I am the Fated Villain ตอนที่ 82 ไม่มีใครเยาะเย้ย

ตอนที่ 82 ไม่มีใครเยาะเย้ย

ผู้อาวุโสชุดแดงเรียกว่าผู้อาวุโสไฟแดง ผู้อาวุโสหกของสำนักเม็ดยาหินม่วง เขามีอายุขัยไม่รู้เท่าไร และไม่มีใครบอกอายุแท้จริงเขาได้ ลือกันว่าเขาเปลี่ยนจากรังสีไฟแดงที่กำลังผสานกับไฟสวรรค์ และวิชาการหลอมเม็ดยาของเขาก็เป็นที่เลื่องลือในอาณาจักรเบื้องบน

มีผู้อาวุโสกับศิษย์หลายคนยืนด้านหลังเขา แต่เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้นำกลุ่ม มีทั้งชายและหญิงในกลุ่มผู้อาวุโสและศิษย์ ทั้งหมดล้วนมีอักขระเม็ดยาลอยอยู่ด้านหน้าหน้าอกพวกเขาเพื่อแสดงตัวตน

พวกเขาคือศิษย์สายในของสำนักเม็ดยาหินม่วง ฐานบ่มเพาะพวกเขาไม่แกร่ง และก็เป็นแค่อาณาจักรเซียน

ตอนนี้ ทั้งหมดกำลังจ้องกู่ฉางเกอด้วยสายตาอยากรู้ พวกเขาสงสัยว่านายน้อยกู่มาทำอะไรที่นี่?แถม ทำไมฐานบ่มเพาะของผู้หญิงข้างเขาถึงอ่อนแอขนาดนั้น?นางเป็นแค่อาณาจักรปรมาจารย์

แค่ว่ากู่ฉางเกอมีตัวตนน่าเกรงขาม มันจึงไม่มีใครกล้าพูดถาม

ตอนนี้ ทั้งหมดกำลังยุ่งกับการเดาเจตนาของกู่ฉางเกอ

“นายน้อยฉางเกอ เชิญเข้ามาในสำนักเราก่อน มันคงหยาบคายถ้าเราให้ท่านยืนที่หน้าประตู”

ผู้อาวุโสไฟแดงรีบเชิญกู่ฉางเกอเข้าสำนัก กู่ฉางเกอตอบรับเขาด้วยรอยยิ้มและเดินตามไป ไม่ช้า รังสีแสงก็ปรากฏใต้เท้าทุกคน และพวกเขาก็ตรงไปส่วนลึกของสำนัก

[ภายในตำหนักหรูหรา]

กลิ่นหอมของเม็ดยาลอยคลุ้ง มอบความโบราณให้วัง ศิษย์หน้าตาดีหลายคนนำชามาบริการกู่ฉาเงกอ จากนั้นก็หลบไปด้านข้าง

“ข้าสงสัยว่าอะไรที่ทำให้นายน้อยฉางเกอมาเยือนสำนักเราในวันนี้?”

ผู้อาวุโสไฟแดงจิบชาและถามด้วยความสับสน ความสัมพันธ์ระหว่างสำนักเม็ดยาหินม่วงกับขุมอำนาจใหญ่อื่นดี และก็มีความขัดแย้งระหว่างกันไม่มาก เขาจึงไม่คิดว่ากู่ฉางเกอจะมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา

กู่ฉางเกอแสดงรอยยิ้มและตอบคำถาม

“ท่านไม่ต้องสุภาพขนาดนั้น ผู้อาวุโสไฟแดง จริงๆแล้ว มีบางสิ่งที่ข้าต้องการให้ท่านทำ และนั่นคือสิ่งที่นำฉางเกอมาเยือนสำนักของท่าน”

“โอ้?นายน้อยฉางเกอมาที่นี่เพราะเด็กสาวข้างท่านใช่หรือไม่?”

