Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 12.1 ธนูราชัน (1)

ซ่างกวนปิงเอ๋อร์เดินนำโจวเหว่ยชิงเข้าไปในปราสาท ขณะที่กำลังเดินนั้นเธอก็กล่าวกับเขา “สำหรับจ้าวมณีทั่วๆ ไปที่ต้องการเข้าร่วมวังกักเก็บทักษะ พวกเขาจำเป็นต้องถูกแนะนำ และรับรองโดยจ้าวมณีสวรรค์คนหนึ่ง แต่ในฐานะที่พวกเราเป็นจ้าวมณีสวรรค์ เราจึงไม่ต้องทำเช่นนั้น จำไว้ว่าหากใครต้องการดูหลักฐานการเป็นจ้าวมณีแห่งสวรรค์ก็ให้เจ้าเปิดเผยมณียุทธ์ของเจ้าเท่านั้น ส่วนมณีธาตุนั้นเป็นความลับของพวกเราจ้าวมณีสวรรค์ที่พวกเราจะไม่แสดงให้ผู้อื่นเห็นง่ายๆ นอกเหนือจากเวลาต่อสู้
โจวเหว่ยชิงมองไปรอบๆ ก่อนจะพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ผู้บัญชาการกองพัน อาณาจักรเฟยหลี่นี่ช่างร่ำรวยจริงๆ!! ตอนนี้พวกเราก็อยู่ที่วังกักเก็บทักษะแล้ว ถ้าหากพวกเราไม่ได้มาซื้อทักษะธาตุ แล้วพวกเรามาทำอะไรที่นี่ล่ะ?”
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ตอบ “พวกเรามาที่วังนี้เพื่อให้เจ้าเปลี่ยนชุดใหม่  จริงๆ แล้วเป้าหมายของพวกเราในครั้งนี้คือการซื้อศาสตรามณียุทธ์ต่างหาก ทว่าข้าก็มีเงินจำกัด ดังนั้นเราจึงใช้เงินที่นี่มากไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเราจะพบกับอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ พวกเราก็ยังต้องพึ่งดวงอยู่ดี เพราะไม่แน่ว่าเราจะมีเงินพอซื้อของที่ต้องการหรือไม่ แต่อย่างน้อยข้าก็หวังว่าพวกเราคงจะได้อะไรสักอย่างติดไม้ติดมือกลับไปในการเดินทางครั้งนี้”
เมื่อเข้ามาภายในวังกักเก็บทักษะ หากเทียบกับความโอ่อ่าภายนอกแล้ว ข้างในนั้นดูจะมีขนาดแคบกว่าเล็กน้อย หลังจากผ่านประตูใหญ่มาแล้ว พวกเขาก็มาถึงห้องโถงซึ่งมีกว้างประมาณ 200 ตารางเมตร และห้องโถงนี้ก็มีประตูทางเข้าที่แตกต่างกันแยกออกไป 9 ทิศทาง
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์นำโจวเหว่ยชิงไปที่ทางเข้าแรกที่อยู่ฝั่งซ้ายสุด น่าแปลกที่ไม่มีทหารเฝ้าทางเข้าพวกนี้เลย พวกเขาเดินผ่านเข้าไปข้างในได้ประมาณ 30 เมตร ในที่สุดก็เห็นแสงไฟส่องสว่างอยู่ข้างหน้ารำไร เมื่อเข้ามาถึง โจวเหว่ยชิงก็พบกับห้องโถงที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องโถงด้านนอกมาก
รอบห้องมีโต๊ะตั้งประจำการอยู่หลายแห่ง และด้านหลังโต๊ะแต่ละตัวก็มีเจ้าหน้าที่ยืนประจำอยู่ พนักงานแต่ละคนดูมีอายุแตกต่างกันไป ทว่าพวกเขาทุกคนล้วนสวมเสื้อคลุมยาวสีขาวพร้อมกับสัญลักษณ์รูปดาบไขว้สีทองปักอยู่บริเวณหน้าอก
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์นำโจวเหว่ยชิงไปยังโต๊ะตัวหนึ่ง เจ้าหน้าที่ที่ประจำการอยู่ก็รีบลุกขึ้นยืนต้อนรับพร้อมกับถามคำถามกับพวกเขา “พวกท่านทั้งคู่มาลงทะเบียนใหม่หรือว่ามารายงานการเลื่อนระดับ?”
โจวเหว่ยชิงไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด จึงหันกลับมาขอความช่วยเหลือจากซ่างกวนปิงเอ๋อร์ เธอจึงตอบแทนเด็กหนุ่ม “ข้ามาที่นี่เพื่อรายงานการเลื่อนระดับ ส่วนเขามาที่นี่เพื่อลงทะเบียนใหม่”
พนักงานคนนั้นจึงกล่าวอย่างนอบน้อม “ตกลง โปรดแสดงมณีทางยุทธ์ของท่านให้ข้าตรวจสอบ”
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ส่งสายตาให้โจวเหว่ยชิงแสดงมณีของเขา จากนั้นเธอก็นำหยกหินมังกรทั้ง 2 ดวงของเธอออกมาอีกครั้ง หลังจากเห็นมณียุทธ์บริสุทธิ์ ใบหน้าของเจ้าหน้าที่คนนั้นก็ฉายแววให้ความเคารพเพิ่มมากขึ้น
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ล้วงป้ายสีทองอันหนึ่งออกมาจากอกของเธอแล้วมอบให้กับเจ้าหน้าที่คนนั้น ด้านหลังของป้ายนั้นมีสัญลักษณ์ดาบไขว้ของอาณาจักรเฟยหลี่สลักอยู่ ส่วนด้านหน้าของมันมีรูปหยกหินมังกรดวงเล็กๆ ล้อมรอบด้วยลวดลายอักขระบางอย่างติดอยู่พร้อมกับหมายเลขบางอย่างเขียนกำกับอยู่ด้านล่างด้วย
หลังจากเจ้าหน้าที่รับป้ายนั้นไปตรวจสอบอยู่สักครู่ เขาก็กล่าวว่า “ยอดเยี่ยม! ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ ยินดีด้วย ท่านได้รับการเลื่อนระดับจากจ้าวมณีสวรรค์ขั้นพื้นฐานระดับแรกไปสู่จ้าวมณีสวรรค์ขั้นพื้นฐานระดับกลาง โปรดรอสักครู่ เราจะมอบแผ่นป้ายใหม่กับท่าน เช่นเดียวกับเสื้อคลุมผืนใหม่”
ทางฝั่งโจวเหว่ยชิงนั้นก็มีพนักงานอีกคนมาต้อนรับเขา
“ยินดีต้อนรับสู่การลงทะเบียนใหม่ ณ วังกักเก็บทักษะของเมืองภูเขาลอยฟ้า ข้ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับท่าน จ้าวมณีสวรรค์ขั้นพื้นฐานระดับแรก ต้องการให้ข้าลงทะเบียนให้ท่านเลยหรือไม่?”
พนักงานที่ทำหน้าที่ต้อนรับโจวเหว่ยชิงเป็นหญิงสาวอายุ 20 ปี หน้าตาของเธอดูงดงามกว่าระดับธรรมดาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนี้กลับมีรูปร่างโดดเด่นเหนือใคร โดยเฉพาะส่วนหน้าอกซึ่งดึงดูดความสนใจของโจวเหว่ยชิงได้ทันที
“ฮ่าๆ ใช่แล้ว ใช่แน่นอน!” โจวเหว่ยชิงลอบกลืนน้ำลายลงคอและแอบขยิบตาให้เธอ
“รบกวนบอกชื่อของท่านด้วย” เด็กสาวรู้สึกได้ถึงสายตาอันร้อนแรงของโจวเหว่ยชิง เธอจึงขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ เป็นที่ทราบกันดีว่าในสถานที่แห่งนี้ แม้แต่จ้าวมณีสวรรค์ก็ยังไม่กล้าจะวางก้ามใหญ่โต ยิ่งไปกว่านั้น คนตรงหน้านี้ยังดูเด็กมากอีกด้วย
“อืม…ใหญ่มากจริงๆ…ขนาด 36…” โจวเหว่ยชิงบ่นพึมพำกับตนเอง
พนักงานหญิงเหงื่อแตกทันที เธอรีบยกแขนขึ้นเพื่อปิดบังหน้าอกของตนเอาไว้ ก่อนจะพูดว่า “จ้าวมณีสวรรค์ขั้นพื้นฐานระดับแรก โปรดสำรวมด้วย ไม่อย่างนั้น วังกักเก็บทักษะจำเป็นจะต้องจัดการกับคนที่หยามเกียรติของพวกเรา”
เมื่อหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดบังร่างกายส่วนบน โจวเหว่ยชิงก็พลันมองเห็นมือซ้ายของพนักงานหญิงคนนี้ได้ชัดเจน มณีธาตุของเธอคือไพลิน 2 ดวงซึ่งเป็นมณีธาตุน้ำบ่งบอกว่าคนตรงหน้าเป็นจ้าวมณีธาตุขั้นพื้นฐานระดับกลาง  ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับสถานที่นี้มากนัก แต่เด็กหนุ่มก็เดาได้ว่าจ้าวมณีธาตุที่ทำงานอยู่ที่นี่ย่อมต้องบรรลุทักษะกักเก็บธาตุแล้วแน่ๆ ดังนั้นแม้ว่าเขาจะเป็นถึงจ้าวมณีสวรรค์ แต่หากไม่มีศาสตรามณียุทธ์หรือทักษะกักเก็บธาตุ เขาจะแข็งแกร่งพอเป็นคู่ต่อสู้ของเธอได้อย่างไร! ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็มีมณีสวรรค์เพียงชุดเดียวด้วย!
“อา! ข้าไม่ได้ตั้งใจนะขอรับ! พอดีข้าเผลอตัวไปนิดหน่อยน่ะ…แฮ่ๆ…พี่สาว…ท่านดูแข็งแกร่งมากเสียจนข้าต้องชมออกมาโดยไม่รู้ตัวเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ท่านจะโทษข้าไม่ได้หรอกนะ…” โจวเหว่ยชิงกล่าวอย่างจริงจัง แต่ทว่าหลังจากที่เขาหลุดพูดคำว่า ‘36’ ออกไปแล้ว หญิงสาวคนนั้นก็โกรธเขาไปเป็นที่เรียบร้อย
โจวเหว่ยชิงรีบหันกลับไปขอความช่วยเหลือจากซ่างกวนปิงเอ๋อร์ที่อยู่ใกล้ๆ อย่างไรก็ตาม เธอพูดขึ้นมาเบาๆราวกับบ่นกับตัวเองว่า “ข้าไม่รู้จักเขา…”
ตะ…ตอบสนองได้เร็วมาก!! เมื่อโจวเหว่ยชิงเห็นว่าเขากำลังจะเกิดเรื่อง เขาจึงรีบลนลานเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “เอ่อ…ลงทะเบียน…อ้อ…ถึงเวลาต้องลงทะเบียนแล้วใช่ไหม? เอาล่ะๆ…ข้าชื่ออ้วนโจวน้อย เพศชาย มาจากอาณาจักรเกาทัณฑ์สวรรค์ อายุ 13 ปี จ้าวมณีสวรรค์ขั้นพื้นฐานระดับแรก ชายโสดผู้หล่อเหลาแข็งแรง!” เขาพูดไปพลางพยักหน้าไปพลางราวกับเห็นพ้องกับสิ่งที่เขาเพิ่งพูดออกไปอย่างถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นถึงจ้าวมณีสวรรค์ ดังนั้นหญิงสาวจึงพยายามระงับความโกรธก่อนจะกลับไปนั่งที่ของเธอและนำกระดาษลงทะเบียนออกมา แต่ทว่า ทันใดนั้นทั้งเธอและซ่างกวนปิงเอ๋อร์ต่างก็จ้องมองโจวเหว่ยชิงด้วยสายตาตกตะลึงไปพร้อมๆ กัน ทั้งคู่ถามด้วยน้ำเสียงแทบจะโทนเดียวกัน “เจ้าอายุ 13 !!??”
โจวเหว่ยชิงเผยสีหน้าใสซื่ออย่างที่เขาทำเป็นประจำ “ใช่ขอรับ! ข้ายังเป็นเด็กวัยแรกรุ่นอยู่เลย แม้ว่าขนตรงนั้นของข้าจะงอกแล้วก็เถอะ ท่านอยากจะดูมั้ยล่ะ? อีกสองเดือนข้าจะอายุ 14 ปีเต็มแล้ว!”
สิ่งที่ทำให้ซ่างกวนปิงเอ๋อร์พูดไม่ออกที่สุดก็คือ ขณะที่โจวเหว่ยชิงพูดอยู่นั้น เขาก็ยังแสดงสีหน้าใสซื่อและจริงจังเป็นอย่างมาก ขัดกับเธอที่กำลังอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง หญิงสาวไม่คาดคิดจริงๆ ว่าโจวเหว่ยชิงจะอายุเพียงแค่ 13 ปี!! ทันใดนั้น ความเกลียดชังในใจของเธอที่มีต่อเขาก็ลดลงหลายส่วน ท้ายที่สุดแล้วแม้ว่าเขาจะน่ารำคาญในบางครั้ง แต่เธอก็รู้ว่าเด็กหนุ่มก็ไม่ได้ตั้งใจไปเสียทั้งหมด ดังนั้นซ่างกวนปิงเอ๋อร์จึงสามารถพูดได้ว่านั่นคือชะตาลิขิตจริงๆ เพราะหากว่าโจวเหว่ยชิงตอนนั้นไม่ได้พบกับตน ตอนนี้เขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้
หญิงสาวที่ช่วยลงทะเบียนให้โจวเหว่ยชิงนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่เต็มใจที่อยู่ใกล้ๆเด็กหนุ่มอีกต่อไป เธอจึงทำการลงทะเบียนให้เขาเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อนจะส่งแผ่นป้ายสีทองและเสื้อคลุมให้เขาอย่างรวดเร็ว แผ่นป้ายนั้นเกือบจะเหมือนกับของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ทุกประการ เว้นเสียแต่สัญลักษณ์หยกหินมังกรนั้นถูกแทนที่ด้วยหยกน้ำแข็ง เสื้อคลุมที่เขาได้รับมานั้นมีสีขาวปลอดตลอดทั้งผืน และปักสัญลักษณ์ดาบไขว้สีทองเล็กๆ ตรงอกซ้าย
การเลื่อนระดับของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็เสร็จสมบูรณ์แล้วเช่นกัน ตอนนี้แผ่นป้ายของเธอก็ถูกประทับด้วยรูปหยกหินมังกร 2 ดวง และเสื้อคลุมของเธอก็มีสัญลักษณ์ดาบไขว้สีทองเพิ่มอีกมาอีกอัน
“ไปกันเถอะ” ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ไม่อยากจะอยู่ที่นี่อีกต่อไป เธอไม่อยากจะให้เจ้าอ้วนน้อยโจวอยู่พล่ามอะไรไร้สาระที่นี่ต่อเพราะนั่นจะยิ่งทำให้เธอเสียหน้ามากขึ้น
หลังจากที่ออกจากวังกักเก็บทักษะมาแล้ว ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็เตะเข้าที่บั้นท้ายของโจวเหว่ยชิงเข้าเต็มแรง จากนั้นก็ตำหนิเขาว่า “เจ้าจะเลิกพูดพล่ามไร้สาระหรือจะให้ข้าเย็บปากเจ้า!! เจ้ายังเด็กขนาดนี้แต่ว่าจิตใจไม่ใสสะอาดเลยสักนิด! นี่เจ้าโตมายังไงกันแน่? หึ! อายุ 13 ปีงั้นรึ! แล้วทำไมเจ้าถึงสมัครมาเป็นทหาร?” ถ้าหากเขาไม่สมัครทหาร เธอก็คงจะไม่… ยิ่งคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้นเท่านั้น
………………………………………………………………….

Heavenly Jewel Change

Heavenly Jewel Change

ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์ ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!? ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น… หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย! ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด! สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า… แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ? ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร! นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร Every human has their Personal Jewel of power, when awakened it can either be an Elemental Jewel or Physical Jewel. They circle the right and left wrists like bracelets of power. Heavenly Jewels are like the twins born, meaning when both Elemental and Physical Jewels are Awakened for the same person, the pair is known as Heavenly Jewels. Those who have the Physical Jewels are known as Physical Jewel Masters, those with Elemental Jewels are Elemental Jewel Masters, and those who train with Heavenly Jewels are naturally called Heavenly Jewel Masters. Heavenly Jewel Masters have a highest level of 12 pairs of jewels, as such their training progress is known as Heavenly Jewels 12 Changes. Our MC here is an archer who has such a pair of Heavenly Jewels.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset