God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ – ตอนที่ 1173

เซี่ยปิงเปิดฉากโจมตีทันที ประเคนหมัดไปสู่บาเรียนี้

ตึบ!

ทันใดนั้น พลังหมัดที่น่าสะพรึงกลัวก็ได้ปะทุออกมา ปรากฏเป็นสภาวะเกลียวขึ้นมา เป็นเหมือนกับเครื่องขุดเจาะก็ว่าได้ เจาะทะลวงเข้าไปอย่างต่อเนื่อง พยายามที่จะทำลายบาเรียนี้

ทว่าเมื่อพลังหมัดของเขาโจมตีค่ายกลบาเรียนี้ ก็มีหลุมวนที่ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน เป็นเหมือนกับอสูรยักษ์ที่อ้าปากออกมาก็ว่าได้ พลังหมัดถูกกลืนกินเข้าไปจนหมดจด

“อะไรกัน? ไม่คาดคิดว่าจะไร้รอยขีดข่วน?!”

เซี่ยปิงขมวดคิ้ว เขาค้นพบว่าการป้องกันของค่ายกลบาเรียนี้อยู่ในจุดที่เหนือจินตนาการอย่างมาก แม้แต่พลังอำนาจของเขาในตอนนี้ ก็ไม่สามารถที่จะสร้างความเสยหายให้กับบาเรียนี้แม้แต่น้อย

ต้องรู้ด้วยว่าพลังอำนาจของเขาในตอนนี้นั้น สามารถที่จะต่อกรกับผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นเริ่มต้นได้ ทว่าค่ายกลบาเรียนี้กลับไม่ได้ถูกทำลายไป เห็นได้ชัดว่าบาเรียของสถานที่แห่งนี้แข็งแกร่งแค่ไหน เหนือธรรมชาติจริงๆ

“เปล่าประโยชน์ หากข้าคาดเดาไม่ผิด นี่คือค่ายกลห้วงมิติ ไม่ใช่ว่าจะใช้พลังอำนาจเพียงใดก็ไม่สามารถที่จะทำลายมันได้” ในตอนนี้ แมวนักปราชญ์เริ่มพูดขึ้นมาอย่างกะทันหันพร้อมกับจ้องมองไปที่บาเรียนี้อย่างไม่ละสายตา

“ค่ายกลห้วงมิติ?”

เซี่ยปิงมองไปที่แมวนักปราชญ์อย่างสงสัย

“สิ่งที่เรียกว่าค่ายกลห้วงมิตินั้น ก็คือค่ายกลที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง เป็นค่ายกลที่สร้างขึ้นมาจากพลังอำนาจเชิงห้วงมิติ เหมือนกับการสร้างโลกขนาดเล็กขึ้นมาก็ว่าได้ นี่คือค่ายกลที่มีความลึกซึ้งอย่างถึงที่สุด ไม่ใช่เป็นค่ายกลในระดับที่เจ้าจะสามารถสร้างความเสียหายได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายมัน”

แมวนักปราชญ์พูดออกมาอย่างเคร่งขรึม

“ร้ายกาจเพียงนั้นเลยหรือ?”

เซี่ยปิงเอามือเท้าคาง มองไปที่ค่ายกลบาเรียตรงหน้า “ถ้าอย่างนั้น ข้างในก็คงจะมีสมบัติที่ล้ำค่าอย่างมากใช่หรือไม่?”

“ถูกต้อง มีความเป็นไปได้สูง เพราะว่าถึงอย่างไรก็คงจะไม่มีใครที่จะสร้างค่ายกลห้วงมิตินี้ขึ้นมาโดยที่ไม่มีเหตุผล บางทีข้างในนี่อาจจะเป็นสถานที่ที่ยอดฝีมือบางคนเคยอาศัยอยู่หรืออาจจะเป็นสถานที่บ่มเพาะก็เป็นได้” แมวนักปราชญ์พูดออกมา “ทว่าตอนนี้คงจะไม่มีใครอาศัยอยู่แล้ว”

“ท่านรู้ได้อย่างไรว่าไม่มีใครอยู่ข้างใน?” เซี่ยปิงถามขึ้นมา

แมวนักปราชญ์พูดออกมาอย่างดูถูก “หากมีใครบางคนอยู่ข้างในค่ายกลห้วงมิตินี่จริงๆ จากการโจมตีของเจ้าเมื่อครู่นี้นั้น จะต้องมีการต่อต้านที่รุนแรงอย่างแน่นอน บางทีเจ้าอาจจะถูกสังหารไปอย่างกะทันหัน”

“จนถึงตอนนี้ ค่ายกลนี้ก็ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรออกมา เพียงพอที่จะเป็นข้อพิสูจน์ว่าไม่มีใครอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้อีกแล้ว”

เซี่ยปิงถามต่อ “ท่านมีวิธีการใดหรือไม่ในการฝ่าเข้าไปในค่ายกลห้วงมิตินี้?”

เขาล่วงรู้ว่าแมวนักปราชญ์นั้นได้ติดตามเซนต์มาเป็นระยะเวลานาน ถึงแม้ว่าสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดประเภทนี้นั้นจะไม่สามารถทำการบ่มเพาะได้ ทว่าภายใต้ประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านมาซึ่งได้เห็นและได้ยินมานั้น สำหรับความรู้ในเรื่องการบ่มเพาะและความรู้ในปริศนาต่างๆของค่ายกลนั้น มันถือว่าเป็นยอดฝีมือในระดับสูง

“ข้าจะลองดู”

แมวนักปราชญ์มีสายตาเป็นประกาย ดวงตาทั้งสองของมันมีกระแสข้อมูลนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมา แสงสีฟ้าได้ส่องสว่างออกมา ทำการสแกนค่ายกลนี้อย่างต่อเนื่อง วิเคราะห์ข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่าง

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ในที่สุดการวิเคราะห์นี้ก็เสร็จสิ้น

“เป็นอย่างไร?” เซี่ยปิงมองไปที่แมวนักปราชญ์

แมวนักปราชญ์ยิ้มออกมาเล็กน้อย “เอาล่ะ โชคดีที่ไม่มีใครอาศัยอยู่ภายในค่ายกลห้วงมิตินี้ ปริศนาต่างๆของค่ายกลนี้จึงได้ปรากฏขึ้นมา ท้ายที่สุดข้าก็ค้นพบช่องโหว่ของค่ายกลห้วงมิตินี้ พบเจอรอยต่อของห้วงมิติ”

“ตราบใดที่เจ้าเข้าไปทางรอยต่อของห้วงมิตินี้ เจ้าก็จะสามารถเข้าไปในค่ายกลห้วงมิตินี้ได้อย่างแน่นอน”

หลังจากนั้น มันก็ได้อธิบายว่าต้องทำอย่างไร บ่งบอกถึงวิธีการในการเข้าไปข้างในค่ายกลห้วงมิตินี้

“เป็นอย่างนี้นี่เอง”

เซี่ยปิงยืนอยู่ที่จุดๆเดิม พลังอำนาจของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้เจาะเข้าไปในค่ายกลบาเรียนี้ ทำการสำรวจอย่างต่อเนื่องตามที่แมวนักปราชญ์ได้บอกมา ในที่สุดเขาก็พบรอยต่อของห้วงมิติเช่นกัน

รอยต่อของห้วงมิตินี้ดูเหมือนว่าจะเป็นช่องทางเล็กๆ ปกปิดอยู่ในห้วงมิติ หากพลังอำนาจของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ไม่ทรงอำนาจมากพอนั้น ไม่สามารถที่จะค้นพบได้

ตึบ!

วินาทีต่อมา พลังอำนาจของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ได้กระแทกเข้าไปอย่างรุนแรง ทันใดนั้นช่องทางก็เหมือนจะถูกกระตุ้นออกมา สร้างแรงดึงดูดที่มหาศาล ทันใดนั้นเขาและหลิวหยูหลาน รวมถึงสไลม์ทองก็ถูกดูดเข้าไปด้วยกัน

“เกิดอะไรขึ้น?”

หลิวหยูหลานสะดุ้งตกใจทันที เห็นได้ชัดว่าเธอยืนอยู่ข้างนอกโดยที่ไม่ได้ทำอะไร ทว่ากลับถูกดูดเข้าไปอย่างไร้เหตุผล ในช่วงเวลานี้เธอรู้สึกมึนงงอย่างมาก เหมือนกับว่าตนเองปรากฏตัวขึ้นมาในอีกสถานที่หนึ่ง

“สไลม์!”

สไลม์ทองก็หวาดกลัวเช่นกัน ทว่าเมื่อได้เห็นเซี่ยปิงอยู่ข้างกายนั้น มันก็รู้สึกผ่อนคลายลงทันที จากนั้นก็เปลี่ยนกลายเป็นสายรัดข้อมือ กลับมาอยู่ติดกับเซี่ยปิงอีกครั้ง

“ที่นี่คือข้างในค่ายกลห้วงมิติหรือ?”

เซี่ยปิงยืนอยู่ที่จุดเดิม เขาค้นพบว่าพื้นที่แห่งนี้ไม่ได้กว้างใหญ่นัก มีพื้นที่ประมาณหนึ่งพันตารางเมตร มีความสูงประมาณ20-30เมตร ดูเหมือนจะเป็นที่อยู่อาศัยปกติทั่วไป มีห้องอยู่ข้างใน5-6ห้อง

ห้องเหล่านี้นั้นมีทั้งห้องหนังสือ ห้องนอน ห้องกลั่นกรองเม็ดยา ห้องที่เงียบสงบและห้องอื่นๆตามลำดับ อีกทั้งยังมีเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเตียง เครื่องครัว ชั้นวางของและของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันอื่นๆ เหมือนกับว่าเคยมีใครบางคนอาศัยอยู่ที่นี่มาก่อน

“หืมม? สิ่งนี้คืออะไรกัน?!”

เซี่ยปิงเดินเตร่ไปตามพื้นที่แห่งนี้ ทว่ากลับไม่ได้ค้นพบว่ามีสมบัติใดๆ ท้ายที่สุดเขาก็เดินมาถึงที่ห้องหนังสือ ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นว่าบนกำแพงนั้นมีภาพเขียนพู่กันจีนแปะอยู่

ซึ่งมีเพียงแค่คำเดียวเท่านั้นที่เขียนอยู่ : เจิ้น!

ทว่าตัวอักษรนี้กลับมีออร่าของความยิ่งใหญ่ที่ไร้ที่สิ้นสุด มีแสงสว่างเปล่งประกายออกมา เหมือนกับว่ามีพลังอำนาจที่สามารถกำราบปีศาจที่ชั่วร้ายได้ แรงกดดันที่มหาศาลเหมือนดั่งภูเขาได้ทับลงมา มีความหนักหน่วงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ภาพเขียนพู่กันจีนนี้มีความคล้ายคลึงกับยันต์ที่เซนต์อสูรมืดได้มอบให้เขามา มันมีออร่าของเซนต์แอบแฝงอยู่

“อั่ก!”

หลิวหยูหลานก็มองอย่างสงสัย ทว่าเธอมองเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น เธอก็กระอักเลือดออกมาทันทีและล้มลงไป เธอไม่กล้าที่จะมองมันอีก ไม่อย่างนั้นจิตวิญญาณของเธอจะต้องได้รับความเสียหายอย่างหนัก

“เป็นแรงกดดันที่หนักหน่วงพอสมควร!”

ทว่าเซี่ยปิงนั้นมีต้นไม้โลกที่ค้ำจุนจิตวิญญาณของเขาอยู่ ดังนั้นภาพเขียนพู่กันจีนของเซนต์นี้จึงไม่ได้มีผลกระทบกับเขามากนัก เขาเดินเข้าไปและดึงภาพเขียนนี้ออกมา ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่ากระดาษแผ่นนี้มีน้ำหนักมากกว่าสิบตันเสียอีก

เขาต้องไหลเวียนพลังเวทมนตร์ออกมาเพื่อที่จะสามารถถือภาพเขียนพู่กันจีนนี้ได้ หากเป็นคนปกติธรรมดาล่ะก็ การที่เห็นภาพเขียนพู่กันจีนนี้นั้น ต่อให้จะใช้พลังอำนาจทั้งหมดก็ไม่สามารถที่จะดึงมันออกมาได้

“นี่คือตัวอักษรที่เซนต์ได้เขียนลงไป มีการประทับตราวิญญาณของเซนต์อยู่” แมวนักปราชญ์ที่มีความรู้และประสบการณ์มากมาย มันล่วงรู้ทันทีว่าสิ่งนี้คืออะไร “ในยุคสมัยโบราณนั้นว่ากันว่ามียอดฝีมือที่ใช้พลังอำนาจของตัวอักษรได้ แค่พูดก็มีพลังอำนาจของเซนต์ แค่เขียนตัวอักษรออกมาอย่างอิสระก็มีความสามารถศักดิ์สิทธิ์ในระดับสุดยอดแอบแฝงอยู่ด้วย มีพลังอำนาจที่ไร้ที่สิ้นสุด”

“คาดการณ์ได้ว่าครั้งหนึ่งสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราวของเซนต์”

มันได้ยืนยันออกมา

“เป็นสมบัติที่ดี”

เซี่ยปิงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ทันใดนั้นก็ได้เก็บภาพเขียนพู่กันจีนนี้ หากในช่วงเวลาวิกฤติ นำภาพเขียนพู่กันจีนนี้ออกมา จะสามารถกำราบและสังหารศัตรูได้ มูลค่าของมันนั้นจะต้องเทียบได้กับยันต์ของเซนต์อย่างแน่นอน เทียบเท่าได้กับการมีไพ่ตายเพิ่มขึ้นมาอีกใบ

หลังจากที่เห็นว่าภาพเจียนพู่กันจีนนี้ได้หายไป หลิวหยูหลานก็รู้สึกผ่อนคลายลงทันที ไม่ได้รู้สึกถึงแรงกดดันที่มหาศาลอีกต่อไป เธอก็ได้ลุกยืนขึ้นมาจากพื้นและมองออกไปรอบๆ ทว่าดวงตาที่งดงามของเธอก็เผยให้เห็นถึงความตกใจในทันที “สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่เซนต์โลหิตวิญญาณเคยอาศัยอยู่อย่างนั้นหรือ?”

เธอรู้สึกสงสัยในจุดๆนี้อย่างมาก เพราะว่าสถานที่ที่มีค่ายกล้วงมิติเช่นนี้หากไม่ใช่เป็นที่อยู่อาศัยของเซนต์โลหิตวิญญาณล่ะก็ เธอก็ไม่สามารถที่จะคิดถึงใครที่จะมีพลังอำนาจในระดับนี้ได้อีก ในความเป็นจริงทวีปโลหิตวิญญาณนั้นก็มีซากปรักหักพังโบราณปรากฏอยู่มากมาย ซึ่งสถานที่เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เซนต์โลหิตวิญญาณได้ทิ้งไว้

ทว่าเธอไม่คาดคิดว่าตนเองจะโชคดีเช่นนี้ จะบังเอิญมาพบเจอสถานที่เช่นนี้ได้

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

บุคคลที่ 1: “เซี่ยปิง!!! เจ้าขโมยวิทยายุทธของข้าไม่พอ เจ้ายังเอาความเป็นอมตะและคู่หมั้นของข้าไปด้วย เจ้ากับข้าจะได้เห็นดีกัน!”บุคคลที่ 2: “เขาช่างเป็นความอับอายของวงการศิลปะการต่อสู้จริงๆ”บุคคลที่ 3: “ปีศาจ! แม้แต่ลูกกวาดของเด็กเล็กๆก็ไม่เว้น”นักวิทยายุทธต่างๆของดวงดาวหยานหวงที่มีความฝันที่จะหักกระดูกของเจ้าเซี่ยปิงให้เป็นล้านๆชิ้นและดื่มเลือดของเขาให้หมดเซี่ยปิงเกาคาง: “ด้วยคะแนนความเกลียดชังที่มากขนาดนี้ ข้าจะเอาไปใช้ทำอะไรดี ข้าจะแลกเปลี่ยนคัมภีร์ที่ไร้เทียมทาน สิ่งประดิษฐ์จากสวรรค์หรือว่าวิชาบ่มเพาะอมตะ”

Options

not work with dark mode
Reset