God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ – ตอนที่ 1174

“ข้าก็คิดว่าที่นี่คงจะเป็นที่ที่เซนต์โลหิตวิญญาณเคยอาศัยอยู่ ทว่ามันคงจะเป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัยชั่วคราวของเขาเท่านั้น เพราะว่ามันไม่มีสมบัติใดๆเลย” เซี่ยปิงรู้สึกเสียดายอย่างมาก นอกจากภาพเขียนพู่กันจีนนั้น เขาก็ไม่ได้พบเจอสมบัติอื่นใด เดิมทีเขานั้นต้องการที่จะครอบครองสิ่งประดิษฐ์เซนต์ คิดที่จะร่ำรวยขึ้นมาภายในคืนเดียว

หลิวหยูหลานก็มองดูเจ้าปีศาจต่างถิ่นนี่ด้วยสายตาที่รังเกียจ การที่ได้ครอบครองภาพเขียนพู่กันจีนนั้นก็ถือว่าโชคดีมากเกินแล้ว ทว่าเจ้านี่ยังต้องการที่จะครอบครองสมบัติอื่นๆของเซนต์อีกหรือ ช่างเพ้อฝันสิ้นดี

ทว่าเมื่อคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบนั้น ภาพเจียนพู่กันจีนนั่นก็ดูเหมือนว่าจะเป็นสมบัติที่ล้ำค่าอย่างมาก เธอคิดว่ามันอาจจะเป็นสมบัติดั้งเดิมของทวีปโลหิตวิญญาณ ทว่าการที่ถูกเจ้าปีศาจต่างถิ่นนี่ปล้นชิงไปนั้น เธอก็รู้สึกโศกเศร้าเล็กน้อย

โชคดีที่ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ได้มีสมบัติอื่นๆอีก ไม่อย่างนั้นทวีปโลหิตวิญญาณคงจะต้องเผชิญกับความสูญเสียอย่างมหาศาล

“เซี่ยปิง ข้าได้ทำการตรวจสอบค่ายกลห้วงมิตินี้อย่างกระจ่างแจ้งแล้ว เจ้าสามารถที่จะเจาะเข้าไปในแกนหลักของมันและทำการหล่อหลอมอย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้สามารถควบคุมการทำงานทั้งหมดของค่ายกลห้วงมิตินี่ได้” แมวนักปราชญ์เริ่มพูดออกมา

เซี่ยปิงพยักหน้า จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้เจาะเข้าไป ทันใดนั้นก็พบแกนหลักของค่ายกลนี้ จากนั้นก็เริ่มทำการหล่อหลอม การที่ไม่มีผู้สร้างค่ายกลนี้อยู่ที่นี่นั้น เขาก็สามารถที่จะทำการควบคุมค่ายกลนี้ได้อย่างง่ายดาย

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ในมือของเขาก็มีวัตถุบางอย่างปรากฏขึ้นมาทันที มันเป็นเหมือนกับลูกบอล กำลังไหลเวียนอยู่ ออร่าของห้วงมิติแผ่ออกมา นี่คือแกนหลักของค่ายกลนี้ที่ได้ก่อตัวขึ้นมา

เขารู้สึกว่าการที่ตนเองได้ครอบครองลูกบอลสีดำนี่มา ทำให้สามารถที่จะควบคุมค่ายกลทั้งหมดได้อย่างอิสระ พลังป้องกันของค่ายกลก็สามารถที่จะเพิ่มขึ้นมาได้หลายเท่า อีกทั้งยังสามารถที่จะเทเลพอร์ตออกไปข้างนอกได้ตลอดเวลา สะดวกสบายอย่างมาก

“ทว่าสิ่งที่ใช้ควบคุมค่ายกลนี้ดูเหมือนจะไม่ได้มีประโยชน์อะไร ไม่สามารถที่จะนำมันออกไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้มีสมบัติใดๆ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ที่นี่ต่อไป” แมวนักปราชญ์พูดอย่างเสียดาย มันคิดว่าการที่ทำการหล่อหลอมแกนหลักของค่ายกลนี้ขึ้นมานั้นไม่ได้มีประโยชน์ใดๆ

“เฮ้เฮ้ ข้ามีแผนการบางอย่าง สามารถที่จะเพิ่มพูนหินวิญญาณของพวกเราได้ อีกทั้งยังเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แอบลักลอบเข้าไปในสำนักงานใหญ่ของสำนักวิญญาณ” เซี่ยปิงเอามือเท้าคาง ดวงตาเผยให้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์ หลังจากที่ล่วงรู้ว่าสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของเซนต์โลหิตวิญญาณนั้น เขาก็มีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาทันที

“แผนการอะไร?”

ทำไมก็ไม่รู้ แมวนักปราชญ์รู้สึกว่าร่างกายของตนเองสั่นเทา มันคิดว่าเจ้าบุคคลที่ชั่วร้ายและเจ้าเล่ห์นี่คงจะมีแผนการที่สกปรกๆบางอย่าง ครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะมีผู้คนจำนวนมากแค่ไหนที่ตกหลุมพรางของเขา

“ท่านมีวิธีการสร้างเครื่องถ่ายเอกสารขึ้นมาหรือไม่?” เซี่ยปิงถามขึ้นมา

แมวนักปราชญ์พยักหน้า “ไม่มีปัญหา ภายในแหวนห้วงมิตินั้นมีหุ่นยนต์นาโนอยู่นับไม่ถ้วน อีกทั้งมีวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่เพียงพอ การที่ต้องการจะสร้างเครื่องถ่ายเอกสารขึ้นมานั้น เป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างมาก”

เรียกได้ว่าในการซ่อมแซมยานดาราจักรนั้น ในช่วงเวลานี้แหวนห้วงมิติก็ได้กลายเป็นเหมือนกับโรงงานขนาดเล็ก มีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงอยู่ภายใน ตราบใดที่ไม่ใช่เครื่องจักรที่ซับซ้อนเกินไป ก็สามารถที่จะสร้างขึ้นมาได้

“เยี่ยมมาก”

เซี่ยปิงรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก

“ท้ายที่สุดแล้วเจ้าต้องการที่จะทำอะไรกัน?” แมวนักปราชญ์ถามอีกครั้ง รู้สึกสงสัยอย่างมาก

ทว่าเซี่ยปิงก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาได้นำกระดาษและปากกาออกมาจากแหวนห้วงมิติ เดินไปที่ห้องหนังสือและนั่งบนเก้าอี้ จากนั้นก็เริ่มลงมือเขียนอย่างตั้งใจ

หลิวหยูหลานก็ได้เดินเข้ามาและมองอย่างสงสัย เห็นเพียงแค่ว่าบนกระดาษนั้นเขียนไว้ว่า “ข้า เซนต์โลหิตวิญญาณ จริงๆแล้วข้ายังไม่ได้ตาย ยังคงมีชีวิตอยู่ เพียงแค่ว่าศัตรูได้ทำการผนึกข้าอยู่ข้างในหุบเขาแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปจากเมืองฮวายหนิงหลายร้อยกิโลเมตร ในตอนนี้ข้าไม่สามารถที่จะทำอะไรเพื่อออกไปได้ หากใครสามารถที่จะมายังหุบเขาที่ปิดผนึกแห่งนี้เพื่อช่วยเหลือข้าด้วยหินวิญญาณจำนวนหนึ่งร้อยก้อนนั้น หลังจากที่ข้าออกไปได้ ข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นจ้าวสำนักวิญญาณอย่างแน่นอน จะมอบพลังอำนาจในการปกครองทวีปแห่งนี้”

“เจ้าอันธพาล นี่เจ้าคิดที่จะทำอะไรกัน?!”

หลิวหยูหลานกัดมุมปากพร้อมกับมองเซี่ยปิงด้วยสีหน้าที่พูดอะไรไม่ออก

“ตามที่เจ้าเห็น ข้าวางแผนที่จะหลอกลวงกลุ่มผู้คนเพื่อมอบหินวิญญาณให้กับข้า ทำให้พวกเขาโยนหินวิญญาณเข้ามาในค่ายกลห้วงมิตินี้ จากนั้นข้าก็ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรและตักตวงผลประโยชน์จากคนอื่น ร่ำรวยขึ้นมาภายในคืนเดียว” เซี่ยปิงพูดโอ้อวดออกมา

“เจ้าเสียสติไปแล้ว เจ้าคิดว่าผู้คนของทวีปโลหิตวิญญาณมีไอคิวที่ต่ำถึงเพียงนั้นหรือ จะถูกเจ้าหลอกลวงอย่างง่ายดายเพียงนั้นหรือ? ข้าคิดว่าเจ้าดูถูกผู้คนของทวีปโลหิตวิญญาณมากเกินไป” หลิวหยูหลานมีสีหน้าที่พูดอะไรไม่ออก

เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี เจ้าปีศาจต่างถิ่นนี่ช่างอาจหาญอย่างถึงที่สุด ไม่คาดคิดว่าจะกล้าทำเรื่องเช่นนี้ในนามของเซนต์ อีกทั้งยังต้องการที่จะหลอกลวงหินวิญญาณมาหนึ่งร้อยก้อน นี่เขาต้องการหินวิญญาณจนเสียสติเลยหรือ?

บอกตามตรง เมื่อเธอเห็นข้อความเหล่านี้นั้นเธอก็รู้สึกสมเพช ข้อความเหล่านี้ เป็นไปได้อย่างไรที่จะหลอกลวงผู้อื่นได้ เจ้าปีศาจต่างถิ่นนี่คิดว่าผู้คนของทวีปโลหิตวิญญาณของเธอนั้นมีไอคิวของเด็กอายุสามขวบอย่างนั้นหรือ?! ถูกหลอกลวงด้วยข้อความที่เห็นได้ชัดเช่นนี้ อีกทั้งการที่จะกล่าวว่าเซนต์โลหิตวิญญาณยังไม่ตายไปนั้น ช่างเป็นเรื่องที่ตลกสิ้นดี

“เจ้าไม่จำเป็นที่จะสนใจเรื่องนี้ สรุปก็คือหากมีคนโง่เขลาเข้ามา ข้าก็จะร่ำรวย” เซี่ยปิงไม่ได้สนใจสีหน้าที่ดูถูกของหลิวหยูหลาน เขาบอกกับแมวนักปราชญ์ทันที ให้ถ่ายเอกสารกระดาษแผ่นนี้มาหนึ่งล้านแผ่น

เพราะว่าเขาต้องการที่จะกระจายข่าวนี้ไปทั่วทั้งทวีปโลหิตวิญญาณ

ถึงแม้ว่าทวีปโลหิตวิญญาณนั้นจะมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ทว่ามันก็มีเมืองขนาดใหญ่เพียงแค่108เมืองเท่านั้น สถานที่อื่นๆส่วนใหญ่นั้นต่างก็เป็นป่า ภูเขา ทะเลและสถานที่อื่นๆ

สำหรับหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลออกไปและเมืองขนาดเล็กนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คาดการณ์ได้ว่าผู้คนภายในสถานที่เหล่านี้ก็เป็นคนยากคนจน ไม่สามารถที่จะนำหินวิญญาณมาได้

ดังนั้น ตราบใดที่กระจายข่าวนี้ไปตามเมืองขนาดใหญ่ ดึงดูดผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ในเมืองต่างๆมาได้นั้น แค่นี้ก็ถือว่าเพียงพอ

“เข้าใจแล้ว”

แมวนักปราชญ์ก็คิดว่าแผนการนี้ดูไม่น่าเชื่อถือ ทว่าในเมื่อเซี่ยปิงพูดออกมาเช่นนี้ มันก็ไม่ได้ปฏิเสธ ถึงอย่างไรซะ ไม่ว่าแผนการนี้จะได้ผลหรือไม่นั้น เมื่อถึงเวลาก็จะได้รู้เอง

………………..

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เซี่ยปิงและหลิวหยูหลานทั้งสองก็ได้ออกไปจากค่ายกลห้วงมิตินี้ พวกเขาวางแผนที่จะเดินทางไปยังเมืองฮวายหนิง

เพราะว่าการที่ต้องการกระจายข่าวสารนี้ไปยังเมืองทั้ง108เมืองภายในทวีปโลหิตวิญญาณนั้น จะต้องใช้ความช่วยเหลือจากค่ายกลเทเลพอร์ตของสำนักวิญญาณเช่นกัน นี่จะทำให้ไปที่เมืองอื่นๆได้อย่างรวดเร็ว

ไม่อย่างนั้นการที่พื้นที่ของทวีปโลหิตวิญญาณกว้างใหญ่ไพศาลเช่นนี้นั้น การที่ต้องการเดินทางไปยังเมืองอื่นๆ ไม่รู้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหน

เซี่ยปิงไม่ได้กังวลว่าตนเองจะไม่สามารถใช้เทเลพอร์ตของสำนักวิญญาณได้ เพราะว่าบนตัวของเขานั้นมีตราของสำนักวิญญาณซึ่งเป็นของจั่วฮาวอยู่ การที่มีตรานี้และมีหน้ากากปลอมตัวนั้น เขาจะสามารถเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นจั่วฮาวได้อย่างแน่นอน สามารถที่จะหลอกตาผู้คนของสำนักวิญญาณ กลายเป็นนกกระจอกเข้ารัง

“เจ้ากำลังทำอะไร?”

หลิวหยูหลานมองไปที่เซี่ยปิง บนศีรษะของเธอเหมือนกับมีเครื่องหมายคำถาม เพราะว่าเธอสังเกตเห็นว่าเจ้าปีศาจต่างถิ่นนี่กำลังทำป้ายบอกทางที่หุบเขาแห่งนี้อย่างไม่คาดคิด ไม่รู้ว่าเจ้านี่ได้นำก้อนหินขนาดใหญ่นี่มาจากที่ใดและเขียนตัวอักษรขนาดใหญ่ลงไปโดยตรง: สถานที่ผนึกของเซนต์โลหิตวิญญาณ

ยิ่งไปกว่านั้นเส้นทางจากหุบเขาไปสู่เมืองฮวายหนิงนั้น เจ้านี่ก็ได้ทำเครื่องหมายบอกทางบนต้นไม้แต่ละต้น ซึ่งมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่เหมืองหินวิญญาณ เหมือนกับเกรงกลัวว่าคนอื่นๆจะไม่รู้เส้นทางก็ว่าได้

“แน่นอนว่ากำลังทำป้ายบอกทาง หากหลังจากนี้มีใครบางคนเดินทางเข้ามา พวกเขาจะไม่รู้ว่าหุบเขาแห่งนั้นอยู่ที่ใด นี่เป็นการที่ข้าช่วยเหลือพวกเขา” เซี่ยปิงพูดออกมาอย่างโอ้อวด

ผายลม!

หลิวหยูหลานมองไปที่เซี่ยปิงด้วยสีหน้าที่รังเกียจ มีที่ไหนที่เป็นการช่วยเหลือผู้คน เห็นได้ชัดว่าเป็นกังวลว่าคนอื่นๆจะไม่สามารถหาหุบเขาแห่งนั้นได้พบ ซึ่งส่งผลให้ตนเองไม่มีทางหลอกลวงเอาหินวิญญาณมาจากพวกเขาได้

ทว่าในอีกมุมหนึ่ง คนโง่เขลาที่ไหนจะถูกหลอกลวงด้วยการโกหกที่ชัดเจนเช่นนี้ บางทีอาจจะไม่มีใครสักคนที่เดินทางมา เมื่อถึงเวลานั้นทุกๆอย่างที่เจ้าปีศาจต่างถิ่นนี่ทำไปก็จะสูญเปล่า

เธอกำลังตั้งหน้าตั้งตารอท่าทางที่ผิดหวังของเจ้าปีศาจต่างถิ่นนี่อยู่

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

บุคคลที่ 1: “เซี่ยปิง!!! เจ้าขโมยวิทยายุทธของข้าไม่พอ เจ้ายังเอาความเป็นอมตะและคู่หมั้นของข้าไปด้วย เจ้ากับข้าจะได้เห็นดีกัน!”บุคคลที่ 2: “เขาช่างเป็นความอับอายของวงการศิลปะการต่อสู้จริงๆ”บุคคลที่ 3: “ปีศาจ! แม้แต่ลูกกวาดของเด็กเล็กๆก็ไม่เว้น”นักวิทยายุทธต่างๆของดวงดาวหยานหวงที่มีความฝันที่จะหักกระดูกของเจ้าเซี่ยปิงให้เป็นล้านๆชิ้นและดื่มเลือดของเขาให้หมดเซี่ยปิงเกาคาง: “ด้วยคะแนนความเกลียดชังที่มากขนาดนี้ ข้าจะเอาไปใช้ทำอะไรดี ข้าจะแลกเปลี่ยนคัมภีร์ที่ไร้เทียมทาน สิ่งประดิษฐ์จากสวรรค์หรือว่าวิชาบ่มเพาะอมตะ”

Options

not work with dark mode
Reset