Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล – ตอนที่ 27 คริสตัลเมไจ (5)

บทที่ 27 คริสตัลเมไจ (5)
“อ้า! ออกไปให้พ้น!”
ลุคกระโดดลงจากพื้นและสะบัดหัวไปมาอย่างดุเดือด
ในขณะนั้นเองเมไจที่เคลื่อนไหวอยู่รอบๆร่างกายของเขาก็เริ่มหายไปราวกับว่ามันกำลังระเหย
ในไม่ช้าร่างกายของเขาก็กลับมาเป็นปกติ เล็บและเขี้ยวของเขาก็กลับมาเป็นปกติเช่นกัน ความเจ็บปวดและการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงได้หายไปราวกับมันไม่เคยเกิดขึ้น
“อึก! มันเกือบได้ชีวิตของข้าไปแล้ว!”
ไม่มีจิตใจของปีศาจที่เป็นพิษในคริสตัลเมไจ
สิ่งที่เขาเพิ่งเห็นไปก็คือความชั่วร้ายที่อยู่ภายในความคิดและจิตใจของเขาเอง
ถ้าจิตวิญญาณของลุคไม่ได้เป็นของพ่อมดที่ขยันขันแข็งในการต่อสู้กับความคิดอันชั่วร้ายแล้วละก็ ผลที่ตามมามันก็จะ…
….
“ข้าทำสำเร็จแล้ว!”
ในตอนนี้ดูเหมือนว่าร่างกายของเขาจะดีขึ้นกว่าเดิมอยู่เล็กน้อย
 
กล้ามเนื้อของเขาในตอนนี้ ทุกส่วนต่างก็เต็มไปด้วยพละกำลังและระบบการหายใจของเขาก็เช่นกัน มันเพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาวิ่งไปมาทั้งวันโดยไม่เหนื่อย เมื่อการเผาผลาญของเขาเริ่มทำงาน ร่างกายของเขาก็เริ่มมีพลังเอ่อล้นออกมา
“และเหนือสิ่งอื่นใด…”
ลุคยิ้มจาง ๆ
อัตราการเต้นของหัวใจของเขาเริ่มเปลี่ยนไปเป็นอัตราที่คุ้นเคย
“วงเวทย์สีดำได้รับการฟื้นฟูแล้ว’
คริสตัลเมไจไม่เพียงแต่จะทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นเดิม  มันยังวางรากฐานสำหรับการใช้เวทมนตร์แห่งความมืดไว้อีกด้วย
“ว้าว ระดับของวงเวทย์น่าจะอยู่ในขั้นที่ 3”
เพื่อทดสอบพลังของเขา ลุคจึงใช้ “เพลิงทมิฬ” ซึ่งเป็นหนึ่งในเวทมนตร์แห่งความมืดที่เขาถนัด
เขาเร่งใช้เวทมนตร์แห่งความมืดและใช้เทคนิคต่างๆแบบเดียวกันกับที่เขาได้เคยเรียนรู้ในอดีต ทันใดนั้นดอกไม้ไฟสีม่วงโผล่ขึ้นมาจากมือของเขา
ลุคเบิกตากว้าง
“ฮะ?ทำไมมันถึงเป็นสีม่วง? ไม่ใช่ว่าเปลวไฟควรจะเป็นสีดำหรอกหรอ”
ในท้ายที่สุดสถานะของวงเวทย์สีดำก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย คลื่นมานาที่ปล่อยออกมาจากมันก็เริ่มให้ความรู้สึกแปลกๆ ซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อน
เมื่อเปรียบเทียบมันกับดนตรี วงเวทย์สีดำของเซย์ม่อนในอดีตก็เป็นเหมือนโน้ตโซโล่ที่โดดเดี่ยว แต่ในตอนนี้มันเป็นเหมือนวงนักร้องประสานเสียงที่มีท่วงทำนองมากมาย
“นี่เป็นเพราะเมไจที่ถูกกรองรึเปล่านะ”
เขาลองใช้เวทมนตร์แห่งความมืดอันอื่นๆในระดับของเขา เพื่อดูว่ายังมีปัญหาอื่นๆอีกหรือไม่ แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติ มันมีเพียงสีและคลื่นมานาเท่านั้นที่แตกต่างกันอย่างแปลกประหลาด
นอกจากนั้นยังมีสิ่งแปลกประหลาดอีกอย่างหนึ่ง
เขาแทบจะไม่รู้สึกถึงเศษซากของเมไจที่ควรจะเกิดขึ้นในกระบวนการร่ายเวทมนตร์แห่งความมืด
หากเป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวตนของเมไจอีก
“แม้ว่านี่จะเป็นเรื่องแปลกประหลาด แต่ด้วยวิธีนี้มันก็น่าจะง่ายกว่า”
ลุคตัดสินใจที่จะมองมันในแง่ดีและหันมาทำความสะอาดห้องทดลองใต้ดินที่ยุ่งเหยิงของเขาแทน
“อย่างไรก็ตามคำสาปบนร่างกายนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม”
คำสาปนั้นค่อนข้างเป็นอะไรที่บึกลับและดื้อด้าน
แม้จะยอมรับคริสตัลเมไจนั้นให้ผลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่คำสาปก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“มันไม่เหมือนกับเวทมนตร์ทั่วไป คำสาปมนต์ดำนั้นค่อนข้างด้อยกว่ามาก ผู้ที่แข็งแกร่งจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากเวทย์คำสาปที่ถูกร่ายโดยคนที่อ่อนแอกว่า”
นั่นหมายความว่าคนที่สาปแช่งสายเลือดของรากันย์นั้นจะไม่มีทางเป็นพ่อมดขั้น 3 แน่นอน
“ไม่ รากันต์ไม่ใช่คนที่ถูกโจมตีด้วยเวทมนตร์อะไรก็ได้ คู่ต่อสู้ของเขาต้องเป็นพ่อมดขั้น 9 ที่สามารถเทียบได้กับระดับของข้าอย่างแน่นอน”
“แต่ในเวลานั้นมันยังมีพ่อมดที่เทียบเท่ากับข้าได้อีกหรือหรือ?”
มันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังซุกซ่อนอยู่ในโลกใบนี้ แต่ลุคก็มั่นใจว่ามันไม่มีพ่อมดหรือแม่มดคนใดที่บรรลุถึงขั้นที่ 9 ภายในช่วงเวลานั้นนอกจากพ่อมดขาว
อย่างไรก็ตามด้วยพลังจากคริสตัลเมไจ มันก็ได้ทำให้เขากลายเป็นพ่อมดขั้นที่ 3
แต่พลังนั่นก็ยังไม่เพียงพอ หากเขาต้องการที่จะขจัดความขุ่นเคืองในใจออกไป
เพื่อที่จะต่อสู้กับหอคอยเวทมนร์เวอร์ริทัส ผู้ซึ่งมีอิทธิพลสูงมากต่อทั้งจักรวรรดิและทวีปโรดีเซีย อย่างน้อยๆเขาก็ควรมีคนหนุนหลังและความสามารถแบบเดียวกับที่เขามีในอดีต
“ยังไงซะข้าก็รู้ทั้งทฤษฎีและวิธีการที่จะเข้าถึงในแต่ละขั้น ดังนั้นมันจะไม่มีปัญหาใดๆ ในการเติบโตไปสู่ขั้นที่ 9 แต่กว่าจะไปถึงวงที่ 9 ของวงเวทย์สีดำ ข้าก็คงจะต้องรอและใช้เวลาอีกนานในการรวบรวมเมไจ…”
แม้ว่าร่างกายของเขายังเด็กมาก แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะมองโลกในแง่ดีต่อไปได้ ทั้งหมดนี่เป็นเพราะคำสาปที่อบู่ในร่างกายองเขา แม้มันจะมีลูกหลานของรากันต์เพียงไม่กี่คนที่เสียชีวิตในวัยเด็กแต่มันก็ใช่ว่าจะไม่มี
หากมีความผิดปกติเล็กๆน้อยๆอะไรเกิดขึ้นกับหัวใจหรือสมองของเขา มันก็อาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับร่างกายของเขาในตอนนี้
หากคำสาปนี้สามารถสร้างโรคให้กับเขาได้ ลุคก็คิดว่าเขาอาจจะไม่สามารถรับมือกับมันได้มากเท่าที่ควร
ลุคขมวดคิ้วขณะที่เขากำลังคิด
“ยังไงซะเวทมนตร์ก็ได้พัฒนาไปมากแล้วในช่วง 500 ปีที่ผ่านมา”
ลุคตัดสินใจออกไปจากห้องทดลอง เขาเปิดประตูลับอีกบานและเดินเข้าไปในห้องเล็กๆเขาโดยไม่ส่งเสียงดังอะไรมากนัก เขาเดินไปที่ลิฟต์และเดินลงไปยังห้องวิจัยใต้ดิน
มันเป็นพื้นที่ใต้ดินขนาดใหญ่ 100 ตารางเมตร และพื้นที่ทั้งหมดนี้ก็ถูกผนึกไว้
มันคือห้องวิจัยโกเลมนั่นเอง
เวิร์คช็อปที่ผลิตโกเลมซึ่งเป็นกองกำลังหลักของกองทัพแห่งความมืดล้วนจมอยู่ภายใต้ความมืดมิดอย่างเงียบๆ
“ปลดผนึก!”
ลุคยกเลิกผนึกเวทมนตร์ที่เขาวางเอาไว้เพื่อปกป้องสถานที่นั้นปลอดภัยจากผู้รุกราน ในไม่ช้าผนึกเวทมนตร์ก็ถูกปลดแกและในห้องวิจัยก็เริ่มส่องสว่างขึ้น
เครื่องจักรและอุปกรณ์วิเศษทั้งหมดที่ลุคเคยใช้และผลงานวิจัยของเขาที่ยังทำไม่เสร็จก็ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
ลุคมองไปยังรอบๆแล้วกล่าวว่า
“มันเป็นอะไรที่ยากจริงๆ ที่จะกลับไปทำงานในตอนนี้”
ต้องขอบคุณผนึกเวทมนตร์ที่ลุควางเอาไว้ อุปกรณ์ทั้งหมดของเขาในตอนนี้จึงยังอยู่ในสภาพดี
อย่างไรก็ตาม ตัวจ่ายมานานั้นได้พังไปแล้วมันจึงทำให้ห้องวิจัยแห่งนี้ขาดแคลนมานาและเป็นผลให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ทั้งหมดมีประสิทธิภาพลดลง
สำหรับการซ่อมแซมตัวจ่ายมานานั้นจำเป็นจะต้องใช้วัสดุและชิ้นส่วนอีกหลายอย่าง
“ดูเหมือนว่าข้าจะต้องหาสิ่งของที่ต้องใช้ในการซ่อมแซมก่อนสินะ”
หลังจากกลับเข้ามาในห้องโถงอีกครั้ง เสียงของคนรับใช้และทหารยามก็ดังขึ้นที่ทางเดินของปราสาท
“นายน้อย ท่านอยู่ที่ไหนกัน?”
“ได้โปรดออกมาเถิดนายน้อย!”
บางทีพวกเขาอาจมาหาเขาหลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากคนเฝ้าประตู
“บางทีนายน้อยอาจจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว”
“ข้าก็คิดเหมือนกัน ข้าคิดว่าเขาคงไปที่อื่นแล้ว…”
….
โรเจอร์และฟิลิปที่เพิ่งเข้ามาในห้องโถงใหญ่ก็รู้สึกประหลาดใจทันทีที่พบว่าลุคกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ของราชาปีศาจ
“นายน้อย!”
“ข้าไม่เข้าใจ ท่านจะซ่อนตัวจากเหล่าคนรับใช้ก่อนหน้านี้ทำไม?”
ลุคหัวเราะให้กับคำถามของฟิลิป เมื่อเห็นว่าเขาพยายามอย่างมากที่จะระงับอารมณ์ไม่ให้ระเบิดออกมา
“ข้าไม่ได้ซ่อนตัว พวกเจ้าหาข้าไม่เจอเองต่างหาก”
“ไม่ ไม่มีทาง…ตอนแรกท่านไม่ได้นั่งอยุูที่นี่!”
ฟิลิปส่ายหัวเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดูจะเป็นอะไรที่ไร้สาระ
ในตอนที่พวกเขาทราบข่าวว่าลุคออกไปจากคฤหาสน์ เหล่าทหารยามทั้งหมดก็รีบเข้ามารุมล้อมรอบปราสาทราชาปีศาจไว้
และเมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาก็รีบทำการยืนยัน อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่พบอะไรเลย
โรเจอร์ผู้ซึ่งกำลังมองฟิลิปอย่างงงงวย ก็ได้หันกลับมามองยังลุคและถามขึ้นมา..
“ว่าแต่ทำไมจู่ๆท่านถึงอยากมาที่นี่ล่ะ”
 
“ข้าก็แค่อยากมองไปรอบๆ สถานที่ที่บรรพบุรุษของข้าเคยอยู่ เพื่อที่ข้าจะได้เก็บความทรงจำเหล่านั้นกลับคืนมา ข้าผิดหรือเปล่าที่ทำเช่นนั้น”
“ไม่ ท่านทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว”
โรเจอร์รู้สึกภาคภูมิใจเมื่อได้ยินคำพูดของลุคโดยที่เขาไม่ได้ทราบเลยว่ามันเป็นเรื่องโกหก
“ว่าแต่.. ตอนนี้ท่านดูมีความมั่นใจขึ้นมากเลยนะ ไม่ทราบว่าท่านจำอะไรได้บ้างไหม”
สาเหตุที่แท้จริงที่เขานั่งอยู่บนบัลลังก์ของราชาปีศาจก็เป็นเพราะเขาต้องการที่จะดูสง่างาม แต่โรเจอร์ก็ยังคงภูมิใจในตัวลุค
“เราก็กลับกันเถอะ ข้าหิวแล้ว.. อ๋อใช่ อย่าลืมบอกพวกทหารด้วยละ ว่าให้หยุดทำการค้นหาข้าได้แล้ว”
“รับทราบ ข้าเข้าใจแล้ว”
ด้วยเหตุประการเช่นนี้ คดีการหลบหนีเล็กๆของลุคจึงถูกปิดลงโดยไม่มีใครสามารถสังเหตุได้เห็นถึงความจริง….
 
 

Emperor of Steel

Emperor of Steel

กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล เซย์ม่อน เขาคือชายผู้ซึ่งอยู่บนจุดสูงสุดของของศาสตร์มนต์ดำ เขาคือชายผู้ถูกขนานนามว่าปราชญ์แห่งความมืด เขาคือชายผู้ถูกตีตราว่าเป็นราชาปีศาจ สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้ผู้คนต่างพากันหวาดกลัวเขา และทำให้เขาถูกสังหารลงโดยจักรพรรดิดาบในที่สุด “ไม่ ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้มันจบลงแบบนี้!” ในที่สุดแล้ว ด้วยความปรารถณาอันแรงกล้าที่อยากจะมีชีวิตต่อของเขา มันได้ทำให้เขากลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง แต่โชคชะตาและความจริงนั้นโหดร้าย เขากลับมาเกิดใหม่หลังจากเวลาได้ล่วงเลยไปแล้วกว่า 500 ปี.. ชีวิตในครั้งนี้ของเขาจักถือกำเนิดใหม่ในฐานะผู้สืบทอดของศัตรูคู่แค้นของเขา จักรพรรดิดาบ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset