God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ – ตอนที่ 1804

หลังจากนั้นไม่กี่วัน ณ ทางเหนือของจักรวาล

นิกายหยวนหมิง นิกายประตูจันทราโบราณ นิกายบัญชาสวรรค์ นิกายสวรรค์เบื้องบนและนิกายสวรรค์ชั้นฟ้า นิกายที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้าได้ร่วมมือกันจัดตั้งประกาศจับออกมา ไล่ล่าเจ้าอาชญากรอู๋ตี่ หากพบเจอ ให้ทำการประหารได้ทันที ในขณะเดียวกันก็เสนอรางวัลค่าหัวที่มหาศาล

การกระทำครั้งนี้ได้ทำให้ทั่วทั้งทางเหนือของจักรวาลสั่นคลอน นี่คือครั้งแรกที่นิกายที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้าได้ร่วมมือกันจัดตั้งรางวัลค่าหัวสำหรับอาชญากรเพียงคนเดียว ส่งผลให้ผู้บ่มเพาะจำนวนนับไม่ถ้วนพูดคุยหารือกันถึงเรื่องนี้ คาดเดาว่าเกิดอะไรขึ้น

“อู๋ตี่ เจ้าชายคนนี้โผล่หัวออกมาอีกแล้ว อันที่จริงครั้งนี้เขาได้ก่อเรื่องที่ยิ่งใหญ่อะไรไว้ ไม่คาดคิดว่าจะทำให้นิกายที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้าไล่ล่าและถ่ายทอดคำสั่งประหารออกมาเช่นนี้”

บางคนที่ได้ยินข่าวนี้ บอกตามตรงเขาก็รู้สึกมึนงง เจ้าอู๋ตี่นี่สร้างปัญหาขึ้นมาในทุกหนแห่ง ตอนนี้ก็ดูเหมือนว่านิกายทั่วทั้งจักรวาลต่างก็โกรธแค้นเขา ไม่เคยได้ยินสิ่งใดที่เจ้าเด็กนี่ไม่กล้าทำมาก่อน

“ข้าก็ได้ยินข่าวมา ญาติของญาติของข้าอยู่ในนิกายหยวนหมิง ว่ากันว่านิกายหยวนหมิงค้นพบดินแดนลี้ลับที่อุดมไปด้วยหินห้วงมิติ ทว่าพวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับเจ้าอู๋ตี่ในดินแดนแห่งนั้น”

บางคนที่เปิดเผยข่าวลือออกมา “ผลลัพธ์หลังจากนั้นก็สามารถที่จะจินตนาการได้ ชายที่ไร้ยางอายและน่ารังเกียจคนนั้นได้ใช้กลอุบายและเล่ห์ลวงกับผู้อาวุโสของนิกายที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้า ทำให้พวกเขาเดือดร้อนกันอย่างหนัก เผชิญกับความสูญเสียที่ร้ายแรง ถูกพวกราชันอสูรเวิ้งว้างไล่ล่า”

“ท้ายที่สุดเจ้าบัดซบนั่นก็ได้ครอบครองหินห้วงมิติไปมากมาย ทว่านิกายที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้ากลับไม่ได้ครอบครองสิ่งใดกลับมา อีกทั้งยังมีผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก เห็นได้ชัดว่าสมาชิกระดับสูงของนิกายที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้าจะโมโหกันแค่ไหน ต้องการที่จะสังหารผู้คนใจจะขาด”

“เวรเอ๊ย เจ้าเด็กนั่นโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว ไม่คาดคิดว่าจะกล้าทำให้นิกายที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้าตกอยู่ในสภาพที่น่าสิ้นหวังเช่นนี้ อันที่จริงเขาใช้กลอุบายใดกัน?”

“นี่ก็ไม่แน่ชัด ไม่ได้รู้ข้อมูลมาอย่างละเอียด คาดการณ์ได้ว่าผู้อาวุโสของนิกายทั้งห้าก็คิดว่านี่เป็นเรื่องที่เสียหน้าอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงได้ปกปิดเรื่องนี้ ไม่ต้องการที่จะทำให้ตนเองอับอายขายหน้า”

“ว่ากันว่าผู้อาวุโสสูงสุดหลิวเหวินของนิกายหยวนหมิงเป็นผู้ที่เผชิญกับความสิ้นหวังมากที่สุด ดูเหมือนว่าจะถูกเจ้าอู๋ตี่เล่นงานทีเผลอ ทำให้สมองมีปัญหา มีสติพร่ามัว แม้แต่สมบัติก็ถูกปล้นชิงไป กลายเป็นคนยากคนจนอย่างแท้จริง ตอนนี้เขาก็กำลังคลุ้มคลั่งอยู่ในนิกาย มีอารมณ์ที่ฉุนเฉียวอย่างมาก ประกาศว่าจะต้องสังหารเจ้าอู๋ตี่ให้ได้”

“ใช่ ในอดีตผู้อาวุโสสูงสุดหลิวเหวินเป็นสุภาพบุรุษที่มีภูมิฐาน ทว่าเป็นเพราะเจ้าบัดซบอู๋ตี่นี่ที่ทำให้เขาเสียสติขึ้นมา ช่างไม่มีความรับผิดชอบชั่วดีจริงๆ”

“ผู้อาวุโสของนิกายจำนวนมากในทางเหนือของจักรวาลต่างก็เป็นผู้มีอำนาจ โหดเหี้ยมอย่างถึงที่สุด ไม่คาดคิดว่าจะต้องยอมจำนนให้กับเจ้าอู๋ตี่ ตกอยู่ในชะตากรรมเช่นนี้ น่าอนาถอย่างถึงที่สุด ไม่มีใครที่จะจัดการกับเจ้าเด็กนั่นได้เลยหรือ?”

ผู้คนกำลังพูดคุยกันอย่างคึกครื้น มีอารมณ์ที่ล้นหลาม

“ข้าได้ยินว่านิกายทั้งห้าไม่ใช่แค่สูญเสียหินห้วงมิติไปเท่านั้น ทว่าแม้แต่หินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีก็ถูกเจ้าอู๋ตี่แย่งชิงไปเช่นกัน” บางคนที่เผยข้อมูลออกมาอย่างกะทันหัน

“อะไรนะ? หินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสี? นี่มันตลกสิ้นดี นี่คือสมบัติที่แม้กระทั่งเซนต์ก็ปรารถนาที่จะครอบครองมา”

“ใช่ มันคือสมบัติที่ล้ำค่าระดับนั้น ข่าวนี้เป็นข่าวที่นิกายทั้งห้าได้ปล่อยออกมา การที่สูญเสียสมบัติเช่นนี้ไป มีที่ไหนที่จะพวกเขาจะกล้ำกลืนผืนทนได้ หากไม่ล้างแค้นล่ะก็ มันก็คงจะเป็นเรื่องแปลก”

“เป็นอย่างนี้นี่เอง สูญเสียสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้ไป คาดการณ์ได้ว่าบรรดาผู้อาวุโสของนิกายทั้งห้าก็ต้องโกรธเป็นธรรมดา ต่อให้จะมีผู้คนตายไปอีกมากแค่ไหนก็ไม่สามารถชดใช้ให้กับความสูญเสียนี้ได้”

“การที่บนตัวของเจ้าเด็กนั่นมีสมบัติเช่นนี้อยู่ บางทีอาจจะถูกจับจ้องโดยผู้คนจำนวนมาก”

“จะต้องคาดเดาอะไรอีก ทหารรับจ้างและเหล่าอาชญากรจำนวนมากต่างก็พร้อมที่จะเคลื่อนไหวตลอดเวลา วางแผนที่จะตามหาที่อยู่ของเจ้าอู๋ตี่ ฆาตกรรมผู้อื่นเพื่อปล้นชิงทรัพย์สมบัติไป”

“เจ้าอู๋ตี่ในตอนนี้เป็นดั่งขุมทรัพย์เดินได้ ใครที่กำจัดเขาได้ก่อน คนผู้นั้นก็จะได้ครอบครองทรัพย์สินเงินทองจำนวนมหาศาล ร่ำรวยขึ้นมาภายในคืนเดียว”

ผู้คนจำนวนมากก็มีดวงตาที่แดงก่ำ เผยความละโมบออกมา ปรารถนาที่จะออกตามหาเจ้าอู๋ตี่ทันที

เพราะว่าการสังหารเจ้าอู๋ตี่ ไม่ใช่แค่สามารถครอบครองรางวัลค่าหัวจากนิกายที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้าในทางเหนือของจักรวาลเท่านั้น ทว่าในทางตะวันตก ทางใต้และแม้แต่ทางตะวันออกก็ยังมีรางวัลค่าหัวสำหรับเจ้าอู๋ตี่เช่นกัน

รางวัลค่าหัวเช่นนี้มีมูลค่าที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก ทำให้ผู้บ่มเพาะจำนวนนับไม่ถ้วนคลุ้มคลั่งขึ้นมาได้

ไม่ต้องพูดถึงสมบัติล้ำค่ามากมายที่อยู่บนตัวของเขา นี่ก็เพียงพอที่จะทำให้บรรดาเฒ่าปีศาจเคลื่อนไหวออกมาได้ แอบสอบถามหาข่าวคราวของเจ้าอู๋ตี่ ต้องการที่จะออกตามล่าเขา

…………

ณ พื้นที่ของนิกายฟ้าดินในทางตะวันออกของจักรวาล

ชิวซุย ซู่เหม่ย ซู่จี เจียงยารุ หนานกงหวู ฉู่หลง ยวีชีชีและคนอื่นๆต่างก็กำลังรวมตัวด้วยกัน พวกเธอก็ได้รับข่าวเรื่องนี้มาอย่างรวดเร็ว

“ท้ายที่สุดแล้วเจ้าอันธพาลนั่นไปก่อเรื่องเลวร้ายอะไรไว้? ไม่คาดคิดว่าจะเดินทางไปไกลถึงทางเหนือของจักรวาล?”

ฉู่หลงก็พูดอย่างเอือมระอา

“นี่จะไม่มีปัญหาอะไรใช่หรือไม่? การที่ท้าทายนิกายระดับเซนต์ทั้งห้า นี่มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย”

เจียงยารุก็เป็นห่วงความปลอดภัยของเซี่ยปิงเล็กน้อย

“ไม่ต้องกังวลไป ปกติแล้วมีเพียงแค่เขาที่รังแกคนอื่นๆ ไม่เคยเห็นใครที่มีโอกาสรังแกเขา เจ้าบัดซบนั่นเป็นมนุษย์ที่เลวร้ายที่สุดที่ข้าเคยเห็นมา ไม่เคยเห็นใครที่เลวร้ายไปกว่าเขา”

ยวีชีชีก็พูดอย่างรังเกียจ

“เห็นด้วย เจ้านั่นเป็นวายร้ายอย่างแท้จริง” ซู่จีพยักหน้า “พวกเราไม่ต้องสนใจเจ้าอันธพาลนี่หรอก เขาคงจะเอาตัวรอดได้ มาพูดคุยเรื่องของพวกเรากันดีกว่า เมื่อไม่นานมานี้ข้าค้นพบดาวเคราะห์ท่องเที่ยวดวงหนึ่ง มีทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างมากและมีอาหารดีๆมากมาย พวกเราสามารถเดินทางไปพักผ่อนที่นั่นได้”

เธอก็เปลี่ยนหัวข้อการพูดคุยอย่างรวดเร็ว พูดคุยถึงเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวอย่างตื่นเต้น

ทางเหนือของจักรวาล?!

ชิวซุย หนานกงหวูและซู่เหม่ยทั้งสามคนก็มองหน้ากันด้วยสีหน้าที่สับสน เพราะว่าเดิมทีนิกายเรือนจันทราพิสุทธิ์ของพวกเธอก็อยู่ในทางเหนือของจักรวาล ทว่าเมื่อเกิดเรื่องก่อนหน้านี้ขึ้น พวกเธอก็กลายเป็นอาชญากรที่เป็นที่ต้องการตัว ไม่สามารถกลับไปได้

ทว่าบางทีนี่ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน

……………

ณ สถานที่แห่งหนึ่งในทางใต้ของจักรวาล

ทู่หลิงหลงและชิงหลวนกำลังอาศัยอยู่ในวัดปีศาจ ทั้งสองคนต่างก็มีสีหน้าที่ตึงเครียด

“พี่สาวชิงหลวน ภารกิจต่อไปของวัดปีศาจกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว เป็นภารกิจที่ยากมาก เป็นการตัดสินผู้สืบทอดที่แท้จริงของวัดปีศาจ เพียงแค่พวกเราสองคน บางทีอาจจะเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะทำสำเร็จได้ จำเป็นต้องมองหาผู้ช่วยที่มีความสามารถและไว้วางใจได้”

ทู่หลิงหลงพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม

วัดปีศาจเป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ที่ลึกลับซึ่งมีโคลนอยู่นับไม่ถ้วน มีไว้เพื่อฝึกฝนเซนต์ปีศาจ ซึ่งวัดปีศาจในโลกแห่งเมฆาก็เป็นเพียงแค่หนึ่งในวัดปีศาจจำนวนมาก

ในความเป็นจริง ท่ามกลางจักรวาล มีวัดปีศาจที่ดำรงอยู่มากมาย ทว่าวัดปีศาจเหล่านี้จะบ่มเพาะผู้สืบทอดออกมาตามลำดับ เป็นผู้ที่ถูกคัดเลือกให้กลายเป็นเซนต์ปีศาจในอนาคต

ทว่าเนื่องจากมันมีต้นกำเนิดมาจากปีศาจ ดังนั้นวิธีการของมันจึงโหดร้ายและป่าเถื่อน ยึดมั่นในกฎแห่งผืนป่า ผู้อยู่รอดคนผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด

ทว่าวัดปีศาจก็ใช้หลักการเหมือนกับการเลี้ยงกู่ นำผู้สืบทอดของเซนต์ปีศาจจำนวนมากมา จากนั้นก็ให้ต่อสู้กันและกัน ใครที่สามารถเอาชนะได้ ก็จะได้ครอบครองผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผู้ชนะจะเป็นผู้ที่ได้ทุกอย่างไปครอง

*การเลี้ยงกู่ นำสัตว์พิษชนิดต่าง ๆ (เช่น ตะขาบ งู แมลงป่อง) ใส่ลงในภาชนะ แล้วปิดผนึก ปล่อยให้สัตว์เหล่านั้นบริโภคกันเอง ตัวสุดท้ายที่รอดมาเพียงหนึ่งเดียวเชื่อว่ามีพิษร้ายแรงที่สุด

“ผู้ช่วยที่มีความสามารถและไว้วางใจได้หรือ? ดูเหมือนว่านอกจากเจ้ามนุษย์นั่น จะไม่มีใครอื่นอีก”

ชิงหลวนก็นึกถึงเซี่ยปิงขึ้นมาอย่างกะทันหัน ถึงแม้ว่าพวกเธอกับเซี่ยปิงจะมีความบาดหมางกันมากมาย ทว่าหากลองคิดพิจารณาดูดีๆ มันก็ไม่ได้มีความเกลียดชังที่ขมขื่นต่อกัน อีกทั้งในแง่ของความสามารถนั้น เรียกได้ว่าเจ้ามนุษย์นี่ก็ไม่ได้เป็นสองรองใคร

คาดการณ์ได้ว่าในบรรดาสิ่งมีชีวิตมากมายภายในโลกแห่งเมฆานั้น ไม่มีใครที่จะมีคุณสมบัติทัดเทียบกับเขาได้

แน่นอนว่านอกเหนือจากโลกแห่งเมฆา ก็ยังมียอดฝีมือข้างนอกอีกมากมาย ทว่าพวกเธอก็ไม่ได้รู้จักยอดฝีมือเหล่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีทางไว้ใจพวกเขาได้

เมื่อลองคิดดูดีๆ ก็มีเพียงแค่เซี่ยปิงเท่านั้นที่เหมาะสมที่สุด

“ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจมาก ทว่าครั้งนี้ก็ทำได้เพียงแค่ขอความช่วยเหลือจากเจ้ามนุษย์นั่น ไม่รู้ว่าเขาจะปฏิเสธพวกเราหรือไม่”

ทู่หลิงหลงก็กำหมัดขึ้นมา แสดงท่าทางที่ไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก

“อันที่จริงนี่ก็เป็นโอกาสสำหรับเขาเช่นกัน คงจะไม่ปฏิเสธพวกเรา”

ชิงหลวนก็ไม่ได้มั่นใจนัก ทว่าก็ทำได้เพียงแค่ลองดูก่อน

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

บุคคลที่ 1: “เซี่ยปิง!!! เจ้าขโมยวิทยายุทธของข้าไม่พอ เจ้ายังเอาความเป็นอมตะและคู่หมั้นของข้าไปด้วย เจ้ากับข้าจะได้เห็นดีกัน!”บุคคลที่ 2: “เขาช่างเป็นความอับอายของวงการศิลปะการต่อสู้จริงๆ”บุคคลที่ 3: “ปีศาจ! แม้แต่ลูกกวาดของเด็กเล็กๆก็ไม่เว้น”นักวิทยายุทธต่างๆของดวงดาวหยานหวงที่มีความฝันที่จะหักกระดูกของเจ้าเซี่ยปิงให้เป็นล้านๆชิ้นและดื่มเลือดของเขาให้หมดเซี่ยปิงเกาคาง: “ด้วยคะแนนความเกลียดชังที่มากขนาดนี้ ข้าจะเอาไปใช้ทำอะไรดี ข้าจะแลกเปลี่ยนคัมภีร์ที่ไร้เทียมทาน สิ่งประดิษฐ์จากสวรรค์หรือว่าวิชาบ่มเพาะอมตะ”

Options

not work with dark mode
Reset