I am the Fated Villain ตอนที่ 84 ความทรงจำบิดเบือน?

ตอนที่ 84 ความทรงจำบิดเบือน?

กู่ฉางเกอลุกขึ้นและออกตำหนักเขา ในเวลาเดียวกัน เขาก็เรียกความทรงจำที่เกี่ยวกับคู่หมั้นเขา

เยวี่ยหมิงคง เจ้าหญิงสี่แห่งราชวงศ์เซียนสูงสุด

ทั้งสองหมั้นกันตั้งแต่เด็ก พรสวรรค์ หน้าตา หรือภูมิหลัง นางล้วนเหมาะสมกับเขา ทว่า!เขาสามารถบอกได้จากความทรงจำเขาว่าตัวเขาคนก่อนไม่มีความรู้สึกใดต่อนาง ไม่ว่าจะแค้น และมองนางเป็นแค่เครื่องมือ

ก่อนหน้านี้ เขาได้รับการแจ้งเตือนจากระบบบอกเขาเกี่ยวกับการปรากฏของธิดาสวรรค์ แต่เขาไม่ได้ยินข่าวอะไรเพิ่ม

กู่ฉางเกอคิดอยู่นาน และมองทุกคนรอบตัวเขา เขายังมองค่าโชคของญาติพี่น้องเขาในตระกูล แต่ก็ไม่พบใครให้สนใจ ค่าโชคพวกเขาไม่สูง อย่างน้อยก็แย่กว่าซูชิงเกอกับหลินชิวหาน

สุดท้าย ข้อสงสัยเดียวก็คือคู่หมั้นเขา ยังไ มันก็เป็นแค่การเดา เขาไม่สามารถมั่นใจจนกว่าจะเห็นนาง

เขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อถอนการหมั้น นางจึงไม่ควรมีความเกลียดต่อเขามั้ง?

หรือนางจะมาเพื่อมอบการทักทายแสนอบอุ่นให้ และส่งตัวเองเข้าอ้อมแขนเขา?

เรื่องคงไม่ง่ายขนาดนั้น!

สิ่งสำคัญสุดคือกู่ฉางเกอได้ถามคนของเขาเพื่อเอาข้อมูลเกี่ยวกับคู่หมั้นและสิ่งที่ได้ก็คือ’เยวี่ยหมิงคงเป็นคนที่ไม่มีใครสนใจเยย แต่เร็วๆนี้ นางกลับเปลี่ยนไปมากและเอาชนะพี่น้องนางด้วยกำปั้นเหล็ก และใช้กำลังเอาตำแหน่งผู้สืบทอดราชวงศ์มา!’

กู่ฉางเกอสามารถบอกได้ว่านางไม่ใช่คนธรรมดาที่เขาจะรับมือด้วยได้ง่าย แต่ใบหน้าของเขาก็ยังสงบยและไม่ยึดติดกับความคิดเขานานไป ไม่ว่าทางใด เขาก็จะรู้ความจริงเมื่อเขาตรวจสอบค่าโชคของนาง

แต่ทว่า เขาคิดว่าถ้านางเป็นธิดาสวรรค์จริง งั้นในฐานะเจ้าหญิง ค่าโชคของนางต้องสูงทะลุฟ้า

กู่ฉางเกอหยุดคดเรื่องนี้ ด้วยสถานะและอำนาจของตระกูลกู่และราชวงศ์เซียนสูงสุด สัญญาแต่งงานระหว่างพวกเขาไม่ใช่เรื่องผิด งานนี้อาจเป็นการพบปะเฉยๆ

แต่กู่ฉางเกอสงสัยว่าคู่หมั้นเขาจะต้องดำเนินตามโครงเรื่องไหนถ้านางเป็นธิดาสวรรค์จริง?

แสงศักดิ์สิทธิ์เบ่งบานในโถงหลัก

กู่หลินเทียน ผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลเซียนกู่กำลังยิ้มขณะคุยกับชายสูงศักดิ์สิทธิ์ที่สวมชุดคลุมจักรพรรดิ

ชายผู้นี้มีกลิ่นอายเทพ และลมหายใจก็ยิ่งใหญ่มาก แม้เขาจะนั่งเฉยๆ เขาก็ดูคล้ายกับผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถสั่นคลอนจักรวาลได้ด้วยการพลิกฝ่ามือ

เขาคือจักรพรรดิเยวี่ยแห่งราชวงศ์เซียนสูงสุด!

แค่ว่าคนที่มาเยือนตระกูลกู่เป็นแค่กายวิญญาณของเขา ร่างจริงของเขายังต้องอยู่ในเมืองหลวงของราชวงศ์

จักรพรรดิเยวี่ยกับกู่หลินเทียนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก และก็ตัดสินใจนำครอบครัวมาเกี่ยวดองกันผ่านการหมั้นระหว่างลูกหลานนานแล้ว

ตอนที่เยวี่ยหมิงคงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าหญิงรัชทายาท นางก็มีอำนาจน่าเกรงขามในราชวงศ์ แม้นางจะยังเด็ก นางก็มีอำนาจมากกว่าชายชราหลายคนในอาณาจักรเบื้องบน ไม่มีใครเมินนางได้

ภาพลักษณ์ของนางในฐานะจักรพรรดินีผู้ดุร้ายได้กระจายไปทั่ว

รูปโฉมนางยังนำมาซึ่งความสนใจ แต่ตอนนี้ นางยังทะลวงผ่านไปอาณาจักรราชาเซียนแล้ว อย่างน้อย นั่นก็คือฐานบ่มเพาะที่นางแสดงบนผิวเผิน

ตอนนี้ ผู้อาวุโสหลายคนกับศิษย์ในโถงหลักกำลังลอบมองสาวงามด้านหน้าพวกเขา นางมีเรือนร่างและหน้าตาประดุจเทพธิดา ผมของนางมัดเป็นก้อนเหนือหัว นางดูงามจนลืมหายใจ!

คิ้วและดวงตาประดุจนกฟีนิกส์ของนางยังน่าดึงดูดอย่างมาก

จมูกนางบอบบางน่ารัก ริมฝีปากเหมือนกลีบกุหลาบสะพรั่ง ใบหน้านางดูราวกับจะเลือดไหลหยดได้ถ้าแตะเบาๆ

ผิวนางเกลี้ยงเกลาและเนียนนุ่ม เหมือนภาชนะลายคราม

นางไม่ได้สวมชุดคลุมจักรพรรดิ แต่นางกลับสวมชุดผ้าไหมยาวสีเทา รัศมีแสงปกคลุมตัวนาง ทำให้นางดูเหมือนเทพธิดา

แม้นางจะยืนด้วยใบหน้าเย็นชา แต่กลิ่นอายนางก็เต็มไปด้วยแรงกดดัน

นางเปล่งรัศมีของจักรพรรดิโดยไม่รู้ตัว!

ผู้อาวุโสหลายคนอดถอนหายใจไม่ได้และกังวลว่าการแต่งงานระหว่างนายน้อยตระกูลกู่กับผู้หญิงเช่นนางจะทำให้เกิดความกลัวและความไม่พอใจของหลายเผ่าและหลายตระกูลใหญ่

เจ้าหญิงรัชทายาทแห่งราชวงศ์เซียนสูงสุดกับนายน้อยตระกูลเซียนกู่…ไม่ว่าจะพูดถึงยังไง พวกเขาก็มีอนาคตสดใสจนแสบตา และก็มีอำนาจชี้เป็นชี้ตาย

ความจริงที่ราชวงศ์เซียนสูงสุดกับราชวงศ์เซียนกู่ผนึกกำลังกันไม่ใช่ข่าวดีต่อคนอื่น

ตั้งแต่อดีต ตระกูลใหญ่มากมาย สำนักเซียนและราชวงศ์ใหญ่มักเป็นพันธมิตรกันผ่านการแต่งงาน แต่ไม่มีใครเคยเป็นพันธมิตรกันผ่านการแต่งงานระหว่างผู้สืบทอด

นี่จะทำให้เกิดความวุ่นวาย!

ทว่า!คนอื่นก็พูดอะไรไม่ได้ เหนือสิ่งอื่นใด ตอนงานหมั้นระหว่างกู่ฉางเกอกับเยวี่ยหมิงคงเกิดขึ้น ทั้งสองยังไม่ได้ถูกเลือกเป็นผู้สืบทอด แถม ทั้งสองยังมาถึงตำแหน่งนี้ผ่านการแข่งขันด้วยพลังตัวเอง ไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากการสมคบคิด

พวกเขาจะยังกดดันขุมอำนาจทั้งสองให้ถอนงานหมั้นได้อีกหรือ?

พวกเขาไม่กล้า และไม่มีความสามารถ

ทุกคนในโถงหลักมีความคิดต่างกัน และก็จินตนาการถึงผลที่อาจตามมา

ตอนนี้ หัวใจของเยวี่ยหมิงคงปั่นป่วน นางดูสงบบนผิวเผิน แต่หัวใจกลับเต้นกระหน่ำ นางเคยมาเยือนโถงนี้หลายครั้ง และก็จำชื่อคนของตระกูลกู่ที่ยืนในโถงนี้ได้หลายคน!

ในชีวิตก่อนของนาง พ่อของนางมักปฏิบัติต่อนางอย่างเข้มงวดและดุ แต่อาของนางกู่หลินเทียนมักแสดงความรักและห่วงใยต่อนาง มันเพราะเหตุนี้นางถึงชอบมาตระกูลกู่ตอนว่าง แม้กู่ฉางเกอจะไม่แยแสนาง แต่พ่อแม่ของเขามักดูแลนางด้วยความอบอุ่น ราวกับนางเป็นลูกสาวของพวกเขา

การดูแลเอาใจใส่นี้ทำให้เยวี่ยหมิงคงซึ้งใจ แต่สุดท้าย แม้กระทั่งพวกเขาก็ยังใจสลายเพราะกู่ฉางเกอและมีจุดจบไม่สวย

ย้อนกลับไป ตอนกู่หลินเทียนกำลังจะทะลวงไปอีกอาณาจักรบ่มเพาะ เขาประสบกับจิตมาร เขาอดตั้งคำถามตัวเองไม่ได้ว่าเขายังคู่ควรกับตำแหน่งผู้นำไหมหลังสิ่งที่เขาทำลงไปกับเด็กสาวและเชื้อสายนางในวันนั้น?

เขาไม่สามารถกำจัดจิตมารได้ และจิตมารก็ยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

แม่ของกู่ฉางเกอก็ไม่ต่าง สุดท้าย นางอยู่ในสภาพหดหู่และป่วย ไม่มียาหรือสมบัติใดรักษานางได้

เยวี่ยหมิงคงรู้สึกไม่สบายใจและอดตำหนิตัวเองไม่ได้พอคิดถึงเหตุการณ์ในชีวิตก่อน นางไม่สามารถหยุดทั้งหมดได้ในชีวิตก่อน แต่ในชีวิตนี้ นางจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น

กู่ฉางเกอ ไอลูกเนรคุณนั่น!

ไม่เพียงเขาจะทำร้ายนาง แต่เขายังทำร้ายพ่อแม่ของเขาด้วย!

ไม่ช้าเยวี่ยหมิงคงก็ได้สติ ตอนนี้ เสียงของบริวารดังจากด้านนอก ประกาศถึงการมาของเขา

“นายน้อยมาแล้ว!”

ทันทีเยวี่ยหมิงคงได้ยิน ความซับซ้อนก็แวบผ่านตานาง แต่ไม่ช้าก็หายไป คนที่นางไม่อยากเห็นหน้าสุด และคนที่นางอยากเห็นหน้าสุดมาแล้ว

นางหันไปมองทางเข้าและดวงตาก็เปล่งแสง เขามาในชุดขาวสะอาดสะอ้าน เขามีหน้าต่อหล่อเหลา เหมือนหยกอบอุ่น และผมดำก็เปล่งประกายเหมือนหยกดำ

“ท่านพ่อ!ท่านลุง!”

กู่ฉางเกอทักทายทั้งสองก่อน และจากนั้นก็มองคู่หมั้นเขา

แม้เขาจะเห็นนางมาหลายครั้งในความทรงจำ ตอนเขาเห็นนางกับตาครั้งแรก เขาก็อดยอมรับไม่ได้ว่านางสวยจริงๆ

ช่างไร้ที่ติ ใบหน้าประดุจเทพธิดาเป็นอย่างไรนะเหรอ?มันก็ดูเหมือนคนตรงหน้าเขาไง

ยังไงซะ คำพูดอย่างเดียวไม่มีทางอธิบายความงามของนางได้

สิ่งสำคัญสุดคืออารมณ์นาง นางเผยอารมณ์ของผู้ปกครอง นี่ไม่ใช่อารมณ์ที่คนธรรมดาจะมี

ในเวลาเดียวกัน กู่ฉางเกอก็ใช้ระบบเพื่อดูค่าโชคของนาง และทันใดนั้น เขาก็ตาเหลือก

“กู่ฉางเกอ หมิงคง ทำไมพวกเจ้าสองคนไม่ไปคุยกันตามประสาเด็กละ?หมิงคงมาเยือนตระกูลกู่เราสักที เจ้าควรพานางไปเดินเล่น ให้นางดูความงดงามของตระกูลกู่เรา!”

กู่หลินเทียนพลันพูดกับกู่ฉางเกอหลังเขามาถึง เขาหวังจะใช้โอกาสนี้ให้ทั้งสองสนิทกันขึ้น

จักรพรรดิเยวี่ยเองก็พยักหน้า”หมิงคง ข้าต้องคุยเรื่องอื่นกับอากู่ของเจ้า เจ้ากับฉางเกอควรไปเดินเล่นกัน ปกติเจ้ามักอยากมาที่นี่ไม่ใช่เหรอ?ทำไมวันนี้ถึงเงียบจัง?’

หมิงคงฟื้นคืนสติทันทีหลังได้ยินและตอบ”หมิงคงเข้าใจแล้ว ท่านพ่อ!”

นางยังเหม่อ และอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมฉากถึงต่างจากสิ่งที่นางเห็นในชีวิตก่อน?

นางจำได้ว่าตอนกู่ฉางเกอเข้ามา เขาสวมชุดดำและมีใบหน้าไม่แยแส เขาดูเหมือนจะไม่สนใจใครหรืออะไรทั้งนั้น และยังไม่คิดชายตาแลนาง

แต่สีหน้าของเขาวันนี้..แม้หน้าตาจะเหมือนเดิม แต่เขาดูเหมือนคนละคน

เยวี่ยหมิงคงอดสงสัยไม่ได้ว่าความทรงจำนางบิดเบี้ยวหรือเปล่า?

“หมิงคง เราควรไปเดินคุยกันหน่อยไหม?”

จากนั้น กู่ฉางเกอก็ถามนาง เสียงของเขาเป็นธรรมชาติ แต่ใบหน้าดูประหลาดเล็กน้อย

“อือ”

เยวี่ยหมิงคงพยักหน้าและออกโถงไป ตามหลังเขา

นางสับสน

นางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดไปมาก เขาจะเรียกนางด้วยน้ำเสียงแบบนั้นได้ไง?ในชีวิตก่อนหน้านี้ของนาง เขาแทบไม่เอ่ยปากเรียกชื่อนางด้วยซ้ำ

แถม สีหน้าของเขาไม่ดูปลอมด้วย

เยวี่ยหมิงคงรู้สึกว่าเรื่องราวหลุดออกจากมือ

นับตั้งแต่นางย้อนเวลามา นางก็คือคนที่ควบคุมทุกสถานการณ์และไม่เคยทำผิดพลาด ด้วยการพึ่งพาความรู้ของเนาคต นางก้าวเดินทุกก้าวอย่างระมัดระวังและสมบูรณ์แบบ แต่ความรู้นางกลับหลุดหายทันทีที่กู่ฉางเกอปรากฏ?

หรือ…เขาจะเป็นเหมือนนาง?เขาเองก็เป็นคนที่ย้อนเวลามา และตอนนี้ก็แกล้งหลอกนาง?

หรือ…การย้อนเวลาของนางจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในตัวเขา?

เยวี่ยหมิงคงไม่สามารถบอกได้ว่านางรู้สึกอย่างไร แต่ความรู้สึกของนางต่อกู่ฉางเกอยังเหมือนเดิม เขายังเหมือนนเดิม ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอาย หรือท่าทีไม่แยแสนั่น

เขาไม่สามารถเปลี่ยนธาตุแท้ได้

สิ่งที่เปลี่ยนคือทัศนคติของเขาต่อนาง!

ไม่ช้า นางก็ตระหนักว่านางไม่มีอะไรจะคุยกับเขา

ทั้งสองมาถึงภูเขา เดินเคียงข้างกัน ภูเขาปกคลุมด้วยหมอก ทิวทัศน์ด้านหน้าพวกเขาช่างวิเศษ

เยวี่ยหมิงคงมองกู่ฉางเกอที่ยืนข้างนางและไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ในชีวิตก่อนหน้า ทั้งสองเองก็ออกมาเดินแบบนี้ แต่นั่นเป็นแค่การแสดงให้คนนอกเห็น

‘แม้ว่าทัศนคติของกู่ฉางเกอที่มีต่อเจ้าจะดีขึ้น มันก็ไม่ได้ลบล้างความเจ็บปวดที่เขาเคยทำกับเจ้า!’

เยวี่ยหมิงคงเตือนตัวเองในใจ

นางรีบสงบ และจ้องทิวทัศน์ด้านหน้า นกกำลังโผบิน และมีสัตว์อสูรท่องไปทั่ว

นางไม่พูด มันเห็นได้ชัดว่านางกังวล

“ข้าเกือบคิดว่าเจ้ามาที่นี่เพื่อถอนการหมั้น!”

สุดท้าย กู่ฉางเกอก็เปิดปากด้วยรอยยิ้มและทำลายความเงียบ

ค่าโชคสีม่วง!

แดง ส้ม เหลือง เขียว คราม ฟ้าและม่วง?

ถ้านั่นไม่พอจะทำให้ตกใจ งั้นค่าโชคของนางเองก็สูงถึงแปดพัน!สำหรับว่าแปดพันเท่าไร กู่ฉางเกอไม่ได้มองให้ดี

เหตุผลที่กู่ฉางเกอตกตะลึงทันทีที่ตรวจสอบนางด้วยระบบก็คือค่าโชคลาภของนาง

นางคือตู้เอทีเอ็มเดินได้!

ทันทีที่เยวี่ยหมิงคงได้ยินคำพูดของกู่ฉางเกอ นางก็ตกตะลึง และรูม่านตาก็หด

ทำไมจู่ๆกู่ฉางเกอถึงพูดแบบนี้?

เขากำลังบอกว่าเขารู้ว่านางย้อนเวลามา?

I am the Fated Villain

I am the Fated Villain

Me! The Heavenly Destined Villain, The Villain of Destiny, 我!天命大反派 I Am Fated Villain
Score 8.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I am the Fated Villainทันทีหลังจากที่ Gu Changge ตระหนักว่าเขาได้ล่วงละเมิดเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการ ตัวเอกของโลกและโชคชะตาได้เลือกไว้ สาบานว่าจะแก้แค้นเขา ทุกคนอิจฉาเขา ไม่เพียงแต่จะมีนางเอกหัวโล้นสำหรับเขาเท่านั้น แต่เขาก็ได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นแขกผู้มีเกียรติไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม โชคดีที่ศักดิ์ศรีและอำนาจของ Gu Changge นั้นเหนือกว่าใครๆ ดังนั้นจึงไม่ควรจะง่ายที่จะเหยียบย่ำโชคชะตาที่เลือกไว้? เดี๋ยวก่อน… มีระบบที่ทุ่มเทให้กับการรีดนมและการเก็บเกี่ยวจากตัวเอก? Gu Changge ยิ้มเยาะ “ดูเหมือนว่าโชคชะตาต้องการให้ฉันเติมเต็มชะตากรรมของฉันในฐานะวายร้ายแห่งโลกนี้!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset