God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ – ตอนที่ 1330

เมื่อเดินหน้าต่อไป

เซี่ยปิงก็ได้เผชิญกับศัตรูมากมายหลายกลุ่ม ทว่าศัตรูเหล่านี้ต่างก็ถูกเขากำจัดไปอย่างง่ายดาย ส่งผลให้ผู้คนที่คิดจะมาสร้างปัญหาให้กับเขาต้องช็อกไปตามๆกัน

“บัดซบ เจ้าเด็กนี่เป็นปีศาจหรือ? ทำไมถึงได้ทรงอำนาจเช่นนี้?”

“อันที่จริงเขากินเม็ดยาอะไรเข้าไป? เห็นได้ชัดว่าอยู่เพียงระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ แต่ว่าทำไมถึงได้ทรงอำนาจจนถึงขั้นนี้ แม้แต่เหล่าลูกศิษย์ของนิกายระดับเซนต์ก็ไม่ได้ทรงอำนาจเช่นนี้”

“การที่กล้าเรียกตนเองว่าอู๋ตี่นั้น หรือว่าเขาจะมีพลังการต่อสู้ที่ไร้เทียมทานจริงๆ?”

“ผายลม แม้แต่เซนต์เองก็ไม่กล้าที่จะเรียกตนเองว่าไร้เทียมทาน เจ้านักต้มตุ๋นบัดซบนี่ยิ่งใหญ่มาจากไหนกันถึงกล้าเรียกตนเองเช่นนี้”

“ต่อให้เขาจะไม่ใช่บุคคลที่ไร้เทียมทาน ทว่าพลังอำนาจนี้ก็เป็นสิ่งที่พวกเราไม่สามารถท้าทายได้ ไม่ประหลาดใจว่าทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงได้ออกอาละวาดตามอำเภอใจ กล้าที่จะออกมาจากเมืองตะวันออกอันไกลโพ้น ที่แท้ก็เป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่ง”

“เหอะ ก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง ทว่าสองมือไม่สามารถต้านทานสี่มือได้ เมื่อหัวหน้าของพวกเรามาถึง กลุ่มของผู้คนจะสามารถห้อมล้อมและจัดการกับเขาได้”

ผู้คนจำนวนมากต่างก็กัดฟันอย่างแน่น ในกระบวนการไล่ล่าเซี่ยปิงนั้น พวกเขาก็ได้ประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก สมาชิกส่วนใหญ่ที่ร่วมการซุ่มโจมตีต่างก็ถูกสังหารไป จะไม่สามารถล็อกอินเข้ามาในเครือข่ายเสมือนจริงได้ในระยะเวลาอีกหลายเดือน

ทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดของพวกเขาก็ถูกเซี่ยปิงปล้นชิงไป นี่มันเป็นเหมือนกับการสูญเสียทั้งทหารไพล่พลและสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง นี่ทำให้พวกเขาเกลียดชังเซี่ยปิงมากกว่าเดิม

ทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น การที่สร้างผลงานที่น่าอัศจรรย์ขึ้นมาหลายครั้งนั้น ผู้คนเหล่านี้ก็ย่อมที่จะตระหนักได้ถึงพลังอำนาจของเซี่ยปิง หากปราศจากพลังอำนาจ การที่ต้องการจะท้าทายเซี่ยปิงนั้น ก็เป็นเพียงแค่การรนหาที่ตาย เป็นการฆ่าตัวตายไปอย่างไร้ความหมาย

ดังนั้นพวกเขาจึงได้ล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ทำการซุ่มโจมตีเซี่ยปิงอีกต่อไป

ทันใดนั้นเส้นทางข้างหน้าก็ปลอดโปร่ง ไม่มีใครที่จะกล้าเข้ามาสร้างปัญหาให้กับเซี่ยปิงอีก

ทว่าผู้คนจำนวนมากก็ยังคงจับจ้องเซี่ยปิงและคนอื่นๆเหมือนกับเสือที่จับจ้องเหยื่อ เป็นเหมือนกับงูอสรพิษก็ว่าได้ รอให้กองทัพขนาดใหญ่ของพวกเขาได้มาถึง จะต้องทำลายเซี่ยปิงให้สิ้นซากภายในคราวเดียว

“ผู้ที่ครอบครองทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้หรือ?”

เซี่ยปิงเดินต่อไปโดยที่มีผู้ติดตามมาเป็นจำนวนมาก มาถึงที่เขตเทือกเขาแห่งหนึ่ง ทว่าที่นี่ก็มีแต่ภูเขา อีกทั้งยังมีพื้นที่กว้างใหญ่อย่างมาก เป็นเหมือนกับพื้นที่เทือกเขาขนาดใหญ่ที่ทอดยาวออกไปกว่าหมื่นกิโลเมตร

ตามข้อมูลที่เขาได้รับมาในระหว่างทางนั้น ผู้ที่ได้ครอบครองทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดถูกห้อมล้อมอยู่ในพื้นที่เทือกเขาแห่งนี้ กลุ่มผู้คนจำนวนมหาศาลกำลังทำการห้อมล้อมพื้นที่เทือกเขาแห่งนี้อยู่

ผู้ที่ถูกล้อมรอบเช่นนี้นั้น ต่อให้จะต้องการทะยานขึ้นท้องฟ้า ก็เป็นไปไม่ได้ เรียกได้ว่าไม่สามารถหลบหนีออกไปจากวงล้อมนี้ได้เลย

ทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น พื้นที่เทือกเขาแห่งนี้ก็กว้างใหญ่เกินไป ผู้คนที่เข้าไปนั้น จะกลายเป็นเหมือนกับหยดน้ำที่หายเข้าไปในน้ำทะเล การที่ต้องการจะตามหาใครนั้น เป็นเหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทรก็ว่าได้

เพราะว่าเป็นเช่นนี้ แม้ว่าข่าวการปรากฏของทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดจะรั่วไหลออกมาเป็นระยะเวลา20วันแล้วนั้น ก็ยังคงไม่มีใครที่สามารถสืบหาตำแหน่งของฝ่ายตรงข้ามได้

“ช่างมีผู้คนมากมายเหลือเกิน”

เจียงยารุพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม เธอได้มองออกไปรอบๆ ทุกๆที่มีแต่ผู้คนที่กำลังทำการค้นหา อยู่รวมกันอย่างแออัด อย่างน้อยก็มีหลายแสนคน ถ้านับรวมผู้คนทั่วทั้งพื้นที่เทือกเขาแห่งนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีจำนวนที่มากขนาดไหน

“ในสถานที่ที่กว้างใหญ่เช่นนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่จะตามหาฝ่ายตรงข้ามได้”

ยวีชีชีคิดว่าเซี่ยปิงนั้นไม่ได้มีข้อได้เปรียบเหนือคนอื่นๆ คนอื่นๆนั้นได้รวมกลุ่มกันและมีผู้คนกว่าหมื่นคน อีกทั้งยังทำการสำรวจอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทว่าก็ยังคงไม่สามารถหาตัวฝ่ายตรงข้ามได้พบ

ทว่าเซี่ยปิงที่มีผู้คนเพียงเท่านี้นั้น การที่ต้องการจะตามหาตัวฝ่ายตรงข้ามนั้นจะไม่ใช่เป็นความพยายามที่สูญเปล่าหรือ? เธอคิดว่าการเดินทางออกมาครั้งนี้จะต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน

“นี่เป็นเรื่องที่ง่ายมาก”

เซี่ยปิงไม่ได้กังวลถึงเรื่องนี้ การที่ผู้คนปกติธรรมดาต้องการที่จะตามหาตัวบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการหลบซ่อนนั้น แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ยากอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ทว่าโชคดีที่เซี่ยปิงมีระบบอยู่ แตกต่างจากคนอื่นๆอย่างสิ้นเชิง

ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะหลบซ่อนได้ดีแค่ไหน เขาก็สามารถที่จะค้นหาฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย

“ระบบ สามารถช่วยข้าตามหาผู้ที่ครอบครองทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดได้หรือไม่?” เซี่ยปิงถามขึ้นมาทันที

ระบบตอบกลับ “ง่ายมาก จำเป็นต้องใช้คะแนนความเกลียดชัง5ล้านคะแนน”

“แลกเปลี่ยนทันที”

เซี่ยปิงตอบกลับไปโดยที่ไม่มีความลังเล หากสามารถหาผู้ที่ครอบครองทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดได้ เขาก็จะสามารถครอบครองทักษะหล่อหลอมระดับเซนต์นี้ได้ การที่ใช้คะแนนความเกลียดชังไปเพียงแค่5ล้านคะแนนนั้นไม่ใช่สิ่งที่ต้องคำนึงถึง

ปัง!

