการหน่วยอื่นๆช่วยกันหาสาเหตุแล้ว”

 

“ยุคใหม่กำลังมาถึง”

 

ภาพที่ 5 บทที่ 3 เล่ม 4

 

“มีเพียงมนุษย์” แต่เพียงผู้เดียวกลายเป็นดาบ!” มีเพียงมนุษย์!” แต่เพียงผู้เดียวกลายเป็นหอก!” มีเพียงมนุษย์! “กลายเป็นแส้แต่เพียงผู้เดียว!” จงชูขวานขึ้น”

 

“คว้าหน้าไม้ของท่าน”

 

“เตรียมอาวุธให้ตัวเอง “ต่อสู้! ‘จงติดตามเเม่ทัพลอร่าไป–!” หากยอมจำนนต่อท่านเเม่ทัพ เมื่อนั้นเธอจะนำเราไปสู่โลกใหม่อย่างแน่นอน”

 

“ในฐานะที่เธอเป็นผู้นำของเรา!” เธอคือผู้นำของเรา!” เป็นนักปฏิวัติตัวจริง คนที่ยืนอยู่แนวหน้าของมนุษย์และปีศาจ—”

 

 

 

 

 

 

 

ลอร์ร่า เดอ ฟาร์นาเซ่

 

Dungeon Defence

Dungeon Defence

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง Dungeon Defenceคุณทราบหรือไม่ว่าโลกนี้สิ้นสุดได้อย่างไร? [Yes] [No] “เจ้าเชื่อในเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติหรือไม่?” “ขออภัยฝ่าบาท แต่หญิงสาวผู้นี้ไม่เชื่อในเรื่องงมงาย” “น่าเสียดาย ทั้งที่เรื่องลี้ลับธรรมชาตินั้นมันออกจะสุดยอดเลยแท้ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะมันเป็นข้าผู้นี้คงไม่ได้มีชีวิตชีวาถึงขนาดนี้หรอก” รอบตัวของสองคนนั้นไร้ซุ่มเสียงใด ๆ มีเพียงกลุ่มคนห้าพันคนต่างนิ่งเงียบคอยสดับรับฟังบทสนทนาของคนสองคนเบื้องหน้าพวกเขา ฝ่ายหนึ่งเป็นหญิงสาวสวยสดงดงามตระการตา เธอเป็นทั้งขุนนางปกครองของเมืองนี้ และขุนพลพ่ายศึกในสงครามชิงเมื

Comment

Options

not work with dark mode
Reset