ผู้อาวุโสไฟแดงเดาได้ทันที สายตาของเขาหยุที่หญิงสาวชุดฟ้าข้างกู่ฉางเกอ นางสวย แต่ฐานบ่มเพาะไม่ดี เขาไม่มั่นใจถึงตัวตนของหลินชิวหาน เขาจึงเรียกนางว่า’เด็กสาว’ แต่ตัดสินจากหน้าตา นางต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกู่ฉางเกอ

ลือกันว่านายน้อยกู่เป็นคนไม่แยแสที่ดูถูกทุกคนและทุกสิ่ง พวกเขาบอกว่ามีนยากมากที่จะรับมือเขา แต่เขาตระหนักว่าข่าวลือนั้นไม่ถูกไปหมด

อย่างน้อย เขาก็ไม่รู้สึกว่ากู่ฉางเกอคุยด้วยยาก เขายังให้ความรู้สึกอบอุ่น ราวกับน้ำพุใสที่คอยประโลม เขาไม่เข้าใจเลยว่าข่าวลือแบบนั้นหลุดไปได้ไง

ผู้อาวุโสไฟแดงอดส่ายหัวไม่ได้

“ข้าพาชิงหานมาจากอาณาจักรเบื้องล่าง ตอนข้าพบนางครั้งแรก พรสวรรค์นางในด้านการหลอมทำให้ข้าใจสั่น และข้าก็รู้ทันทีว่าข้าต้องพานางขึ้นมา ตอนนี้ที่เราอยู่ในอาณาจักรเบื้องบน ข้าจึงอยากให้นางเข้าร่วมสำนักเม็ดยาหินม่วง พรสวรรค์นางจะได้ไม่เสียเปล่า”

กู่ฉางเกอพูดด้วยรอยยิ้ม และก็ไม่พูดคำที่อยู่ในใจโดยตรง’ข้าเห็นว่าสำนักเจ้าตกต่ำมาก ข้าเลยส่งเมล็ดพันธุ์ชั้นดีมาให้’

เขาคงโหดร้ายไปถ้าพูดแบบนั้น เหนือสิ่งอื่นใด เขายังต้องให้พวกเขาบ่มเพาะหลินชิวหานให้เขา เขาจึงไม่อาจทำให้พวกเขาเสียหน้าได้

มันเพราะเหตุนี้เขาถึงให้คำใบ้ ถ้าพวกเขาแปลภาษาเขาออก พวกเขาจะเข้าใจความหมาย’หลินชิวหานคือคนที่ข้าพามาจากอาณาจักรเบื้องล่าง นางมีพรสวรรค์ พอเห็นว่าพวกเจ้าขาดศิษย์ชั้นดีที่จะนำสำนักได้ ข้าเลยตัดสินใจพานางมาให้’

ผู้อาวุโสไฟแดงฉลาด และเข้าใจความหมายซ่อนเร้น และอดแสดงสีหน้าลำบากใจไม่ได้ ในเวลาเดียวกัน เขาก็เผยสีหน้าคาดหวัง เหนือสิ่งอื่นใด กู่ฉางเกอคือนายนน้อยตระกูลกู่

“นายน้อยฉางเกอช่างใจกว้างยิ่งนัก!ตาแก่ผู้นี้อยากขอบคุณนายน้อยฉางเกอแทนสำนักเม็ดยาหินม่วงสำหรับความใจกว้างของท่าน”

ผู้อาวุโสไฟแดงพูดพลางหัวเราะ จากนั้นก็สำรวจพรสวรรค์ของหลินชิวหานอย่างจริงจัง หลินชิวหานประหม่าทันทีที่เขาจ้องนาง แต่จากนั้นนางก็นึกถึงที่กู่ฉางเกอพูดกับนางและสงบลงทันที

‘อย่าตื่นตระหนก!นายน้อยกู่กำลังยืนอยู่ด้านหลังเจ้านะ!’

หลินชิวหานพูดในใจ

ในทางกลับกัน กู่ฉางเกอกำลังฉีกยิ้ม เขารู้ดีถึงพรสวรรค์ของชิวหานในด้านนี้ และแม้กระทั่งสำนักที่แข็งแกร่งอย่างสำนักเม็ดยาหินม่วงก็ต้องก้มหัวและอ้อนวอนขอตัวนาง

มันแค่ว่าเขารู้สึกเบื่อเนื่องจากไม่มีใครสงสัยอะไรเขาเลย เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าพวกเขาเล่นตามบทปกติ งั้นกลุ่มศิษย์สายในของสำนักจะต้องเขย่งเท้ามาและเยาะเย้ยหลินชิวหานเรื่องฐานบ่มเพาะอ่อนแอ และต้นกำเนิดชั้นต่ำของนางสิ

มันน่าเสียดายที่นางมีโชคเยอะ และไม่ต้องเจออะไรแบบนั้น

มันดูเหมือนว่าหลังอยู่ข้างเขามานาน นางจะไม่สามารถใช้ชีวิตผ่านบทเรื่องตบหน้าคนได้อีก

กู่ฉางเกอรู้สึกว่าชีวิตไม่น่าสนใจ ไม่มีใครตั้งคำถามเขา และไม่มีใครกล้ายั่วยุเขา เขาไร้โอกาสที่จะตบหน้าใครบางคน

ทุกคนกลัวเขาเกินไป

“อะไรกัน?!”

จากนั้น ผู้อาวุโสไฟแดงก็ตาถลนกับพรสวรรค์ของหลินชิวหาน เขาไม่รู้ว่ามันน่ากลัวแค่ไหนตอนเขาไม่ทดสอบนาง แต่ตอนนี้ที่เขาทดสอบนาง เขาถึงเข้าใจถึงพรสวรรค์ของนาง เหนือสิ่งอื่นใด พรสวรรค์ไม่ได้ฉาบบนหน้าผากเขา ต่อให้มีฐานบ่มเพาะสูง พวกเขาก็ไม่สามารถมองทะลุพรสวรรค์ได้ง่ายๆ

เพื่อค้นหาพรสวรรค์ มันต้องพินิจให้ดี

หลังเขาตรวจสอบพรสวรรค์ของหลินชิวหาน เขาก็ตระหนักว่าเด็กสาวตรงหน้าเขามีเจตจำนงเม็ดยาแสนน่ากลัว ไม่สิ นางเกิดมาพร้อมกับเจตจำนงเม็ดยาธรรมชาติ!

ต้องรู้ว่าเหล่าสุดยอดปรมาจารย์การหลอมโอสถยังทำได้แค่ใฝ่ฝันที่จะมีเจตจำนงเม็ดยาสักเสี้ยวหนึ่ง แต่นางเกิดมาพร้อมเจตจำนงเม็ดยา

เขาตกใจและรู้สึกเหลือเชื่อ

ไม่ว่านางจะไปสำนักหลอมโอสถไหน นางก็จะเป็นที่ต้อนรับแบบถวายหัว!

“พรสวรรค์ของนาง…”

ผู้อาวุโสไฟแดงดีใจจนเนื้อตัวสั่นไปหมด เขารีบสั่งศิษย์ด้านหลังเขาให้นำเครื่องมือบางอย่างมาทดสอบพรสวรรค์ของหลินชิวหาน

“ผู้อาวุโสไฟแดง พรสวรรค์ของชิวหานเป็นอย่างไร?”

กู่ฉางเกอถามด้วยรอยยิ้ม เขาคาดเดาได้ถึงปฏิกิริยาเช่นนี้อยู่แล้ว แต่เขายังต้องแสร้งทำ

“พรสวรรค์ของนางบ้าไปแล้ว ข้าไม่คิดเลยว่าคนอย่างนางจะปรากฏในอาณาจักรเบื้องล่าง และยังถูกพบโดยนายน้อยฉางเกอ”

ผู้อาวุโสไฟแดงยิ้ม จ้องหลินชิวหานด้วยตาเป็นประกายราวกับกำลังมองสมบัติล้ำค่า

“สาวน้อย เจ้าอยากรับตาแก่ผู้นี้เป็นอาจารย์ของเจ้าไหม?”

คำพูดของเขาทำให้หลินชิวหานสับสน และนางก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพรสวรรค์นางสุดยอดขนาดนั้นเลยเหรอ ในเวลาเดียวกัน นางก็หันไปหากู่ฉางเกอเพื่อขอความช่วยเหลือ

“เจ้าต้องตัดสินใจเอง”

กู่ฉางเกอพูดด้วยรอยยิ้มและทิ้งทางเลือกไว้ในมือนาง มันคงไม่สนุกถ้าเขาช่วยนางตัดสินใจอะไรอย่างการเลือกอาจารย์ แต่ทว่า เขาไม่ชอบที่ผู้อาวุโสไฟแดงอยากชิงตัวนางก่อนคนอื่นจะมา

“แต่ข้าคิดว่าเจ้าควรรอให้ผู้อาวุโสคนอื่นมาก่อน ชิวหาน สำนักเม็ดยาหินม่วงนี้มีผู้อาวุโสหลายคน เจ้าควรเลือกคนที่เหมาะสมกับเจ้าสุด”

กู่ฉางเกอใช้คำว่า’เลือก’โดยไม่ลังเล

ผู้อาวุโสไฟแดงจิตใจห่อเหี่ยวทันที เหนือสิ่งอื่นใด เขาได้พยายามชิงสมบัติล้ำค่าก่อนคนอื่นจริง ทว่า กู่ฉางเกอได้ทำลายโอกาสเขา

สำหรับที่กู่ฉางเกอเลือกใช้คำว่า’เลือก’?เขาไม่รู้สึกว่าผิดอะไร

ตอนนี้ มันไม่ใช่เรื่องว่าสำนักพวกเขาจะเต็มใจยอมรับหลินชิวหานเข้าร่วมไหม แต่เป็นว่านางเต็มใจจะเข้าร่วมกับพวกเขามากกว่าหรือเปล่า!มันคงไม่นานก่อนผู้อาวุโสคนอื่นจะมาถึง เขารู้สึกว่าเขาต้องชิงตัวนางมาให้ได้ก่อน เหนือสิ่งอื่นใด เขาอาจไม่พบเจอโอกาสเช่นนี้อีก

สำหรับศิษย์สายในของสำนักเม็ดยา?พวกเขาตกใจและอดสงสัยไม่ได้ว่าหญิงสาวชุดฟ้ามีพรสวรรค์น่ากลัวแค่ไหน

“สาวน้อย ถ้าเจ้าเต็มใจรับข้าเป็นอาจารย์ ข้ารับประกันว่าเจ้าจะได้ทุกเม็ดยาที่ปรารถนา หากเป็นเรื่องการควบคุมไฟ ข้าสามารถรับประกันได้ว่ามีน้อยคนในอาณาจักรเบื้องบนที่เหนือกว่าข้า!”

ผู้อาวุโสไฟแดงเตรียมการโน้มน้าวหลินชิวหานด้วยทุกสิ่ง เขาอยากวางรากฐานให้หลินชิวหานเลือกเขาเป็นอาจารย์ก่อนคนอื่นจะมาถึง

จากนั้น กลุ่มคนชราของสำนักก็ปรากฏด้านนอกโถงที่พวกกู่ฉางเกอนั่ง ผู้อาวุโสทั้งหมดคือพวกตาแก่ใกล้ลงโลงที่มีสายสัมพันธ์น่ากลัวและทรัพยากรมหาศาล

“ตาแก่ผู้นี้ได้ยินว่านายน้อยฉางเกอนำเมล็ดพันธุ์ชั้นดีมาให้เรา!”

“นายน้อยฉางเกอต้องใจกว้างมาก สำนักเม็ดยาเราเป็นหนี้บุญคุณท่าน!”

ผู้อาวุโสทั้งหมดมีกลิ่นอายน่ากลัว พวกเขาทักทายกู่ฉางเกอทันที จากนั้นก็หันสายตาไปมองหลินชิวหาน จ้องนางเหมือฝูงหมาป่าหิวกระหายที่จ้องมองแกะตัวอ้วน

พวกเขาได้ยินรายละเอียดของนางระหว่างทางมาแล้ว

“นายมีเจตจำนงเม็ดยาธรรมชาติมากกว่าหนึ่งสาย…ไม่สิ รอเดี๋ยว…นางมีเจตจำนงเม็ดยากี่สายกัน!นี่เป็นไปได้ไง?”

“นางคงไม่ได้แปลงกายมาจากเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์โบราณใช่ไหม?”

“พรสวรรค์อย่างนางไม่ปรากฏมาหลายล้านปีแล้ว!มันดูเหมือนว่าสุดท้ายเราจะได้เงยหน้าขึ้นสักที!”

[ฟู่!]

คนในวังต่างสูดหายใจลึก พวกเขารีบเตรียมเครื่องมือเพื่อใช้ทดสอบพรสวรรค์นาง และนำไปตรงหน้าหลินชิวหาน

[บูม!]

แสงสว่างทอแสง ตามด้วยแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อย และฉากน่าตื่นตาตื่นใจก็ปรากฏไปทั่ว ศิษย์หลายคนจำต้องหลับตาเพื่อไม่ให้ตาบอดจากแสงที่สว่างจ้าเกินไป

“ผลของการทดสอบเป็นตามคาด นางมีร่างกายที่เหมาะกับการหลอมโอสถที่สุด!ส่งตัวนางให้ข้า ข้าขอรับประกันว่านางจะเป็นปรมาจารย์โอสถชื่อดังภายในยี่สิบปี!”

“มันดีกว่าที่เจ้าจะส่งตัวนางให้ข้า!พวกชายชราอย่างเจ้ามีแต่จะทำลายอนาคตนาง?สาวน้อย เจ้าควรติดตามข้า ข้ารับประกันว่าเจ้าจะเป็นปรมาจารย์โอสถชื่อดังที่คนนับล้านชื่นชมใน18ปี!”

“ข้าให้ 15ปี!’

“15ปี?กระจอก ข้าต้องการแค่13ปี3เดือน!ฮี่ๆ สาวน้อย พรสวรรค์เจ้าสุดยอด เจ้าควรเลือกข้าเป็นอาจารย์ เจ้าจะเป็นผู้นำยอดเขาคนต่อไปของยอดเขาเสาสวรรค์ของข้า และอาจกลายเป็นคุณหนูคนต่อไปของสำนักเราด้วยซ้ำ!”

ศิษย์ทั้งหมดของสำนักเม็ดยาหินม่วงต่างตกใจและกลัวตอนเห็นผู้อาวุโสที่เคยสูงส่งทำตัวเหมือนป้าๆที่แย่งผักกันตามตลาดนัด

“นายน้อย!”

หลินชิวหานกะพริบตาปริบๆและมองกู่ฉางเกอเพื่อขอความช่วยเหลือ นางไม่เคยเจอคนมากขนาดนี้ในทีเดียวและอดรู้สึกเวียนหัวไม่ได้

“เจ้าสามารถเลือกเองได้”

กู่ฉางเกอตอบ

“ไม่ ข้าจะทำตามที่นายน้อยพูด!”

หลินชิวหานเม้มปากและโยนคำพูดกลับให้กู่ฉางเกอ

‘ทำไมวันนี้สมองของเจ้าถึงไม่เฉียบแหลมขนาดนี้ในวันปกติ?’

กู่ฉางเกออยากเขกหัวนาง

“สาวน้อยผู้นี้อาจเป็นศิษย์ของข้า ข้าต้องการเวลาแค่สิบปีเพื่อเปลี่ยนเจ้าเป็นปรมาจารย์โอสถ”

จากนั้น เสียงอ่อนโยนก็ดังจากด้านนอก และหญิงสาวผู้เลอโฉมก็เดินเข้ามา เรือนร่างนางสมบูรณ์แบบ ไม่มีใครสามารถประเมินพลังของนางได้

“ท่านเจ้าสำนัก!”

ศิษย์กับผู้อาวุโสทั้งหมดทำความเคารพนาง

สำหรับคำพูดนาง?มันเห็นได้ชัดว่านางพูดกับกู่ฉางเกอ

I am the Fated Villain

I am the Fated Villain

Me! The Heavenly Destined Villain, The Villain of Destiny, 我!天命大反派 I Am Fated Villain
Score 8.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I am the Fated Villainทันทีหลังจากที่ Gu Changge ตระหนักว่าเขาได้ล่วงละเมิดเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการ ตัวเอกของโลกและโชคชะตาได้เลือกไว้ สาบานว่าจะแก้แค้นเขา ทุกคนอิจฉาเขา ไม่เพียงแต่จะมีนางเอกหัวโล้นสำหรับเขาเท่านั้น แต่เขาก็ได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นแขกผู้มีเกียรติไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม โชคดีที่ศักดิ์ศรีและอำนาจของ Gu Changge นั้นเหนือกว่าใครๆ ดังนั้นจึงไม่ควรจะง่ายที่จะเหยียบย่ำโชคชะตาที่เลือกไว้? เดี๋ยวก่อน… มีระบบที่ทุ่มเทให้กับการรีดนมและการเก็บเกี่ยวจากตัวเอก? Gu Changge ยิ้มเยาะ “ดูเหมือนว่าโชคชะตาต้องการให้ฉันเติมเต็มชะตากรรมของฉันในฐานะวายร้ายแห่งโลกนี้!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset