Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 33.1 แมวอ้วนกลายเป็นแมวยักษ์ (1)

ขณะที่พายุแสงสีเหลืองพุ่งทะยานขึ้นสูงเกือบ 10 เมตร มันได้ก็ได้หอบเอาหิมะและเศษน้ำแข็งพุ่งตรงเข้าโจมตีพวกเขาด้วย อานุภาพของพายุลูกนั้นแข็งแกร่งจนน่าใจหาย  พวกเขาทั้งหมดรีบถีบตัวขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงพายุน้ำแข็งเหล่านั้น แต่ทว่าการโจมตีของราชาหมียักษ์ตัวนั้นรวดเร็วเกินไป หัวเฟิงที่อยู่ข้างหน้าจึงถูกมันพัดกระแทกจนล้มลงหมดสติไปขณะที่ยังลอยตัวอยู่กลางอากาศ แน่นอนว่าสมาชิกคนอื่นๆ ของหน่วยเกาทัณฑ์สวรรค์ก็ไม่ต่างกัน แม้ว่าพวกเขาจะสามารถกระโดดขึ้นสูง 10 เมตรได้สบายๆ แต่ปัญหาก็คือในตอนที่อุ้งเท้าของราชาหมีสวรรค์ญาณน้ำแข็งฟาดลงกับพื้นอย่างเกรี้ยวกราดนั้น ผลที่ตามมาคือแผ่นดินใต้เท้าสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และนั่นจึงทำให้ทุกคนไม่สามารถถีบตัวขึ้นไปเหนืออากาศได้มั่นคงเหมือนเคย
หลัวเขอตี้เพิ่งจะกระโดดขึ้นไปได้เพียง 5 เมตรก่อนที่จะถูกพายุหิมะของทักษะผืนดินคำรามกลืนกินเข้าไป เช่นเดียวกับเกาเฉินและฮั่นโม่ที่กระโดดขึ้นไปได้สูงกว่าเขาเพียงเล็กน้อย ส่วนมู่เอินนั้นย่ำแย่ที่สุด ในขณะที่เขาพยายามจะหันกลับไปคว้าตัวซ่างกวนปิงเอ๋อร์และโจวเหว่ยชิง ยังไม่ทันแม้แต่จะกระโดดขึ้นเหนือพื้นดินร่างทั้งร่างก็ถูกห่อหุ้มเอาไว้แล้ว
โจวเหว่ยชิงและซ่างกวนปิงเอ๋อร์ยืนอยู่ในระยะที่ไกลกว่าคนอื่นๆ มาก แต่ทว่าเมื่อพายุน้ำแข็งลูกนั้นถูกซัดเข้ามา มันก็อยู่ห่างจากพวกเขาออกไปเล็กน้อยเท่านั้น โจวเหว่ยชิงจึงใช้ประโยชน์จากสัญชาตญาณของคนวัยหนุ่มสาว นั่นก็คือความสามารถในการขยับตัวตอบสนองอย่างรวดเร็ว
ความทรงจำเกี่ยวกับแท่งน้ำแข็งแหลมๆ ก่อนหน้านี้ยังคงสดใหม่อยู่ในใจของเขา และทันทีที่เขาเห็นพายุลูกนั้นพุ่งตรงมา เขาก็ไม่เหลือเวลาให้รั้งรออีก รีบพุ่งไปคว้าร่างซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก่อนจะหมุนเวียนพลังปราณสวรรค์ทั้งหมดไปที่ขาขวาและกระแทกลงกับพื้นสุดแรงเกิด เคราะห์ดีที่ขาของเขากระแทกกับพื้นเกือบจะในเวลาเดียวกับที่หมีสวรรค์วิญญาณน้ำแข็งฟาดอุ้งมือกับพื้น ขาขวาข้างนั้นส่งเขาพร้อมกับร่างของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ในอ้อมแขนกระโจนขึ้นเหนืออากาศได้สูงเกือบ 15 เมตร กระทั่งหลุดพ้นจากพลังโจมตีจากทักษะของหมีสวรรค์วิญญาณน้ำแข็งไปได้อย่างเฉียดฉิว
เหมือนที่โบราณว่าไว้ บางครั้งกำลังของมนุษย์ก็มีข้อจำกัด สมาชิกของหน่วยเกาทัณฑ์สวรรค์ล้วนแล้วแต่สร้างปาฏิหาริย์มามากมาย พวกเขาเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งและทรงพลังด้วยความสามารถที่ด้อยกว่า ทั้งกลยุทธ์ ประสบการณ์การต่อสู้ หรือการประสานงานกันของพวกเขา ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นการใช้พลังขั้นสูงสุดของแต่ละคน หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้วล่ะก็ หมีสวรรค์ญาณน้ำแข็งตัวที่ถูกพวกเขากำจัดไปก็คงจะสังหารทั้งคนกลุ่มไปได้อย่างง่ายดายราวกับใช้เข็มแทงทะลุกระดาษบางๆ
ทว่าเมื่อหมีสวรรค์ญาณน้ำแข็งทั้ง 4 ได้ปรากฏตัวขึ้น พวกเขาทั้งหมดต่างก็รู้ดีว่าไม่มีโอกาสจะชนะพวกมันได้เลย ยิ่งไปกว่านั้น ราชาหมีสวรรค์ญาณน้ำแข็งยังเข้าสู่สถานะบ้าคลั่งอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นพวกเขามันก็ไม่รั้งรอที่จะใช้พละกำลังของมันอย่างเต็มประสิทธิภาพ ในเวลาที่กระชั้นชิดเช่นนี้พวกเขาไม่มีแม้แต่โอกาสจะวางแผนหรือใช้ทักษะใดๆ ของพวกเขาออกมาด้วยซ้ำ แม้ว่าแรงระเบิดจะไม่ได้ทำให้พวกเขาบาดเจ็บสาหัส แต่ทักษะผืนดินคำรามก็ยังทำให้พวกเขากระเด็นออกไปไกลกว่าร้อยหลา จากนั้นก็หมดสติไปทันที
ดวงตากราดเกรี้ยวกระหายเลือดทั้ง 4 คู่จับจ้องไปที่โจวเหว่ยชิง และซ่างกวนปิงเอ๋อร์ที่ยังคงลอยอยู่กลางอากาศ อย่างไรก็ตาม ในชั่วพริบตาต่อมาดวงตาทั้งสี่คู่ก็หรี่ลงเล็กน้อย และพวกมันก็ไม่ได้โจมตีทั้งคู่อย่างที่พวกเขาคาดคิดไว้
ในขณะที่โจวเหว่ยชิงหมุนเวียนพลังปราณสวรรค์ทั้งหมดของเขาไปยังขาขวาของปีศาจ กลิ่นอายชั่วร้ายของเขาก็พลันระเบิดออกมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ ดังนั้นเมื่ออสูรสวรรค์ระดับเทวะทั้ง 4 สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าเกรงขามนั้น พวกมันจึงเกิดอาการลังเลไปชั่วขณะ
ในบรรดาหมีสวรรค์วิญญาณน้ำแข็งที่ทรงพลังทั้ง 4 นอกเหนือจากราชาหมีสวรรค์ญาณน้ำแข็งที่มีขนาดตัวใหญ่ยักษ์ที่สุดแล้ว อีก 3 ตัวก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่ไปกว่าหมีตัวที่พวกเขาเพิ่งสังหารไปแม้แต่น้อย พวกมันคือบรรดาภรรยาของราชาหมีสวรรค์ญาณน้ำแข็งตัวนั้นนั่นเอง
เดิมทีพวกมันทั้งหมดเคยอาศัยอยู่ในฝูงหมีสวรรค์วิญญาณน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่านี้มาก ส่วนราชาหมีสวรรค์ญาณน้ำแข็งนั้นแต่เดิมก็เป็นถึงน้องชายของหมีจ่าฝูง แต่ทว่าเนื่องจากมันพยายามจะท้าชิงตำแหน่งผู้นำและพ่ายแพ้ลง ในที่สุดจึงถูกเนรเทศออกจากฝูงและมาลงเอยอยู่ที่นี่ ทว่าทุกคนก็ควรรู้เอาไว้ว่า การที่มันเอาชีวิตรอดจากการพ่ายแพ้ในการท้าประลองมาได้ นั่นก็พิสูจน์แล้วว่าราชาหมีตัวนี้ทรงพลังเพียงใด ไม่ต้องพูดถึงสมาชิกของหน่วยเกาทัณฑ์สวรรค์เลยด้วยซ้ำ แม้แต่แม่ทัพโจวบิดาของโจวเหว่ยชิงเองก็ต้องตกที่นั่งลำบากเช่นกันหากต้องรับมือกับพลังของราชาหมียักษ์ตัวนี้
แม้ว่าโจวเหว่ยชิงกับซ่างกวนปิงเอ๋อร์จะหลบหลีกการโจมตีครั้งแรกได้สำเร็จ แต่ก็พลันมีคำพูดหนึ่งปรากฏขึ้นในใจอย่างหลีกเลี้ยงไม่ได้ พวกเขากำลังตกที่นั่งลำบากอย่างแท้จริง เดิมทียังไม่มีปัญญาแม้แต่จะจัดการกับหมีสวรรค์วิญญาณน้ำแข็งเพียงตัวเดียวด้วยซ้ำ แล้วนับประสาอะไรกับ 4 ตัวในตอนนี้ล่ะ!
“ปิงเอ๋อร์ รีบหนีไป ข้าจะพยายามกันพวกมันเอาไว้ให้นานที่สุด” ในขณะที่เขาพูดเช่นนั้น โจวเหว่ยชิงก็กำลังจะโยนซ่างกวนปิงเอ๋อร์ออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยมณีคู่ประเภทความว่องไวพร้อมกับรองเท้าวายุประสานของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ เธออาจมีโอกาสหลบหนีไปได้ แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้โยนตัวเธอออกไป ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็รีบคว้าคอเสื้อของเขาและพูดว่า “อ้วนน้อย เจ้าคิดว่าข้ากลัวตายงั้นหรือ? ข้าเป็นของเจ้าแล้ว ถ้าเราจะต้องตาย พวกเราก็ต้องตายด้วยกัน”
โจวเหว่ยชิงมองเห็นความมุ่งมั่นในดวงตาของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ขณะที่ทั้งคู่ร่อนลงบนพื้นพร้อมกัน เดิมทีเขากลัวตายมาก แต่เมื่อมองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอและเห็นความสิ้นหวังอยู่ในนั้น เขาก็รู้สึกราวกับว่าเลือดในกายเริ่มเดือดพล่านขึ้นมาทันที
ลวดลายเสือดำปรากฏขึ้นทั่วร่างกายของเขาขณะที่ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำอีกครั้ง มือขวาของเขาปล่อยซ่าง กวนปิงเอ๋อร์ให้เป็นอิสระ จากนั้นกลิ่นอายป่าเถื่อนรุนแรง รังสีกระหายเลือดก็แผ่กระจายออกมาจากร่างของเขาในชั่วพริบตานั้น อักษรสีดำปรากฏขึ้นกลางหน้าผากของเขาเป็นคำว่า ‘ราชา’ อีกครั้งในขณะที่กระดูกของเขาดูเหมือนจะกำลังบิดงอจนได้ยินเสียงแตกละเอียดจากภายใน แม้จะอยู่ในดินแดนน้ำแข็งและหิมะ แต่โจวเหว่ยชิงก็รู้สึกได้ว่าร่างกายของเขากำลังร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าแกนความร้อนภายในร่างกำลังระเบิดออกมาจากภายใน
นี่คือสถานะปีศาจกลายร่างหรือ? เขาไม่อยากคลุ้มคลั่งจนเสียสติ! ข้าอยากมีสติ! ข้าต้องการควบคุมร่างกายด้วยตัวเอง! โจวเหว่ยชิงที่ถูกกระตุ้นด้วยความสิ้นหวังในดวงตาของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ได้จมลึกเข้าไปในห้วงสถานะปีศาจกลายร่าง ขณะนี้ทั่วร่างของเขามีไอรังสีชั่วร้ายซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าก่อนหน้านี้ถึง 10 เท่าลอยโอบล้อมเอาไว้อย่างแน่นหนา อย่างไรก็ตาม เขายังคงสวดภาวนาคำเหล่านั้นอยู่ในใจ ข้าต้องการควบคุมร่างกายด้วยตัวเอง!
เห็นได้ชัดว่าหิมะรอบๆ ตัวโจวเหว่ยชิงกำลังเปลี่ยนเป็นสีเทา และระเหิดขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็ว ผลกระทบนี้ดูเหมือนจะขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ รอบตัวของเขา
หากเทียบกับหมีสวรรค์วิญญาณน้ำแข็งเหล่านั้น กลิ่นอายของเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งเป็นพิเศษ แต่ทว่ามันก็ทำให้อสูรสวรรค์ระดับเทวะทั้ง 4 ตัวรู้สึกได้ถึงอันตรายบางอย่าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตาที่แดงก่ำและคำว่า ‘ราชา’ ที่สลักอยู่บนหน้าผากของเขา นั่นทำให้พวกมันตื่นขึ้นจากสภาวะบ้าคลั่งทันที
ทันใดนั้นเอง เสือขาวตัวน้อยที่ยืนอยู่บนไหล่ของโจวเหว่ยชิงกลับมีดวงตาเปล่งประกายขึ้นมา มันสูดหายใจเข้าลึกอย่างตะกละตะกลามราวกับว่ากลิ่นอายชั่วร้ายรอบๆ ตัวโจวเหว่ยชิงนั้นเป็นอาหารจานโปรดของมัน
โจวเหว่ยชิงดูเหมือนจะทรุดตัวลงเล็กน้อย กล้ามเนื้อของเขากำลังถูกสถานะปีศาจกลายร่างปรับแต่งให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์เต็มที่ นั่นจึงทำให้ร่างของเขาขยายขึ้นเล็กน้อยและมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่า ในเวลาเดียวกันเขาก็ยังสามารถใช้พลังปราณสวรรค์และทักษะต่างๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไร้ที่ติ ตราบใดที่เขามีพลังปราณสวรรค์เพียงพอ เขาก็จะสามารถใช้ทักษะทั้งหมดได้อย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด
อนิจจา หมีสวรรค์วิญญาณน้ำแข็งทั้ง 4 ตัวนี้ไม่ใช่หมาป่าโลกันตร์ตัวเล็กๆ ที่พวกเขาเคยพบเจอก่อนหน้า แม้จะรู้สึกได้ถึงอันตรายจากกลิ่นอายชั่วร้ายที่โจวเหว่ยชิงแผ่ออกมา แต่พวกมันก็ไม่ถอดใจหรือยอมถอยง่ายๆ การสูญเสียทารกน้อยส่งผลให้พวกมันโกรธแค้นและโศกเศร้าเป็นอย่างมาก พวกมันจึงก้าวเข้าหาโจวเหว่ยชิงอีกครั้งอย่างช้าๆ ทว่าแม้จะอยู่ภายใต้สถานะปีศาจกลายร่าง โจวเหว่ยชิงก็ยังคงอ่อนแอเกินไปเมื่อเทียบกับหมียักษ์ทั้ง 4 ตัว ดังนั้นในทันทีที่พวกมันเริ่มเปิดฉากโจมตี โจวเหว่ยชิงก็คงจะถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างไม่ต้องสงสัย
ทว่าในพริบตานั้นเสือขาวตัวน้อยบนไหล่ของโจวเหว่ยชิงกลับขยับตัวอย่างเกียจคร้าน อุ้งเท้าสีชมพูอ่อนนุ่มแสนน่ารักทั้ง 4 ของมันย่ำลงบนไหล่ของเขาขณะที่มันพุ่งกระโจนออกไปข้างหน้า โจวเหว่ยชิงซึ่งแต่เดิมสูญเสียการควบคุมจิตใจของตัวเองจู่ๆ ก็รู้สึกได้ถึงสติสัมปชัญญะที่กลับคืนมา ทว่าในพริบตาต่อมารูม่านตาแดงก่ำของเขาก็ต้องหดแคบลงด้วยความประหลาดใจ
ในขณะที่เสือขาวตัวน้อยหรือเจ้าแมวอ้วนกระโจนออกจากไหล่ของโจวเหว่ยชิง ร่างกายของมันดูเหมือนจะขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตาที่มันร่อนลงถึงพื้นอย่างเงียบๆ เจ้าแมวอ้วนก็กลายเป็นเสือขาวขนาดมหึมาที่มีลำตัวยาว 3 เมตร สูง 1.3 เมตร ดวงตาสีฟ้าเข้มของมันเปล่งประกายแวววาว และเมื่อเจ้าแมวอ้วนเงยหน้าขึ้น มันก็ส่งเสียงคำรามออกมาอย่างทะนงตัว
เมื่อเสียงคำรามดังสะท้อนไปทั่วทั้งป่า ฉับพลันนั้นก็เกิดความเงียบขึ้นมาอย่างน่าประหลาด โจวเหว่ยชิงรู้สึกได้ถึงพลังแปลกประหลาดที่กำลังปะทุขึ้นภายในร่างของเขา จากนั้นเขาก็กางแขนทั้งสองข้างออกและร้องคำรามออกไปเช่นกัน
มันเป็นเสียงคำรามของเสืออีกตัวหนึ่งที่ทุ้มต่ำและคมชัด ในขณะที่เสียงคำรามของเสือขาวนั้นแหลมเล็กและมีชีวิตชีวามากกว่า สำหรับเสียงคำรามทั้งสอง เสียงหนึ่งเสียงต่ำเสียงหนึ่งสูง พวกมันทั้งคู่ต่างก็ส่งเสริมซึ่งกันและกัน แสดงให้เห็นถึงอำนาจและความสง่างามอันหาที่เปรียบมิได้ของราชาสัตว์ป่า
เมื่อมองไปยังร่างขนาดมหึมาของเจ้าแมวอ้วนที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกมัน  ทันใดนั้นหมีสวรรค์วิญญาณน้ำแข็งทั้ง 4 ก็หยุดชะงักด้วยความประหลาดใจ นอกจากราชาหมีสวรรค์ญาณน้ำแข็งแล้ว ภรรยาที่เหลือของมันทั้ง 3 ตัวต่างก็เผยให้เห็นถึงความหวาดกลัวในดวงตา และเมื่อโจวเหว่ยชิงคำรามร่วมกับเจ้าแมวอ้วน แม้แต่ร่างของราชาหมีสวรรค์ญาณน้ำแข็งก็ยังหดลงเล็กน้อย แม้ว่าดวงตาของมันจะยังคงดุร้าย แต่ก็ไม่ได้ดูน่าเกรงขามเหมือนเมื่อก่อนหน้าอีก
“โฮกกกกกกกก” เมื่อเสียงคำรามสิ้นสุดลง เจ้าแมวอ้วนก็ส่งเสียงขู่ต่ำๆ อีกครั้ง คราวนี้มันหันไปหาโจวเหว่ยชิง ตวัดกรงเล็บเข้าที่อกเสื้อของเขาแล้วดึงหมีน้อยทั้งสองตัวออกมาวางบนพื้น
หมีน้อยทั้งสองตัวถูกปกคลุมไปด้วยชั้นพลังสีเทา ร่างเล็กๆ ของพวกมันสั่นสะท้านราวกับได้รับความเจ็บปวดอย่างมาก
ทันใดนั้นดวงตาของเจ้าแมวอ้วนก็เปลี่ยนเป็นสีขาววาววับราวกับผลึกแก้ว แสงสีขาวสว่าง 2 สายพุ่งออกมาจากดวงตาของมันก่อนจะกระทบเข้ากับร่างของหมีน้อยทั้งสองตามลำดับ นั่นทำให้หมอกสีเทาที่อยู่รอบตัวพวกมันจางลงไป หมีน้อยทั้งสองจึงหยุดสั่นในทันที
วินาทีต่อมา เจ้าแมวอ้วนก็ยกอุ้งเท้าขนาดใหญ่วางไว้บนตัวหมีตัวน้อยทั้งสอง มันหันกลับไปทางหมีสวรรค์วิญญาณน้ำแข็งทั้ง 4 ตัวก่อนจะส่งเสียงคำรามต่ำๆ อีกครั้งราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง
หลังจากถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดแล้ว เจ้าแมวอ้วนก็หันศีรษะไปทางทิศเหนือและดวงตาสีขาวก็เปลี่ยนกลับไปเป็นสีฟ้าตามปกติ ทว่าดวงตาของมันก็ยังคงเย็นชาและดูอันตราย รังสีฆ่าฟันเริ่มแผ่ขยายออกมาจากร่าง
………………………………

Related

Heavenly Jewel Change

Heavenly Jewel Change

ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์ ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!? ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น… หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย! ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด! สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า… แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ? ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร! นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร Every human has their Personal Jewel of power, when awakened it can either be an Elemental Jewel or Physical Jewel. They circle the right and left wrists like bracelets of power. Heavenly Jewels are like the twins born, meaning when both Elemental and Physical Jewels are Awakened for the same person, the pair is known as Heavenly Jewels. Those who have the Physical Jewels are known as Physical Jewel Masters, those with Elemental Jewels are Elemental Jewel Masters, and those who train with Heavenly Jewels are naturally called Heavenly Jewel Masters. Heavenly Jewel Masters have a highest level of 12 pairs of jewels, as such their training progress is known as Heavenly Jewels 12 Changes. Our MC here is an archer who has such a pair of Heavenly Jewels.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset