Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 23.1 เข้าสู่สถานะปีศาจกลายร่าง (1)

“หนีไปเร็ว!” โจวเหว่ยชิงตะโกนบอกซ่างกวนปิงเอ๋อร์ด้วยความโกรธและความวิตกกังวล แต่ทว่าในเวลานี้ราชาหมาป่าโลกันตร์ได้ปล่อยกงจักรวายุ 12 เล่มออกมาเพื่อโจมตีเขาอีกครั้งแล้ว
หากถูกโจมตีจากหลายทิศทางเช่นนี้ ด้วยความเร็วปัจจุบันของโจวเหว่ยชิง แน่นอนว่าเขาไม่อาจจะหลบหนีพ้นได้ ดังนั้นเด้กหนุ่มจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาอีกครั้งเพื่อเอาตัวรอดไปก่อน
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ไม่สนใจเสียงของโจวเหว่ยชิง ตอนนี้เธออยู่ห่างจากเขาประมาณ 5 หลา เธอสะบัดมือซ้ายขึ้น กงจักรวายุ 3 เล่มก็บินออกไปเฉือนใส่หมาป่าโลกันตร์ทั้ง 3 ตัวตรงหน้า ร่างของเธอขยับสั่นไหววูบวาบในอากาศอีกครั้งก่อนจะมาปรากฏตัวข้างๆ โจวเหว่ยชิงในชั่วพริบตา เธอพูดอย่างช้าๆ และชัดเจน “เรา…จะ…ร่วมเป็น…และ…ร่วมตาย…ด้วยกัน”
เนื่องจากโจวเหว่ยชิงมีพลังปราณสวรรค์อยู่ในระดับที่ 4 เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว แม้จะไม่ได้ใช้ธนูราชัน แต่การใช้ทักษะธาตุซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ทำให้เด็กหนุ่มต้องสูญเสียปราณไปจำนวนมหาศาล อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินคำพูดของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ เขาก็รู้สึกราวกับว่าเลือดในตัวกำลังเดือดพล่าน
นี่ช่างคุ้มจริงๆ แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้ว แม้ว่าชั่วชีวิตของข้าจะได้พบกับผู้หญิงคนนี้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่การตายเพื่อเธอมันก็คุ้มค่าแล้ว
นัยน์ตาของราชาหมาป่าโลกันตร์นั้นแผ่ไอเยือกเย็นและโหดเหี้ยมออกมา หลังจากมันได้แลกเปลี่ยนการโจมตีกับโจวเหว่ยชิงไปหลายครั้ง ในที่สุดมันก็ค้นพบพละกำลังที่แท้จริงของเขาแล้ว แน่นอน มันรู้ว่านอกจากขาขวาของเขาแล้ว มนุษย์คนนั้นก็ไม่อาจนับเป็นภัยคุกคามอะไรได้เลย อีกทั้งเขายังไม่มีปราณสวรรค์เหลือมากพอให้ยื้อเวลาไว้ได้นานกว่านี้แล้วด้วย ดังนั้น มันจึงคิดว่าตัวมันสามารถกำจัดโจวเหว่ยชิงได้อย่างง่ายดายราวกับเป่าฝุ่นผง อีกทั้งยังไม่รู้สึกว่าจะต้องรีบร้อนอะไร มันไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะอื่นๆ ช่วยเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นมันจึงส่งเพียงแค่กงจักรวายุอีก 12 เล่มออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อปิดโอกาสไม่ให้โอกาสโจวเหว่ยชิงได้เข้าใกล้มันมากกว่านี้  คราวนี้มันฉลาดกว่าเดิมมาก แทนที่จะส่งกงจักรวายุเหล่านั้นพุ่งตรงไปยังโจวเหว่ยชิง แต่ทว่าตอนนี้มันกลับเปลี่ยนเส้นทางมุ่งไปยังซ่างกวนปิงเอ๋อร์แทน
ไม่ว่าทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาของมันจะแข็งแกร่งสักเพียงใด ยังไงซะมันก็เคลื่อนย้ายใครบางคนไปกับมันด้วยไม่ได้อยู่ดี อย่างน้อยระดับพลังของโจวเหว่ยชิงในตอนนี้ก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
กงจักรวายุทั้ง 12 เล่มกำลังพุ่งเข้าหาเธอจากทุกทิศทุกทางและปิดกั้นเส้นทางหลบหนีที่เป็นไปได้ทั้งหมด เมื่อเห็นดังนั้น ซ่างกวนปิงเอ๋อร์จึงหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง เธอกำลังยอมรับชะตากรรมของตนเองอย่างว่าง่าย อย่างน้อยเธอได้อยู่ข้างๆ เขาก่อนที่เธอจะต้องตาย
“ให้ตายเถอะ! ยัยผู้หญิงโง่!” โจวเหว่ยชิงยกขาขวาขึ้นปัดกงจักรวายุ 6 เล่มทิ้งไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กระโจนเข้าไปผลักซ่างกวนปิงเอ๋อร์จนเธอล้มลงไปติดพื้น
กงจักรวายุปะทะเข้ากับขาขวาของโจวเหว่ยชิงจนเกิดเสียงดัง *เคร้ง* ทันใดนั้นขากางเกงของเขาก็ถูกฉีกออกเป็นริ้วๆ เผยให้เห็นผิวหนังข้างในที่มีลายเสือสีดำกำลังแผ่ขยายออกมาจนทั่ว
ขาขวาปีศาจนั้นแข็งแกร่งมากอย่างไม่ต้องสงสัย ภายใต้การโจมตีที่โหดร้ายทารุณ มันก็ยังคงไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย อนิจจา พลังนั่นมีไว้สำหรับขาขวาของเขาเพียงเท่านั้น …
แม้ว่โจวเหว่ยชิงจะกระโดดหนีและกวาดขาขวาออกไปรับการโจมตีของกงจักรวายุทั้ง 6 เล่มได้สำเร็จ  แต่ทว่ากงจักรวายุ 3 เล่มสุดท้ายที่ตามมาก็ยังคงกระแทกเข้าใส่ร่างกายของเขาอยู่ดี
เมื่อกงจักรพวกนั้นพุ่งเข้าเฉือนร่างของโจวเหว่ยชิง ทันใดนั้นก็มีเสียงราวกับเหล็กแข็งๆ กำลังกระทบกระทั่งกันจนแสบแก้วหู โจวเหว่ยชิงรู้สึกว่าบริเวณแผ่นหลังของเขากำลังแสบร้อนและเกราะอ่อนโลหะผสมไทเทเนียมก็กำลังถูกใบมีดคมๆ เหล่านั้นฉีกกระชากออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แม้ว่าโลหะผสมไทเทเนียมจะแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่เพราะเกราะอ่อนนั้นค่อนข้างบาง และอสรพิษวิเศษเองก็เป็นเพียงอสูรสวรรค์ระดับปฐมเท่านั้น ดังนั้นผิวหนังของมันจึงไม่สามารถต้านทานพลังกงจักรวายุของราชาหมาป่าโลกันตร์ได้ แม้ว่าเกราะอ่อนนี้จะสามารถลดทอนแรงปะทะและพลังทำลายล้างของกงจักรวายุส่วนใหญ่ได้ แต่ทว่าตัวมันเองก็ต้องแตกออกเป็นเสี่ยงๆ จากการทำเช่นนั้นด้วย
หลังจากแผ่นหลังของเขาปะทะเข้ากับใบมีดพวกนั้น โจวเหว่ยชิงก็แทบจะกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ กงจักรวายุได้ทิ้งรอยแผลลึกเอาไว้ถึง 3 รอย มันลากผ่านเป็นทางยาวพร้อมกับมีเลือดไหลซึมออกมาเป็นวงกว้าง
จู่ๆก็มีเสียงวิ้งๆ ดังขึ้นข้างหูของเขา โจวเหว่ยชิงรู้สึกราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังบุกเคลือบคลานเข้ามาในสมอง วงล้อทักษะธาตุค่อยๆ กลายเป็นสีแดงเลือดไปในพริบตา อีกทั้งพลังปราณสวรรค์ในตันเถียนของเขาก็ยังดูเหมือนจะระเบิดออกมาอย่างรวดเร็ว ขั้วอารมณ์ที่แสนชั่วร้าย โหดเหี้ยมและไร้เมตตาบุกทะลวงเข้ามาโจมตีจิตใต้สำนึกของโจวเหว่ยชิง ทำให้เด็กหนุ่มต้องผจญกับความรู้สึกด้านลบต่างๆ ที่ประดังประเดเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ถูกโจวเหว่ยชิงกดลงติดกับพื้น เธอทำเสียงฮึดฮัดอู้อี้ขณะที่หอบหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง เธอลืมตาขึ้นอีกครั้งและพบว่าดวงตาของโจวเหว่ยชิงได้เปลี่ยนไปเป็นสีแดงก่ำคล้ายเลือด และนั่นยังเป็นสีเลือดที่เข้มข้นกว่าคืนที่เขาใช้เธอเป็นเครื่องสังเวยเสียอีก กลิ่นอายเยือกเย็นอันทรงพลังขุมหนึ่งพลันระเบิดออกมาจากร่างของเขา  ทันใดนั้นความรู้สึกหนาวเย็นไปถึงขั้วหัวใจและไอชั่วร้ายที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขาก็ทำให้ซ่างกวนปิงเอ๋อร์สั่นระริกด้วยความหวาดกลัว
เมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนลวกที่พัดเข้ามาโดนใบหน้าของเธอ หัวใจของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็เริ่มสั่นเทาทันที ทันใดนั้น มือขวาของโจวเหว่ยชิงก็ฟาดลงกับพื้นตรงหน้าเธออย่างรุนแรง เฉียดผ่านใบหน้าของเธอไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น
หลังจากเกิดเสียง *ปั่ก* พื้นดินตรงหน้าเธอก็ทรุดตัวลงไปประมาณ 3 ฟุตในชั่วพริบตาทันที แม้ว่าเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่นั่นก็ทำให้ร่างของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ต้องไถลตกลงไปในหลุมนั้นด้วย ในทางตรงกันข้าม โจวเหว่ยชิงกลับใช้แรงต้านจากพื้นดีดตัวขึ้นสูงและกระโจนขึ้นไปเหนืออากาศ
ทว่าไม่กี่อึดใจต่อมาโจวเหว่ยชิงก็ร่วงผล็อยลงมาจากตามแนวขวาง ในขณะที่ร่างของเขากำลังร่วงหล่นลงมานั้น เสื้อผ้าของเขาสวมใส่อยู่ก็พลันปริแตกออกเป็นชิ้นๆ ราวกับว่าภายในร่างกำลังเกิดระเบิดปะทุขึ้นจากภายใน เสียงกระดูกปริแตกดังขึ้นมา กล้ามเนื้อของเขาเติบโตและขยายใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนั้นผิวหนังก็ยังมีลายเสือดำแผ่ขยายออกมาจนไม่มีที่ว่าง ลวดลายเหล่านั้นก็ราวกับว่ามีชีวิตขึ้นมา พวกมันเคลื่อนไหวชอนไชบนผิวหนังของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน และนั่นก็คือสิ่งที่ดูน่ากลัวที่สุดในตอนนี้
มณีสวรรค์ที่ลอยวนอยู่รอบข้อมือทั้ง 2 ข้างของโจวเหว่ยชิงดูเหมือนกำลังจะเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงบางอย่าง หยกน้ำแข็งนั้นราวกับเปลี่ยนไปเป็นบริสุทธิ์มากขึ้นและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ไพฑูรย์ตาแมวที่ข้อมืออีกข้างก็เข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเช่นเดียวกัน ประกายแสงสีแดงกุหลาบพลันสว่างไสวมากขึ้นและสีสดขึ้นมากกว่าเดิม ราวกับว่ามันคือหยดเลือดหยดหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ประกายแสงที่ระยิบระยับอยู่รอบๆ มณีเหล่านั้นก็ยังเปลี่ยนไปเป็นแสงสีเทาอีกด้วย
ร่างของโจวเหว่ยชิงหกกลับอยู่กลางอากาศ ถึง 3 ครั้ง ในที่สุดเด็กหนุ่มก็ร่วงลงถึงพื้นพร้อมกับเสียงกระแทกดังสนั่น มือและเท้าซ้ายของเขาถูกใช้รองรับแรงกระแทกทั้งหมดในขณะที่ขาขวาถูกยกขึ้นชี้ฟ้า เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ขาขวาของโจวเหว่ยชิงได้กลายเป็นสีดำสนิททั้งหมด ทั้งยังมีไอพลังสีเทาหนาแน่นกลุ่มหนึ่งหมุนวนอยู่รอบๆ ผมสั้นสีดำดุจขนกาของเขาเปลี่ยนเป็นสีเทาทั่วทั้งศีรษะ ยิ่งไปกว่านั้น ดวงตาสีแดงก่ำก็ยังส่งผลให้โจวเหว่ยชิงดูน่าเกรงขามมากขึ้นอีกด้วย
“ปีศาจกลายร่าง!” ทันใดนั้นคำๆ หนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ ในเวลานี้ หัวใจของเธอกำลังบีบรัดอย่างรุนแรงด้วยความหวาดกลัว ไม่ต้องสงสัยเลยว่ารูปโฉมภายนอกของโจวเหว่ยชิงในตอนนี้คล้ายกับสถานะปีศาจกลายร่างในตำนานแค่ไหน เท่าที่เธอรู้ สถานะปีศาจกลายร่างจะเกิดขึ้นได้ 2 แบบเท่านั้น
แบบแรกก็คือเมื่อจ้าวมณีสวรรค์ที่มีทักษะธาตุปีศาจได้รับการกระตุ้นจากภายนอกอย่างรุนแรง พวกเขาจึงเข้าสู่สถานะปีศาจกลายร่างชั่วคราว ในระหว่างการเข้าสู่สถานะปีศาจกลายร่าง จ้าวมณีสวรรค์ผู้นั้นจะกลายเป็นปีศาจบ้าคลั่ง อีกทั้งพละกำลังความแข็งแกร่งก็จะจะเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก  อย่างไรก็ตาม เขาจะขาดสติเพราะถูกปีศาจควบคุม ดังนั้นจึงมักจะสังหารสิ่งมีชีวิตรอบๆ ตัวอย่างเลือดเย็นจนกระทั่งไม่มีอะไรเหลือรอดไปแม้แต่อย่างเดียว สถานการณ์เช่นนี้อาจจะฟังดูไม่ค่อยเข้าท่า แต่ทว่าก็ยังมีผลดีอยู่บ้าง นี่เป็นเพราะหลังจากเข่นฆ่าสังหารผู้คนไปจนหมดสิ้นแล้ว จ้าวมณีสวรรค์คนนั้นก็จะสามารถควบคุมจิตใจของตนเองได้ แม้ว่าเขาจะอ่อนแอลงไปในชั่วระยะเวลาหนึ่งก็ตาม
อนิจจา แบบที่ 2 นั้นกลับน่ากลัวและเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อจ้าวมณีสวรรค์ มันคือสถานะปีศาจกลายร่างแบบสมบูรณ์ การเข้าสู่สถานะเช่นนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่เมื่อมันเกิดขึ้น ก็มีเพียงคำว่า “ภัยพิบัติ” เท่านั้นที่จะใช้อธิบายได้
เมื่อจ้าวมณีสวรรค์ต้องเข้าสู่สถานะปีศาจกลายร่างแบบสมบูรณ์ เขาจะกลายเป็นปีศาจอย่างสมบูรณ์และไม่เหลือความเป็นมนุษย์อีกต่อไป กระบวนการเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิตรอบๆ ตัวทิ้งอย่างโหดเหี้ยมนั้นยังคงมีอยู่เช่นเดียวกับแบบแรก แต่ทว่าในครั้งนี้เขาจะต้องสังหารผู้คนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะทนไม่ไหวและขาดใจตายไปเอง ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยน แปลงเช่นนี้มักจะนำมาซึ่งความแข็งแกร่งและพลังการทำลายล้างที่เพิ่มขึ้นจากสถานะปีศาจกลายร่างแบบเดิมหลายเท่ามาก นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมในอดีตสำนักกักเก็บทักษะของอาณาจักรใหญ่ๆ ในดินแดนไร้ขอบเขตจึงต้องรวมกำลังกันเพื่อตามล่าเหล่าจ้าวมณีสวรรค์ทักษะธาตุปีศาจพวกนี้
……………………………………………

Heavenly Jewel Change

Heavenly Jewel Change

ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์ ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!? ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น… หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย! ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด! สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า… แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ? ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร! นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร Every human has their Personal Jewel of power, when awakened it can either be an Elemental Jewel or Physical Jewel. They circle the right and left wrists like bracelets of power. Heavenly Jewels are like the twins born, meaning when both Elemental and Physical Jewels are Awakened for the same person, the pair is known as Heavenly Jewels. Those who have the Physical Jewels are known as Physical Jewel Masters, those with Elemental Jewels are Elemental Jewel Masters, and those who train with Heavenly Jewels are naturally called Heavenly Jewel Masters. Heavenly Jewel Masters have a highest level of 12 pairs of jewels, as such their training progress is known as Heavenly Jewels 12 Changes. Our MC here is an archer who has such a pair of Heavenly Jewels.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset