I Don’t Want To Defy The Heavens – DTH ตอนที่ 19 ข่าวลือเกี่ยวกับเขา

ณ ประตูเมืองหยูฉาง

 

มียามพร้อมกับดาบกำลังยืนปกป้องประตูอยู่ด้านข้าง

 

เมื่อพวกเขาเห็นกลุ่มผู้ลี้ภัยเดินเข้ามา การแสดงออกของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง

 

พวกมันต้องการทำจะอะไร?

 

หรือว่าพวกมันต้องการจะบุกเข้าไปปล้นตระกูลขุนนางที่อยู่ด้านใน?

 

สัญญาณเรียกระดมพลดังขึ้น

 

มีการโจมตี

 

ผู้ลี้ภัยเปิดเผยเป้าหมายที่แท้จริงของพวกมันแล้วและต้องการที่จะเข้าไปในเมืองหยูฉาง

 

ทหารยามตั้งแนวป้องกัน พวกเขาถืออาวุธเย็นในมือพร้อมกับมองไปข้างหน้าอย่างเคร่งขรึม ตราบใดที่สถานการณ์มันเปลี่ยนแปลงพวกเขาจะพุ่งเข้าไปฆ่ากลุ่มผู้ลี้ภัยตรงหน้าทันที

 

“โกวชิ มองไปที่ทหารยามพวกนั้นสิ พวกเขาออกมาต้อนรับเราด้วย”

 

หลิน ฟานมองไกลออกไปและหัวเราะ

 

เพราะสำหรับเขาแล้วทหารยามที่ประตูเมืองเหล่านี้ก็เป็นเพียงแค่ของตกแต่งเท่านั้น ที่พวกเขาออกมารวมตัวกันแบบนี้เพราะรู้ว่าเขาเพิ่งทำความดีและอยากจะออกมาต้อนรับเขาใช่ไหม?

 

“นายน้อยทหารยามอาจจะเห็นผู้ลี้ภัยมารวมตัวกันและคิดว่าพวกเขากำลังจะก่อจลาจล ข้าจะไปทำให้เรื่องมันชัดเจนเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย่งที่ไม่จำเป็น” ผู้จัดการเฉินราดน้ำเย็นลงบนความมั่นใจของหลิน ฟาน

 

นายน้อยชอบฝันกลางวันจริงๆ

 

หลิน ฟานรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเพราะมันไม่ใช่แบบที่เขาคิด ดังนั้นเขาจึงสั่งให้ผู้จัดการเฉินทำสิ่งที่เขาต้องทำ

 

ผู้จัดการเฉินที่หมดสติและมีฟองสีขาวออกมาก่อนหน้านี้ ยินดีรับหน้าที่ไปเจรจาแทน

 

มีความกดดันทางจิตใจที่ยิ่งใหญ่เวลาสนทนากับบุคคลภายนอกที่ไม่รู้จัก

 

มันเป็นเรื่องยากสำหรับหลิน ฟานที่จะจิตนาการว่ามันหนักหนาแค่ไหน

 

ผู้จัดการเฉินเดินไปอธิบายสถานการณ์ต่อทหารยามของเมือง

 

เมื่อหลิน ฟานพาผู้ลี้ภัยเดินผ่านไป พวกทหารยามก็มองไปที่นายน้อยของตระกูลหลินด้วยสีหน้าซับซ้อน

 

พวกเขารู้สึกว่าสมองของนายน้อยตระกูลหลินคนนี้มีปัญหา

 

พวกเขาคิดว่าด้วยตัวตนและสถานะของเขา เขาควรที่จะไปเล่นกับคนรวยด้วยกัน มันจะมีขุนนางคนไหนที่บ้าพอจะมาอยู่กับผู้ลี้ภัยแบบนี้?

 

แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาเห็นในวันนี้มันแตกต่างจากที่คิดเอาไว้

 

เพราะนายน้อยตระกูลหลินคนนี้ออกไปเที่ยวเล่นกับผู้ลี้ภัยเหล่านี้จริงๆ

 

โกวชิมองไปที่ทหารยามและพูดเบาๆ “นายน้อย ข้ารู้สึกว่าการจ้องมองจากทหารยามเหล่านี้ช่างน่ารังเกียจเหลือเกิน พวกเขาจะไปรู้ความตั้งใจของนายน้อยได้อย่างไร?”

 

“มันไม่เป็นไร เพราะมันไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความชอบธรรม และการเป็นนายน้อยอย่างข้ามันไม่ใช่แค่เรื่องต้นกำเนิดเท่านั้น”

 

“แต่ส่วนใหญ่มันจะขึ้นอยู่กับความเอื้อเฟื้อว่าของใครมีมากกว่าเมื่อเทียบกับพี่น้องคนอื่น นี่ต่างหากล่ะที่เป็นความจริง” หลิน ฟานพูด

 

โกวชิสับสนและไม่เข้าใจ ใครคือพี่น้องที่นายน้อยกล่าวถึง?

 

เพราะตระกูลหลินมีลูกชายเพียงคนเดียวเท่านั้น

 

ณ ศาลาเสาวธารเมามาย

 

ชาวบ้านรอบๆมองไปที่ผู้ลี้ภัยกลุ่มใหญ่ที่เดินเข้าไปในร้าน

 

คนพวกนี้เข้ามาในเมืองได้ยังไง?

 

มันเป็นไปไม่ได้ที่ทหารยามจะปล่อยคนกลุ่มนี้เข้ามา ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังตรงเข้าไปในศาลาเสาวธารเมามายอีก

 

สำหรับผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ที่อยู่ในเมืองพวกเขาเป็นผู้ที่ลักลอบเข้ามา โดยที่ทหารยามไม่ทันสังเกต

 

อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ตกใจเมื่อรู้ว่าคนที่นำคนพวกนี้เข้ามาคือนายน้อยตระกูลหลิน

 

จากข่าวลือล่าสุด

 

นายน้อยตระกูลหลินได้ชวนผู้ลี้ภัยในเมืองมารับประทานอาหาร และตอนนี้เขากำลังจะทำแบบนั้นอีกครั้งใช่หรือไม่?

 

“นายน้อยหลิน” ผู้จัดการของศาลาเสาวธารเมามายรีบวิ่งเข้ามาเมื่อเห็นหลิน ฟาน เขาก้มตัวต่ำและพยายามเอาใจหลิน ฟาน

 

“ไปเตรียมโต๊ะให้ข้า” หลิน ฟานพูดอย่างเป็นกันเอง มันเป็นเพียงแค่การรับประทานอาหารเท่านั้นไม่จำเป็นต้องทำให้ยุ่งยาก

 

ผู้จัดการมองไปยังผู้ลี้ภัยกลุ่มใหญ่ที่อยู่ด้านหลังนายน้อยหลินหัวใจของเขารัว แต่การแสดงออกของเขายังคงเหมือนเดิมและต้อนรับพวกเขา

 

“นายน้อยหลินได้โปรดเข้ามา”

 

“เชิญพวกเจ้าทุกคนด้วย”

 

ผู้จัดการไม่เข้าใจสิ่งที่นายน้อยหลินต้องการจะทำ

 

แม้ว่าตระกูลหลินจะค่อนข้างร่ำรวย แต่พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองกับอะไรแบบนี้ ใช่ไหม?

 

“ผู้จัดการ ข้าเอาเหมือนเดิม”

 

“ช่วยดูแลพวกเขาดั่งเช่นนายน้อย และเอาอาหารมาเสิร์ฟให้พวกเขาด้วย”

 

หลิน ฟานยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เพราะมันง่ายกว่าที่จะเห็นสถานการณ์ภายนอกจากตรงนี้

 

ถ้าพ่อของเขาต้องการจะลงโทษเขา เขาจะสามารถล่าถอยได้ทันที

 

สำหรับผู้ลี้ภัยที่มาอยู่ในสถานที่หรูหราเช่นนี้ พวกเขารู้สึกไม่สบายใจและกลัว

 

แต่เมื่อพวกเขาได้ยินนายน้อยหลินพูดว่าพวกเขามากับท่าน น้ำตาของพวกเขาก็ไหลออกมาและมองไปที่ท่านด้วยความกตัญญู

 

ใครกันที่พูดว่าผู้คนจากตระกูลขุนนางนั้นดุร้ายราวกับเสือ?

 

มันไม่ใช่เรื่องจริงเลยเพราะนายน้อยตระกูลหลินคนนี้ปฏิบัติต่อพวกเขาเป็นอย่างดี

 

ตอนนี้โกวชิที่ยืนอยู่ด้านหลังนายน้อยกำลังนับจำนวนเงินที่พวกเขาต้องจ่าย

 

มันอาจจะมีค่าใช่จ่ายหลายร้อยเงิน

 

ด้านนอกศาลาเสาวธารเมามาย

 

ชาวบ้านไม่ได้จากไปไหน แต่กลับมารวมตัวกันข้างหน้าศาลาและคุยกันด้วยเสียงเบาๆ

 

“นายน้อยตระกูลหลินกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่? ทำไมเขาต้องปฏิบัติกับผู้ลี้ภัยดีแบบนี้เป็นครั้งที่สอง?”

 

“มันมีปัญหาที่สมองของเขารึเปล่า?”

 

“ชู่ เบาหน่อย พวกเจ้าอยากตายรีไง? หากมีคนได้ยินที่เจ้าพูด เจ้าสามารถบอกลาลิ้นของเจ้าได้เลย”

 

“แต่ข้าไม่คิดอย่างนั้นเพราะข้าได้ยินมาว่าพวกเขาทำแต่สิ่งดีๆ เจ้าเคยได้ยินเรื่องของตระกูลหวังรึเปล่าละ? เนื่องจากสภาพอากาศปีนี้มันไม่ค่อยดีมันจึงเป็นสาเหตุทำให้พวกเขามีผลผลิตไม่มากพอที่จะจ่ายภาษี  แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าผลของการไม่จ่ายภาษีคืออะไร?”

 

“ตระกูลชนชั้นสูงจะไม่ปล่อยพวกเขาไปอย่างแน่นอน”

 

“นั่นมันก็ถูก แต่หมู่บ้านตระกูลหวังที่อยู่ภายใต้การดูแลของตระกูลหลินไม่เพียงแต่ได้รับการยกเว้นภาษีแต่ในอนาคตพวกเขาต้องจ่ายมันเพียงแค่10%เพราะนายน้อยหลินไปเจอและสงสารพวกเขา!”

 

“ส่วนเรื่องของหมู่บ้านตระกูลฉินนั้นน่าเศร้าเล็กน้อย เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถจ่ายภาษีได้ จึงมีคนสองคนเสียชีวิตเพราะการลงโทษของตระกูลหยวน”

 

“และถ้าหากว่าพวกเขาไม่สามารถจ่ายได้ภายใน7วัน ทั้งหมู่บ้านจะถูกทำลาย!”

 

มีความเย็นแพร่กระจายไปในฝูงชน

 

มันช่างน่าหวาดกลัวเหลือเกิน

 

ในฝูงชนมีชายคนหนึ่งเงยหน้าขึ้นและมองไปทางหลิน ฟาน

 

ชายคนนั้นคือเหลียง อี้ชูที่กำลังหยุดคิดอยู่ชั่วครู่และเดินเข้าไปในศาลาเสาวธารเมามาย

 

เขาต้องการทำความรู้จักกับนายน้อยหลินคนนี้

 

เขาชื่นชมนายน้อยหลินเพราะเขาทำสิ่งที่ตัวเองต้องการโดยไม่สนอะไรเลย

 

ส่วนตัวเขาเองก็เคยคิดที่จะทำแบบนั้นแต่ก็ไม่กล้า

 

ภายในศาลาเสาวธารเมามาย

 

หลิน ฟานเบื่อเขาจึงมองไปที่คะแนนความโกรธของเขา

 

คะแนนความโกรธ : 2,061

 

ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งเขาจะสะสมมันได้มากขนาดนี้

 

มันคือใคร?

 

ใครกันที่จะโกรธเขาได้มากขนาดนี้?

 

ถ้ามีโอกาสเขาอยากจะลองคุยด้วยสักครั้ง

 

แม้ว่าระบบสนับสนุนขนาดเล็กจะดี

 

แต่สำหรับเขามันก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่เขาจะให้ความสนใจเมื่อเขาเบื่อเท่านั้น

 

ในเวลาเดียวกันมันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของร่างกายเขา

 

และคอยเตือนเขาอยู่เสมอว่าความสามารถของเขาเองนั้นยังไม่แข็งแกร่งพอและไม่ควรที่จะทำตัวหยิ่งเกินไป

 

ร่างกาย : 24

 

กำลังภายใน : 0

 

เทคนิคการบ่มเพาะจิตใจ : ไม่มี

 

เทคนิคการเพาะปลูก : วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต (จุดสูงสุด)

 

คะแนนความโกรธ : 2,061

 

“ข้าจะยกระดับสถานะหน่อยละกันเพราะตอนนี้ข้าเบื่อมาก”

 

ร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นจาก 24 เป็น 30

 

มันใช้คะแนนความโกรธของเขาไป600

 

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยมันราวกับว่ามีพลังงานบางอย่างไหลเวียนอยู่ในร่างของเขา

 

ปุ!

 

มีเสียงสั้นๆดังขึ้น

 

“ลูกพี่ลูกน้อง ท่าน….” โจว เชียงเหมายืนตกตะลึงอยู่ตรงนั้น เขาพบว่าเสียงที่เขาได้ยินมันค่อนข้างคุ้นเคยและมองไปทางลูกพี่ลูกน้องด้วยความเหลือเชื่อ

 

เสียงที่เขาได้ยินมันเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย

 

“ไม่มีอะไร ข้าแค่ผายลมเท่านั้น” ใบหน้าของหลิน ฟานเปลี่ยนเป็นสีแดง

 

เชี่ย!

 

ข้าแค่เพิ่มสถานะเท่านั้นแต่ทำไมมันถึงมีเสียงเหมือนกับผายลมออกมาด้วย?

 

เมื่อเป็นแบบนี้แล้วในอนาคตเวลาข้าจะเพิ่มสถานะข้าต้องไปแอบทำใช่ไหม?

 

ข้าไม่สามารถเพิ่มสถานะในที่โล่งได้จริงๆงั้นเหรอ?

 

อย่างไรก็ตามเขาสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเล็กๆบนแถวสถานะของร่างกาย

 

ร่างกาย : 30 (เส้นทางการต่อสู้ระดับหนึ่ง)

 

ก่อนหน้านี้เขาจำได้ว่ามันไม่ได้มีคำว่าเส้นทางต่อสู้อะไรนี่อยู่

 

ใครมันจะไปคิดว่าเมื่อร่างกายของเขาไปถึง30จุดแล้วมันจะเข้าสู่สถานะระดับหนึ่ง นี่มันน่าสนใจจริงๆ

 

แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่อะไร

 

เขาแค่รู้สึกว่ามีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นและกระชับขึ้นเท่านั้น

 

“ไม่ ลูกพี่ลูกน้อง ท่าน….” โจว เชียงเหมาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็มีเสียงดังออกมาจากข้างนอกเสียก่อน

 

“นายน้อยหลิน” เหลียง อี้ชูเดินเข้ามาในอาคาร แม้ว่ากลิ่นภายในมันจะแปลกไปเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ

 

เขาไม่ได้รังเกียจผู้ลี้ภัยเหล่านี้

 

หลิน ฟานมองไปที่ชายที่เดินเข้ามา

 

จากนั้นก็คิดกับตัวเอง

 

ทำไมเขาสูงขนาดนี้?

 

อะไรทำให้คนๆหนึ่งหล่อได้ขนาดนี้?

 

“นายน้อย ชายคนนี้คือนายน้อยของตระกูลเหลียง เหลียง อี้ชู” ผู้จัดการเฉินมากระซิบเบาๆข้างหูของเขา

 

ทันทีที่หลิน ฟานได้ยินว่าชายคนนี้มาจากตระกูลเหลียง เขาก็ตื่นเต้นทันที “ทำไม? เพียงเพราะข้าเพิ่งเอาชนะน้องชายของเจ้าไป เจ้าก็เลยคิดที่จะมาแก้แค้นข้าว่างั้น?”

 

เหลียง อี้ชูเต็มไปด้วยความสับสน “อะไรนะ?”

 

“ยังคิดจะเสแสร้ง?” หลิน ฟานมองไปที่เขา ได้! ข้าจะเล่นกับเจ้าสักหน่อยละกัน

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don't Want To Defy The Heavens, IDWTDTH, Wǒ Bùxiǎng Nì Tiān A, 我不想逆天啊
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I Don’t Want To Defy The Heavensภายในห้อง มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเงียบสงบกำลังนั่งอยู่ข้างเตียง พร้อมกับทำสีหน้าเคร่งเครียด อย่างไรก็ตามลึกเข้าไปข้างในแล้วเขากำลังมีความสุข “นี่มันก็วันที่สามแล้ว ข้าคงไม่สามารถกลับไปได้อีกต่อไป” ภายในใจของหลิน ฟานตอนนี้กำลังยุ่งเหยิง เพราะเขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขายังอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน ตอนนั้นภายในสถานีรถไฟใต้ดิน มีสถานการณ์ที่ไม่สบอารมณ์เกิดขึ้น เมื่อเขาต้องสู้กับพวกสารเลวสองคน แต่ตัวเขาค่อนข้างแข็งแกร่งและได้ใช้วิชาหวิงชุนกลับไป อย่างไรก็ตามสองสามวินาทีต่อมา เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับหมัดขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งตรงมาทางเขา หลังจากเสียง ‘ปัง’ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลยอีกเลย เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีเขาก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การแกล้งกัน อย่างไรก็ตาม เขารู้จักตัวเองดี เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติหากไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเมื่อเดินสวนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโดนแกล้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset