God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ – ตอนที่ 1595

ในช่วงเวลานี้ ณ ดาวฟ้าดิน ผู้อาวุโสจำนวนมากกำลังรวมตัวกัน แต่ละคนมีสีหน้าที่ตึงเครียดอย่างมาก กำลังจัดตั้งค่ายกลเทเลพอร์ตชั่วคราวขึ้นมา

“เร็วเข้า”

อวี๋ซิวจวินพูดออกมาอย่างกังวล “ทำไมถึงจัดตั้งค่ายกลเทเลพอร์ตกันอย่างชักช้าเช่นนี้ หากเกิดอะไรขึ้นกับเซี่ยปิง พวกเจ้าจะรับผิดชอบได้หรือไม่? ยังไม่รีบเร่งความเร็วอีก?”

เขาจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสจำนวนมาก พูดเตือนออกมา

“ท่านผู้อาวุโส ความเร็วของพวกเราก็ถือว่ารวดเร็วมากแล้ว การที่ต้องการจะระบุพิกัดพื้นที่ของดาวรังอสูรนั้นจะต้องใช้ระยะเวลาช่วงหนึ่ง” ผู้อาวุโสที่อยู่ใกล้ๆก็พูดออกมาอย่างไร้หนทาง พวกเขากำลังพยายามกันอย่างเต็มที่

อวี๋ซิวจวินก็ล่วงรู้ถึงจุดๆนี้ดี ทว่าตอนนี้มันก็ผ่านมาเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงแล้ว ในช่วงเวลานี้กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงจะต้องบุกไปถึงดาวรังอสูรแล้วอย่างแน่นอน บางทีอาจจะกำลังฆ่าล้างผู้คนในดาวเคราะห์ดวงนั้นอยู่

เขาหวังว่าเซี่ยปิงจะมีความเฉลียวฉลาดมากพอ ต่อสู้ถ่วงเวลากับกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเหล่านั้นให้ได้มากที่สุด พยายามอย่างเต็มที่เพื่อยื้อรอเวลาให้กำลังเสริมมาถึง

“สำเร็จแล้ว”

ในตอนนี้ผู้อาวุโสคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา

“เร็ว รีบเริ่มต้นการเทเลพอร์ตทันที เทเลพอร์ตไปสู่ดาวรังอสูร” อวี๋ซิวจวินตะโกนเสียงดังออกมา

ผู้อาวุโสจำนวนมากก็เข้าไปในจุดเทเลพอร์ตชั่วคราวนี้ทันที จากนั้นก็เริ่มต้นการทำงานอย่างเต็มรูปแบบ ออร่าจิตสังหารกำลังเดือดดาลออกมา

ปัง!

ค่ายกลเทเลพอร์ตเปล่งแสงว่างเจิดจ้าออกมา สั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง ห้วงอวกาศสั่นสะท้าน วินาทีต่อมาอวี๋ซิวจวินและผู้อาวุโสของนิกายฟ้าดินคนอื่นๆก็หายไปจากจุดๆเดิม เทเลพอร์ตมาอยู่ในตำแหน่งของท้องฟ้าภายในดาวรังอสูร

“เจ้าพวกกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง กล้าที่จะเบียดเบียนเข้ามาในอาณาเขตของนิกายฟ้าดินของข้า รีบออกมารับความตายซะ!” ทันทีที่มาถึง อวี๋ซิวจวินก็ตะโกนเสียงดังออกมา พลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวได้ปกคลุมออกไปรอบๆ พยายามที่จะสำรวจหากลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง ต้องการที่จะเริ่มลงมือในทันที

คลื่นเสียงเช่นนี้สั่นสะเทือนออกไปรอบๆ ส่งผลกระทบไปทั่วทั้งดาวเคราะห์

ทว่าหลังจากที่คำรามออกมาสุดเสียง รอบๆก็ยังคงเงียบสงัด ไม่มีสิ่งใดๆเกิดขึ้น

อวี๋ซิวจวินก็รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล รู้สึกว่าการคำรามของตนเองสูญเปล่า ผู้อาวุโสที่อยู่รอบๆก็มองหน้ากันและกันอย่างแปลกประหลาด คิดว่ามีความผิดปกติบางอย่าง ดาวรังอสูรดูเหมือนจะสงบสุขอย่างมากในตอนนี้ เหมือนกับว่าจะไม่ได้มีร่องรอยการรุกรานของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงแม้แต่น้อย ไม่มีสัญญาณของเปลวไฟแห่งสงครามที่ลุกโชนไปรอบๆ

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? รอบๆเหมือนกับว่าจะไม่มีออร่าของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นดาวรังอสูรก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เผชิญกับความเดือดร้อนจากการรุกราน หรือว่าข้อมูลที่ได้รับมาผิด กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเหล่านั้นไม่ได้รุกรานเข้ามาในดาวรังอสูร?”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งกระพริบตาพลางพูดถึงการคาดเดาของตนเอง

“นี่มันเป็นไปไม่ได้ ข่าวใหญ่เช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่พวกเราจะได้ข้อมูลผิด ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็เป็นกลุ่มโจรสลัดจักรวาลที่โหดเหี้ยมและไร้ความปราณี การที่เคลื่อนกองกำลังออกมาอย่างเต็มรูปแบบเช่นนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะยังไม่เริ่มลงมือ ตามลักษณะนิสัยของกลุ่มโจรสลัดจักรวาลเหล่านั้น พวกเขาไม่ได้เกรงกลัวนิกายระดับเซนต์ใดๆ เป็นกลุ่มของอาชญากรที่ทำได้ทุกอย่าง”

ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งที่ส่ายหัว

“อันดับแรกพวกเราจะต้องหาศิษย์น้องเซี่ยให้ได้ก่อน ถามว่าสุดท้ายแล้วเกิดอะไรขึ้นที่นี่” อวี๋ซิวจวินเริ่มพูดออกมา คิดว่านี่เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในตอนนี้

ผู้อาวุโสจำนวนมากก็พยักหน้าเห็นด้วย

วิซ!

ภายในพริบตา เมื่อพวกเขาสัมผัสได้ถึงออร่าของเซี่ยปิง พวกเราก็กระพริบหายไป มาถึงที่วิลล่าที่เซี่ยปิงอาศัยอยู่อย่างกะทันหัน

“ใครกัน?!”

“ที่นี่คือสถานที่สำคัญของดาวรังอสูร ใครกันที่กล้าบุกรุกเข้ามาที่นี่ อยากตายหรือ?!”

เมื่ออวี๋ซิวจวินและคนอื่นๆปรากฏตัวขึ้นมาบนท้องฟ้าเหนือวิลล่า ทหารที่อยู่รอบๆก็ค้นพบพวกเขาทันที แต่ละคนต่างก็ส่งเสียงตะโกนออกมาอย่างโมโห พยายามที่จะขับไล่กลุ่มของผู้บุกรุกเหล่านี้ออกไปอย่างกะทันหัน

“พวกเราคือผู้อาวุโสของนิกายฟ้าดิน”

อวี๋ซิวจวินแนะนำสถานะของตนเองกับคนเหล่านี้ จากนั้นพวกเขาก็ลอยลงพื้นอย่างช้าๆ

ผู้อาวุโสของนิกายฟ้าดิน?!

ได้ยินเช่นนี้ ทหารจำนวนมากก็สะดุ้งตกใจ รีบขอโทษขอโพยอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะมีบุคคลที่ยิ่งใหญ่เป็นจำนวนมากเช่นนี้ พวกเขาคือกำลังเสริมที่เพิ่งมาถึงหรือ?!

พวกเขารู้สึกเคารพนับถือเซี่ยปิงมากขึ้น มีที่ไหนที่ลูกศิษย์ของนิกายฟ้าดินก่อนหน้านี้จะมีอำนาจเช่นนี้ บางครั้งในการเรียกร้องขอความช่วยเหลือนั้น การที่จะไม่มีสัญญาณใดๆภายในระยะเวลาหลายเดือนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

ทว่าตอนนี้เมื่อเซี่ยปิงเรียกร้องขอความช่วยเหลือออกไป กำลังเสริมกลับมาถึงภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง ความแตกต่างของแต่ละคนบุคคลช่างมากมายมหาศาลจริงๆ

“พวกเราได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจึงได้รีบมาที่ดาวรังอสูรดวงนี้ ได้ยินมาว่ากลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงรุกรานมาที่นี่ ทว่าทำไมถึงได้เงียบสงบเช่นนี้ กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเหล่านั้นล่าถอยไปแล้วหรือ ไม่ได้รุกรานเข้ามาในดาวรังอสูรหรือ?”

อวี๋ซิวจวินถามออกไป

“ไม่ใช่เช่นนั้น”

ทหารคนหนึ่งส่ายหัว “กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงคิดจะรุกรานเข้ามาที่ดาวรังอสูรจริงๆ ในตอนนั้นมียานอวกาศกว่าพันลำและยังมีป้อมปราการเคลื่อนที่ ยอดฝีมือทั้งหมดของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงต่างก็เดินทางมา ผู้นำของพวกเขาก็ปรากฏตัวขึ้น ในตอนนั้นดาวรังอสูรกำลังเข้าใกล้สภาวะดับสลาย เป็นวิกฤติความเป็นความตาย ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนมากแค่ไหนที่ต้องการจะขับยานอวกาศหลบหนีออกไปจากดาวดวงนี้”

“ทว่าในช่วงเวลานั้น ท่านหยางปู๋ตงก็ก้าวออกไปอย่างกล้าหาญ เผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามในผืนอวกาศที่มืดมิด ต่อสู้กันเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมง ปะทะกันจนฟ้าถล่มดินทลาย อุกกาบาตกระจุยกระจายไปทั่วพื้นที่”

“ท้ายที่สุดกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเหล่านั้นก็สิ้นใจไปทั้งหมด ยานอวกาศและป้อมปราการเคลื่อนที่ถูกทำลายไปจนสิ้นซาก ผู้นำของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงก็ตายไปด้วยน้ำมือของท่านหยางปู๋ตงเช่นกัน ได้รับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่กลับมา”

บนใบหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความเคารพนับถือและการยกย่องสรรเสริญ

เดิมทีที่พวกเขาได้ยินข่าวว่ากลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงจะบุกจู่โจมเข้ามา พวกเขาก็คิดว่าตนเองจะต้องตาย ทว่าไม่คาดคิดว่าเซี่ยปิงเพียงคนเดียวจะพลิกสถานการณ์ได้ กำจัดโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงไปจนหมดสิ้น ทรงอำนาจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

“อะไรนะ?!”

“นี่มันตลกสิ้นดี นี่มัน..กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง ยิ่งไปกว่านั้นยอดฝีมือทั้งหมดของพวกเขาก็ได้เคลื่อนทัพออกมา จะบอกว่าเขากำจัดกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงทั้งหมดไปด้วยตัวคนเดียวอย่างนั้นรึ?!”

“ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็เป็นเพียงแค่ผู้บ่มเพาะในระดับแกนทอง เป็นไปได้อย่างไรที่จะต่อสู้ในสภาวะสุญญากาศ?!”

“พวกเจ้ากำลังพูดเรื่องตลกอะไรกัน?!”

