Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 17.3 ทักษะสัมผัสมืด (3)

การตอบสนองของเซียวเซ่อนั้นถือว่ารวดเร็วมาก หลังจากช่วงเวลาสั้นๆ เธอก็สามารถขยับตัวง้างธนูอุษาม่วงอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดเธอเชื่อว่าพลังมณีของโจวเหว่ยชิงยังอยู่ในระดับแรกๆ และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะใช้ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาได้อีก ดังนั้นภายใต้ความรวดเร็วในการยิงธนูของเธอ เขาไม่อาจจะหลบหลีกได้พ้นแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เธอกำลังยกธนูอุษาม่วงขึ้นมานั้นเอง จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าอากาศกำลังหมุนขว้างอยู่รอบๆ ตัวเธออย่างรุนแรงและแสงสีฟ้าพุ่งเข้ามาใกล้ๆ จากนั้นเธอก็ตระหนักได้ว่าตนเองไม่สามารถขยับได้อีกต่อไป
ภายในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ โจวเหว่ยชิงก็เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงเป็นระยะทาง 50 หลามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเซียวเซ่อด้วยรอยยิ้ม เผยให้เห็นใบหน้าที่เรียบง่ายและซื่อสัตย์ของเขา จากนั้นคนเจ้าเล่ห์ก็หยิบลูกศรออกมาจากแล่งธนู และใช้ปูนขาวที่ปลายลูกศรดอกนั้นวาดวงกลมตรงกลางหน้าอกของเธอ
“นี่นับเป็นชัยชนะหรือยัง?” หลังจากที่เขาทำเช่นนั้นเสร็จ เซียวเซ่อก็พบว่าเธอตอนนี้เธอสามารถขยับร่างกายได้แล้ว
“ลม…นั่นคือทักษะธาตุที่เจ้าใช้เมื่อกี้ เจ้า…เจ้า…” ครั้งนี้เซี่ยวเซ่อลืมเกี่ยวกับการแพ้ชนะไปอย่างสิ้นเชิง เธอจ้องมองที่โจวเหว่ยชิง  ดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจและไม่เชื่อ
ก่อนหน้านี้เมื่อโจวเหว่ยชิงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขาในฐานะจ้าวมณีสวรรค์ แม้ว่าเธอจะค่อนข้างตกใจ แต่เธอก็ยังสามารถรักษาความสงบของเธอเอาไว้ได้ ท้ายที่สุดหากอาณาจักรมีจ้าวมณีสวรรค์อีกคนนั่นก็ย่อมเป็นเรื่องดีแน่นอน หึ ไม่แปลกใจเลยที่ซ่างกวนปิงเอ๋อร์จะให้เขาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเธอ
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้เห็นโจวเหว่ยชิงกำลังวาดเครื่องหมายบนหน้าอกของเธอ ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าไอ้เจ้าตัวโง่เขลานี้ดูเหมือนว่าจะมีความสามารถยิ่งกว่าซ่างกวนปิงเอ๋อร์เสียอีก จริงๆ แล้วเขาครอบครองทักษะประเภทควบคุมที่แตกต่างกันถึง 2 แบบ และยังมีทักษะประเภทสนับสนุนอีก 1 แบบ!
เป็นที่รู้กันว่าไม่ว่าจะเป็นจ้าวมณีธาตุหรือจ้าวมณีสวรรค์ สิ่งที่คู่ต่อสู้กลัวที่สุดนั้นไม่ใช่ทักษะประเภทโจมตีหรือป้องกัน แต่เป็นทักษะประเภทควบคุมหรือสนับสนุน อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเรื่องยากมากที่จะกักเก็บทักษะประเภทนี้และมีเพียงอสูรสวรรค์ระดับปรมะ หรือสูงกว่าเท่านั้นที่จะมีทักษะเช่นนี้ได้ ดังนั้นจ้าวมณีสวรรค์ส่วนใหญ่จึงต้องฝึกฝนให้มีมณีอย่างน้อย 6 ชุดก่อนจึงจะกักเก็บทักษะเหล่านี้ได้ เมื่อเห็นอ้วนน้อยโจวแสดงทักษะยิ่งใหญ่พวกนี้ถึง 3 อย่างต่อเนื่องกัน แล้วเธอจะไม่แปลกใจได้อย่างไร?
“เฮ้ ผู้บัญชาการกองร้อยเซียว ท่านแพ้แล้ว! คราวนี้ท่านจะไม่กลับคำอีกรอบใช่ไหม?” โจวเหว่ยชิงยกมือขึ้นต่อหน้าเซียวเซ่อและโบกไปมารอบๆ แม้ในความเป็นจริงความภาคภูมิใจของเขาจะหายไปแล้วก็ตาม
หลังจากใช้ทักษะธาตุอย่างต่อเนื่อง ปราณสวรรค์ในร่างกายของเขาก็ใกล้จะหมดแล้ว และนี่เขาแค่เผชิญหน้ากับคนธรรมดาที่ไม่ได้เป็นจ้าวมณีด้วยซ้ำ แน่นอนว่าด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่างทำให้เขาไม่สามารถปลดปล่อยพลังทั้งหมดของตัวเองกับเซียวเซ่อได้ นั่นก็เพราะมันเสี่ยงต่อชีวิตของเธอ แต่อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกเขายังขาดทักษะในการใช้งานทักษะธาตุ ดังนั้นเขาจึงต้องฝึกฝนให้มากขึ้น

‘ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตา’ เป็นทักษะธาตุมิติทักษะแรกของโจวเหว่ยชิง และแม้เขาจะมีพลังมณีอยู่ในขั้นต่ำที่สุด แต่ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาก็ยังทำให้เด็กหนุ่มสามารถเคลื่อนย้ายตัวเองไปโผล่ได้ทุกที่ภายในรัศมี 3 เมตรในพริบตาเดียว ทักษะนี้อาจจะดูไม่มีอะไรพิเศษมาก แต่มันก็ไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นทักษะประเภทสนับสนุนระดับสูงสำหรับมณี 3 ดวงแรกอย่างไร้ประโยชน์ แท้จริงแล้วมันเป็นทักษะที่น่าเกรงขามมาก และทักษะนี้ก็สามารถช่วยชีวิตเขาได้เวลาคับขัน แน่นอนว่าหากเมื่อสักครู่โจวเหว่ยชิงไม่มีทักษะนี้ เขาก็อาจจะต้องพ่ายแพ้ไปแล้ว
‘ทักษะโซ่ตรวนวายุ’ เป็นทักษะธาตุลมทักษะแรกของโจวเหว่ยชิง และด้วยพลังมณีขั้นพื้นฐานระดับต่ำของเขา ทักษะนี้สามารถตรวจจับเป้าหมายได้ภายในระยะ 50 หลา ตราบใดที่พลังปราณสวรรค์ของเป้าหมายไม่มากเกินกว่าผู้ใช้เกิน 5 ระดับ เป้าหมายก็จะถูกพันธนาการไว้เป็นเวลา 3 วินาที และหากระดับปราณสวรรค์ของเป้าหมายต่ำกว่าผู้ใช้ เป้าหมายก็จะต้องถูกตรึงเพิ่มขึ้นอีก 1 วินาที พูดง่ายๆ ก็คือในทุกๆ ระดับที่ต่ำกว่าโจวเหว่ยชิง เป้าหมายจะถูกตรึงเพิ่มเป็นระดับละ 1 วินาที
แม้ว่าทั้งทักษะสัมผัสมืดและทักษะโซ่ตรวนวายุจะเป็นทักษะประเภทควบคุมเหมือนกัน แต่ทั้ง 2 ทักษะก็ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปอย่างสุดขั้ว
ในแง่ของประสิทธิภาพการตรวจจับเป้าหมาย ทักษะสัมผัสมืดมีรัศมีตรวจจับ 25 เมตร แต่ทว่าทักษะโซ่ตรวนวายุสามารถตรวจจับได้ไกลถึง 50 เมตร อย่างไรก็ตาม ทักษะสัมผัสมืดมีความสามารถอีกหลายอย่างนอกเหนือจากแค่ควบคุมหรือตรึงเป้าหมายไว้กับที่ อีกทั้งมันยังสามารถสร้างความเสียหายเพิ่มเติมให้แก่ศัตรูได้ด้วย แต่หากเปรียบเทียบกับทักษะโซ่ตรวนวายุ จะเห็นได้ว่าทักษะนี้เป็นทักษะที่ใช้ควบคุมเป้าหมายได้อย่างเดียว แต่ก็ควบคุมได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นกัน
อาจกล่าวได้ว่าทักษะสัมผัสมืดนั้นด้อยกว่าทักษะโซ่ตรวนวายุในแง่ของความสามารถในการควบคุมเป้าหมาย แต่เมื่อเพิ่มความสามารถในการดักจับศัตรูและความสามารถอื่นๆ แล้ว ทักษะสัมผัสมืดก็ถือได้ว่าแข็งแกร่งกว่าทักษะโซ่ตรวน   วายุเล็กน้อย และนี่คือความเหนือกว่าของ 1 ใน 4 ทักษะธาตุที่ยิ่งใหญ่อย่างทักษะธาตุมืด
อย่าคิดว่าความสามารถของ 2 ทักษะนี้ซ้อนทับกัน และไร้ประโยชน์ ด้วยระดับปราณปัจจุบันของเขา หลังจากใช้ทักษะหนึ่งแล้ว โจวเหว่ยชิงจำเป็นต้องใช้เวลาเกิน 5 วินาทีเพื่อปรับสภาพร่างกายจึงจะสามารถใช้ทักษะนั้นได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาเปลี่ยนไปใช้ทักษะอื่นซะ ปัญหานี้ก็จะหมดไปไม่ใช่หรือ? นอกจากนี้ ด้วยความแตกต่างในด้านระยะการโจมตีและข้อจำกัดในการต่อสู้แต่ละครั้ง ทักษะที่เด็กหนุ่มใช้จึงจะต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ได้
แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าขณะที่เขากักเก็บทักษะในสำนักกักเก็บทักษะ โจวเหว่ยชิงได้คิดวางแผนทั้งหมดไว้แล้วอย่างชาญฉลาด กุญแจสำคัญก็คือเขากักเก็บทักษะจากอสูรสวรรค์ระดับเทวะทุกครั้งต่างหาก และแน่นอนว่าอสูรสวรรค์ระดับนี้จะให้ทักษะที่กระจอกงอกง่อยได้อย่างไร?
เซียวเซ่อมองโจวเหว่ยชิงด้วยใบหน้าโกรธๆ ก่อนที่เธอจะถอนหายใจ และปล่อยมือทิ้งธนูอุษาม่วงร่วงลงพื้น จากนั้นเธอหันหลังเดินจากไป
แพ้แล้ว เธอแพ้แล้ว! ไม่ใช่แค่กับซ่างกวนปิงเอ๋อร์ แต่ยังรวมถึงอ้วนน้อยโจว! หากรวมจ้าวมณีสวรรค์ทั้ง 2 คนนี้ด้วยกัน เธอจะแข่งกับซ่างกวนปิงเอ๋อร์ได้อย่างไร? ในใจเซียวเซ่อเวลานี้รู้สึกขมขื่น และเศร้าสร้อย ดูเหมือนไม่ว่าเธอจะฝึกหนักแค่ไหน ความสามารถของเธอก็ยังเทียบไม่ได้กับพรสวรรค์ของผู้อื่น!
“ท่านจะจากไปเช่นนั้นหรือ?! โจวเหว่ยชิงหยิบธนูอุษาม่วงของเซียวเซ่อขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะไล่ตามเธอไปอย่างรวดเร็วและไปยืนขวางทางของเธอเอาไว้
เซียวเซ่อมองดูใบหน้าซื่อๆ ที่ซ่อนความเจ้าเล่ห์ของอ้วนน้อยโจว เธอพูดด้วยความโกรธว่า “ข้าแพ้ไปแล้ว เจ้ายังจะต้องการอะไรอีกล่ะ?”
โจวเหว่ยชิงพูดด้วยท่าทีสบายๆ “ถ้าข้าจำไม่ผิด เราพนันผลของการแข่งขันครั้งนี้ไว้นี่นา…”
เซียวเซ่อชักสีหน้า “เจ้าต้องการอะไร?”
โจวเหว่ยชิงก้าวไปข้างหน้าแล้วยิ้มออกมา “ข้าจำได้ว่าท่านจะยอมทำอะไรก็ตามที่ข้าบอก”
เซียวเซ่อถอยไปหนึ่งก้าวและคิ้วของเธอก็ขมวดขึ้น “อย่ามายืนใกล้ข้า แน่นอนว่าข้ารักษาคำพูดของข้าเสมอ พูดมา”
ทันทีที่เธอก็พูดจบ โจวเหว่ยชิงก็ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว เดิมระยะทางระหว่างพวกเขานั้นก็น้อยกว่าหนึ่งหลาอยู่แล้ว และการก้าวเท้าครั้งนี้ของเขาก็ทำให้ร่างกายของทั้งสองสัมผัสโดนซึ่งกัน และกัน ก่อนที่เซียวเซ่อจะตอบสนอง โจว เหว่ยชิงก็ขยับศีรษะไปข้างหน้าแล้วจูบเธอทันที
เซียวเซ่อตกใจกับจูบนั้นอย่างมาก และตอบสนองด้วยการวาดมือตบหน้าเขาอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว โจวเหว่ยชิงดูเหมือนจะคาดเดาได้ว่าเธอจะต้องทำเช่นนั้น เขาจึงเบี่ยงตัวหลบฝ่ามือของเซียวเซ่อได้ทัน “ท่านพี่หรูเซ่อ ท่านจะผิดคำพูดไม่ได้นะ นี่คือเงื่อนไขของข้าหากท่านแพ้พนัน”
เซียวเซ่อรู้สึกตัวกลับเข้าสู่ความเป็นจริงทันที ใบหน้านวลเนียนราวหยกเนื้อดีของเธอขึ้นสีแดงก่ำด้วยความอับอาย อย่างไรก็ตาม เธอจ้องมองเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง “เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ ?”
โจวเหว่ยชิงก้าวถอยหลังไปอีก 2 ก้าวแล้วยิ้มในขณะที่เขาพูด “ท่านพี่หรูเซ่อ หยุดแสดงละครได้แล้ว! ท่านลุงเซียวมีลูกสาวเพียงคนเดียว คนอื่นอาจไม่รู้ แต่ข้าจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? ข้าคือโจวเหว่ยชิง!”
“หาาาาาา? เจ้าคือสัตว์ประหลาดน้ำมูกย้อยโจวเหว่ยชิง?” ใบหน้าของเซียวหรูเซ่อเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมาเธอก็ดึงดาบออกจากเอวของเธอชี้ไปที่โจวเหว่ยชิง ก่อนจะพูดอย่างเยือกเย็น “เจ้าพยายามหลอกใครอยู่ โจวเหว่ยชิง เจ้าน้ำมูกย้อยคนนั้นในปีนี้น่าจะอายุแค่ 14 ปี เจ้าลองมองดูตัวเองสิ เจ้าคิดว่าสารรูปอย่างเจ้าจะอายุ 14 ปีได้ไหม?”
………………………………………………………………

Heavenly Jewel Change

Heavenly Jewel Change

ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์ ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!? ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น… หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย! ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด! สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า… แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ? ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร! นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร Every human has their Personal Jewel of power, when awakened it can either be an Elemental Jewel or Physical Jewel. They circle the right and left wrists like bracelets of power. Heavenly Jewels are like the twins born, meaning when both Elemental and Physical Jewels are Awakened for the same person, the pair is known as Heavenly Jewels. Those who have the Physical Jewels are known as Physical Jewel Masters, those with Elemental Jewels are Elemental Jewel Masters, and those who train with Heavenly Jewels are naturally called Heavenly Jewel Masters. Heavenly Jewel Masters have a highest level of 12 pairs of jewels, as such their training progress is known as Heavenly Jewels 12 Changes. Our MC here is an archer who has such a pair of Heavenly Jewels.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset