Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล – ตอนที่ 18 การปรากฏตัวของอัศวินทมิฬ (1)

บทที่ 18 การปรากฏตัวของอัศวินทมิฬ (1)
เมื่อลุคคิดวิธีที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้แล้ว เขาก็มองไปที่ฟิลิปอีกครั้ง
“ถ้ากิกันท์ตัวนี้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เจ้ามั่นใจไหมว่าเจ้าจะชนะ?”
“แน่นอน. มันค่อนข้างจะน่าอึดอัดสำหรับข้า ที่จะพูดมันออกจากปากของตัวเอง แต่ข้าก็เป็นหนึ่งในคนขับกิกันท์ที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ทั้งหมดของโรงเรียนเตรียมทหารราชวงศ์”
‘ผู้ชายที่เก่งแบบนี้ ทำไมถึงไม่ไปรับใช้ตระกูลสำคัญๆกันนะ?”
มันมีเหตุผลอะไรกันที่ทำให้ฟิลิปมาอยู่ในตระกูลเช่นนี้
ลุคตัดสินใจที่จะค้นหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องนั้นในภายหลัง เพราะตอนนี้เขามีสิ่งที่สำคัญกว่าต้องทำ
“โอเค งั้นรอสักครู่”
ลุคยืนยันกับฟิลิปและขออนุญาตเรย์น่า
“จะเป็นอะไรไหมถ้าข้าจะเปลี่ยนฟังก์ชันบางอย่างของกิกันท์ตัวนี้”
“แน่นอน เชิญท่านลงมือได้เลย”
เรย์น่าพยักหน้าเห็นด้วยด้วยสีหน้ายินดี
พ่อมดที่ทำการดูแลเมียร์ไม่ได้คัดค้านอะไรต่อเจ้าหญิง แต่พวกเขาทั้งหมดล้วนขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย เพราะพวกเขากังวลว่าเด็กหนุ่มจะไปทำลายกิกันท์ด้วยความรู้เพียงเล็กน้อยที่เขามี
“เด็กทุกคนไม่สามารถซ่อมกิกันท์ได้หรอกนะ เจ้ารู้ใช่ไหม?’
“เจ้านั่นรู้ใช่ไหมว่าสาเหตุที่พวกถูกเรียกว่าจอมเวทเหล็กไหล ก็เป็นเพราะเรามีควมเชี่ยวชาญในด้านกิกันท์น่ะ”
“ผู้ชายคนนี้ก็เป็นปัญหาเหมือนกัน แต่ในเมื่อเจ้าหญิงก็ยอมรับแล้ว…”
ในขณะที่เหล่าจอมเวทเหล็กไหลกำลังสลับอารมณ์ไปมาระหว่างความกังวลและความโศกเศร้า ลุคก็ปีนบันไดขึ้นไปและทำการตรวจสอบด้านในชุดเกราะของเมียร์ โดยเฉพาะตรงส่วนของแกรเครื่องยนต์
โครงสร้างของแกนเครื่องยนต์นั้นเหมือนกับในอดีต อย่างไรก็ตามพวกมันข้างในต่างก็แยกกันออกเป็นส่วนๆอย่างกระจัดกระจาย
“นี่มันไม่มีข้อต่อยึดติดอะไรเลยหรอ ทำไมมันมีแค่ร่อง… นี่ข้าต้องใช้ประแจเพื่อไขปัญหานี้ใช่ไหมเนี่ย?”
ลุคหยิบเครื่องมือขึ้นมาและพยายามนึกถึงผลงานของจอมเวทเหล็กไหลคนอื่น ๆ
เขาใส่ประแจเข้าไปในร่องหกเหลี่ยมแล้วหมุนตามเข็มนาฬิกา แม้ว่ามันจะแน่นและแข็งมาก แต่ก็โชคดีที่เขายังสามารถทำมันได้ด้วยกำลังของเขาเอง
หลังจากถอดน็อตสองสามตัวและถอดฝาครอบออกเรียบร้อยแล้วหินเวทมนต์ข้างในแกนเครื่องยนต์ก็เผยออกมาให้เห็น
ลุคดึงหินเวทมนต์ออกมาอย่างระมัดระวังและมองไปที่มัน
“หินนี่น่าจะใกล้สิ้นอายุขัยแล้วแน่นอน”
เขาสามารถเข้าใจได้เพราะภายในของกิกันท์นี่นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำทันทีที่เขาเอามันออกมา  การเปลี่ยนแปลงของสีเกิดจากการที่มานาบางส่วนที่สะสมอยู่ภายในไหลออกมาสู่ภายนอก
เรย์น่ามองดูการแสดงออกของลุค
“จะไม่ดีกว่าเหรอถ้าจะสร้างมานาขึ้นมาใหม่”
“ไม่ แม้ว่าการเกิดตะกอนมานาจะสามารถเกิดขึ้นได้แต่มันก็ไม่ควรที่จะไปขัดขวางการไหลของมานา ลองพิจารณาอ่างเก็บน้ำเป็นตัวอย่างนะ หากน้ำไหลเข้าและออกได้อย่างอิสระอ่างก็จะสะอาดอยู่เสมอ แต่ถ้าน้ำค้างอยู่แต่ในอ่าง น้ำเหล่านั้นก็จะเริ่มเป็นพิษ”
“อา ข้าเข้าใจแล้ว”
“และเพื่อให้การไหลเวียนเป็นไปได้อย่างสะดวกและเพื่อให้ได้น้ำประปาที่ดีเราจึงจะต้องกำจัดตะกอนที่สะสมอยู่ในน้ำและพื้นดินออกไป กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ตลอดเวลาที่ผ่านมาอ่างเก็บน้ำนี่มันไม่ได้รับการบำรุงรักษาอะไรเลย”
“แล้วเราจะกำจัดตะกอนมานาเหล่านี้ได้อย่างไร”
จอมเวทเหล็กไหลที่ได้ยินนั้นล้วนยอมรับว่าลุคมีความรู้มากกว่าที่พวกเขาคิด
แม้พวกเขาจะรู้ถึงปัญหานี้อยู่แล้ว แต่พวกเขาก็ไม่สามารถคิดคำตอบสำหรับคำถามของเจ้าหญิงเรย์น่าได้
เป็นเพราะการสะสมของมานาในแกนเครื่องยนต์นั้นเป็นปัญหาที่ไม่มีใครสามารถแก้ไขได้จนถึงตอนนี้
เมื่อสิ้นสุดอายุการใช้งานของแกนเครื่องยนต์ พวกเขาก็มักจะเปลี่ยนศิลาเป็นอันใหม่แล้วทิ้งอันเก่าไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อศิลาเวทมนตร์เทียมเริ่มถูกผลิตและราคาเริ่มลดลงการวิจัยเกี่ยวกับการรีไซเคิลก็ลดลง
“ข้ารู้วิธี”
“อะไรนะ!”
เสียงกรีดร้องเหล่านี้ไม่ได้มาจากเจ้าหญิงเรย์น่า แต่เป็นเหล่าจอมเวทเหล็กไหลต่างหากที่เป็นคนกรีดร้องออกมา
พ่อมดเหล่านี้ได้รับการแนะนำโดยบุคคลที่รู้จักกับเจ้าหญิงและพวกเขาต่างคิดว่าคำพูดของขุนนางหนุ่มคนนี้นั้นเป็นอะไรที่ไม่มีมูลความจริง
“อย่ามาเลอะเทอะ!”
“มาดูกัน. นี่เป็นสิ่งที่น่าสนใจจริงๆ!”
“เจ้าไม่สามารถชุบชีวิตศิลาเวทมนตร์ที่หมดอายุขัยได้หรอกนะ”
ลุคขมวดคิ้วใส่เหล่าจอมเวทเหล็กไหล เขานั้นเข้าใจดีว่าทำไมพวกเขาถึงไม่เชื่อ
แต่สำหรับพ่อมดที่สำรวจธรรมชาติมาโดยตลอดและเต็มใจที่จะไขคำถามและไล่ตามความจริงนั้นมัน ‘แน่นอนที่สุด’!
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าสามารถชุบชีวิตได้”
“ฮ่าๆ เป็นไปไม่ได้!”
“ถ้าอย่างนั้นเรามาพนันกันดีกว่า ถ้าข้าสามารถชุบชีวิตศิลาเวทมนตร์นี้ได้ เจ้าจะต้องเผาเสื้อคลุมที่สวมอยู่ แต่ถ้าข้าไม่สามารถทำได้ข้าก็จะให้เงินทั้งหมดที่ข้ามีกับพวกเจ้ามี”
ลุควางเงินในกระเป๋าลงบนพื้น
จอมเวทเหล็กไหลต่างก็กลืนน้ำลายเมื่อมองไปที่ถุงเงิน
พ่อมดอิสระมักไม่ได้ทำงานในสถานี่แห่งใดแห่งหนึ่ง และพ่อมดส่วนมากก็มักจะไม่ได้ร่ำรวยอะไร เพราะพวกเขาต้องเสียเงินไปเป็นจำนวนมากกับการเรียนเวทมนตร์และการพัฒนาทักษะของพวกเขา
พวกเขามีความสุขมากเมื่อสถานการณ์เช่นนี้นำเสนอเหมือนตอนที่พวกเขาอยู่กับเจ้าหญิงด้วยเงินเพียงเล็กน้อย
‘ไม่ว่าเจ้าหญิงจะสวยแค่ไหน…’
‘เชอะ ไอ้เด็กคนนี้!’
มันเป็นเรื่องที่ลบหลู่กันอย่างมากที่จะขอให้พวกเขาเผาเสื้อคลุม ของตัวเอง เพราะมันเหมือนกับการปฏิเสธการมีอยู่ของพวกเขาในฐานะพ่อมด แต่งานที่มอบให้กับลุคนั้นเป็นไปไม่ได้
“โอเคถ้าเจ้าทำมันได้ พวกข้าก็ยินดีที่จะเผาเสื้อคลุมของตนเองและเป็นข้ารับใช้ของเจ้า”
“ข้าจะอุทิศทั้งชีวิตเพื่อทำงานให้เจ้าเช่นกัน”
“ไม่ว่าจะในฐานะของพ่อมดหรือทาส เจ้าก็สามารถจะสั่งให้เราทำอะไรก็ได้”
เหล่าพ่อมดที่เชื่อมั่นว่าเด็กชายจะล้มเหลวไม่ลังเลที่จะให้คำมั่นสัญญาเพิ่มเติมกับเขา
แต่ลุคกลับเย้ยหยันพวกเขา
“อย่าเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองในภายหลังก็แล้วกัน”
และด้วยเหตุนี้จึงเกิดข้อตกลงปากเปล่า และทำให้เจ้าหญิงเรย์น่าเป็นผู้รับรองการเดิมพันไปโดยปริยาย…
 

Emperor of Steel

Emperor of Steel

กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล เซย์ม่อน เขาคือชายผู้ซึ่งอยู่บนจุดสูงสุดของของศาสตร์มนต์ดำ เขาคือชายผู้ถูกขนานนามว่าปราชญ์แห่งความมืด เขาคือชายผู้ถูกตีตราว่าเป็นราชาปีศาจ สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้ผู้คนต่างพากันหวาดกลัวเขา และทำให้เขาถูกสังหารลงโดยจักรพรรดิดาบในที่สุด “ไม่ ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้มันจบลงแบบนี้!” ในที่สุดแล้ว ด้วยความปรารถณาอันแรงกล้าที่อยากจะมีชีวิตต่อของเขา มันได้ทำให้เขากลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง แต่โชคชะตาและความจริงนั้นโหดร้าย เขากลับมาเกิดใหม่หลังจากเวลาได้ล่วงเลยไปแล้วกว่า 500 ปี.. ชีวิตในครั้งนี้ของเขาจักถือกำเนิดใหม่ในฐานะผู้สืบทอดของศัตรูคู่แค้นของเขา จักรพรรดิดาบ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset