Gate of God – ตอนที่ 277

เขาจะสู้กับคนที่มีความสามารถเท่ากับ ซิง หยวนกัว ได้ยังไงกัน?

ถึงแม้เขาไม่รู้ว่า ซิง หยวนกัว นั้นแข็งแกร่งขนาดไหน แต่เขาจำได้ว่า ไป่ ซิง นั้นมีดวงตาปีศาจเป็นสีแดง หยิง ซานที่อยู่ในระดับอภินหารก็มีตาปีศาจสีเขียว

มันไม่ยากเลยที่จะบอกว่า ไป่ ซิง นั้นมีพลังมากกว่า หยิง ซาน นั่นหมายความว่าเขามีพลังมากกว่าระดับอภินิหาร

ฟาง เจิ้งจือ ต้องการถาม เหยียน ซิว ว่า “นรกโบราณ” นั้นเป็นยังไง อย่างไรก็ตาม เหยียน ซิว ไม่เปิดโอกาสให้กับเขา

หลังจากป้องกันอาวุธลับแล้ว เหยียน ซิว ไม่ชะลอตัวลงแม้แต่น้อย

เขาเหยีบลงไปในน้ำวนทั้ง 2 และพุ่งมาหา ฟาง เจิ้งจือ  ระยะห่างระหว่างพวกเขาทั้งสองลดลงเรื่อยๆ

ฟาง เจิ้งจือ นั้นไม่มีเวลาทันพอที่จะตอบสนองกับความเร็วของ เหยียน ซิว ได้ทัน เขาสัมไดถึงลมน้ำแข็งที่พัดผ่านหน้าเขา

 

หลบ!

 

นั่นเป็นทางเลือกเดียวที่เขามี

อย่างไรก็ตาม เขานึกไม่ออกว่าจะหลบได้ยังไง เห็นได้ชัดว่า เหยียน ซิว นั้นมีพลังมากกว่า ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรอให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นเท่านั้น

 

หรือเขาทำได้แค่รอปาฎิหาริย์จริงๆ?

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้โง่ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าปาฏิหาริย์หรือโชคลาภ

ฟาง เจิ้งจือ ยังคงจำสิ่งที่ครูสอนเขาตอนเด็กได้เป็นอย่างดี “ถ้าไม่มีปฏิหาริยก็สร้างมันขึ้นมา”

เขาขึ้นสู่จุดสูงสุดมาตลอดอชีวิตเพราะเขาเชื่อแบบนี้

ยังไงก็ตาม …

 

แน่นอนว่ามันยาก

 

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาพยายามอย่างหนักเพื่อสิ่งที่เขาต้องการ สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาด้วยตัวเอง

 

เขาสามารถเข้ามหาวิทบยาลัยในฝันได้ แต่เขาก็ได้สร้างความผิดพลาดขึ้นเล็กน้อยจากการเลือกคณะ อย่างไรก็ตามนี่เป็นความทรงจำจาก “ชีวิตก่อน” ของเขา

เขาควรจะเริ่มจากปัจจุบัน ขาต้องสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาอีกครั้ง

 

ในการต่อสู้อาศัยเพียง 2 สิ่งเท่านั้น คือความสามารถและสติ

ในช่วงที่พบปัญหาจะต้องนิ่งสงบและใจเย็น

เหยียน ซิว เหนือกว่าเพราะความสามารถ แต่เขากำลังเจ็บปวดอยู่ เหยียน ซิว ต้องจัดการ ฟาง เจิ้งจือ ให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

ฟาง เจิ้งจือ ตัดสินใจจะให้ ‘โอกาส’ กับ เหยียน ซิว

คล้ายกับการวางเหยื่อให้คู่ต่อสู้ เมื่อพวกเขารู้ว่าตัวเองได้พลาด ก็สายไปแล้ว

ฟาง เจิ้งจือ หลบ

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้หลบเลี่ยงได้ดีนัก เมื่อลมพัดผ่านมา เขาเอนตัวหลบไปข้างหลังมากไปเล็กน้อย เขาจึงล้มลง

“ตุ้บ!”

 

ลมพัดผ่านเหนือหัวของเขา

ท่าทีของ ฟาง เจิ้งจือ เปลี่ยนไป เขากังวลมากขึ้นกว่าก่อนหน้า เขา ‘บังเอิญ’ ล้มก้นกระแทก จากนั้นขณะที่เขาก็ค่อยๆลุกขึ้น…

เขาแสดงแผ่นหลังของเขาที่ ‘ตื่นตระหนก’ให้ เหยียน ซิว เห็น

ด้วยวิธีนี้ เหยียน ซิว ต้องยืนอยู่ข้างหลัง ฟาง เจิ้งจือ แน่นอน ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ

เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างตื่นเต้นเมื่อได้เห็นสิ่งนี้

 

“มันเป็นโอกาสที่ดี!”

“เขายังเด็กเกินไป เขาลนลานเมื่อเจอกกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง! “

“ถ้าเขามั่นคงมากกว่านี้ น่าจะยังทนได้อีก 15 นาที แต่ตอนนี้ดูเหมือนการต่อสู้จะจบแล้ว! “

“มันก็ไม่ใช่ความผิดของเขาหรอก เหยียน ซิว นั้นแข็งแกร่งกว่า “

เจ้าหน้ที่ทุกคนมองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ที่ลนลาน ราวกับมองเด็กนักเรียนที่ต้องสั่งสอนอีกมาก

 

เหยียน ซิว เดินเข้าไป

เขาไม่คิดจะหยุดระหว่างการต่อสู้

นี่คือความเคารพของเขาต่อ ฟาง เจิ้งจือ และความเป็นเพื่อนของพวกเขา เหยียน ซิว เล็งไปที่หลังของ ฟาง เจิ้งจือ

เหยียน ซิว ใช้ทุกสิ่งทุกอย่างในการโจมตีครั้งนี้

 

ยังไงก็ตาม …

ในตอนที่เขาเหวี่ยงแขนขึ้น อาการเจ็บปวดของเขาแย่ลง และน้ำวนที่ดูดเท้าของเขาไว้ทั้งสองข้าง

15 นาทีแห่งความพยายาม

เหงื่อออกมากมาย

ในขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ คาดเดาว่า เหยียน ซิว ต้องการจะจบเรื่องนี้ให้ได้โดยไว เขาไม่ต้องการลากเวลาไปนานกว่านี้

 

ในการทดสอบระดับเมือง เหยียน ซิว ต่อสู้กับ ฟาง เจิ้งจือ ครั้งนึง กลับกัน เขาเรียนรู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ มีความอดทนมากกว่าเขา

เขาไม่ยอมปล่อยให้ ฟาง เจิ้งจือ ได้เปรียบในเรื่องนั้นอีกแล้ว

ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกถึงกระแสลมจากด้านหลัง เขารู้ทันทีว่า เหยียน ซิว อยู่ข้างหลังแล้ว

มีศัตรูอยู่ด้านหลังเขา …

นี่เป็นสถานการณ์ที่อันตรายที่สุด ในสถานการณ์เช่นนี้ปกติแล้วมีเพียง 2 ทางเลือกเท่านั้น ทางแรกคือพยายามหลบ และทางที่สอง คือเขาต้องเตะขาไปด้านหลังและเล็งเป้าไปทางจุดสงวนของ เหยียน ซิว

 

ทางเลือกแรกเป็นตัวเลือกที่น่าอายเกินไป

ทางที่สองก็ดูยากเกินไป ถ้าเขาเล็งไม่ถูกจุดก็จะแพ้ในทันที แต่ถ้าเขาเล็งถูกจุดละก็ เหยียน ซิว ก็เลิกคิดที่จะมีทายาทสืบทอดต่อไปได้จริงๆ

อย่างไรก็ตามเรื่องพวกนี้ถูกพิจารณาในแผนเขาหมดแล้ว เขามีวิธีที่จะจัดการกับการโจมตีที่เข้ามา

 

ตัวอย่างเช่น

เขาล้มลงไปข้างหน้าเพราะพยายามหลบ

มันน่าอับอายมาก!

เหยียน ซิว ไม่ยอมทิ้งโอกาสนั้นแน่ เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ล้มเข้าจะเข้ามาประชิดทันที

 

จากนั้นเขาก็เตรียมฟันลงไปที่ ฟาง เจิ้งจือ

ทันใดนั้น

 

ดาบแสงก็ปรากฎขึ้นที่ตาของเขา

 

2 3… 4 …

ดาบแสงทั้ง 6 ยิงไปด้านหน้าเขาด้วยความเร็วดุจแสง

ท่าทีของ เหยียน ซิว ก็เปลี่ยนไป

เขารู้ในทันทีว่าดาบแสงพวกนี้ถูกเตรียมไว้ก่อนแล้ว

ท่ามกลางสถานาการณ์อันโกลาหล ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถปล่อยดาบแสงออกมาเป็นจำนวนมากได้

“ข้าถูกหลอก!” เหยียน ซิว งุนงง เขาถอยหลัง จากนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีพลังที่รุนแรงกระแทกเข้าที่หลัง

เขาหยุดถอยหลัง ในตอนนั้นเอง ดาบแสงทั้ง 6 พุ่งเข้ามาหาเขาราวกับรู้ว่าเขาอยู่ตรงไหน

 

“ตูมมม!”

ดาบแสงทั้ง 6 ระเบิดออกพร้อมกัน ก่อนจะกลายเป็นเศษดาบนับไม่ถ้วนประสานกันกลายเป็นตาข่าย และห่อร่างของ เหยียน ซิว เอาไว้

เจ้าหน้าที่ทุกคนที่คิดว่าการต่อสู้สิ้นสุดลงแล้วจึงตกตะลึง ทุกคนต่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

 

ฟาง เจิ้งจือ ควบคุมดาบแสงทั้ง 6 พร้อมๆกับหลบหลีกการโจมตี

 

เป็นไปไม่ได้

 

เว้นเสียแต่ว่า…

ความคิดบางอย่างผุดขึ้นในใจของเหล่าเจ้าหน้าที่ พวกเขามองหากันด้วยสีหน้าที่ราวกับพึ่งถูกตบหน้ามาอย่างจัง

 

พวกเขาพึ่งจะบอกว่า ฟาง เจิ้งจือ นั้นเด็กเกินไปและไม่มีประสบการณ์  พวกเขากล่าวว่าเขาเสียความเยือกเย็นไปในการเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งกว่า

 

แต่ตอนนี้…

 

เห็นได้ชัดเลยว่า ฟาง เจิ้งจือ แกล้งทำ

“หน้าด้าน! กลอุบาย!”

 

“เป็นคนไร้ยางอายขนาดนี้ได้ยังไง?! นี่คือการสอบระดับสภา! องค์จักรพรรดิเป็นคนจัดขึ้น! “

“การทำเช่นนี้ต่อหน้าเจ้าหน้าที่และองค์จักรพรรดิ ถือเป็นการทำให้เจ้าหน้าที่ระดับ 4 ต้องเสียชื่อ!”

เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างกังวลใจ พวกเขายังคงสาปแช่งอยู่ในใจ แต่ไม่มีใครกล้าพูดออกมา

เมื่อ ปิง หยาง เห็นสิ่งนี้นางรู้สึกตื่นเต้น “ฮ่า ๆ ๆ เจ้านั่น… เอาจริงรึ…. นับวันเขายิ่งไร้ยางอายมากขึ้นเรื่อยๆ!”

เมื่อราชาต้วนได้ยินเสียงหัวเราะของ ปิง หยาง เขาก็กำหมัดแน่น

 

จนตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่ได้จับดาบของเขาเลย เขาจะไม่ใช้ดาบจริงๆรึ? ธนูของเขาถูกเอาไปเดิมพันเชียวนะ!

ตอนนี้เอง ท่าที่ขององค์จักรพรรดิ หลิน มู่ไป่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูด เขาเพียงแค่เคาะนิ้วเบา ๆ บนบัลลังก์

ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

บนเวที

ฟาง เจิ้งจือ มอง เหยียน ซิว ที่ติดอยู่ในตาข่ายแสง เขายิ้มเล็กน้อย

“เปิด!” ตอนนั้นเอง เหยียน ซิว ตะโกนออกมา จากนั้นแสงไฟสีแดงถูกยิงออกไปที่ตาข่ายแสง

และจู่ๆตาข่ายแสงก็เปิดออกเป็นรูกว้าง

เหยียน ซิว กระโจนออกมาอย่างง่ายดาย

รอยยิ้มของ ฟาง เจิ้งจือ แข็งค้าง “ต้องเป็นเรื่องตลกแน่ๆ? นี่มันอะไรกัน? “

 

“นี่คือเต๋าที่ข้าเรียนรู้ในนรกโบราณ!” เหยียน ซิว ดูเหมือนจะรู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ กำลังสงสัย เขาไม่ได้โจมตี

อย่างไรก็ตาม ตอนที่ เหยียน ซิว พูด ร่างเขาสั่นเทาเล็กน้อย

 

ที่สำคัญที่สุดคือ…

น้ำวนสีแดงใต้เท้าเขาเริ่มขยายตัวขึ้น มันลามไปถึงเข่า ราวกับว่ากำลังกลืนกินเขา

“นี่คือ… เต๋า?” ฟาง เจิ้งจือ เหลือบมองที่เท้าของ เหยียน ซิว เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร

อย่างไรก็ตาม มันยังไม่สมบูรณ์

ตอนที่มันลุกลามขึ้น เขาก็รู้ว่ากำลังมีปัญหาเกิดขึ้น

เจ้าหน้าที่ทั้งหมดอยู่ห่างจากเวทีมาก พวกเขาจึงไม่ได้สังเกตุถึงความเปลี่ยนแปลงของน้ำวนสีแดง

อย่างไรก็ตาม เมือพวกเขาเห็น เหยียน ซิว หนีออกจากตาข่ายแสงได้ พวกเขาก็ยิ้มร่าออกมา

“ความสามารถที่แท้จริง แม้จะไร้ยางอายถึงที่สุดแต่ก็ไร้ประโยชน์!”

 

“การต่อต้านที่ไร้ประโยชน์”

“เหยียน ซิว หลงกลวิชาของเขาไปครั้งนึงแล้ว  การต่อสู้ครั้งนี้จะจบลงในไม่ช้า”

 

เจ้าหน้าที่ทั้งหมดดูเหมือนจะมั่นใจในการคาดการณ์ของพวกเขา เหยียน ซิว เหนือกว่า ฟาง เจิ้งจือ

เหยียน ซิว ไม่ได้อธิบายให้ ฟาง เจิ้งจือ ฟังในทันที เขามองเข้าไปในท้องฟ้าราวกับว่าเขากำลังพยายามจะจดจำอะไรบางอย่าง

หลังจากช่วงเวลาสั้น ๆ เขาก็หันกลับไปมอง ฟาง เจิ้งจือ

“เจ้าจดจำวิชาดาบที่ข้าใช้ที่เมืองหลวงแม่น้ำแห่งความสัตย์ได้ใช่ไหม?” เหยียน ซิว ถาม

 

“วิชาดาบ?” ฟาง เจิ้งจือ ถามอย่างสงสัย เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เจตจำนงของอาซูร่า!”

“ใช่แล้ว! ข้าอธิบายความหมายของอาซูร่าให้เจ้าได้รู้แล้ว! “ เหยียน ซิว พยักหน้ารับ

“ความหมายของอาซูร่า!” ตาของ ฟาง เจิ้งจือ เป็นประกาย ในที่สุดเขาก็รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกคุ้นกับน้ำวนสีแดงที่เท้า เหยียน ซิว

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset