God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ – ตอนที่ 1369

“นี่มันตลกสิ้นดี เจี๋ยนจุนผู้ปกครองเมืองคริสตัล ยอดฝีมือในระดับเปลวไฟที่แท้จริงตายไปเช่นนี้หรือ? ถูกสังหารไปเช่นนี้รึ?” เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ คนๆหนึ่งก็ตกใจอย่างมาก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมา

“ช่างน่าสะพรึงกลัวเกินไป อันที่จริงยานอวกาศลำนี้สร้างขึ้นมาจากวัสดุอะไร ไม่คาดคิดว่าแม้แต่ยอดฝีมือในระดับเปลวไฟที่แท้จริงก็ไม่สามารถที่จะสร้างรอยขีดข่วนได้”

“นี่ไม่ใช่ยานอวกาศปกติธรรมดาอย่างแน่นอน จะต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ที่น่าอัศจรรย์ บางทีอาจจะเป็นสิ่งประดิษฐ์วิญญาณขั้นสุดยอด”

“เมืองคริสตัลจบสิ้นแล้ว การที่ผู้ปกครองเมืองถูกสังหารไปเช่นนี้ ใครกันที่จะสามารถต้านทานเจ้าปีศาจร้ายนี้ได้อีก”

ผู้คนจำนวนมากต่างก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เพราะท้ายที่สุดแล้วที่นี่ก็คืออาณาเขตของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง การที่มีผู้พิทักษ์ทั้งเก้าอยู่และมียอดฝีมือในระดับเปลวไฟที่แท้จริงนั้น แม้แต่มังกรที่ทรงพลังก็ไม่สามารถบดขยี้เผด็จการท้องถิ่นได้

ทว่ามีที่ไหนที่เป็นเช่นนั้น เจ้าเด็กนี่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่ามังกรเสียอีก สังหารยอดฝีมือทั้งหมดของเมืองคริสตัลได้อย่างง่ายดาย

“หลบหนี!”

ทันทีที่เห็นการตายของเจี๋ยนจุนนั้น ซูเหลียงอิงและคนอื่นๆต่างก็ตอบสนองทันที การที่อยู่ที่นี่ต่อไปนั้น บางทีพวกเขาอาจจะกลายเป็นจานอาหารสำหรับเจ้าอู๋ไท่โต่ว ความเป็นความตายไม่ได้อยู่ในการควบคุมของพวกเขา

หากไม่หลบหนี จะต้องตาย!

ความสามารถศักดิ์สิทธิ์—ย่างก้าวหยานเป่ย!

มีที่ไหนที่เซี่ยปิงจะปล่อยให้คนเหล่านี้หลบหนีไปได้ ทันใดนั้นเขาก็ได้แสดงย่างก้าวหยานเป่ยออกมา เท้าทั้งสองข้างเหยียบไปบนอากาศ แต่ละก้าวที่เหยียบไปนั้น เหมือนกับว่าจะมีค่ายกลที่พิเศษและลึกลับบางอย่างปรากฏขึ้นมา

พลังอำนาจของค่ายกลเช่นนี้ได้ห่อหุ้มร่างกายของเขา จากนั้นก็ได้หายไปจากจุดเดิมอย่างกะทันหัน

เพ่ง เพ่ง เพ่ง!!!

วินาทีต่อมา ผู้พิทักษ์แต่ละคนก็ถูกพลังหมัดอัดเข้าไป ทั่วทั้งร่างกายของพวกเขากระเด็นตีลังกาออกไป กระแทกลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง ทันใดนั้นก็เกิดเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่

ผู้พิทักษ์เหล่านี้ต่างก็กระอักเลือดออกมา ดวงตาเบิกกว้าง คอพับลงไป ในช่วงเวลานี้พลังหมัดก็ได้เจาะเข้าไปในหัวใจของพวกเขาและทำลายหัวใจไปโดยตรง ทำให้พวกเขาเสียชีวิตไปอย่างรวดเร็ว

“หืมม? ยังไม่ตาย?!”

เซี่ยปิงลงเหยียบพื้น จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้ทำการสำรวจรอบๆ ทันใดนั้นก็ค้นพบว่ายังมีคนๆหนึ่งที่ยังมีลมหายใจแผ่วเบา เหมือนกับว่าจะต้านทานพลังหมัดเมื่อครู่นี้ได้ ทว่าสภาพของเขานั้นก็ใกล้ตายเต็มที

เขาได้เข้าไปดู จากนั้นก็ค้นพบว่าผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นก็คือซูเหลียงอิงนั่นเอง

“ไม่คาดคิดว่าจะยังไม่ตาย? เจ้านี่ช่างมีโชคดวงที่ดีจริงๆ”

เซี่ยปิงมองซูเหลียงอิงด้วยสายตาที่ดูถูก

“อย่าสังหารข้า ข้ามีสมบัติมากมาย ตราบใดที่เจ้าไว้ชีวิตและเมตตาข้าซูเหลียงอิง ข้าจะมอบสมบัติทั้งหมดให้กับเจ้า” ซูเหลียงอิงอ้อนวอนขอความเมตา หวังว่าจะสามารถแลกเปลี่ยนสมบัติทั้งหมดกับชีวิตตนเองได้

“ข้าไม่ต้องการสมบัติของเจ้า ตราบใดที่เจ้าบอกข้อมูลข้าอย่างหนึ่ง บางทีข้าก็อาจจะไว้ชีวิตเจ้าได้” เซี่ยปิงพูดออกมาอย่างไม่แยแส

ได้ยินเช่นนี้ ซูเหลียงอิงก็ดีใจขึ้นมาทันที “ข้อมูลอะไรหรือ? ตราบใดที่ข้ารู้ ข้าจะบอกรายละเอียดทุกอย่างโดยที่ไม่ปิดบังสิ่งใดอย่างแน่นอน”

“เยี่ยมมาก”

เซี่ยปิงพยักหน้า “ข้าต้องการที่จะรู้ตำแหน่งของสถานที่ที่มีผืนดินเก้าสวรรค์และข้าวคริสตัล”

“อะไรนะ? เจ้ามาที่เมืองคริสตัลแห่งนี้เพื่อข้าวคริสตัลอย่างนั้นหรือ? ท้ายที่สุดแล้วเจ้ารู้ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงมาจากที่ใดกัน?” ซูเหลียงอิงมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่คาดคิดว่าเซี่ยปิงจะล่วงรู้ถึงเรื่องนี้

“อย่าพูดจาไร้สาระ ตกลงว่าเจ้ามีข้อมูลนี้หรือไม่?” เซี่ยปิงไม่ต้องการที่จะพูดเสียเวลากับเขา

ซูเหลียงอิงกลอกลูกตา “แน่นอนว่าข้ามีข้อมูลนี้ มันอยู่ในสถานที่ลับของดาวคริสตัล ทว่าสถานที่แห่งนี้มีเพียงแค่ผู้พิทักษ์ทั้งเก้าและผู้ปกครองเมืองเท่านั้นที่รู้ คนอื่นๆไม่มีใครรู้”

เขาคิดว่าตนเองนั้นเหมือนกับค้นพบหนทางในการเอาชีวิตรอด

“โอ้ เจ้ากำลังหมายความว่าอะไร?” เซี่ยปิงมองไปที่ซูเหลียงอิง

ซูเหลียงอิงพูดออกมา “เจ้าเป็นคนที่เฉลียวฉลาด เจ้าก็คงจะรู้ความหมายของข้าดี ตอนนี้การที่ผู้ปกครองเมืองและผู้พิทักษ์อีกแปดคนได้ตายไปนั้น ทั่วทั้งดาวคริสตัลมีเพียงแค่ข้าเท่านั้นที่ล่วงรู้ถึงข้อมูลของสถานที่แห่งนั้น”

“หากข้าตายไป บางทีอาจจะเป็นเรื่องยากที่เจ้าจะค้นหาสถานที่แห่งนั้นได้พบ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ในเมืองคริสตัลนั้นก็คงจะไปถึงหูสำนักงานใหญ่ของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงในอีกไม่ช้า เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าจะต้องเผชิญกับกองทัพที่ถูกส่งออกมาอย่างแน่นอน”

“ดังนั้นหากเจ้าต้องการที่จะตามหาข้าวคริสตัลนั้น เจ้าจะต้องยอมรับเงื่อนไขของข้า”

เขาจ้องมองไปที่เซี่ยปิง คิดว่าตนเองนั้นยังพอมีประโยชน์กับเซี่ยปิงอยู่ มีโอกาสที่จะเจรจาต่อรองได้

“ต้องการที่จะพูดเรื่องเงื่อนไขกับข้าหรือ? ไม่จำเป็น คุณค่าของเจ้านั้นไม่ได้มากมายเหมือนกับที่เจ้าจินตนาการไว้” เซี่ยปิงมองซูเหลียงอิงด้วยสีหน้าที่เหมือนกับจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม เหมือนกับว่ามองเห็นถึงเป้าหมายที่แท้จริงของซูเหลียงอิง

คาดการณ์ได้ว่าเจ้านี่คงจะต้องการเจรจาต่อรองเพื่อถ่วงเวลา รอให้กำลังเริมของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงมาถึง จากนั้นก็จะสามารถทำลายเขาได้อย่างสิ้นซาก

หรืออีกอย่างก็อาจจะบอกตำแหน่งเท็จกับเขา ต้องการที่จะล่อลวงเขาให้ไปติดกับดัก

“ช้าก่อน เจ้าไม่ต้องการที่จะรู้ตำแหน่งของข้าวคริสตัลแล้วหรือ? ในดาวเคราะห์ดวงนี้มีเพียงแค่ข้าเท่านั้นที่ล่วงรู้ถึงเรื่องนี้” ซูเหลียงอิงวิตกกังวลขึ้นมาทันที เขารู้สึกได้ถึงออร่าจิตสังหารที่เอ่อล้นออกมาจากร่างกายของเซี่ยปิง เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาที่ต้องการจะสังหารตนเอง

“แน่นอนว่าข้าล่วงรู้ถึงจุดๆนี้ ดังนั้นเจ้าจะไม่ตายไปในตอนนี้ ทว่าเจ้าจะกลายเป็นทาสของข้าชั่วคราว”

เซี่ยปิงยื่นมือออกไป ทันใดนั้นฝ่ามือของเขาก็ปรากฏเป็นกลุ่มหลุมวนพลังเวทมนตร์ หมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ส่วนลึกของความว่างเปล่าก็มีพลังงานที่ลึกลับนับไม่ถ้วนที่รวมเข้าในหลุมวนนี้

ภายในไม่กี่ลมหายใจ ผนึกสีทองก็ลอยเข้ามาที่ฝ่ามือของเขา มีแสงที่ลึกลับสว่างไสวออกมาเป็นครั้งคราว มีการผันผวนของจิตวิญญาณที่เป็นเอกลักษณ์

นี่คือทักษะพลังวิญญาณระดับสุดยอด—ทักษะผนึกวิญญาณที่เขาได้ครอบครองมาจากชนเผ่าวิญญาณ!

ซึ่งทักษะผนึกวิญญาณนี้ก็คือทักษะลับของเซนต์โลหิตวิญญาณ เป็นทักษะที่สามารถใช้ควบคุมเซนต์คนอื่นๆได้

การที่ได้ครอบครองทักษะพลังวิญญาณนี้เป็นระยะเวลานาน แน่นอนว่าเซี่ยปิงก็ได้เรียนรู้ทักษะลับนี้จนสำเร็จ ทว่าก็ไม่มีโอกาสที่จะได้แสดงมันออกมา ตอนนี้อาจจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการใช้ทักษะลับนี้

ตราบใดที่สามารถควบคุมเจ้าซูเหลียงอิงนี่ได้ เชื่อว่าเขาจะได้รับรู้ข้อมูลทั้งหมดของฝ่ายตรงข้าม

เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วทักษะลับนี้ก็น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก เมื่อใดที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามตกเป็นทาสได้สำเร็จ จากนั้นก็จะควบคุมได้แม้กระทั่งจิตวิญญาณ ผู้ที่ตกเป็นทาสนั้นจะจงรักภักดีและซื่อสัตย์ เหมือนกับถูกล้างสมองก็ว่าได้

ต่อให้เซี่ยปิงจะสั่งการให้ฝ่ายตรงข้ามฆ่าตัวตาย ฝ่ายตรงข้ามก็จะฆ่าตัวตายทันทีโดยที่ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย

“นี่มันคือสิ่งใดกัน?”

ซูเหลียงอิงตกใจขึ้นมาทันที สัญชาตญาณของเขากำลังบ่งบอกว่านี่ไม่ใช่ผนึกธรรมดาทั่วไป เป็นภัยคุกคามที่มหาศาลต่อเขา ไม่สามารถที่จะแตะต้องได้ ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถควบคุมชีวิตของตนเองได้อีกต่อไป

“นี่เป็นสิ่งที่ดี”

เซี่ยปิงตบฝ่ามือออกไป ผนึกสีทองนี้ก็ได้จมหายเข้าไปในส่วนลึกของจิตวิญญาณซูเหลียงอิงอย่างกะทันหัน

“หืมม?!”

หลังจากที่เซี่ยปิงสัมผัสได้ว่าผนึกสีทองนี้ได้เข้าไปในจิตวิญญาณของซูเหลียงอิงนั้น มันกลายเป็นเหมือนกับเมล็ดก็ว่าได้ หยั่งรากออกมา เปลี่ยนกลายเป็นต้นไม้ที่สูงตระหง่าน รากจำนวนนับไม่ถ้วนได้เจาะเข้าไปที่สมอง

หลังจากที่ผนึกสีทองนี้ได้เข้าไป สัญชาตญาณของซูเหลียงอิงก็ได้ทำการดิ้นรนขัดขืน ทว่าพลังอำนาจทางจิตวิญญาณของเขาก็อ่อนแอเกินไป ไม่สามารถที่จะต่อกรกับพลังอำนาจทางจิตวิญญาณของเซี่ยปิงได้ พ่ายแพ้ไปอย่างรวดเร็ว

ในช่วงเวลานี้ เขาสัมผัสได้ว่าเพียงแค่ความคิดเดียว เขาก็สามารถที่จะสังหารซูเหลียงอิงได้ในทันที

อีกทั้งต้นไม้สีทองนี้ก็ได้เปล่งคลื่นผันผวนที่เป็นเอกลักษณ์ออกมา ส่งผลกระทบต่อความคิดของซูเหลียงอิง ล้างสมองเขาอย่างสมบูรณ์ ทำให้เขากลายเป็นทาสรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเซี่ยปิง

“นายท่าน!”

ครู่หนึ่งหลังจากนั้น สีหน้าที่ดุร้ายของซูเหลียงอิงก็ได้หายไป สิ่งที่เข้ามาแทนก็คือความจงรักภักดี ความคลั่งไคล้ ดูเหมือนกับเป็นผู้คลั่งศาสนาคนหนึ่งก็ว่าได้

“ช่างลึกลับจริงๆ”

เซี่ยปิงก็สัมผัสได้ว่าพลังอำนาจของผนึกวิญญาณไม่ใช่มีเพียงแค่นี้ เขาก็สามารถที่จะรับรู้ได้ถึงทุกความคิดของซูเหลียงอิงเช่นกัน ตอนนี้ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะคิดอะไร เขาก็สามารถรับรู้ได้ทั้งหมด

แม้แต่ความทรงจำของซูเหลียงอิงก็เหมือนกับเปิดกว้างให้กับเขา ตราบใดที่เขาต้องการ ก็สามารถที่จะอ่านความทรงจำทั้งหมดของซูเหลียงอิงได้ สามารถที่จะสัมผัสได้ถึงประสบการณ์วิทยายุทธของฝ่ายตรงข้าม

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

บุคคลที่ 1: “เซี่ยปิง!!! เจ้าขโมยวิทยายุทธของข้าไม่พอ เจ้ายังเอาความเป็นอมตะและคู่หมั้นของข้าไปด้วย เจ้ากับข้าจะได้เห็นดีกัน!”บุคคลที่ 2: “เขาช่างเป็นความอับอายของวงการศิลปะการต่อสู้จริงๆ”บุคคลที่ 3: “ปีศาจ! แม้แต่ลูกกวาดของเด็กเล็กๆก็ไม่เว้น”นักวิทยายุทธต่างๆของดวงดาวหยานหวงที่มีความฝันที่จะหักกระดูกของเจ้าเซี่ยปิงให้เป็นล้านๆชิ้นและดื่มเลือดของเขาให้หมดเซี่ยปิงเกาคาง: “ด้วยคะแนนความเกลียดชังที่มากขนาดนี้ ข้าจะเอาไปใช้ทำอะไรดี ข้าจะแลกเปลี่ยนคัมภีร์ที่ไร้เทียมทาน สิ่งประดิษฐ์จากสวรรค์หรือว่าวิชาบ่มเพาะอมตะ”

Options

not work with dark mode
Reset