วินาทีต่อมา ข้อมูลก็พรั่งพรูเข้ามาในความคิดของเซี่ยปิงทันที

“อืม สถานที่แห่งนี้หรือ? เหมือนว่าจะไม่ได้อยู่ไกลออกไปจากที่นี่เท่าไหร่ ยิ่งไปกว่านั้นก็ดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีความกล้าหาญมากทีเดียว”

เซี่ยปิงขมวดคิ้ว ในความคิดของเขามีชายหนุ่มปรากฏขึ้นมา ทว่าสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจนั้นก็คือฝ่ายตรงข้ามก็ทำการค้นหาอยู่อย่างเปิดเผยและไม่เกรงกลัวเช่นกัน ไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ห่างไกลของหุบเขาแม้แต่น้อย

ทว่าเพราะการกระทำที่อาจหาญเช่นนี้ เขาจึงแฝงตัวอยู่ในหมู่ผู้คนได้อย่างแนบเนียน ไม่มีใครสงสัยว่าเขาเป็นผู้ที่ครอบครองทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีด ทำให้เขาปลอดภัย

“หากไม่ได้มาเจอกับข้าล่ะก็ บางทีเจ้านี่ก็อาจจะหลบหนีออกไปได้ ทว่าโชคร้ายที่เจ้าต้องมาเจอกับข้า” เซี่ยปิงเอามือเท้าคาง เขาก็ล่วงรู้แล้วว่าฝ่ายตรงข้ามอยู่ที่ไหน

คิดได้เช่นนี้ เขาก็พูดกับเจียงยารุและคนอื่นๆ “พวกเจ้าหาสถานที่ใกล้ๆหลบซ่อนตัวไปก่อน ข้าจะออกไปจับเจ้านั่น ใช้เวลาไม่นาน”

อะไรนะ?!

เจียงยารุ ยวีชีชี ซู่จีและฉู่หลงทั้งสี่คนต่างก็มีสีหน้าที่งุนงง การที่ให้หาที่หลบซ่อนตัวไปก่อนหมายความว่าอะไรกัน เขารู้ว่าบุคคลที่ครอบครองทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดอยู่ที่ไหนหรือ?

นี่มันตลกสิ้นดี หากสามารถที่จะจับตัวฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายๆล่ะก็ คงจะไม่มีผู้คนจำนวนมากเช่นนี้ที่ออกมาตามหาและทำการสำรวจอย่างละเอียดถี่ถ้วนเช่นนี้ ทว่าตอนนี้เจ้านี่กลับพูดออกมา บอกว่าจะไปจับฝ่ายตรงข้าม ใช้เวลาไม่นาน ทำเหมือนกับว่าการที่ออกไปจับฝ่ายตรงข้ามนั้นง่ายดายเหมือนกับการดื่มน้ำก็ว่าได้

ทว่าไม่ทันรอให้พวกเธอได้พูดอะไรออกมา เซี่ยปิงก็ได้จากไปอย่างรวดเร็ว

…………..

ในช่วงเวลานี้ ในสถานที่อีกแห่งหนึ่ง กลุ่มของผู้คนกำลังทำการค้นหาเบาะแสของทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีด พวกเขานั้นก็คือนักบ่มเพาะอิสระจากสถานที่ต่างๆ หลังจากที่ได้ยินข่าวนี้ พวกเขาก็ได้มารวมตัวกันและออกมาทำการค้นหา

พวกเขาต้องการที่จะแสวงหาโชคลาภ หากได้ครอบครองทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดล่ะก็ จากนั้นพวกเขาก็จะโชคดีไปสิบชาติ

“บัดซบ อันที่จริงเจ้านั่นหลบซ่อนอยู่ที่ใดกัน? ทำไมหาขนาดนี้ถึงไม่ยังเจอ เขาสามารถที่จะหลบซ่อนตัวเป็นระยะเวลา20วันได้จริงๆหรือ แม้แต่ภาพเงาก็ไม่ปรากฏให้เห็นแม้แต่น้อย”

บางคนที่กัดฟันพูดออกมา

“หรือว่าเจ้านั่นจะออกไปจากพื้นที่เทือกเขาแห่งนี้แล้ว กลับไปสู่เขตพื้นที่ปลอดภัย?” บางคนที่สงสัยในจุดๆนี้ คิดว่าฝ่ายตรงข้ามอาจจะกลับไปสู่เขตพื้นที่ปลอดภัย พวกเขาที่กำลังทำการสำรวจนั้นก็กำลังทำงานกันอย่างไร้ประโยชน์

“เป็นไปไม่ได้ที่จะกลับไป”

บางคนที่ส่ายหัว “กลุ่มอิทธิพลส่วนใหญ่ได้ปิดกั้นเมืองไว้ อีกทั้งยังส่งผู้คนไปประจำอยู่ในแต่ละจุด หากเจ้านั่นกล้าที่จะกลับไปที่เขตพื้นที่ปลอดภัยล่ะก็ จะต้องถูกค้นพบอย่างแน่นอน ไม่สามารถที่จะหลบหนีออกไปได้”

“นี่คือกลยุทธ์ถอนฟืนใต้กระทะ คุ้มกันประตูทางเข้าไปสู่เขตพื้นที่ปลอดภัย มีที่ไหนที่เจ้านั่นจะหลบหนีไปได้ ต่อให้จะมีปีกเขาก็ไม่สามารถที่จะหลบหนีออกไปได้”ผู้คนจำนวนมากที่ถอนหายใจออกมาด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม นี่คือกลุ่มอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ มีทรัพยากรและกำลังคนที่ผู้คนปกติทั่วไปไม่สามารถจินตนาการได้

“ทว่าเรื่องนี้ก็ไม่สามารถที่จะยืดเยื้อต่อไปได้ยาว หากไม่ได้รับการเก็บเกี่ยวเป็นระยะเวลานาน ก็เป็นไปไม่ได้ที่กลุ่มอิทธิพลเหล่านี้จะเสียเวลาปิดกั้นเขตพื้นที่ปลอดภัยอีก เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วนี่ก็จำเป็นที่จะต้องใช้ทรัพยากรและกำลังคนที่มากมาย แม้แต่กลุ่มอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ก็ไม่สามารถใช้ทรัพยากรของตนเองไปอย่างสิ้นเปลืองได้”

บางคนที่พูดออกมาอย่างเคร่งขรึม “หากเกินขอบเขตระยะเวลาที่กำหนด คาดการณ์ได้ว่ากลุ่มอิทธิพลจำนวนมากก็จะต้องยอมแพ้ เพราะว่าถึงอย่างไรสำหรับกลุ่มอิทธิพลเหล่านี้ ต่อให้ทักษะหล่อหลอมระดับเซนต์จะเป็นสิ่งที่ล้ำค่าอย่างมาก ทว่ามันก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ สิ่งที่ได้มาจะไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป”

“ดังนั้นพวกเราจะต้องหาเจ้านั่นให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุดและแย่งชิงทักษะมา ไม่อย่างนั้นเขาคงจะหลบหนีออกไปได้จริงๆ”

สีหน้าของเขาจริงจังอย่างมาก

“แน่นอน”

กลุ่มของผู้คนที่พยักหน้า

“กลุ่มพวกโง่เขลา คิดว่าพวกเจ้าจะสามารถจับตัวข้าได้หรือ ช่างตลกสิ้นดี”

ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีหน้าตาเหมือนกับลิงกำลังแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้คนเช่นกัน เขาได้แสยะออกมาพร้อมกับมองไปที่กลุ่มผู้คนเหล่านี้ด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยามอย่างมาก

เขานั้นก็คือผู้โชคดีที่ได้ครอบครองทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดนั่นเอง มีชื่อว่าโฮ่วซาน

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

บุคคลที่ 1: “เซี่ยปิง!!! เจ้าขโมยวิทยายุทธของข้าไม่พอ เจ้ายังเอาความเป็นอมตะและคู่หมั้นของข้าไปด้วย เจ้ากับข้าจะได้เห็นดีกัน!”บุคคลที่ 2: “เขาช่างเป็นความอับอายของวงการศิลปะการต่อสู้จริงๆ”บุคคลที่ 3: “ปีศาจ! แม้แต่ลูกกวาดของเด็กเล็กๆก็ไม่เว้น”นักวิทยายุทธต่างๆของดวงดาวหยานหวงที่มีความฝันที่จะหักกระดูกของเจ้าเซี่ยปิงให้เป็นล้านๆชิ้นและดื่มเลือดของเขาให้หมดเซี่ยปิงเกาคาง: “ด้วยคะแนนความเกลียดชังที่มากขนาดนี้ ข้าจะเอาไปใช้ทำอะไรดี ข้าจะแลกเปลี่ยนคัมภีร์ที่ไร้เทียมทาน สิ่งประดิษฐ์จากสวรรค์หรือว่าวิชาบ่มเพาะอมตะ”

Options

not work with dark mode
Reset