God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ – ตอนที่ 1610

เห็นได้ชัดว่าพลังอำนาจของเตาทองแดงสุริยะนี่ถูกกระตุ้นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ ลอยขึ้นไปท่ามกลางสายลม มีความสูงถึงหนึ่งร้อยเมตร เป็นเหมือนกับเนินเขาเล็กๆก็ว่าได้ ลอยอยู่กลางอากาศโดยที่มีเปลวไฟที่ไร้ที่สิ้นสุดลุกโชนออกมา

นี่คือเปลวไฟที่มีต้นกำเนิดจากแก่นแท้พระอาทิตย์ มีพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัว ผู้บ่มเพาะที่มีแกนพลังฉีในระดับต่ำไม่สามารถเข้าไปใกล้ในระยะสามสิบเมตรได้ ไม่อย่างนั้นจะต้องถูกแผดเผาจนกลายเป็นเถ้าธุลีอย่างแน่นอน

นี่คือสิ่งประดิษฐ์วิญญาณขั้นสุดยอด ไม่ใช่สิ่งของที่ไม่มีชีวิต ทว่ามีวิญญาณสิ่งประดิษฐ์ที่ทรงพลังอย่างถึงที่สุด เหมือนกับมีความคิดเป็นของตนเอง การที่ต้องการให้มันยอมจำนนต่อผู้บ่มเพาะปกติทั่วไปนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

“ฮ่าฮ่า ไม่คาดคิดว่าที่นี่จะมีสิ่งประดิษฐ์วิญญาณขั้นสุดยอดอยู่ ช่างโชคดีจริงๆ วันนี้ควรจะเป็นวันโชคดีของเผ่าพันธุ์แวมไพร์ของข้า” ในตอนนี้ คลื่นผันผวนของสิ่งประดิษฐ์วิญญาณขั้นสุดยอดนี้ได้แผ่ออกมารอบๆ ทันใดนั้นก็ได้ดึงดูดความสนใจของกลุ่มผู้คนที่อยู่ในระยะห่างออกไป

ซู่ ซู่ ซู่!!!

กลุ่มของผู้คนปรากฏตัวขึ้นมาทันที แผ่นหลังมีปีกสีดำคู่หนึ่ง ที่ปากมีเขี้ยว สวมใส่ชุดสีดำในแบบตะวันตก พวกเขาก็คือเผ่าพันธุ์แวมไพร์ที่เป็นที่เลื่องลือในทางตะวันตกของจักรวาลนั่นเอง

ว่ากันว่าพวกเขาดำรงชีวิตด้วยการดูดเลือด หากดูดซับเลือดของสิ่งมีชีวิตที่ทรงอำนาจเข้าไป พลังอำนาจจะเพิ่มขึ้นมาอย่างกะทันหัน ศักยภาพก็จะเพิ่มขึ้น นี่ก็ทำให้พวกเขากลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งผู้คนในทางตะวันตกต่างก็รู้สึกหวาดกลัวเพียงแค่ได้ยินชื่อ

ทว่ากลุ่มของยอดฝีมือเผ่าพันธุ์แวมไพร์เหล่านี้ก็ไม่ได้มีพลังอำนาจที่ธรรมดาเลย ชายที่มีนามว่าราร์จคือผู้นำของพวกเขา เป็นแวมไพร์ที่ทรงอำนาจซึ่งมีแกนพลังฉีอยู่ในระดับแตกฉานขั้นกลาง พวกพ้องของเขาอีกสิบกว่าคนก็ถือว่าไม่ได้อ่อนแอไปกว่ากลุ่มของตระกูลพยัคฆ์ขาวเลย

“ราร์จ สิ่งประดิษฐ์วิญญาณขั้นสุดยอดนี่เป็นสิ่งที่ตระกูลพยัคฆ์ขาวของข้าพบเจอก่อน มันเป็นสมบัติของตระกูลพยัคฆ์ขาวของข้า รีบไสหัวออกไปซะ อย่าบีบบังคับให้ข้าต้องลงมือ” หู่หรงตะโกนออกมาอย่างโมโห กล่าวเตือนกลุ่มของแวมไพร์เหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าเขาก็รู้จักราร์จเช่นกัน

เพราะว่าถึงอย่างไรผู้ที่เข้ามาในดินแดนไม้มังกรนั้น ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาก็คือยอดฝีมือในเผ่าพันธุ์ต่างๆในทางตะวันตกของจักรวาล พวกเขาก็ย่อมที่จะรู้จักคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี รู้ว่าใครเป็นใคร

“หู่หรง อย่าคิดว่าการที่พูดเสียงดังฉะฉานจะทำให้คนอื่นๆหวาดกลัวเจ้า สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ตระกูลพยัคฆ์ขาวของเจ้าค้นพบก่อน ทว่าสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ชิ้นนี้ก็เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของข้าได้ทิ้งเอาไว้ การที่ต้องการจะแย่งชิงสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ชิ้นนี้ไปก็ต้องวัดกันด้วยฝีมือเท่านั้น เลิกพูดจาไร้สาระเถอะ หวังว่าตระกูลพยัคฆ์ขาวของเจ้าจะไม่ได้มีดีแค่ปาก”

ราร์จแสยะออกมา

“ราร์จ การที่ข้าไว้หน้าเจ้า แต่ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ซาบซึ้งในน้ำใจของข้า ต้องการทำให้ตนเองขายหน้า การที่คิดจะแย่งชิงสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ไปต่อหน้าต่อตาตระกูลพยัคฆ์ขาวของข้า นี่เป็นการกระทำที่ไม่ได้แตกต่างไปจากการล้วงคองูเห่า นำพาภัยพิบัติไปสู่ตนเอง” หู่หรงตะโกนออกมาอย่างโมโห ทันใดนั้นก็ได้ลงมือโจมตีแวมไพร์ราร์จทันที

ปัง!

ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันทันที ปล่อยการโจมตีสังหารออกมามากมาย บนอากาศเกิดการปะทะอย่างต่อเนื่อง เกิดเสียงระเบิดเป็นชุดๆ ส่งผลให้ภูเขาที่อยู่รอบๆถล่มทลายลงมา

พวกเขาต่างก็ต้องการที่จะครอบครองเตาทองแดงสุริยะนี่ให้ได้ ทว่าทั้งสองฝ่ายก็มีพลังอำนาจที่สูสีกันเกินไป ไม่มีใครเหนือกว่าใคร ไม่สามารถทำอะไรเพื่อเอาชนะอีกฝ่ายได้ ปะทะกันจนฟ้าถล่มดินทลาย เปลวไฟลุกลามออกไปในทุกหนแห่ง

ระยะที่ห่างออกไป เซี่ยปิง ทู่หลิงหลงและชิงหลวนก็ได้เห็นเหตุการณ์นี้เช่นกัน

“พวกเรารีบหลบออกไปเถอะ ฝ่ายตรงข้ามมีความได้เปรียบในเรื่องจำนวน ไม่มีทางที่พวกเราจะครอบครองสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์นี้ได้” ชิงหลวนก็พูดออกมาอย่างสงบนิ่ง เธอได้ประเมินพลังอำนาจของทั้งสองฝ่ายและล่วงรู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่มือของฝ่ายตรงข้าม

ถึงแม้ว่าเธอก็ต้องการที่จะครอบครองสิ่งประดิษฐ์วิญญาณขั้นสุดยอดนี่มา ทว่าเธอก็รู้ถึงพลังอำนาจของตนเองดี ไม่มีทางที่จะต่อกรกับกลุ่มยอดฝีมือเหล่านี้ได้ ทำได้เพียงแค่ยอมตัดใจเท่านั้น

“ข้าขอเตือนเจ้า ไม่ว่าอย่างไรก็อย่าคิดที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการต่อสู้นี้เด็ดขาด นี่คือสองเผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่ในทางตะวันตกของจักรวาล มียอดฝีมือเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน” ทู่หลิงหลงมองเซี่ยปิงด้วยสายตาที่ระแวดระวัง “หากท้าทายพวกเขาขึ้นมา ก็เทียบเท่าได้กับการแหย่รังแตน การเดินทางภายในดินแดนไม้มังกรครั้งนี้จะต้องเก็บตัวสงบเข้าไว้ ห้ามสร้างปัญหาขึ้นมาเด็ดขาด จะเป็นการดีที่สุดหากไม่ต้องปะทะกับใครและครอบครองแก่นไม้มังกรมาอย่างเงียบๆ”

“แต่การทำเช่นนี้…มันน่าตื่นเต้นอย่างไรกัน?”

เซี่ยปิงมีสายตาเป็นประกาย

“เจ้าอันธพาลนี่!”

ทู่หลิงหลงก็รู้สึกหนักอกหนักใจ เจ้านี่กำลังมีความคิดที่เลวร้ายอยู่จริงๆ ปรารถนาให้ทั่วทั้งโลกตกอยู่ในความโกลาหลวุ่นวาย

ในตอนนี้ กลุ่มอิทธิพลอีกกลุ่มก็ได้ปรากฏขึ้นมาจากทิศตะวันออก

“พวกเจ้าไสหัวออกไป สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์นี่เป็นของตระกูลช้างของข้า หากใครกล้ากีดขวาง พวกเราจะทำการสังหารโดยที่ไร้ความปราณี!” ทันใดนั้นก็มีคนๆหนึ่งที่บินเข้ามาจากบนอากาศ มีรูปร่างเหมือนกับมนุษย์ มีความสูงห้าเมตร มีแขนขาที่แข็งแกร่ง ทว่าจมูกเป็นงวง ทั่วทั้งร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้ามีอักขระค่ายกลมากมายปรากฏอยู่ มีออร่าที่เหมือนกับเป็นภูเขาที่ยิ่งใหญ่แผ่ออกมา

เขายกขวานยักษ์ขึ้นมา นี่คือสิ่งประดิษฐ์วิญญาณขั้นสุดยอดของตระกูลช้าง—ขวานเปิดพสุธา!

ปัง!

ขวานฟันลงมา ตกลงมาจากท้องฟ้า ค่ายกลแต่ละอย่างบดขยี้ลงมา รวมตัวกันกลายเป็นลำแสงสีดำที่น่าสะพรึงกลัว เหมือนกับว่าจะต้องฝ่าท้องฟ้าให้กลายเป็นสองซีก

“บัดซบ นี่คือเซียงเทายอดฝีมือของตระกูลช้าง มีพลังอำนาจที่มหาศาลตั้งแต่กำเนิด ไม่สามารถต้านทานพลังอำนาจของเขาตรงๆได้ รีบล่าถอยออกไปเร็ว”

ยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์แวมไพร์และตระกูลพยัคฆ์ขาวที่เห็นเซียงเทานี่ปรากฏตัวขึ้นมา แต่ละคนต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป รู้สึกได้ว่ามีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่บดขยี้ลงมา นอกจากนี้การที่พลังอำนาจนี้ประสานพลังเข้ากับสิ่งประดิษฐ์วิญญาณขั้นสุดยอดขวานเปิดพสุธาอีกนั้น มันก็มีพลังอำนาจเพียงพอที่จะสังหารยอดฝีมือในระดับแตกฉานได้ บดทำลายจนร่างกายแหลกละเอียด

เป็นไปไม่ได้ที่จะต้านทานพลังอำนาจนี้ตรงๆ!

ทั้งสองอิทธิพลไม่กล้าที่จะรับการโจมตีนี้เข้าไป พวกเขาต่างก็ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว หลบหลีกแสงที่หนาวเหน็บของมันไปให้ไกลที่สุด

ตึบ!

แสงที่หนาวเหน็บสีดำนี้ได้บดขยี้ลงมา ทันใดนั้นแผ่นดินก็ถูกผ่าออกจากกัน ปรากฏเป็นรอยแยกยาวออกไปหลายพันกิโลเมตร ภูเขาจำนวนกว่าพันลูกถูกบดทำลายไปในระหว่างทาง เหมือนกับว่าพื้นที่เทือกเขาแห่งนี้ถูกผ่ากลายเป็นสองซีกก็ว่าได้

แม้แต่รอบๆรอยแยกนี้ก็เต็มไปด้วยออร่าของแสงหนาวเหน็บที่น่าสะพรึงกลัว มีเสียงมีดดาบที่ปะทะกันดังขึ้นมาลางๆ ผู้บ่มเพาะในระดับต่ำที่เข้าไปใกล้ จะถูกแสงที่หนาวเหน็บนี้ฉีกแทงได้อย่างกะทันหัน

“บัดซบ สิ่งประดิษฐ์วิญญาณขั้นสุดยอดของตระกูลช้างไปอยู่ในมือของเซียงเทาได้อย่างไร อันที่จริงเขาครอบครองมันมาได้อย่างไรกัน?!”

“ท่าไม่ดีแล้ว เดิมทีสายเลือดของเซียงเทาก็น่าอัศจรรย์มากแล้ว มีพลังอำนาจที่มหาศาลตั้งแต่กำเนิด มีพลังอำนาจที่ถือว่าอยู่ในระดับเดียวกับความไร้เทียมทาน การที่เพิ่มสิ่งประดิษฐ์วิญญาณขวานเปิดพสุธานี่เข้าไปอีกนั้น ช่างเป็นพลังอำนาจที่สามารถออกอาละวาดได้อย่างราบรื่นในทุกหนแห่ง หากมีคนขวางทางก็ฆ่าคน หากมีพระกีดขวางก็ฆ่าพระ หากไม่ได้อยู่ในระดับกฎเทวรูปล่ะก็ คงจะเอาชนะเขาไม่ได้”

“เผด็จการอย่างถึงที่สุด เพียงแค่เขาคนเดียว ก็สามารถที่จะกดดันให้พวกเราทั้งสองเผ่าพันธุ์ล่าถอยออกไปได้”

“พวกเราทำได้เพียงแค่ถอยออกมาเท่านั้น ตอนนี้ความสำเร็จอยู่ในเงื้อมมือของเซียงเทา หากพวกเราต่อสู้กับเซียงเทาในที่แห่งนี้จริงๆ มันจะกลายเป็นสงครามชี้เป็นชี้ตาย จะสูญเสียกำลังคนไปอย่างสูญเปล่า จากนั้นในอนาคตพวกเราจะครอบครองแก่นไม้มังกรมาอย่างไรอีก”

“เวรเอ๊ย ดูเหมือนว่าจะต้องหลีกทางให้เขาก่อนชั่วคราว ไม่สามารถต่อสู้กับเขาจนตัวตายในที่แห่งนี้ได้”

“เจ้าคนบัดซบฉวยโอกาส!”

“ไม่ต้องกังวลไป ถึงอย่างไรในดินแดนไม้มังกรก็ยังมีสมบัติอีกมากมาย เป็นไปไม่ได้ที่จะมีสิ่งประดิษฐ์วิญญาณขั้นสุดยอดเพียงแค่ชิ้นเดียว หลังจากนี้จะมีผลประโยชน์อีกมากมายที่รอพวกเราอยู่”

ยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์แวมไพร์และตระกูลพยัคฆ์ขาวมีสีหน้าที่บิดเบี้ยวอย่างมาก การที่เผชิญหน้ากับเซียงเทาที่คลุ้มคลั่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่หลีกทางไปชั่วคราว เลือกที่จะอดทนอดกลั้นไว้อย่างใจเย็น

“ยังไม่รีบไสหัวไปอีกหรือ?! พวกเจ้าต้องการที่จะต่อต้านขัดขืน..ต้องการที่จะกลายเป็นภูตผีภายใต้ขวานของข้าเซียงเทารึ?!”

เซี่ยงเทาเผด็จการอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ทันใดนั้นก็ได้ตะโกนขับไล่ให้ทั้งสองเผ่าพันธุ์ออกไป

ได้ยินเช่นนี้ เผ่าพันธุ์แวมไพร์และตระกูลพยัคฆ์ขาวก็เดือดระอุขึ้นมา ต้องการที่จะต่อสู้กับเจ้าเซียงเทาจนตายกันไปข้างหนึ่ง นี่คือสิ่งที่เรียกว่าลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ หากพวกเขาล่าถอยออกไปในตอนนี้ ในอนาคตจะต้องกลายเป็นที่หัวเราะเยาะอย่างแน่นอน

ซู่ ซู่ ซู่!!!

ทว่าในตอนนี้ ระยะที่ห่างออกไปมีออร่าที่ทรงอำนาจถ่ายทอดออกมา ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นเหมือนกับสิ่งที่เปราะบาง พวกเขาก็คือยอดฝีมือของตระกูลช้างที่เคลื่อนไหวออกมานั่นเอง อย่างน้อยก็มีมากกว่าสิบคน

ด้วยการปรากฏตัวของยอดฝีมือตระกูลช้างเหล่านี้ มันก็ทำให้แรงปรารถนาในการต่อสู้ของเผ่าพันธุ์แวมไพร์และตระกูลพยัคฆ์ขาวมอดดับไปทันที การที่ยอดฝีมือของตระกูลช้างเหล่านี้อยู่ที่นี่ พวกเขาไม่มีความหวังที่จะเอาชนะอีกแล้ว

“ฮ่าฮ่า เตาทองแดงสุริยะนี้จะต้องตกเป็นของข้า การที่มีสิ่งประดิษฐ์วิญญาณขั้นสุดยอดสองชิ้นอยู่ในการครอบครองนั้น หากไม่ได้บังเอิญไปพบเจอกับเฒ่าปีศาจบางคนล่ะก็ ข้าก็จะสามารถโลดแล่นไปในดินแดนไม้มังกรได้อย่างอิสระ”

เซียงเทาหัวเราะออกมา มือขนาดใหญ่ยื่นออกไป ต้องการที่จะคว้าเตาหลอมนี้มา

วิซ!

ทว่าในตอนนี้ ภาพเงาหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมา ลอยลงมาเหยียบพื้นต่อหน้าของเซียงเทาอย่างกะทันหัน คนๆนี้ก็คือเซี่ยปิงนั่นเอง ทว่าในช่วงเวลานี้เขาได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนเองให้กลายเป็นอู๋ตี่ของเผ่าพันธุ์อรหันต์เช่นเดิม

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

บุคคลที่ 1: “เซี่ยปิง!!! เจ้าขโมยวิทยายุทธของข้าไม่พอ เจ้ายังเอาความเป็นอมตะและคู่หมั้นของข้าไปด้วย เจ้ากับข้าจะได้เห็นดีกัน!”บุคคลที่ 2: “เขาช่างเป็นความอับอายของวงการศิลปะการต่อสู้จริงๆ”บุคคลที่ 3: “ปีศาจ! แม้แต่ลูกกวาดของเด็กเล็กๆก็ไม่เว้น”นักวิทยายุทธต่างๆของดวงดาวหยานหวงที่มีความฝันที่จะหักกระดูกของเจ้าเซี่ยปิงให้เป็นล้านๆชิ้นและดื่มเลือดของเขาให้หมดเซี่ยปิงเกาคาง: “ด้วยคะแนนความเกลียดชังที่มากขนาดนี้ ข้าจะเอาไปใช้ทำอะไรดี ข้าจะแลกเปลี่ยนคัมภีร์ที่ไร้เทียมทาน สิ่งประดิษฐ์จากสวรรค์หรือว่าวิชาบ่มเพาะอมตะ”

Options

not work with dark mode
Reset