อวี๋ซิวจวินและคนอื่นๆต่างก็ตกตะลึงอย่างมาก เหมือนกับได้ยินนิทานแฟนตาซีก็ว่าได้ ตามความคิดของพวกเขานั้น การที่เซี่ยปิงหลบหนีไปจากเงื้อมมือของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเหล่านี้ได้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว

ทว่าตอนนี้พวกเขากลับได้ยินเรื่องที่มหัศจรรย์ เซี่ยปิงไม่ใช่เพียงแค่ไม่หลบหนี ทว่ากลับยืนรอต้อนรับการต่อสู้ ท้ายที่สุดกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงก็ถูกโค่นล้างไป ช่างเป็นเรื่องที่ไร้เหตุผลอย่างถึงที่สุด

“แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องโกหก ระบบเฝ้าระวังรอบๆดาวรังอสูรก็ได้บันทึกช่วงเวลาที่ท่านหยางปู๋ตงต่อสู้กับโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงจำนวนมากเช่นกัน แต่เป็นเพราะว่าการต่อสู้นี้ดุเดือดเลือดพล่านจนเกินไป ระบบเฝ้าระวังที่เพิ่งเริ่มบันทึกภาพนั้นก็ถูกทำลายไปโดยคลื่นการต่อสู้ที่กวาดเข้ามา ไม่สามารถจับภาพทั้งหมดได้ ทว่าก็สามารถเห็นได้ถึงความกล้าหาญและความเป็นวีรบุรุษของท่านหยางปู๋ตงที่ต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่ย่อท้อ”

ทหารคนนั้นพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ

อวี๋ซิวจวินและคนอื่นๆก็ไม่ได้รีรออะไรอีก ทันใดนั้นก็บอกให้กลุ่มทหารเหล่านี้นำวีดีโอที่บันทึกได้ให้พวกเขาดู

และก็เป็นจริงอย่างที่ว่า พวกเขาเห็นทันทีว่าเซี่ยปิงได้ขับยานอวกาศบินออกไปจากดาวรังอสูรและออกมาจากยานอวกาศ ต่อสู้กับยอดฝีมือในระดับแตกฉานจำนวนหนึ่งของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงในอวกาศ ปะทะกันจนฟ้าถล่มดินทลาย

น่าเสียดายที่วีดีโอที่บันทึกไว้นี้ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์การต่อสู้ระหว่างเซี่ยปิงและอู๋อัน ไม่สามารถรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น เพราะว่าระบบเฝ้าระวังรอบๆได้ถูกทำลายไปโดยคลื่นกระแทกที่กวาดออกมา

ทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น พวกเขาก็ยังเห็นได้ถึงพลังการต่อสู้ของเซี่ยปิงที่ทรงอำนาจอย่างถึงที่สุดจากภาพบันทึกนี้ ต่อกรกับยอดฝีมือในระดับแตกฉานได้อย่างไม่มีปัญหา

ในช่วงเวลานี้ ความคิดของพวกเขาต่างก็ปั่นป่วน

“ไม่คาดคิดว่าศิษย์น้องเซี่ยจะทรงอำนาจถึงขั้นนี้ สามารถที่จะต่อกรกับยอดฝีมือในระดับแตกฉานด้วยพลังอำนาจในระดับแกนทอง กระโดดข้ามระดับได้!”

“นี่คือสัญญาณของว่าที่เซนต์ เด็กหนุ่มผู้นี้ได้แสดงให้เห็นถึงพลังการต่อสู้ที่ไร้เทียมทาน กระโดดข้ามระดับ ไม่มีใครในระดับเดียวกันกับเขาที่จะเป็นคู่มือให้เขาได้”

“นิกายฟ้าดินโชคดีเพียงใดกันที่ได้ลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์ดั่งปีศาจเช่นนี้มา”

“หากให้เวลาเขา ศิษย์น้องเซี่ยจะต้องกลายเป็นเซนต์ได้อย่างแน่นอน”

“ใช่ เมื่อถึงเวลานั้นนิกายฟ้าดินของพวกเราจะมีเซนต์อยู่ทั้งหมดสี่คน จะสามารถโลดแล่นไปทั่วทั้งทางตะวันออกของจักรวาลได้อย่างอิสระ”

อวี๋ซิวจวินและคนอื่นๆต่างก็ตกตะลึง พวกเขาไม่คาดคิดว่าเซี่ยปิงจะทำผลงานที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ เหนือจินตนาการอย่างมาก นี่คือการแสดงให้เห็นว่าเซี่ยปิงมีศักยภาพที่ไร้ที่สิ้นสุด