Gate of God – ตอนที่ 461

ฟาง เจิ้งจือ ราวกับเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

 

อย่างน้อยที่สุดนั่นคือสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกได้ หัวใจของเขาเริ่มสั่นสะท้าน

 

เต๋าสวรรค์

 

มันเป็นเรื่องยาก ยากเกินกว่าจะเป็นไปได้

 

ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถเข้าใจได้ในเวลาสั้นๆ

 

อย่างไรก็ตาม …

 

ไม่ได้มีกฎระบุไว้ว่าเขาต้องเข้าใจทั้งหมด เต๋าสวรรค์ประกอบด้วยหลายอย่าง สิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ต้องทําในตอนนี้คืออะไร?

 

ทําลายพันธนาการ!

 

เพราะฉะนั้น ฟาง เจิ้งจือ ไม่จําเป็นต้องเข้าใจการสรรค์สร้างทั้งหมด เขาเพียงแค่ต้องเข้าใจในสิ่งรอบตัวเขาเท่านั้น คังหยางเปลี่ยนแปลงพื้นที่รอบตัวของเขา

 

และใช้มันเพื่อพันธนาการเขา

 

ฟาง เจิ้งจือ ต้องเข้าใจว่าทั้งหยางเปลี่ยนแปลงอะไรและเปลี่ยนแปลงร่างกายให้เข้ากับมันนั่นเป็นวิธีที่เขาจะสามารถปลดปล่อยตัวเองได้

 

“พื้นที่ พื้นที่ การเปลี่ยนพื้นที่….” ฟาง เจิ้งจือ พูดซ้ำๆอยู่กับตัวเองเขามีแต๋นับร้อยในมิติพิเศษ

 

เขามีเต่ราวกับเป็นกลุ่มดาวนับร้อย ดวงอาทิตย์ สายลม สายน้ำ สายฟ้า เพลิงไฟ ผืนดิน ธรรมชาติ …

 

แน่นอนว่า…

 

นอกเหนือจากนี้เขาก็มีเต๋าแห่งพื้นที่

 

มีคําอธิบายของพื้นที่มากมาย พื้นที่นั้นทําให้สิ่งต่างๆสามารถดํารงอยู่ได้

 

มันเป็นเรื่องพื้นฐานของการวางสิ่งของในรูปแบบสามมิติ

 

พื้นที่อาจจะประกอบไปด้วยความคิด จํานวน ดวงดาว

 

อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดถึงพื้นที่อื่นๆ เขาคิดแต่พื้นที่ที่อยู่รอบตัวเขาเท่านั้น

พื้นที่นี้เกิดขึ้นจากอะไร?

 

อากาศและพื้นที่ไม่ได้อยู่บนแนวคิดเดียวกัน

 

อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ถูกควบคุมโดยอากาศ ในโตรเจน 78% ออกซิเจน 21% คาร์บอน ไดออกไซด์ 0.94% … และไนโตรเจนออกไซด์ 0.032%

 

จากนั้น

 

นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าเขาคิดถึงพื้นที่ทั้งหมดที่เต็มไปด้วยอากาศ งั้น ฟาง เจิ้งจือ คงจะไม่ได้อะไร

 

เพื่อที่จะตรึงเขาเอาไว้ในพื้นที่แห่งนี้ คังหยางได้เปลี่ยนแปลงความหนาแน่น และเพิ่มพลัง ความดัน และหลายอย่างที่ซับซ้อนกว่านั้น

 

ฟาง เจิ้งจือ ต้องทําให้ร่างกายเข้าใจในพลังและอากาศรอบๆตัวเสียก่อนจากนั้นเขาต้องปล่อยให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับสิ่งเหล่านั้นทีละอย่าง

 

แม้ว่ามันจะยากและซับซ้อน

 

แต่มันคงดีกว่าพยายามดึงดันปล่อยพลังออกมา

 

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาหลับตาและพยายามให้ร่างกายของเขารู้สึกถึงสิ่งที่อยู่รอบตัว เพื่อที่จะทําสิ่งนี้ได้เขาต้องผ่อนคลายลง

 

เขาต้องใจเย็น

 

เสียงของ ฉือ กูเหยียน ดังก้องอยู่ในใจของเขาอย่างต่อเนื่อง มันทําให้หัวใจของเขาค่อยๆสงบลง

 

ฟาง เจิ้งจือ เริ่มรู้สึกว่าเซลล์ในร่างกายเกิดการตื่นตัว และพวกมันพยายามจะตอบสนองกับอากาศโดยรอบ

 

เขารู้สึกเหมือนอยู่ในทะเลสาบ …

 

อย่างไรก็ตามทะเลสาบแห่งนี้อยู่ไกลจากความสงบ และยังมีน้ำวนที่พยายามฉุดรั้งเขาไปทุกทิศทุกทางแต่…

 

น่าแปลกที่น้ําวนเหล่านี้กลับสร้างสมดุลขึ้น

 

ในตอนที่น้ำวนดึงเขาไปทางขวา น้ำวนทางซ้ายก็ต้านและลบล้างมันลงน้ำวนแต่ละด้านต่างลบล้างน้ำวนอีกด้าน

 

น้ำวนนับไม่ถ้วนต่างเหนี่ยวรั้งร่างของเขาไว้ให้คงอยู่ในตําแหน่งเดียว

 

“รู้แล้ว … เขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงพื้นที่ เขาแค่สร้างวังวนนับไม่ถ้วนขึ้นให้พวกมันเหนี่ยวรั้งกันเอง และบังคับให้พวกมันตรงข้าเอาไว้ในการทําสิ่งนี้เขาต้องใช้แรงลมและแรงดันเพื่อให้เกิดความสมดุล …”

 

แค่นั้นเอง!

 

เขาคิดออกแล้ว!

 

เมื่อรู้สึกถึงสภาวะรอบๆตัวเขาแล้ว ฟาง เจิ้งจือ จึงเริ่มเข้าใจกฏที่ควบคุมพื้นที่รอบตัวเขาดังนั้น

 

เขามีความมั่นใจว่าเขาจะสามารถหาทางหนี้ได้

 

เมื่อท้องฟ้ามืดลงการต่อสู้ก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นภายใต้การบัญชาของ ซิง หยวนกัว หน่วยเกราะมังกรและกองทัพทลายภูผาจึงสามารถหาพื้นที่ตั้งมั่นได้

 

ศพทับซ้อนกันเป็นกองภูเขา

 

กลิ่นคาวของเลือดลอยเต็มอากาศ

 

สําหรับ ฉือ กูเหยียน นางยังคงปล่อยดาบแสงลงพื้นเรื่อยๆ

 

“ร่างทรงเต๋าสวรรค์ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเอาชนะได้ … “ คังหยาง ‘มอง” บนท้องฟ้า

 

เขาดูดกลืนแสงสีเงิน ขณะที่พวกมันพุ่งเข้าหา หยุน ชิงวู ….

 

หยุนชิงว์ไม่ได้มอง ฟาง เจิ้งจือ เช่นกัน นางมองไปที่แสงสีเงินที่กําลังกระหน่ําโจมตี

 

นางดูสงบนิ่งมาก

 

อย่างไรก็ตามดวงตาของนางเปล่งประกายอิจฉาราวกับว่าสิ่งที่นางฝันถึงไปเกิดขึ้นกับคนอื่น

 

หยุน ชิงวู..

 

นางเป็นปีศาจที่ถูกเนรเทศ

 

แน่นอนว่านางไม่มีความสามารถเหมือน ฉือ กูเหยียน การกระทําและพลังของนางนั้นไม่สามารถปิดซ่อนความจริงที่ว่านางเป็นเพียงผู้ที่อยู่ในระดับผนวกดาราได้เลย

 

แต่ความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น

 

นางอาจจะไม่สามารถเอาชนะ ปิง หยาง ที่บาดเจ็บได้ด้วยซ้ำ

 

มันน่าขันขนาดไหน?

 

หยุน ชิงวู ริษยาในความสามารถของ ฉือ กูเหยียน

 

ร่างทรงเต๋าสวรรค์…

 

ความสามารถของนางเป็นสิ่งพิเศษ

 

ฉือ กูเหยียน เป็นเหตุผลที่ทําให้ หยุน ชิงวู พ่ายแพ้ไปในถิ่นฐานวานรน้ำแข็ง ร่างทรงเต๋าสวรรค์เป็นสิ่งที่ทําให้ ฉือ กูเหยียน แข็งแกร่ง

 

ลําแสงเริ่มเป็นสีเข้มและหนาแน่นขึ้นราวกับน้ำตก

 

น้ําตกแห่งการโจมตีที่ร่วงโรยมาจากฟากฟ้า

 

เหล่าปีศาจมองไปที่การโจมตีที่ตกมาจากฟากฟ้าด้วยความหวาดกลัวและชื่นชม จากนั้นก็มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ

 

ฟาง เจิ้งจือ หลับตาลงราวกับว่าเขาหลับไป

 

“เขายอมแพ้เหรอ?”

 

“ข้าเดาว่าเขาคงเหนื่อยไปแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่า…”

 

“ช่างน่าเสียดายในความพยายามของ ฉือ กูเหยียน ที่อุตส่าห์ทําเพื่อคนอย่างเขา เขาไม่มียางอายเลยเหรอ?”

 

ปีศาจต่างมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความดูถูก

 

เขาเป็นเหมือนศพเดินได้

 

เขาไม่สมควรได้รับความสนใจ

 

เมื่อพลบค่ำ มีแสงสว่างอยู่เพียงสองจุดคือ การโจมตีของ ฉือ กูเหยียน และการต่อสู้กันที่ประตูเมืองเนินเขาเหล็ก

 

ไม่มีใครมองดูที่ ฟาง เจิ้งจือ

 

แม้ว่าพวกเขาไม่ได้สังเกตเห็น

 

มันเป็นการเคลื่อนไหวที่เล็กมาก ฟาง เจิ้งจือ สามารถขยับนิ้วขางขวาได้เล็กน้อย

 

อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของมันหยุดลงอย่างรวดเร็ว

 

จากนั้น

 

สักครู่ต่อมานิ้วชี้ของเขาขยับ

 

การต่อสู้ทวีความรุนแรงมากขึ้น

 

เสียงกรีดร้องดังลั่นไปทั่ว

 

การต่อสู้นั้นหมายถึงความตาย การหลั่งเลือดและไฟผู้คนมากมายเสียชีวิตในสงครามหลายครั้งตลอดในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ตามการต่อสู้ก็เป็นการฝึกฝนและเป็นโอกาสที่จะได้รับเกียรติยศ

 

ในการต่อสู้ทุกครั้งนักรบนับไม่ถ้วนจะรอดชีวิตจากการทดสอบด้วยเลือดและไฟ และจะแข็งแกร่งขึ้นเพราะมัน

 

“ตาย!”

 

” พวกเราจะตายไปพร้อมกับดินแดนภูเขาทางใต้”

 

“พ่อแม่พี่น้องและลูก ๆ ของเราอยู่ที่นี่! เราจะไม่ปล่อยให้พวกปีศาจเข้ามา!”

 

เสียงของพวกเขาดังก้องไปทั่วฟ้า พร้อมกับลูกธนูที่ยิงออกมา ลูกธนูเหล่านี้ปักลงสู่พื้นดินราวกับหนามแหลมคม

 

เสียงการสังหารดังขึ้นครั้งที่สอง

 

เห็นได้ชัดเลยว่าการป้องกันภายในถิ่นฐานเนินเขาเหล็กนั้นถูกต้อนเข้าไปถึงประตูหลัก 

 

ฉาน หลิง กัดริมฝีปากจนเกิดรอยเลือด เขารู้ชัดเลยว่าเสียงที่ฟังดังขึ้นนั้นหมายความว่าอย่างไร

 

“ดินแดนภูเขาทางใต้จะจบสิ้นแล้วงั้นหรือ?” ฉาน หลิง ไม่อยากยอมรับความจริงข้อนี้

 

“ฝ่าบาท! ท่านควรหลบเข้าไป! เรายังสามารถสร้างดินแดนขึ้นมาใหม่ได้หลังจากนี้ ท่านต้องถอยกลับไปที่ป่า ที่ซึ่งปีศาจไม่สามารถตามตัวได้”เสียงดังขึ้นจากด้านข้างของ ฉาน หลิง

 

“หุบปาก!”แววตาของ ฉาน หลิง แดงก่ำ

 

เขารู้ดีว่าพวกเขาอยู่ในสถานการณ์แบบไหน แต่เขาไม่สามารถหนีไปได้! เขาเป็นองค์ รัชทายาท

 

“ฝ่าบาท!”

 

“มากับข้า! ถ้าข้าต้องตายที่นี่ ข้าก็จะตายที่นี่!”

 

“รับทราบ!”

 

เลือดพุ่งกระจายไปทั่วฟ้า สีแดงของเลือดบดบังดวงดาวที่ส่องสว่าง

 

ทันใดนั้นดวงตาคู่หนึ่งก็เปิดออกอย่างช้าๆ ไม่มีใครในสนามรบสังเกตเห็น

 

อย่างไรก็ตาม …

 

ดวงตาคู่นั้นเริ่มมองดูสภาพแวดล้อมของเขา

 

เขามองไปที่แสงสีเงินที่กําลังส่องสว่าง และได้ยินเสียงกรีดร้องจากการต่อสู้เขามองดูดวงดาวที่กระพริบในท้องฟ้า

 

“ตูม!”

 

คลื่นพลังที่ระเบิดออกมากระจายออกไปรอบ ๆ

 

มันดึงดูดความสนใจของคนหลายๆคน

 

“เขาไม่ได้ยอมแพ้ไปแล้วหรือ?”

 

“เขาจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะตาย?”

 

“มันไม่สําคัญ ปล่อยให้เขาดิ้นรนต่อไปจะยังไงเสียมันก็ไร้ประโยชน์ เจ้าคิดจริงหรือว่าจะสามารถทําลายความลับของเตสวรรค์ได้?”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าเขาทําได้ พระอาทิตย์คงจะขึ้นจากทางตะวันตกเป็นแน่”

 

ปีศาจต่างเยาะเย้ย พวกเขาทั้งหมดต่างงุนงงกับความพยายามของเขาในครั้งก่อน และไม่คิดว่าเขาจะสามารถทําอะไรได้มากไปกว่านั้นในครั้งนี้

 

การต่อสู้ …

 

การดิ้นรนที่ไร้จุดหมาย ชะตากรรมของเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง

 

นั่นคือเต๋าสวรรค์!

 

ฟาง เจิ้งจือ จะไม่สามารถหลบหนีมันไปได้นอกเสียจากอยู่ในความฝันของตัวเอง

 

ไม่มีปีศาจตนไหนเชื่อว่าเขาทําได้ แม้แต่หน่วยเกราะมังกรหรือกองทัพหลายภูผาเองก็ไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะทําได้ มันเป็นไปไม่ได้

 

คลื่นของพลังดึงดูดความสนใจของคนจํานวนมาก

 

อย่างไรก็ตามความสนใจนั้นสั้นนัก ไม่มีใครคิดจะเสียเวลาดูต่อไป เพราะมันเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์

 

คลื่นพลังพัดเข้าหาชุด หยุน ชิง

 

ชุดของนางพัดไปด้านหลัง แต่นางก็ไม่ได้มอง ฟาง เจิ้งจือนางยังคงจับจ้องกับแสงสีเงินด้านบน

 

คังหยางเองก็ไม่ได้สนใจเช่นกัน

 

ในฐานะอาจารย์ของ หยุน ชิงวู เขาเป็นหนึ่งในปีศาจที่น่านับถือ แม้แต่เจ้าปีศาจยังออกมาต้อนรับเขาที่หน้าประตูเมืองเงาเลือดด้วยตัวเอง

 

อย่างไรก็ตาม คังหยาง เข้าใจสิ่งหนึ่ง

 

ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งหรือน่าเคารพแค่ไหน เขาก็ยังเป็นปีศาจและ หยุน ชิงวู เป็นนายน้อยของเขา

 

เขาต้องการให้ ฟาง เจิ้งจือ ตาย

 

ตั้งแต่วินาทีที่เขาเห็น ฟาง เจิ้งจือ เขาต้องการให้ ฟาง เจิ้งจือ ตายไป แต่ถ้า หยุน ชิงวู ไม่ได้ออกคําสั่ง …

 

เขาก็ไม่สามารถฆ่า ฟาง เจิ้งจือ ได้

 

อย่างน้อย…

 

ยังไม่ใช่ตอนนี้

 

ทั้งหยางเคยเสียใจที่ตัวเองมงไม่เห็น อย่างไรก็ตาม หลายปีผ่านพ้นไปเขาก็ตระหนักได้ว่า เขาอาจจะไม่สามารถมองเห็นโลกนี้ได้ แต่เขาก็ยังรู้สึกถึงมันได้อยู่

 

เขาสามารถรู้สึกถึงการมีอยู่ของทุกสิ่งรอบตัวรวมทั้งรูปร่างหน้าตาและการเปลี่ยนแปลงของพวกเขา

 

เป็นผลให้เขาสามารถเปิดประตูที่ใครหลายคนต้องการเปิดมันได้

 

การจุติเต๋าแห่งสวรรค์

 

“ไปตายซะ!” เสียงที่ดังก้องตัดผ่านอากาศ มันเต็มไปด้วยความตื่นตัว ความตื่นตัวจากการทําลายจนได้รับอิสระภาพ

 

ราวกับว่าภูเขาไฟที่สงบนิ่งได้ปะทุขึ้นในที่สุด ความร้อนระอุที่เกิดจากการระเบิดทําให้พื้นที่รอบๆพวกเขาบิดเบี้ยวไปเล็กน้อย

 

สายลมที่พัดผ่าน …

 

ชุดสีน้ำเงินที่พริ้วไหวตามสายลม เหมือนกับชุดกระโปรงของ หยุน ชิงวู

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset