God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ – ตอนที่ 1239

“นี่มันอะไรกัน?!”

ผู้บ่มเพาะระดับหล่อหลอมสมบัติทั้งสองคนต่างก็ตื่นตระหนกเมื่อได้เห็นภาพเงาของต้นไม้โลกนี้ พวกเขาเหมือนกับได้เห็นตัวตนที่ไม่สามารถอธิบายได้ เหมือนกับว่าเห็นต้นกำเนิดของจักรวาลและเห็นจุดจบของความโกลาหล

เลือดในร่างกายของพวกเขากำลังดุเดือดพลุ่งพล่านขึ้นมา เหมือนกับว่าความทรงจำในส่วนลึกของจิตวิญญาณได้ถูกปลุกขึ้นมา ใกล้ที่จะหวาดกลัวจนหมดสติไปเต็มที

“ท่าไม่ดีแล้ว ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจิตวิญญาณของพวกเราจะต้องล่มสลายอย่างแน่นอน”

“ลงมือทันที อย่าให้เจ้าเด็กนี่ได้ทำอะไร สังหารเขาซะ!”

ถึงอย่างไรทั้งสองคนก็ยังเป็นยอดฝีมือในระดับหล่อหลอมสมบัติ พวกเขาได้กัดลิ้นของตนเองและพึ่งพาความเจ็บปวดของร่างกายในการฟื้นคืนสติตนเองขึ้นมาจากการถูกกดดันทางจิตวิญญาณ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มที่จะทำการโจมตีสวนกลับ

คนหนึ่งถือดาบ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยจิตดาบที่ทะยานขึ้นสวรรค์ เคลื่อนไหวออกไปทันที ดาบพลังฉีเป็นเหมือนกับลวด เสียงดาบดังขึ้นมาเหมือนกับสายฟ้าฟาด ฟันออกไปสู่เซี่ยปิง นี่คือดาบที่มีพลังอำนาจที่จะสามารถกำจัดเดม่อนและปีศาจชั่วร้ายได้

อีกคนหนึ่งใช้ค้อน เขาได้ทุบลงไปอย่างโหดเหี้ยม เป็นเหมือนกับยักษ์โบราณ กล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกายปูดบวมออกมา ร่างกายสูงขึ้นมาห้าเมตร ค้อนที่ทุบลงไปนั้นเหมือนกับว่าจะทำให้พื้นที่ในระยะหลายกิโลเมตรเปลี่ยนกลายเป็นสุญญากาศ อากาศทั้งหมดถูกปัดเป่าออกไป

ยอดฝีมือทั้งสองคนที่ได้เคลื่อนไหวออกมาพร้อมกันนั้น พลังอำนาจนี้ทำให้ผู้คนแตกตื่นและหวาดกลัว ต่อให้พวกเขาจะถูกลดระดับมาอยู่ในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์นั้น ทว่าพลังการต่อสู้ของพวกเขาก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ปกติธรรมดาจะเทียบด้วยได้

“ไสหัวไปซะ!”

เซี่ยปิงมองอย่างที่ไม่ต้องการมอง ทั่วทั้งร่างกายพุ่งออกไป ไหลเวียนร่างจักรพรรดิพงไพรขึ้นมา ร่างกายของเขาห่อหุ้มไปด้วยแสงสีเขียว ข้างบนมีสัญลักษณ์สีเขียนจำนวนนับไม่ถ้วนที่หมุนเวียนอยู่ เป็นเหมือนกับแสงของต้นไม้โลกก็ว่าได้ อยู่ในขอบเขตที่มีภูมิคุ้มกันต่อกฎทุกอย่าง

แม้แต่ผิวหนังของเขาก็มีต้นไม้มากมายล้อมรอบ เป็นเหมือนกับพื้นผิวของต้นไม้ขนาดใหญ่ก็ว่าได้ แต่ละลวดลายนั้นมีพลังอำนาจของธาตุไม้อยู่

ตึบ!

การพุ่งชนเพียงครั้งเดียวก็กระแทกจนผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติทั้งสองคนทรุดตัวลงอย่างกะทันหัน พลังของพวกเขาได้ล่มสลายหายไป พลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวของเซี่ยปิงได้ถาโถมเข้าไปเหมือนกับน้ำท่วม

“ร่างกายของมนุษย์สามารถที่จะมีพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้หรือ ทำไมถึงทรงอำนาจจนถึงขั้นนี้ได้?”

“ร่างเซนต์ นี่จะต้องเป็นร่างเซนต์อย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะสามารถเอาชนะพวกเราได้อย่างง่ายดายเช่นนี้”

ผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติทั้งสองคนต่างก็ตกใจอย่างมาก พลังอำนาจทางกายของฝ่ายตรงข้ามนั้นน่าสะพรึงกลัวเกินไป เป็นเหมือนกับสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ที่ได้ผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชนก็ว่าได้ พลังอำนาจปกติธรรมดาไม่สามารถที่จะเจาะทะลวงผ่านผิวหนังของฝ่ายตรงข้ามได้แม้แต่น้อย

อีกทั้งการกระแทกของศัตรูเบาๆ พวกเขากลับรู้สึกถึงเลือดและพลังฉีของตนเองที่พลุ่งพล่านทันที อวัยวะภายในได้รับความเสียหาย

แม้ว่าพวกเขานั้นได้พัฒนาขึ้นมาในระดับหล่อหลอมสมบัติ ทว่าความแข็งแกร่งของร่างกายพวกเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก หากเผชิญกันซึ่งๆหน้ากัน พวกเขานั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าชายหนุ่มตรงหน้าแม้แต่น้อย

“การที่สามารถควบแน่นร่างเซนต์ขึ้นมารวมถึงพรสวรรค์เช่นนี้ เขาจะต้องไม่ใช่บุคคลธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน ครั้งนี้พวกเราเจอตอเข้าแล้ว ไม่ควรที่จะเอาเท้าเหยียบลงไปที่น้ำโคลน”

ในช่วงเวลานี้ ในที่สุดพวกเขาก็ล่วงรู้ว่าตนเองได้ท้าทายบุคคลที่น่าสะพรึงกลัวแค่ไหน

บุคคลที่มีภูมิหลังดังกล่าวนั้น ตระกูลปกติธรรมดาหรือว่าตระกูลเฉียนนั้นจะสามารถเทียบด้วยได้หรือ? บางทีฝ่ายตรงข้ามอาจจะมีต้นกำเนิดมาจากตระกูลเซนต์ มีผู้มีอิทธิพลระดับสูงหนุนหลังอยู่

การที่บุคคลเช่นนี้จะบดขยี้พวกเขานั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างมาก หากก่อนหน้านี้พวกเขาล่วงรู้ล่ะก็ ต่อให้ตายก็จะไม่เอาเท้าลงไปเหยียบในน้ำโคลนเด็ดขาด ทว่าตอนนี้จะรู้สึกผิดอย่างไรก็สายเกินไปแล้ว

ทันใดนั้นเซี่ยปิงก็ได้ลงมืออีกครั้ง เขาได้ชี้นิ้วออกไป พลังเวทมนตร์ธาตุไม้ที่น่าสะพรึงกลัวได้ปะทุออกมา บนอากาศนั้นมีเข็มสีครามจำนวนนับไม่ถ้วนที่ปรากฏขึ้นมา นี่คือพลังเวทมนตร์ของทักษะจักรพรรดิพงไพร

ตึบ!

ความเร็วของพลังอำนาจนี้รวดเร็วอย่างถึงที่สุด ฉีกอากาศออกไป เจาะทะลวงเข้าไปในร่างของผู้บ่มเพาะระดับหล่อหลอมสมบัติสองคนนี้อย่างกะทันหัน

“ท่าไม่ดีแล้ว” ทั้งสองคนตะโกนออกมา พวกเขารู้สึกว่าพลังเวทมนตร์ที่ผันผวนได้เจาะเข้ามาในร่างกายของตนเอง อีกทั้งยังเป็นเหมือนกับเมล็ดที่ได้หยั่งรากในร่างกายของตนเอง ดึงดูดพลังอำนาจของเลือดเนื้อพวกเขาไป

ทว่าไม่ทันรอให้ทั้งสองคนคิดได้ว่าสิ่งนี้คืออะไร พลังเวทมนตร์ธาตุไม้นี้ก็ได้พองออกมาอย่างกะทันหัน เปลี่ยนกลายเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ เติบโตขึ้นมาจากภายในร่างกายของพวกเขา ทำให้ร่างกายของพวกเขาแตกกระจายออกไปกลายเป็นชิ้นๆอย่างกะทันหัน

“อ๊าก!”

ทั้งสองคนส่งเสียงร้องตะโกนออกมาอย่างน่าสมเพชทันที วินาทีต่อมาพวกเขาก็ตายไปอย่างน่าสลด เปลี่ยนกลายเป็นกลุ่มก้อนเนื้อบด เลือดเกือบที่จะไหลอาบทั่วพื้นดิน กลิ่นเหม็นคาวของเลือดคละคลุ้งทั่วอากาศ

“มันเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?!”

เฉียนซานไม่สามารถที่จะเชื่อสายตาของตนเองได้ เขาได้ใช้ทรัพยากรมหาศาลในการหายอดฝีมือในระดับหล่อหลอมสมบัติทั้งสามคนมาเป็นบอดี้การ์ดของตนเอง อีกทั้งเดิมทีการที่ผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติสามคนจะสังหารผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์นั้น มันควรที่จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างมาก

ทว่าในตอนนี้ยอดฝีมือทั้งสามกลับถูกสังหารไปเสียเอง นี่ทำให้เขากำลังคิดว่าตนเองกำลังอยู่ในความฝันก็ว่าได้

ทว่าเมื่อเห็นเซี่ยปิงที่เข้ามาใกล้ตนเอง เขาก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทันใดนั้นก็ได้ตะโกนออกไป “ทุกๆคนร่วมมือกัน สังหารเขาซะ รีบสังหารเขาทันที หลังจากเหตุการณ์นี้ ข้าจะมองรางวัลให้อย่างงาม มอบรางวัลให้อย่างงาม อ๊าก!”

เขาได้สั่งการลูกน้องกว่าร้อยคนของตนเองอย่างบ้าคลั่งซึ่งรวมถึงบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนหน้านี้เช่นกัน

ซู่ ซู่ ซู่!!!

ทันใดนั้นลูกน้องเหล่านี้ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหันเช่นกัน ล่วงรู้ว่าหากไม่สังหารเซี่ยปิง พวกเขาจะต้องเป็นฝ่ายที่ถูกสังหารเสียเอง แต่ละคนต่างก็เข้าไปล้อมรอบและแสดงความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของตนเองออกมา

พลังอำนาจของยอดฝีมือระดับกายาศักดิ์สิทธิ์นับสิบคนรวมถึงผู้บ่มเพาะในระดับอื่นๆที่ปะทุออกมาพร้อมๆกันนั้น เมื่อใดที่ถูกโจมตีเข้าไป ต่อให้ไม่ตาย ก็จะต้องบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน

“บดขยี้ ดวงดาว!”

เซี่ยปิงไหลเวียนทักษะดึงดาว รูขุมขนนับไม่ถ้วนของเขาพ่นพลังอำนาจของดวงดาวออกมา จุดเค้นพลังฉีภายในร่างกายปรากฏดวงดาวขึ้นมา360ดวงและร่ายรำเหมือนกับเป็นกลุ่มดาวก็ว่าได้

ในช่วงเวลานี้ ทั่วทั้งท้องฟ้าเหมือนกับว่าตกลงสู่ความมืดมิด เปลี่ยนกลายเป็นท้องฟ้ายามค่ำคืน ทั่วทั้งท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยดวงดาว ในเวลาเดียวก็เกิดแรงโน้มถ่วงที่น่าสะพรึงกลัวขึ้นมาในพื้นที่บริเวณนี้

ปัง!

วินาทีต่อมา อุกกาบาตยักษ์จำนวนมากก็ควบแน่นขึ้นมาจากพลังเวทมนตร์และตกลงมาจากอากาศเช่นนี้ กวาดผ่านท้องฟ้า เปลวไฟลุกไหม้ กระแทกลงมาสู่ผู้คน

อุกกาบาตเหล่านี้มีความหนาและเรียบง่าย ดูเหมือนว่าเต็มไปด้วยกระแสพลังฉีของความโกลาหล แต่ละลูกนั้นมีน้ำหนักอย่างน้อยหลายร้อยตัน อุกกาบาตเช่นนี้ที่ตกลงมาจากท้องฟ้านั้น เห็นได้ชัดว่ามันจะมีแรงกระแทกแค่ไหน

“อ๊าก!!”

ทันใดนั้นกลุ่มของผู้คนก็ส่งเสียงร้องตะโกนออกมาอย่างน่าสมเพช นี่เป็นเหมือนกับการเผชิญกับภัยพิบัติก็ว่าได้ ไม่สามารถที่จะต้านทานได้

อุกกาบาตที่กระแทกลงมา กลุ่มของผู้คนเหล่านี้ไม่สามารถหลบหลีกออกไป ถูกอัดจนกลายเป็นก้อนเนื้อบดอย่างกะทันหัน

ต่อให้ผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้จะแสดงพลังอำนาจทั้งหมดออกมา ทว่าก็ยังคงไม่มีทางรอด การป้องกันพลังเวทมนตร์ของพวกเขาถูกบดทำลายไปอย่างกะทันหัน ที่พื้นก็ปรากฏเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่จำนวนมากเช่นกัน

หลังจากไม่กี่ลมหายใจ ผู้คนทั้งหมดที่นี่ก็ถูกกำจัดไป แม้แต่หัวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนหน้านี้ก็เช่นกัน ตายไปในการโจมตีเมื่อครู่นี้ ถูกบดขยี้จนเลือดเนื้อและกระดูกกระจัดกระจายไปทั่วพื้นที่ เลือดไหลอาบพื้น

รอบๆนั้นมีเพียงแค่เฉียนซานเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะว่าในช่วงเวลาที่อุกกาบาตกระแทกลงมานั้น บนตัวของเขาก็มีพลังงานสีทองที่เอ่อล้นออกมาในทันที ระเบิดอุกกาบาตที่กระแทกลงมากลายเป็นผุยผง

เซี่ยปิงก็ล่วงรู้ทันทีว่านี่จะต้องเป็นยันต์ที่เฉียนต้าผู้นำตระกูลเฉียนได้มอบให้กับเฉียนซานไว้ป้องกันตัว ในช่วงเวลาวิกฤติสามารถที่จะช่วยชีวิตสุนัขของเฉียนซานได้ มีพลังป้องกันที่ทรงอำนาจอย่างถึงที่สุด

“ทีนี้ก็เป็นตาของเจ้า”

เซี่ยปิงมองเฉียนซานอย่างดูถูก ดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงจิตสังหารที่ก่อตัวขึ้นเป็นสสาร ต่อให้บนตัวของฝ่ายตรงข้ามจะมีพลังงานป้องกันอยู่ ทว่ามันก็ต้องมีเวลาที่พลังงานนี้จะหมดไป

เมื่อใดที่พลังงานของยันต์หมดไปนั้น เฉียนซานก็จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

“พ่อ ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย มีบางคนที่ต้องการสังหารข้า ต้องการสังหารข้า อ๊าก!” ในช่วงเวลานี้เฉียนซานตกอยู่ในความสิ้นหวัง ไม่มีท่าทียโสโอหังของนายน้อยตระกูลเฉียนอีกต่อไป เป็นเหมือนกับสุนัขที่จนมุม

การที่เผชิญกับความเป็นความตายนั้น เขาเฉียนซานก็เป็นเหมือนกับคนอื่นๆเช่นกัน

“หยุด!”

เมื่อเซี่ยปิงต้องการที่จะลงมือสังหารเฉียนซาน ระยะที่ห่างออกไปก็มีเสียงที่ดังขึ้นมาทันที พลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวได้ถ่ายทอดเข้ามา ฉีกสนามพลังฉีของเสาจองจำมังกรอย่างกะทันหัน

แม้แต่เสาจองจำมังกรที่เป็นสิ่งประดิษฐ์สมบัติขั้นสุดยอดเองก็ไม่สามารถที่จะต้านทานพลังทำลายล้างที่ทรงอำนาจนี้ได้ การโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว ก็ทำให้เกิดรอยแตกร้าวจำนวนนับไม่ถ้วนบนโดมสนามพลังฉีของเสาจองจำมังกรอย่างกะทันหัน

เซี่ยปิงก็เคลื่อนไหวทันที นำเสาจองจำมังกรนี้กลับมาอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการที่มันจะพังทลายภายใต้พลังอำนาจนี้ ทว่าการที่นำกลับมานั้น ทั่วทั้งสนามพลังฉีนี้ก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย กลับคืนมาสู่สภาพอากาศที่สว่างสดใส

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

บุคคลที่ 1: “เซี่ยปิง!!! เจ้าขโมยวิทยายุทธของข้าไม่พอ เจ้ายังเอาความเป็นอมตะและคู่หมั้นของข้าไปด้วย เจ้ากับข้าจะได้เห็นดีกัน!”บุคคลที่ 2: “เขาช่างเป็นความอับอายของวงการศิลปะการต่อสู้จริงๆ”บุคคลที่ 3: “ปีศาจ! แม้แต่ลูกกวาดของเด็กเล็กๆก็ไม่เว้น”นักวิทยายุทธต่างๆของดวงดาวหยานหวงที่มีความฝันที่จะหักกระดูกของเจ้าเซี่ยปิงให้เป็นล้านๆชิ้นและดื่มเลือดของเขาให้หมดเซี่ยปิงเกาคาง: “ด้วยคะแนนความเกลียดชังที่มากขนาดนี้ ข้าจะเอาไปใช้ทำอะไรดี ข้าจะแลกเปลี่ยนคัมภีร์ที่ไร้เทียมทาน สิ่งประดิษฐ์จากสวรรค์หรือว่าวิชาบ่มเพาะอมตะ”

Options

not work with dark mode
Reset