God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ – ตอนที่ 1161

ฤทธิ์ของยาจะแสดงอาการออกมาตอนนี้?!

ไม่ทันรอให้ฉางเซวียและคนอื่นๆเข้าใจความหมายของเฉินเหว่ย ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของตนเองอ่อนแอลง พลังเวทมนตร์ภายในส่วนลึกของราชวังสีม่วงเหมือนกับว่ากำลังหายไปอย่างรวดเร็ว เหมือนกับว่าพลังอำนาจทั่วทั้งร่างกายกำลังจะหายไปก็ว่าได้

“ท่าไม่ดีแล้ว พลังเวทมนตร์ของข้าหายไปอย่างไม่คาดคิด?!”

“แม่เจ้า ท้ายที่สุดแล้วนี่คืออะไรกัน ข้ารู้สึกว่าพลังอำนาจในร่างกายกำลังหายไปเรื่อยๆ”

“เจ้าบัดซบเฉินเหว่ย เจ้าทำอะไรกับพวกเรา?”

ฉางเซวียและคนอื่นๆต่างก็แตกตื่นขึ้นมา พวกเขารู้สึกว่าร่างกายของตนเองไร้เรี่ยวแรง แต่ละคนต่างก็ล้มลงไป ปัง อาวุธในมือของพวกเขาก็ได้ร่วงลงไปที่พื้นเช่นกัน

พวกเขาหายใจอย่างยากลำบาก เหงื่อโชกทั่วทั้งร่างกาย เหมือนกับว่าตกลงไปในโคลนก็ว่าได้ ไม่สามารถที่จะใช้พลังอำนาจใดๆได้เลย

เดิมทีพวกเขาซึ่งอยู่ในระดับสมปรารถนาหรือแม้แต่บางคนที่อยู่ในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์นั้น มีพลังอำนาจที่สามารถซัดภูเขาจนถล่มลงมาได้ หากอยู่ภายในอาณาจักรของยุคสมัยโบราณนั้น พวกเขาก็มีตัวตนเป็นดั่งเทพเจ้าก็ว่าได้

ทว่าตอนนี้พวกเขารู้สึกว่าพลังอำนาจของตนเองกำลังหายไปอย่างรวดเร็ว เหมือนกับว่าตนเองได้เปลี่ยนกลายเป็นมนุษย์ธรรมดา เปราะบางยิ่งกว่าทารกเสียอีก แม้แต่ความแข็งแกร่งของร่างกายที่ฝึกฝนมานานหลายร้อยปีนั้น ก็เหมือนจะหายไปในเวลานี้

แต่ละคนต่างก็แตกตื่นและสิ้นหวังอย่างมาก

“ไม่ต้องเป็นกังวลไป พวกเจ้าเพียงแค่ถูกยาพิษ ส่งผลให้พลังอำนาจหายไปชั่วคราว นี่ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ถาวร ทว่ามีฤทธิ์เพียงแค่24ชั่วโมงเท่านั้น หลังจากนี้มันจะฟื้นฟูขึ้นมาอย่างช้าๆ”

เฉินเหว่ยเผยรอยยิ้มออกมา

24ชั่วโมง?!

ได้ยินเช่นนี้ ฉางเซวียและคนอื่นๆต่างก็รู้สึกสิ้นหวัง ต่อให้จะอ่อนแอลงเพียงแค่ในเวลาไม่กี่นาทีนั้น พวกเขาทั้งหมดก็จะต้องตาย จะต้องถูกเฉินเหว่ยและกลุ่มของชาวพื้นเมืองสังหารไปอย่างรวดเร็ว

อย่าพูดถึงว่าการที่ต้องไร้เรี่ยวแรงถึง24ชั่วโมงนั้น ต่อให้พวกเขาจะมีนับร้อยชีวิตก็คงจะไม่เพียงพอ

พวกเขารู้สึกหดหู่อย่างมาก ล่วงรู้ว่าตนเองได้หลงกลอย่างแท้จริง ตกหลุมพรางที่ชั่วร้ายของเจ้าเฉินเหว่ยและกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่มีโอกาสที่จะได้มีชีวิตอยู่อีกต่อไป

“สหายเฉิน พิษนี้ช่างร้ายกาจจริงๆ ไม่คาดคิดว่าจะทำให้เหล่าปีศาจต่างถิ่นที่แข็งแกร่งตกอยู่ในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้ ไม่มีพลังอำนาจที่จะต้านทานแม้แต่น้อย พวกเราสามารถที่จะสังหารอย่างไรก็ได้”

จั่วฮาวมองไปที่เฉินเหว่ยด้วยสายตาที่เผยให้เห็นถึงแสงที่หนาวเหน็บ “พิษนี้ หากใช้กับพวกเราชนเผ่าวิญญาณ มันจะมีผลเหมือนกันหรือไม่?”

เขานั้นรู้สึกหวาดกลัววิธีการนี้ของเฉินเหว่ย

หากเฉินเหว่ยใช้วิธีการนี้กับพวกเขาล่ะก็ คาดการณ์ได้ว่าชะตากรรมของพวกเขาก็คงจะไม่ต่างไปจากปีศาจต่างถิ่นเหล่านี้

“ไม่ต้องเป็นกังวลไป พิษนี้เป็นสิ่งที่หายากอย่างมาก แม้แต่ข้าเองก็ต้องลงทุนอย่างมหาศาลเพื่อที่จะได้มันมา จะไม่มีทางใช้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ได้เซ็นสัญญาทางจิตวิญญาณ จะไม่มีทางทรยศหักหลังกัน เป็นไปได้อย่างไรที่ข้าจะใช้วิธีการนี้กับเจ้า? ท้ายที่สุดแล้วพวกเราไม่ใช่พวกพ้องกันหรือ?” เฉินเหว่ยเผยให้เห็นสีหน้าที่ชั่วร้ายออกมา

พวกพ้องตูดข้าสิ!

จั่วฮาวแอบเย้ยหยันในความรู้สึกลึกๆ เขาไม่เชื่อคำพูดของเฉินเหว่ยแม้แต่น้อย แม้แต่คนในฝ่ายเดียวกันก็กล้าที่จะหลอกลวงได้เช่นนี้ มีที่ไหนที่เขาจะเชื่อว่าเจ้านี่จะไม่เริ่มลงมือกับพวกเขา

ทว่าการที่มีสัญญาทางจิตวิญญาณอยู่นั้น เชื่อว่าต่อให้เจ้านี่จะชั่วร้ายแค่ไหน ก็ไม่กล้าที่จะแทงข้างหลังของเขา

เฉินเหว่ยก็ไม่ได้พูดอะไรกับจั่วฮาวอีก เขาได้พูดกับฟ่านหมิงและลูกศิษย์คนอื่นๆของนิกายหวนคืนปรโลกแทน “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดไร้สาระอะไรอีก สังหารพวกเขาทั้งหมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว”

เขานั้นโหดเหี้ยมและไร้ความปราณีอย่างมาก ต้องการที่จะสังหารฉางเซวียและคนอื่นๆในทันที ถอนรากถอนโคนให้หมด ไม่ต้องการที่จะเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว

“เจ้าบัดซบเฉินเหว่ย เจ้าจะต้องตายเยี่ยงสุนัข”

“ความเชื่อใจที่ข้ามีให้เจ้าก่อนหน้านี้ช่างสูญเปล่า ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะเป็นอาชญากรที่น่ารังเกียจเช่นนี้”

“ต่อให้ข้าตายไป ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน”

กลุ่มของผู้คนที่ตะโกนออกมาอย่างโศกเศร้าและไม่พึงพอใจ รู้สึกว่าตนเองนั้นโง่เขลาที่หลงเชื่อคำพูดของเฉินเหว่ยก่อนหน้านี้ ทว่าน่าเสียดายที่บนโลกนี้ไม่มียารักษาโรคเสียใจในภายหลัง

“รู้สึกผิดอย่างนั้นหรือ? มันสายเกินไปแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำเมื่อออกไปข้างนอกนั้นก็คือการไม่ไว้ใจคนแปลกหน้า พ่อของเจ้าไม่ได้สอนความจริงข้อนี้ให้กับพวกเจ้าในตอนเด็กๆหรือ?”

เฉินเหว่ยพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม

“กลุ่มคนไร้สมอง ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้มีไอคิวที่ต่ำเช่นนี้”

“ใช่ หากสามารถที่จะจัดการกับกลุ่มของชาวพื้นเมืองเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายและครอบครองหินวิญญาณนั้น เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเราจะยอมมอบส่วนแบ่งให้กับพวกเจ้า?”

“ลงนรกไปซะและคิดทบทวนถึงความโง่เขลาของตนเองที่หลงเชื่อพวกเรา”

“คนโง่เขลาไม่มีวันที่จะเอาชีวิตรอดภายในจักรวาลได้ ตอนนี้พวกเราได้สอนเจ้าถึงความจริงข้อนี้”

กลุ่มของลูกศิษย์นิกายหวนคืนปรโลกได้ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย พวกเขาต่างก็ยกอาวุธขึ้นมา เตรียมที่จะสังหาร เป็นเหมือนกับกลุ่มโจรที่ฆ่าล้างชาวบ้านที่ถูกมัดอยู่ก็ว่าได้

“ม่ายยย ไว้ชีวิตข้าเถอะ โปรดไว้ชีวิตข้า”

“ตราบใดที่ไว้ชีวิตสุนัขของข้า ข้าเต็มใจที่จะทำงานรับใช้พวกเจ้าอย่างหนัก”

“เจ้าไม่สามารถที่จะสังหารข้า ไม่สามารถที่จะสังหารข้า พ่อของข้านั้นเป็นพ่อบ้านของนิกายห้าธาตุ”

“ข้ามีเงิน มีเงินเป็นจำนวนมาก พวกเจ้าต้องการเท่าไหร่ ข้าสามารถมอบให้ได้”

ผู้คนต่างก็ร่ำไห้ออกมา อ้อนวอนขอความเมตตาอย่างไม่หยุดหย่อน ทว่าผู้คนของนิกายหวนคืนปรโลกนั้นก็ไม่ได้เมตตาแม้แต่น้อย เพราะว่าเมื่อเทียบกับผลประโยชน์เหล่านี้นั้น หากเรื่องนี้รั่วไหลออกไป มันจะก่อให้เกิดหายนะกับพวกเขาได้

เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะปล่อยให้ลูกศิษย์เหล่านี้มีชีวิตต่อไป มีเพียงแค่คนตายเท่านั้นที่จะสามารถเก็บความลับได้

เพ่ง เพ่ง เพ่ง!!!

ลูกศิษย์ของนิกายหวนคืนปรโลกเหล่านี้ต่างก็ลงมืออย่างโหดเหี้ยม ทันใดนั้นศีรษะก็กระเด็นออกมา เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทั้งบริเวณ ผู้คนจำนวนนับสิบถูกสังหารไปในทันที เปลี่ยนกลายเป็นซากศพที่ตกลงพื้น

“จบสิ้น จบสิ้นกัน ครั้งนี้พวกเราไม่มีทางรอด”

ฉางเซวียและลูกศิษย์นิกายเมฆาทะยานคนอื่นๆต่างก็รู้สึกสิ้นหวัง เดิมทีพวกเขาต้องการที่จะใช้โอกาสนี้ในการครอบครองหินวิญญาณและทำภารกิจของตนเองให้สำเร็จ ทว่าตอนนี้กลับตกอยู่ในหลุมพรางของฝ่ายตรงข้าม อ่อนแอและไร้เรี่ยวแรง ต่อให้จะต้องการหลบหนีออกไป ก็ไม่มีพละกำลังมากพอ

“คราวนี้จะต้องตายจริงๆหรือ?”

หลิวหยูหลานก็ไร้เรี่ยวแรงอยู่ที่พื้น เพราะว่าเธอนั้นก็ได้กินอาหารของเมื่อวานเข้าไปมากพอสมควร ถูกยาพิษเช่นกัน เธอไม่คาดคิดว่าการที่หลบหนีเป็นระยะเวลานานนั้น จะไม่มีทางหลบหนีไปจากเงื้อมมืออันชั่วร้ายของจั่วฮาวจ้าวสำนักวิญญาณสาขาเมืองฮวายหนิงได้ ยังคงตายไปอย่างน่าสลดโดยลูกน้องของฝ่ายตรงข้าม

“อู๋ไท่โต่ว!”

