Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 19.4 ขาขวาของปีศาจ (4)

โจวเหว่ยชิงรู้ในทันทีว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อสังหารซ่างกวนปิงเอ๋อร์โดยเฉพาะ แม้ว่าจ้าวมณียุทธ์เหล่านี้จะแข็งแกร่งมาก แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะทำลายทหารทั้งกองทัพ จำนวน 10,000 คน หากคนพวกนี้กล้าที่จะปรากฏตัว เป้าหมายของพวกเขาอาจเป็นซ่างกวนปิงเอ๋อร์เท่านั้น คนเหล่านี้น่าจะมาจากอาณาจักรคาลิเซอย่างไม่ต้องสงสัย หากส่งจ้าวมณียุทธ์ที่แข็งแกร่งออกมามากมายขนาดนี้ พวกเขาย่อมต้องหมายจะเอาชีวิตหญิงสาวให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน!
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ขยับตัวหลบหลีกไปมาได้อย่างชำนาญ เธอพยายามจะหลบศรไร้เสียงอีกดอก แต่ทว่ามันอยู่ใกล้เกินไปจนทำให้เธอถึงขั้นเหงื่อตกเลยทีเดียว สำหรับซ่างกวนปิงเอ๋อร์แล้วศรไร้เสียงประเภทนี้ยากเกินไปที่จะหลีกเลี่ยงได้ แม้แต่จ้าวมณีที่คล่องแคล่วอย่างเธอก็ยังต้องคอยเพ่งสมาธิทั้งหมดเพื่อหลบหลีกลูกศรพวกนั้น และความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายได้
จู่ๆ ก็เสียงมีเสียงหวีดหวิวดังแหวกอากาศออกมา จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงระเบิด จ้าวมณียุทธ์ระดับปรมะขั้นกลาง ผู้ครอบครองมณี 5 ดวง ในแนวหน้าชะลอตัวลงชั่วขณะในทันทีเมื่อมีลูกธนูพุ่งเข้าหาค้อนสงครามของเขา และนั่นก็ส่งผลต่อความเร็วของเขาอย่างมาก ด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้ นั่นย่อมเป็นลูกธนูที่ยิงมาจากธนูอุษาม่วงแน่นอน แต่ทว่ามันไม่ได้ถูกยิงโดยโจวเหว่ยชิง แต่กลับเป็นเซียวหรูเซ่อ
“อย่าตกใจ! จัดระเบียบ! ทหารราบหนักเดินไปด้านหน้าต้านพวกศัตรู! พลธนูขยับไปด้านข้าง โจมตีข้าศึกจากแนวต้นไม้ ตั้งสติ! เริ่มยิงได้ทันที! ทหารราบเบาขนาบข้าง ล้อมรอบศัตรูไว้!” เซียวหรูเซ่อออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งอย่างไม่หยุดหย่อน แม้ว่าซ่างกวนปิงเอ๋อร์ผู้บัญชาการกองพันของพวกเขากำลังตกอยู่ในสถาการณ์ย่ำแย่ เซียวหรูเซ่อก็ยังคงสงบนิ่ง
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็ไม่มีเวลาสนใจเกี่ยวกับคนอื่นแล้ว เธอกลายเป็นเป้าที่ชัดเจนเกินไป และยังเป็นจุดหมายของศัตรูในครั้งนี้ด้วย ศัตรูที่ซ่อนอยู่ยังคงใช้ศรไร้เสียงกับเธออย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งนั่นจำกัดความสามารถของเธอให้ไม่สามารถขยับตัวทำอะไรได้ และเธอก็ไม่สามารถโต้กลับได้เลย สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือใช้ประโยชน์จากรองเท้าวายุประสานเพื่อเคลื่อนที่ไปรอบๆ อย่างรวดเร็วเพื่อหลบการโจมตีต่อเนื่องของศรไร้เสียง เธอคาดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ในขณะนี้เป็นจ้าวมณียุทธ์ระดับปรมะขั้นแรกและครอบครองมณีอย่างน้อย 4 ดวง ซึ่งพวกเขาอาจจะยังมีเล่ห์เหลี่ยมซ่อนไว้อีกมาก
ไม่ว่าจะอาณาจักรเกาทัณฑ์สวรรค์หรืออาณาจักรคาลิเซ ทั้งคู่มีจ้าวมณีน้อยกว่า 100 คน จำนวนจ้าวมณีที่ปรากฏตัวที่นี่เป็นเกือบ 1 ใน 4 ของจ้าวมณีทั้งหมดในอาณาจักรคาลิเซ ดังนั้นทุกคนจึงเห็นได้ชัดถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของอาณาจักรคาลิเซที่ต้องการจะกำจัดซ่างกวนปิงเอ๋อร์
“เจ้าอ้วนน้อย! ฆ่านักธนูที่ซ่อนอยู่!” เสียงของเซียวหรูเซ่อดังก้องในหูของโจวเหว่ยชิง
เมื่อเผชิญหน้ากับสนามรบที่วุ่นวายเช่นนี้ โจวเหว่ยชิงก็ถูกเซียวหรูเซ่อเตือนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือกำจัดภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด นั่นคือนักธนูที่ซ่อนตัวอยู่ และยิงศรไร้เสียงพวกนั้นออกมา ความสามารถที่โดดเด่นที่สุดของซ่างกวนปิงเอ๋อร์คือความเร็ว และความคล่องแคล่วของเธอ ตราบใดที่เธอไม่ถูกศรไร้เสียงรบกวน มันก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอที่จะหลบเลี่ยงจ้าวมณียุทธ์พวกนั้น
โจวเหว่ยชิงกระโจนออกไปที่บริเวณป่าริมถนนอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความโกลาหล ไม่มีใครให้ความสนใจกับทหารเพียงคนนี้ คาดไม่ถึงว่าเขาจะกระโจนเข้าป่าด้านข้างไปด้วยความเร็วที่น่าอัศจรรย์
วงล้อทักษะธาตุปรากฏต่อหน้าโจวเหว่ยชิงอีกครั้ง ครั้งนี้เขาทั้งกังวลทั้งตื่นเต้น แต่ทว่าเขาไม่ได้หวาดกลัวอีกต่อไป หลังจากผ่านการหลอมรวมศาสตรามณียุทธ์และการกักเก็บทักษะ โจวเหว่ยชิงได้รับความสามารถใหม่ๆ มามากมาย ซึ่งพวกมันสามารถช่วยให้เขาเอาตัวรอดได้ในสนามรบ ถึงแม้เด็กหนุ่มจะไม่รู้ว่าศัตรูที่ซ่อนอยู่เป็นอย่างไร แต่ก็ประเมินได้ว่ามันอาจซ่อนตัวในทิศที่ศรไร้เสียงถูกยิงออกมา ขณะที่คิดเขาก็เคลื่อนผ่านป่าอย่างรวดเร็ว นักธนูที่ซ่อนอยู่นั้นคงเปลี่ยนตำแหน่งตลอดเวลาในขณะที่ยิงศรไร้เสียงออกมา แต่ยังไงซะพวกมันก็ต้องมีร่องรอยเหลือทิ้งไว้เสมอ
ด้วยการสนับสนุนจากทักษะธาตุลม โจวเหว่ยชิงกระโจนออกไปได้รวดเร็วมาก ประสาทสัมผัสของเขาขยายขอบเขตไปถึง 20 เมตร ตราบใดที่ยังมีร่องรอยหลงเหลือ เด็กหนุ่มก็จะสามารถพบตัวพวกมันได้ เมื่อมาถึงจุดนี้ ประสาทสัมผัสที่พัฒนาขึ้นจากพลังของเสือดำกำลังถูกพิสูจน์ความสามารถของมัน
ทันใดนั้นโจวเหว่ยชิงก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบและสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ใกล้เข้ามา ทันใดนั้นเขาก็ล้มลงไปกองกับพื้นทันทีโดยไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย ร่างของเขากระทบพื้นเป็นเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะกระโดดขึ้นและขยับหนีอีกครั้ง ชั่วพริบตาเดียวเด็กหนุ่มก็เปลี่ยนตำแหน่งไปแล้ว 2 ครั้ง ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ศรไร้เสียงก็พุ่งทะลุผ่านต้นไม้ใหญ่ตรงตำแหน่งที่เขาเคยยืนอยู่พอดิบพอดี
โจวเหว่ยชิงคว้าธนูอุษาม่วงของตนไว้ด้วยมือซ้าย และดึงลูกธนูออกจากแล่ง และในชั่วพริบตาเดียวเขาก็ยิงธนูออกไปด้วยสัญชาตญาณ แน่นอนว่าเด็กหนุ่มไม่ได้เล็งด้วยซ้ำ แม้รู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะยิงโดนเป้าหมายของเขาในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อได้พึ่งพาพลังของธนูอุษาม่วงที่น่าเกรงขาม ลูกธนูก็พุ่งออกไปพร้อมกับเสียงหวีดแหลมสูงเมื่อมันเสียดสีกับอากาศ ใครก็ตามที่ได้ยินเสียงนี้อาจจะรู้สึกหวาดกลัวจนขนหัวลุก แม้เด็กหนุ่มจะมีประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลม แต่เนื่องจากโจวเหว่ยชิงยังคงถูกศรไร้เสียงบีบคั้นจึงยังไม่พบอะไรที่เป็นประโยชน์ ทว่าเขาก็สัมผัสได้ว่าตนอยู่ห่างจากศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ไม่ถึง 100 หลา ตราบใดที่สามารถก่อกวนการยิงของศัตรูได้ แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่เขาก็มีโอกาสที่จะปิดช่องว่างเหล่านั้นเพื่อเข้าถึงตัวศัตรูได้แล้ว
แน่นอนว่าหลังจากที่ลูกธนูของเขาถูกยิงออกไป ศัตรูที่ซ่อนอยู่ก็หยุดชะงักไปชั่วครู่ เสียงสาปแช่งด้วยความโกรธก็ดังขึ้นในทันทีหลังจากนั้น “บ้าเอ้ย! นั่นคือการ ‘ยิงทะยานสวรรค์’ ในตำนานหรือไม่? กล้าดียังไงมาข่มขู่ข้าแบบนี้ เสี่ยวเย่เย่ ยิงมันให้ตายซะ!”
