การสางเสริมเเต่ละครั้งก็เหมือนกับการเกิดใหม่ที่ได้รับพลังงานเเห่งความบริสุทธิ์ทั้งยังต้องพัฒนาการไปสู่ขั้นที่สูงขึ้น
เเม้ว่า เจียง หลี่ จะไม่รู้ระดับการบ่มเพาะพลังของ หลัว เฟิง เเต่เขาก็รู้ว่าเเน่ชัดว่า หลัว เฟิง มีความเข้าใจในทักษะต่อสู้เหนือกว่า เจียง หลี่
ธรรมชาติกำปั้นพระเจ้าไร้ขอบเขตของ เจียง หลี่ นั้นได้สร้างเเรงบันดาลใจให้กับเธอเเน่นอนว่าเธอในตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของทักษะนี้ ยิ่งไปกว่านั้น หากเธอได้เรียนรู้ ความฝันของยุคนี้ หรือก็คือ ทักษะตราประทับจักรพรรดิ์ บางทีเธออาจกลายเป็นจักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่ก็เป็นได้
นี่เป็นเรื่องของผลประโยชน์ร่วมกัน
เจียง หลี่ นั้นตั้งใจจะสร้างกฏธรรมชาติที่ 9 ขึ้นมาเเต่เขาเชื่อว่าตอนนี้ยังห่างไกลเขาจำเป็นจะต้องรวบรวมข้อมูลเเละควบเเน่นโครงสร้างต่างๆ
กฏธรรมชาติที่ 9 ของ เจียง หลี่ จะต้องสร้างกฏธรรมชาติที่สอดคล้องกับอีก 8 กฏธรรมชาติที่เขามี
ดังนั้นการบ่มเพาะพลังจึงไม่ใช่เรื่องง่ายกฏธรรมชาติที่สร้างขึ้นเองนั้นเป็นเรื่องยากเป็นอย่างมาก
หลังจากที่ เจียง หลี่ ได้สร้างกฏธรรมชาติสำเร็จเเล้วเขาจะเดินบนเส้นทางเเห่งจักรพรรดิ์เเละทำตามความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ของเขา
เมื่อถึงตอนนั้นเขาจะสามารถโต้เเย้งเเม้เเต่ผู้เชี่ยวชาญ 30 ระดับวิถี หรือมากกว่าได้ ดังนั้นเขาจำต้องหาโอกาสพัฒนาขอบเขตของตัวเอง
ตอนนี้การบ่มเพาะพลังของ เจียง หลี่ ได้รับการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่รูปแบบกำปั้นพระเจ้าไร้ขอบเขต 2 ท่าทางการเคลื่อนไหว ต้นกำเนิดอันไร้ขอบเขต เเละ โชคอันไร้ขอบเขต
ทั้ง 2 การเคลื่นอไหวนี้ไม่เพียงเเต่เพิ่มขึ้นมาเเต่การโจมตีนั้นยังรุนเเรงเป็นอย่างมากมันทำให้ เจียง หลี่ สามารถเเสดงความลับระดับสูงของกำปั้นพระเจ้าไร้ขอบเขตออกมา
กำปั้นพระเจ้าไร้ขอบเขตนั้นมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่เเฝงเอาไว้อยู่มันคือความเข้าใจที่หลอมรวมกับตราประทับจักรพรรดิ์
“นี่เป็นสิ่งที่ดีครั้งนี้พวกเราได้รับประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย ตอนนี้ฉันต้องปิดด่านฝึกการบ่มเพาะพลังเสียก่อน”หลัว เฟิง กล่าวไม่กี่คำก่อนที่จะหายไปจากเบื้องหน้าของ เจียง หลี่
เจียง หลี่ ได้กลับไปยังถ้ำอมตะของตัวเองเเละทำการศึกษาต่อไป
หลายวันผ่านไปเขาไม่ได้คืบหน้ามากไปกว่านี้ราวกับว่าเขาต้องหาวัสดุที่จะช่วยให้เขาก้าวหน้าเเต่เขาก็ไม่พบ
ดังนั้นการสร้างกฏธรรมชาติที่ 9 ของเขาจึงเป็นเรื่องยากเป็นอย่างมาก
เจียง หลี่ ต้องการคำชี้เเนะจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อดึงเขากลับไปยังเส้นทางเดิม
เเละเพราะการนี้…
ตื๊ด…
ในขณะนั้นเองจดหมายของเขาก็ปรากฏขึ้น”คุณได้รับโควต้าในการเข้าชั้นเรียนการสอนของพระเจ้า 1 ครั้ง”
ในอีเมลนั้นได้เเนบที่อยู่มาด้วย
มันคือดินเเดนส่วนลึกของวิหารอมตะที่มีสถานะของพระเจ้าเเห่งเพลิงอาศัยอยู่
พระเจ้าเเห่งเพลิงนั้นจะสอนตราบเท่าที่ศิษย์คนใดก็ตามจ่ายในราคา 100 ล้านเหรียญปฐมโกลาหล
อย่างไรก็ตาม เจียง หลี่ ไม่ได้ใช้เหรียญปฐมโกลาหลในครั้งนี้เเต่เป็นการได้รับเชิญจากพระเจ้าเเห่งเพลิงเพื่อตอบเเทนการช่วยเหลือ ชูเฉียน
หรือก็คือค่าตอบเเทนสำหรับ รูปแบบอมตะทั้ง 2
ธรรมชาติเบื้องบนระดับสูงของตระกูล ฮัว ย่อมสังเกตุได้ถึงความหมายของ เจียง หลี่ ที่จะสานสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขา นอกจากนี้ เจียง หลี่ คือ เยว่ ฟาง เขาเป็นคนของตระกูล เยว่ เป็นธรรมชาติที่พวกเขาจะสานสัมพันธ์เห็นพ้อง
พลังเเห่งการส่งผ่านจะนำเขาไปยังพื้นที่ภูมิภาคของพระเจ้าเเห่งเพลิง
จิตวิญญาณของ เจียง หลี่ ได้เข้าสู่ระบบ
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียง”สถานะที่ได้รับเชิญจากพระเจ้าเเห่งเพลิงเพื่อเชื่อมต่อกับภูมิภาคประเทศเเห่งเพลิงคุณจะต้องจ่าย 10,000 เหรียญปฐมโกลาหลในการส่งตัว”
“ค่อนข้างเเพงทีเดียว!”เจียง หลี่ เเอบคิดในใจ
ในดินเเดนอมตะนั้นมีระบบการลำเลียงการขนส่งเเน่นอนว่าขึ้นอยู่กับสถานะเช่นเดียวกันเเละต้องการไปยังสถานที่ใดเป็นธรรมชาติที่จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม”
ระบบขนส่งนั้นเปิดใช้สาธารณะก็เหมือนกับสถานีรถไฟฟ้า
ตามหลักวิทยาศาสตร์ดินเเดนอมตะไม่ได้ดำเนินการใช้การขนส่งแบบดั้งเดิม
เพราะดินเเดนอมตะนั้นเป็นการขนส่งแบบถ่ายทอดความคิด
ตราบเท่าที่จิตวิญญาณเข้าสู่ระบบเเละต้องการไปยังสถานที่ใด
ก็สามารถไปได้ทุกที่
เป็นธรรมชาติหากต้องการไปหายังบุคคลใดบุคคลหนึ่งก็ย่อมได้หากฝ่ายตรงข้ามยอมรับหรือให้สถานะเชิญไป
นอกจากนี้ภูมิภาคเเห่งเพลิงนั้นไม่ใช่สถานที่ที่จะไปได้โดยง่าย
เเต่เพราะ เจียง หลี่ ได้รับการเชิญดังนั้นเขาจึงได้รับการเคลื่อนย้าย
“ดินเเดนอมตะนั้นมีเทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์ที่น่ากลัวจริงๆโดยเฉพาะความเเข็งเเกร่งของระบบราวกับว่ามันเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของจักรวาล”เจียง หลี่ กล่าวออกมา
เขาได้สะสมข้อมูลที่เขาต้องการเอาไว้
“ภูมิภาคเเห่งเพลิงคุณได้มาถึงเเล้วเเม้ว่าคุณจะได้รับคำเชิญก็จะต้องรักษาความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่าได้เพ่นพ่านไปไหนมิฉะนั้นจะมีคนคอยสั่งสอนให้คุณไม่ออกนอกลู่นอกทาง”เจียง ได้รับข้อมูล
หลังจาก เจียง หลี่ เปิดตาขึ้นเขาก็พบกับภูมิภาคประเทศที่เป็นทะเลเเห่งเพลิง เขาสามารถรับรู้ได้ถึงปริมาณความร้อนที่รุนเเรง
“สวัสดี!”
เจียง หลี่ เห็นมนุษย์ผู้หนึ่งที่มีเปลวเพลิงล้อมรอบเขากล่าวทักทายอย่างมีมารยาท
“หากฉันเดาไม่ผิดคุณคงจะเป็นไกด์ฉันเป็นศิษย์ที่ได้รับคำเชิญมาร่วมฟังบรรยายของพระเจ้าเเห่งเพลิง”เจียง หลี่ รู้ดีว่า ชายคนนี้คงเป็นศิษย์ภายใต้การสั่งสอนของพระเจ้าเเห่งเพลิง
“เเน่นอนฉันจะเเนะนำสถานที่ให้กับคุณนอกจากนี้คุณไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ด้วยตนเองเราจะนำคุณเข้าสู่สถานที่การบรรยายโปรดสบายใจ”เขากล่าวเเนะนำ เจียง หลี่
“เข้าใจเเล้ว”เจียง หลี่ ทำตามที่ชายคนนั้นบอก
เมืองของพระเจ้าเเห่งเพลิงนั้นประกอบไปด้วยเปลวเพลิงที่ร้อนระอุมันให้ความรู้สึกได้ถึงความร้อนที่มาจากมิติไฟ
สถานที่เเห่งนี้มีความลับที่รุนเเรงอย่างมิติเเห่งไฟอยู่
นี่คือสัญชาตญาณของเขา
เเล้วการดำรงอยู่ที่จัดว่าเป็นพระเจ้าเเห่งเพลิงเเล่า?
เจียง หลี่ มั่นใจว่าเขาจะต้องได้พบในไม่ช้า
เมื่อเขามาถึงสถานที่เขาก็เห็นต้นแบบผู้เชี่ยวชาญเเต่ละคนมันมากถึง 11 ที่นั่งที่นั่งอยู่ในสถานที่ต่างกัน
ต้นแบบเหล่านี้มีน้อยมากมีทั้งผู้อาวุโสหรือบุรุษชายเเละอิสตรีที่มาจากดินเเดนอมตะ
นอกจากนี้ไม่มีใครกล้าส่งเสียงดัง
“พระเจ้าเเห่งเพลิงเสด็จมาเเล้ว!”
ทันใดนั้น เจียง หลี่ ก็รับรู้ได้ถึงเปลวเพลิงที่นิ่งสงบเเต่รุนเเรงมากมันคือบุรุษหนุ่มที่ออกมาพร้อมกับเปลวเพลิงที่รุนเเรง
“ร่างกายของเจ้านั้นไม่ใช่ร่างกายอื่นๆ..มันคือร่างกายที่ปราศจากพิษนอกจากนี้มันคือกายาเเห่งการเกิดใหม่”
วาจาที่ห้าวหาญนั้นได้ออกมาจากตัวตนของพระเจ้าเเห่งเพลิง
“ร่างกายเจ้านั้นราวกับหยกที่ถูกเปลวเพลิงโหมกระหน่ำมันคือร่างเเห่งการก่อเกิด”เขาได้กล่าวออกมา
ความหมายที่ห้าวหาญของเขาได้ถูกตราตึงเข้าสู่จิตใจของ เจียง หลี่
“สิ่งที่้ข้าจะสอนเจ้าก็คือการสร้างกฏธรรมชาติที่จะเปลี่ยนเปลวเพลิงจิตวิญญาณของเจ้าให้เป็นเปลวเพลิงเเห่งชีวิต”เขากล่าวออกมา
เจียง หลี่ ได้ยินอย่างสมบูรณ์ตอนนี้เขาราวกับได้รับความเข้าใจในส่วนของตราประทับจักรพรรดิ์ไฟ
เพลิงนั้นคือต้นกำเนิดของอารยธรรม
เปลวเพลิงนั้นคือต้นกำเนิดเเห่งเเสงสว่าง
เป็นธรรมชาติที่หลักการของพระเจ้าเเห่งเพลิงนั้นคือความรู้เบื้องต้นที่มาพร้อมกับการบรรยายที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเเล้ว
“นี่ก็เหมือนกับการอาบน้ำร้อนยิ่งเข้าใจความสำคัญของเปลวเพลิงการเผาไหม้ของจิตวิญญาณย่อมได้รับการเผยชีวิตใหม่ที่น่ากลัวมากขึ้นจิตวิญญาณของเจ้ามีความลับหลายอย่างน่าเสียดายที่เจ้าไม่เข้าใจถึงเเก่นเเท้ของมันมีน้อยคนมากที่จะมองจิตวิญญาณเเห่งเพลิงอันลี้ลับของเจ้าออก”
พระเจ้าเเห่งเพลิงกล่าวอีกครั้ง