ทันใดนั้น คลื่นเสียงก็ได้ระเบิดออกมา ฟ่านหมิงนั้นไม่ได้สนใจคนอื่นๆแม้แต่น้อย เขาก้าวมาถึงตรงหน้าของเซี่ยปิงอย่างรวดเร็ว ประชันหน้ากันซึ่งๆหน้า จิตสังหารกำลังเดือดดาลออกมา

สำหรับการที่เมื่อวานกล้าหักหน้าของเขาต่อหน้าผู้คนจำนวนมากนั้น นี่ทำให้เขารู้สึกโกรธแค้นอย่างมาก เป็นการเสียหน้าอย่างแท้จริง เขานั้นเกลียดชังเซี่ยปิงจนถึงไขกระดูกก็ว่าได้ ปรารถนาที่จะได้สังหารและถลกหนังออกมาทันที

การที่สามารถอดทนอดกลั้นได้เป็นระยะเวลาหนึ่งคืนนั้น ก็ถือว่าเป็นความใจเย็นมากพอแล้ว

ตอนนี้การที่ไม่มีใครขัดขวางเขาอีกต่อไปนั้น เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะไม่ใช้โอกาสนี้ในการล้างแค้น?!

“เจ้าหนู เมื่อวานเจ้ายโสโอหังอย่างมาก เจ้าได้คิดหรือไม่ว่าวันนี้จะได้เผชิญกับชะตากรรมเช่นนี้ ยโสโอหังอีก แสดงความยโสโอหังของเจ้าให้ข้าได้เห็นอีก อีกทั้งการที่กล้าสังหารลูกศิษย์ของนิกายหวนคืนปรโลกต่อหน้าต่อตาข้านั้น ช่างยโสโอหังอย่างที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา เจ้าคงจะเบื่อหน่ายกับชีวิตของตนเอง!”

ฟ่านหมิงแสยะออกมา ร่างกายของเขานั้นมีออร่าความกดดันที่แผ่ออกมา กดดันเหมือนกับเป็นภูเขาที่หล่นลงมา เหมือนกับว่าต้องการที่จะกดขี่ร่างกายของเซี่ยปิงให้ทรุดลงไปที่พื้น ทำให้เซี่ยปิงคุกเข่าต่อหน้าตนเองและกราบสำนึกผิด

ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างก็ตกตะลึง ออร่าความกดดันที่ออกมาจากผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์นั้นช่างน่าอัศจรรย์อย่างมาก ผู้บ่มเพาะปกติธรรมดานั้นไม่สามารถที่จะเข้าใกล้เขาได้แม้แต่นิดเดียว ราวกับว่าถูกกดจนจมลงไปที่พื้นดินหลายเซนติเมตร

กลุ่มของลูกศิษย์นิกายหวนคืนปรโลกต่างก็มองเซี่ยปิงด้วยสายตาที่เหมือนกับกำลังมองซากศพก็ว่าได้ การที่ได้ท้าทายฟ่านหมิงนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะได้มีชีวิตต่อ

การที่เฉินเหว่ยไม่ได้ขัดขวางนั้น ตอนนี้สถานการณ์ได้ถูกตัดสินแล้ว เจ้าเด็กนี่จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

บุคคลที่ 1: “เซี่ยปิง!!! เจ้าขโมยวิทยายุทธของข้าไม่พอ เจ้ายังเอาความเป็นอมตะและคู่หมั้นของข้าไปด้วย เจ้ากับข้าจะได้เห็นดีกัน!”บุคคลที่ 2: “เขาช่างเป็นความอับอายของวงการศิลปะการต่อสู้จริงๆ”บุคคลที่ 3: “ปีศาจ! แม้แต่ลูกกวาดของเด็กเล็กๆก็ไม่เว้น”นักวิทยายุทธต่างๆของดวงดาวหยานหวงที่มีความฝันที่จะหักกระดูกของเจ้าเซี่ยปิงให้เป็นล้านๆชิ้นและดื่มเลือดของเขาให้หมดเซี่ยปิงเกาคาง: “ด้วยคะแนนความเกลียดชังที่มากขนาดนี้ ข้าจะเอาไปใช้ทำอะไรดี ข้าจะแลกเปลี่ยนคัมภีร์ที่ไร้เทียมทาน สิ่งประดิษฐ์จากสวรรค์หรือว่าวิชาบ่มเพาะอมตะ”

Options

not work with dark mode
Reset