“อ๊า! นายน้อย ระยะการยิงของข้าไม่เพียงพอขอรับ รัศมีการยิงของข้าอยู่ที่ 50 หลา แต่ตอนนี้เขาอยู่ห่างออกไปกว่า 70 หลา”
“เจ้าโง่!!! ทำไมเจ้าไม่บอกศัตรูไปเลยล่ะว่าจะหาเราได้จากที่ไหน หา!!? ดูสิตอนนี้มันอยู่ห่างไปแค่ 50 หลาแล้ว! ระ เร็วมาก!”
ในระยะเวลาสั้นๆ นั้นเอง เมื่อทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน โจวเหว่ยชิงก็กระโดดและพุ่งทะยานไปข้างหน้าราวกับเสือดาว เขาไม่ได้วิ่งเป็นเส้นตรง แต่กลับใช้เส้นทางคดเคี้ยวไปมา ใช้กิ่งไม้และพุ่มไม้รายรอบปกปิดร่างกายของตนในขณะที่พุ่งตรงไปข้างหน้าเรื่อยๆ
*หวือ* ศรไร้เสียงอีกดอกพุ่งเข้าหาเขา นักธนูที่ซ่อนเร้นอยู่นั้นแม่นยำอย่างแท้จริง โจวเหว่ยชิงใช้ความแข็งแกร่งและความเร็วทั้งหมดของเขาในการพยายามหลบหลีกแล้ว แต่ลูกธนูพวกนั้นก็ยังสามารถวิ่งไล่ตามตนมาได้ เนื่องจากระยะทางใกล้มากขึ้น ความเร็วของลูกศรก็เร็วขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตามในขณะที่ลูกศรนั้นกำลังจะพุ่งทะลุร่าง โจวเหว่ยชิงก็หายตัวไปในชั่วพริบตา
โจวเหว่ยชิงกลัวตายอยู่เสมอ ถ้าจะให้เขากล้าเสี่ยงชีวิตวิ่งเข้าป่าเพื่อค้นหาศัตรูที่เร้นกายอยู่แบบนี้ สิ่งที่หวังพึ่งพาที่สุดก็ย่อมเป็นทักษะธาตุมิติทักษะแรกของเขา ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตา ด้วยทักษะนั้น แม้ว่าจะไม่สามารถเอาชนะศัตรูได้ อย่างน้อยเขาก็มั่นใจว่าจะสามารถหลบหนีเอาตัวรอดได้
ขณะที่โจวเหว่ยชิงวิ่งหลบศรไร้เสียงอยู่นั้น ฉับพลันเขาก็เห็นลูกไฟสีส้มแดงขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ฟุตลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนที่จะพุ่งตรงเข้าหาเขาราวกับดาวหางที่กำลังลุกไหม้เป็นไฟ
ศัตรูไม่ได้มีเพียงแต่จ้าวมณียุทธ์เท่านั้น พวกเขายังมีจ้าวมณีธาตุอีกด้วย!
ในวันแห่งโชคชะตานั้น โจวเหว่ยชิงจำได้ว่าเขาเกือบจะถูกบอลอัคคีของตี้ฝูหยาเผาผลาญจนสิ้นชีวิตไปแล้ว แต่ทว่าลูกไฟตรงหน้าเขานั้นแข็งแกร่งกว่าของตี้ฝูหยาหลายเท่านัก! เห็นได้ชัดเจนมากจากขนาดและรูปลักษณ์ของมัน
โจวเหว่ยชิงไม่กล้าที่จะดูถูกพลังของลูกไฟดวงนั้น เขารีบพาดธนูอุษาม่วงไว้บนหลังอย่างรวดเร็ว ไหลเวียนพลังปราณสวรรค์เพื่อปลดปล่อยมณีหยกน้ำแข็งให้กลิ้งเข้าสู่ธนูราชันในมือทันที ในเวลาเดียวกันเด็กหนุ่มก็เรียกใช้ทักษะธาตุลมเพื่อเพิ่มความเร็วสูงสุดให้ร่างกาย เขาง้างธนูราชันขึ้นจนสุดแขนและยิงออกไปอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้า
เสียงหวีดแหลมจากการเสียดสีของอากาศดังขึ้น ครั้งนี้มันรุนแรงกว่าธนูอุษาม่วงหลายเท่านัก ในขณะเดียวกัน ร่างของโจวเหว่ยชิงก็วืดตกลงไปที่พื้นอีกครั้งและครั้งนี้เขาก็หลบศรไร้เสียงได้อย่างหวุดหวิด
*ตูม* ลูกไฟขนาดยักษ์ปะทะเข้ากับลูกธนูที่เขาปล่อยออกไปอย่างจัง ส่งผลให้เกิดการระเบิดกลางอากาศ และทำให้บนท้องฟ้าเกิดเศษสะเก็ดลูกไฟตกกระจายไปทั่ว ภายในรัศมี 30 หลา เปลวไฟสีส้มสาดกระจายไปทั่วบนท้องฟ้า ตัดขาดการมองเห็นของคนทั้งสองฝั่งอย่างสมบูรณ์
โจวเหว่ยชิงไม่ได้อยู่เฉยๆ เขากระโดดลงบนพื้น และง้างธนูราชันขึ้นอีกครั้งก่อนจะยิงออกไปในทิศที่ได้ยินเสียงศัตรูพูดคุยกัน
ก่อนหน้านี้การโจมตีของเขาถูกขัดขวางไว้ด้วยศรไร้เสียงของศัตรู และเด็กหนุ่มก็ถูกปั่นประสาทมานานมากแล้ว ในที่สุดเด็กหนุ่มก็มีโอกาสได้หายใจหายคอเสียที ยิ่งไปกว่านั้นคือในขณะนี้ศัตรูก็ไม่สามารถมองเห็นเขาได้ โจวเหว่ยชิงจะไม่รีบคว้าโอกาสดีๆแบบนี้ไว้ได้อย่างไร? เพียงแค่เรียกธนูราชันออกมาอย่างเดียวก็ผลาญปราณสวรรค์ของเขาไปเกือบครึ่งแล้ว แต่เพราะนำมันออกมาแล้ว เขาจึงต้องใช้ประโยชน์จากมันให้ถึงที่สุด
*ตูม* เสียงละเบิดอีกลูกดังขึ้นกึกก้องอยู่ในระยะไกลๆ แรงระเบิดสะเทือนเลื่อนลั่นของธนูราชันนั้นยากจะระงับได้อย่างแท้จริง มันให้ผลตรงกันข้ามกับศรไร้เสียง ลูกธนูแต่ละลูกที่ยิงออกมามักจะพุ่งออกไปพร้อมกับเสียงดังกังวาลอย่างน่าพิศวง มันคล้ายจะเป็นเสียงหวีดร้องโหยหวน และทันทีที่มันสัมผัสกับเป้าหมาย มันก็จะระเบิดตัวเองอย่างรุนแรงทันที นอกจากนี้ความเร็วของลูกธนูที่ยิงมาจากธนูราชันนั้นเร็วเกินกว่าที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ราวกับว่าทันทีที่ได้ยินเสียงสั่นสะเทือนของสายธนู เมื่อเสียงหวีดร้องโหยหวนจากการเสียดสีของลูกธนูกับอากาศสิ้นสุดลง เสียงระเบิดก็ดังกึกก้องออกมาทันทีจากระยะไกลๆ
…………………………………………………………

Heavenly Jewel Change

Heavenly Jewel Change

ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์ ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!? ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น… หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย! ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด! สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า… แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ? ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร! นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร Every human has their Personal Jewel of power, when awakened it can either be an Elemental Jewel or Physical Jewel. They circle the right and left wrists like bracelets of power. Heavenly Jewels are like the twins born, meaning when both Elemental and Physical Jewels are Awakened for the same person, the pair is known as Heavenly Jewels. Those who have the Physical Jewels are known as Physical Jewel Masters, those with Elemental Jewels are Elemental Jewel Masters, and those who train with Heavenly Jewels are naturally called Heavenly Jewel Masters. Heavenly Jewel Masters have a highest level of 12 pairs of jewels, as such their training progress is known as Heavenly Jewels 12 Changes. Our MC here is an archer who has such a pair of Heavenly Jewels.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset