God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ – ตอนที่ 1182

“ไปเถอะ รีบไปดูว่าข้างในบาเรียนี้มีสมบัติอะไรอยู่”

“พูดถูก รีบทำลายผ่านบาเรียตรงหน้านี้”

สายตาของผู้คนต่างก็เต็มไปด้วยเปลวไฟนักสู้ บางคนที่อดใจรอไม่ไหวก็เริ่มที่จะเปิดฉากโจมตีทันที ปล่อยพลังเวทมนตร์ออกมาทั่วทั้งร่างกายและโจมตีไปที่บาเรียข้างหน้าอย่างรุนแรง

เพ่ง เพ่ง เพ่ง!!!

พลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวได้โจมตีออกไป เป็นเหมือนกับระเบิดนิวเคลียร์ที่ได้ระเบิดออกไปหลายลูกก็ว่าได้ ทว่าพวกมันก็เปล่าประโยชน์ พลังอำนาจของการโจมตีเหล่านี้ถูกบาเรียดูดซับเข้าไปอย่างกะทันหัน บนพื้นผิวของบาเรียเกิดเป็นเพียงแค่คลื่นระรอกเท่านั้น ไม่สามารถที่จะทำให้ให้เกิดความเสียหายใดๆได้

หลังจากนั้นกลุ่มผู้คนเหล่านี้ก็ได้ทำการโจมตีเป็นระยะเวลาถึงหนึ่งชั่วโมง พลังอำนาจของพวกเขาถูกใช้ไปจนหมด ไม่ว่าพวกเขาจะโจมตีกระหน่ำเข้าไปมากเพียงใด บาเรียนี้ก็เป็นเหมือนกับภูเขาขนาดใหญ่ที่ไม่ขยับเขยื้อน

“เป็นบาเรียที่ร้ายกาจจริงๆ พลังป้องกันช่างแข็งแกร่งเกินไป”

“สมกับเป็นบาเรียที่ใช้ในการผนึกเซนต์โลหิตวิญญาณ ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะสร้างความเสียหายได้แม้แต่น้อย”

“แต่หากเป็นเช่นนี้ มันก็ยิ่งบ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือ หากสถานที่นี้ไม่ได้มีสมบัติที่ล้ำค่าอย่างมหาศาลจริงๆล่ะก็ เป็นไปได้อย่างที่จะสร้างบาเรียเช่นนี้ขึ้นมา ต่อให้ข้างในจะไม่มีเซนต์โลหิตวิญญาณอยู่ ทว่าก็ยังคงมีสมบัติที่ล้ำค่าอยู่อย่างแน่นอน”

สำหรับการที่ไม่สามารถทำลายบาเรียนี้ได้นั้น ทว่ากลับไม่มีใครที่รู้สึกท้อแท้ หนำซ้ำพวกเขายิ่งรู้สึกฮึกเหิมมากกว่าเดิม เพราะมันหมายความว่าข้างในบาเรียนี้จะต้องมีสมบัติที่เหนือจินตนาการอยู่อย่างแน่นอน

พวกเขารู้สึกว่าเลือดของตนเองเดือดระอุขึ้นมา เหมือนกับกำลังจินตนาการว่าข้างในบาเรียมีสมบัติจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ มีทรัพย์สินเงินทองที่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาร่ำรวยขึ้นมาภายในคืนเดียว

“การที่จะทำลายผ่านบาเรียนี้ไปนั้น มีเพียงแค่การโยนหินวิญญาณเข้าไปอย่างนั้นหรือ?” บางคนที่นึกได้ถึงข้อความที่ถูกเขียนบนใบปลิวทันที จำเป็นต้องใช้หินวิญญาณจำนวนหนึ่งร้อยก้อนในการปลดผนึกและช่วยเหลือเซนต์โลหิตวิญญาณ

“ทว่าบาเรียนี้สามารถที่จะต้านทานพลังอำนาจทั้งหมดของพวกเรา เป็นไปได้หรือที่จะสามารถโยนหินวิญญาณเข้าไปได้?” บางคนที่สงสัยว่าบาเรียนี้จะสามารถขัดขวางทุกสิ่งทุกอย่าง ต่อให้โยนหินวิญญาณออกไปก็คงจะเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์

“ลองดูก็ไม่ได้เสียหายอะไร อย่างไรซะตอนนี้พวกเราก็ไม่มีวิธีการอื่น”

ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างก็พยักหน้า เทียบกับสมบัติข้างในพื้นที่บาเรียนี้ หินวิญญาณเพียงแค่หนึ่งร้อยก้อนไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง เป็นเพียงแค่หยดน้ำในมหาสมุทร การที่ไม่ยินยอมสละความมั่งคั่งส่วนน้อยไปนั้น ก็ไม่มีวันที่จะได้ความมั่งคั่งส่วนใหญ่มา

ทันใดนั้น บางคนก็เริ่มนำหินวิญญาณจำนวนหนึ่งร้อยก้อนออกมาจากร่างกาย จากนั้นก็โยนไปที่บาเรียตรงหน้าทันที

วิซ เกิดคลื่นระรอกที่บาเรียในทันที หินวิญญาณเหล่านี้ได้จมหายเข้าไปข้างในอย่างกะทันหัน หายไปโดยที่ไร้ร่องรอย

“สามารถที่จะโยนมันเข้าไปได้จริงๆหรือ?!”

กลุ่มของผู้คนที่ตกตะลึง เดิมทีพวกเขาก็เพียงคิดที่จะลองดู ไม่คาดคิดว่าจะได้ผลจริงๆ หินวิญญาณได้จมหายเข้าไปในบาเรียเช่นนี้ ต่อให้พวกเขาจะต้องการนำกลับมา ก็ไม่สามารถทำได้

“นอกจากหินวิญญาณ ไม่รู้ว่าจะสามารถโยนสิ่งของอื่นๆเข้าไปได้หรือไม่?” บางคนที่รู้สึกสงสัยในจุดๆนี้ เขาคิดว่าบางทีสิ่งของอื่นๆที่ไม่มีชีวิตก็อาจจะเข้าไปในบาเรียนี้ได้เช่นกัน

ทว่าเมื่อเขาได้โยนก้อนหินออกไป มันกลับกระเด็นออกมาเหมือนกระทบกับกำแพงก็ว่าได้ แตกกระจายอย่างกะทันหัน ไม่สามารถที่จะผ่านบาเรียไปได้

“บาเรียนี่ช่างเป็นเหมือนกับอสูรที่กระหายจริงๆ กลืนกินเพียงแค่หินวิญญาณ ไม่มีอะไรที่จะสามารถเข้าได้อีก” ผู้คนจำนวนมากรู้สึกหดหู่ เห็นได้ชัดว่าบาเรียนี้เป็นเหมือนกับปีศาจกินทอง

ทว่าพวกเขาจะรู้ได้อย่างไร ในช่วงเวลานี้บาเรียนี้กำลังอยู่ในการควบคุมของแมวนักปราชญ์ สามารถเลือกสิ่งที่จะผ่านเข้ามาในบาเรียนี้ได้ ไม่ว่ามันคิดที่จะทำอะไร บาเรียก็จะปฏิบัติตามคำสั่งของมันทุกอย่าง

ในช่วงเวลานี้ เซี่ยปิงนั้นกำลังบ่มเพาะอยู่ในภายในสำนักวิญญาณของเมืองฮวายหนิงโดยที่ใช้โอกาสนี้ในการตรวจสอบข้อมูลต่างๆของสำนักวิญญาณเช่นกัน

ทว่าแมวนักปราชญ์นั้นยังคงอยู่ที่นี่ รับผิดชอบในการเก็บรวบรวมหินวิญญาณจำนวนมหาศาลและดำเนินการตามแผนการที่เซี่ยปิงได้มอบหมายให้

“ทว่าในใบปลิวบอกว่าต้องการหินวิญญาณเพียงแค่หนึ่งร้อยก้อนก็สามารถที่จะช่วยเซนต์โลหิตวิญญาณออกมาได้ไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้ถึงไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ?” บางคนที่ถามขึ้นมา

“เจ้าโง่ นี่คือค่ายกลบาเรียที่ใช้ปิดผนึกเซนต์ เป็นไปได้อย่างไรที่ก้อนหินวิญญาณเพียงแค่หนึ่งร้อยก้อนจะเพียงพอ?”

“พูดถูก บางทีพวกเราแต่ละคนอาจจะต้องใช้หินวิญญาณคนละหนึ่งร้อยก้อน”

“ใช่ พวกเราทั้งหมดควรที่จะลองโยนพวกมันออกไปพร้อมๆกัน ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่”

ผู้คนต่างก็พยักหน้า พวกเขาแต่ละคนต่างก็นำหินวิญญาณของตนเองออกมาและโยนออกไปที่บาเรีย ทันใดนั้นก้อนหินวิญญาณจำนวนหลายพันก้อนก็ได้จมหายเข้าไปในบาเรียนี้อย่างกะทันหัน

แต่ปัญหาก็คือว่าหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงนั้น บาเรียนี้ก็ยังคงไร้ปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ยังคงสงบนิ่งเหมือนอย่างเดิม

อย่างไรก็ตาม แมวนักปราชญ์ที่อยู่ข้างในค่ายกลบาเรียนี้กลับหัวเราะและยิ้มออกมาอย่างเบ่งบาน มันไม่คาดคิดว่ากลุ่มคนของชนเผ่าวิญญาณเหล่านี้จะถูกหลอกลวงอย่างโง่เขลาเช่นนี้ เต็มใจที่จะโยนหินวิญญาณเข้ามา นี่ไม่ใช่เป็นการมอบเงินให้กับมันหรือ?!

มันได้ติดตามผู้นำนิกายเป็นระยะเวลาที่ไม่รู้ว่านานแค่ไหน ทว่ามันก็ไม่เคยพบเห็นเรื่องเช่นนี้มาก่อน กลุ่มของผู้คนต่อแถวกันมอบหินวิญญาณให้กับมัน เต็มใจให้โดยที่ไม่มีความลังเล

“นี่มันเรื่องอะไรกัน? จำนวนนี้ไม่เพียงพออย่างนั้นหรือ? หรือว่าข้อความบนใบปลิวนั้นจะเป็นข่าวลือที่หลอกลวงพวกเรา?” บางคนที่เริ่มสงสัยในจุดๆนี้ การที่ก้อนหินวิญญาณจำนวนหนึ่งร้อยก้อนของเขาหายไปในพริบตานั้น นี่ทำให้เขารู้สึกโศกเศร้าอย่างมาก

ถึงแม้ว่าเพื่อที่จะได้ครอบครองผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่กว่า เขาจึงยอมเสียสละหินวิญญาณเหล่านี้ ทว่าหากตอนนี้ไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลยนั้น มันก็เป็นเหมือนกับการโยนเงินทิ้งลงถังขยะก็ว่าได้

วิซ!

ในตอนนี้บาเรียก็เกิดคลื่นระรอกขึ้นมาอีกครั้ง ทันใดนั้นก็มีกระดาษสีขาวที่ปลิวออกมาจากข้างในและตกลงพื้นดินเช่นนี้

ผู้คนต่างก็สะดุ้งตกใจ ทันใดนั้นก็รีบเข้าไปดู เห็นเพียงแค่ว่าบนกระดาษมีคำเพียงแค่คำเดียว: ไม่เพียงพอ!

“บัดซบ สรุปว่าข้างในบาเรียมีผู้คนอยู่จริงๆอย่างนั้นหรือ?!”

“จะต้องเป็นเซนต์โลหิตวิญญาณ จะต้องเป็นเซนต์โลหิตวิญญาณอย่างแน่นอน เขายังไม่ตาย!”

“เยี่ยม แสดงว่าข่าวลือเรื่องนี้ก็เป็นความจริง”

“หากนึกถึงความเป็นจริง นี่ก็สมเหตุสมผลทีเดียว หินวิญญาณเพียงแค่ไม่กี่พันก้อนนั้นจะสามารถช่วยเหลือเซนต์โลหิตวิญญาณที่ถูกผนึกไว้ได้อย่างไร นี่มันเป็นไปไม่ได้ นี่จะต้องใช้หินวิญญาณในปริมาณของทั่วทั้งทวีปโลหิตวิญญาณ”

“ใช่ รีบรายงานคนอื่นๆโดยเร็ว มีเพียงแค่การที่ทุกๆคนร่วมมือกันเท่านั้นจึงจะมีโอกาสในการช่วยเหลือเซนต์โลหิตวิญญาณ”

“เมื่อใดที่เซนต์โลหิตวิญญาณกลับคืนมาอีกครั้ง เป็นไปไม่ได้ที่พวกปีศาจต่างถิ่นเหล่านั้นจะแสดงความยโสโอหังออกมาได้อีก”

ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างก็ตื่นเต้นกันอย่างมาก คิดว่ากระดาษแผ่นนี้จะต้องเป็นสิ่งที่เซนต์โลหิตวิญญาณได้โยนออกมา ถึงแม้ว่าเซนต์โลหิตวิญญาณจะมีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ ทว่าการที่ถูกผนึกอยู่นั้น ก็คงจะใช้ได้เพียงแค่วิธีการเช่นนี้เท่านั้น แจ้งให้คนอื่นๆเข้ามาช่วยเหลือ

ซู่ ซู่ ซู่!!!

ทันใดนั้นกลุ่มของผู้คนก็ได้รีบเดินทางออกไปอย่างรวดเร็ว วางแผนที่จะกลับไปยังเมืองฮวายหนิงและรายงานเรื่องนี้ให้กับผู้มีอิทธิพลในตระกูลของตนเองได้รู้

เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วใครที่สามารถช่วยเหลือเซนต์โลหิตวิญญาณได้ก่อนนั้น จะกลายเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุด จะได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาล

ในอนาคตหากมีเซนต์โลหิตวิญญาณหนุนหลังอยู่นั้น ตระกูลของพวกเขาจะไม่สามารถโลดแล่นไปตามทวีปโลหิตวิญญาณได้อย่างอิสระหรือ? ต่อให้เป็นในจักรวาลเอง ก็สามารถที่จะย่ำเท้าออกไปได้ กลายเป็นตระกูลที่รุ่งเรืองไปนับหมื่นปี มีพลังอำนาจที่สามารถปกครองทวีปได้

สายลับของสำนักวิญญาณจำนวนมากต่างก็เดินทางกลับไปอย่างเร่งรีบโดยที่ไม่ได้หยุดพัก พวกเขาต้องรีบเข้าไปรายงานผู้มีอิทธิพลระดับสูงของสำนักวิญญาณสาขาหลักในทันที ข่าวที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้ตระกูลอื่นๆได้ไปถึงที่นั่นก่อนอย่างแน่นอน

ผู้ที่สามารถช่วยเหลือเซนต์โลหิตวิญญาณและได้กลายเป็นวีรบุรุษนั้น จะต้องเป็นสำนักวิญญาณของพวกเขาเท่านั้น ไม่อย่างนั้นหากตระกูลอื่นได้เซนต์โลหิตวิญญาณไปร่วมด้วยล่ะก็ จากนั้นสำนักวิญญาณของพวกเขาจะมีอำนาจอยู่ในเหนือทวีปแห่งนี้ได้อย่างไรอีก

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

บุคคลที่ 1: “เซี่ยปิง!!! เจ้าขโมยวิทยายุทธของข้าไม่พอ เจ้ายังเอาความเป็นอมตะและคู่หมั้นของข้าไปด้วย เจ้ากับข้าจะได้เห็นดีกัน!”บุคคลที่ 2: “เขาช่างเป็นความอับอายของวงการศิลปะการต่อสู้จริงๆ”บุคคลที่ 3: “ปีศาจ! แม้แต่ลูกกวาดของเด็กเล็กๆก็ไม่เว้น”นักวิทยายุทธต่างๆของดวงดาวหยานหวงที่มีความฝันที่จะหักกระดูกของเจ้าเซี่ยปิงให้เป็นล้านๆชิ้นและดื่มเลือดของเขาให้หมดเซี่ยปิงเกาคาง: “ด้วยคะแนนความเกลียดชังที่มากขนาดนี้ ข้าจะเอาไปใช้ทำอะไรดี ข้าจะแลกเปลี่ยนคัมภีร์ที่ไร้เทียมทาน สิ่งประดิษฐ์จากสวรรค์หรือว่าวิชาบ่มเพาะอมตะ”

Options

not work with dark mode
Reset