I Don’t Want To Defy The Heavens – DTH ตอนที่ 26 ใครเป็นคนทำ

ณ ตระกูลเหลียง

 

“ท่านพี่วันนี้มีสิ่งดีๆเกิดขึ้น” คุณหนูสองของตระกูลเหลียงวิ่งเข้ามาในบ้าน “เหลียง หยงฉีได้ไปที่ตระกูลหยวนและถูกทำให้เสียหน้าโดยคุณหนูเจ็ด เขาจึงเอาอารมณ์ทั้งหมดมาลงกับของภายในบ้าน”

 

“เมื่อข้าเห็นเขาทำแบบนั้น ข้าก็อยากจะหัวเราะ”

 

คุณหนูสองยิ้มและหัวเราะออกมา แต่อย่างไรก็ตามเธอก็เห็นเพียงใบหน้าที่ดูเบื่อของพี่ชายเธอเท่านั้น

 

“ท่านพี่ทำไมท่านไม่ตอบสนองเลย หรือว่าท่านจะไม่หายใจแล้ว?”

 

เหลียง อี้ชูวางหนังสือในมือของเขาลงจากนั้นก็ส่ายหัวและยิ้มออกมา “ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังคงเป็นน้องชายของเจ้า เมื่อเจ้ารู้ว่าเขาถูกตีทำไมเจ้าถึงมีความสุขกันเล่า?”

 

“ฮิฮิ น้องชาย? ข้าไม่ได้มีน้องชายแบบนั้นสักหน่อย ข้ามีเพียงแค่ท่านเท่านั้นที่เป็นพี่น้องของข้า” คุณหนูสองพูด

 

เมื่อเห็นว่าเหลียง หยงฉีไม่ได้พูดอะไรอีก คุณหนูสองจึงรู้สึกเบื่อ ดังนั้นเธอจึงเดินออกไปเพื่อดูน้องชายสามที่ตอนนี้บ้าไปแล้ว

 

หลังจากที่ท่านพ่อกลับมาจากตระกูลหยวน ใบหน้าของท่านก็แลดูมืดมนและท่านยังเดินตรงเข้าไปในห้องศึกษาโดยทันที

 

แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

 

แต่ข้าก็แน่ใจว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่

 

ในตอนนั้นเหลียง หยงฉีก็ได้นึกถึงคำพูดของหลิน ฟานและพบว่ามันสมเหตุผลมาก

 

แต่เขาทำมันไม่ได้ เขาไม่มีความมั่นใจมากพอและเขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขานั้นไม่มีความสามารถ

 

หากหลิน ฟานรู้เรื่องที่เขากำลังคิดอยู่เขาคงจะให้บนเรียนที่ชื่อว่า ‘หลักสูตรเพิ่มความมั่นใจ’ แก่เขาแน่นอน

 

ลานหลังบ้านตระกูลหลิน

 

หลิน ฟานที่นอนอยู่บนเตียงกำลังศึกษาระบบสนับสนุนขนาดเล็กก่อนที่จะเข้านอน

 

“เฮ้อ วันนี้มันช่างเต็มไปด้วยการต่อสู้ของสติปัญญาและความแข็งแกร่งของจิตใจ”

 

เขาหัวเราะออกมา

 

ท่านพ่อดูเหมือนจะไม่ได้ประทับใจในความจริงใจของเขา

 

แม้แต่คะแนนความโกรธเขาก็ยังได้รับมาจำนวนมาก

 

คะแนนความโกรธ: 5374

 

“ชีวิตของนายน้อยผู้มั่งคั่งเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก มันสามารถให้ความรู้สึกแบบที่ชีวิตที่แล้วของข้าไม่เคยสัมผัสมาก่อน”

 

“เอาล่ะ ถึงเวลาที่จะต้องนอนแล้ว มาดูกันสิว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรสนุกๆมาให้ข้าทำอีก”

 

เขาเป็นคนที่ไม่มีเป้าหมาย และเป็นที่รู้จักกันในนามของนายน้อยผู้ฟุ่มเฟือย

 

ในวัยเด็กเขาก็เอาแต่เล่นสนุกและไม่เคยคิดที่จะฝึกฝน

 

ช่างเป็นช่วงเวลาที่สูญเปล่ายิ่งนัก

 

ณ เวลานี้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยความมืดมิด

 

พระจันทร์ไม่ได้เต็มดวงดังนั้นมันจึงไม่สว่างมากนัก

 

โจว เชียงเหมากำลังออกลาดตระเวนลานด้านหลัง

 

มันมีโอกาสที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาจะถูกนักลอบสังหารทำร้าย (TL: จะใช้นักลอบสังหารกับนักฆ่าสลับกันบางช่วงเพื่อเพิ่มความลื่นไหลในการอ่านนะครับ)

 

ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นเขาจะต้องเป็นคนรับรองความปลอดภัยของลูกพี่ลูกน้องของเขา

 

ที่ทางเข้าลานด้านหลังมียามสองคนยืนอยู่ หนึ่งในนั้นพูดออกมา “ท่านอาจารย์ ที่นี่มีพวกข้าอยู่แล้วสองคน ท่านสามารถไปพักก่อนได้เลย”

 

“เงียบ และไม่ต้องพูดอะไรอีก อย่าปล่อยให้ลมหรือแม้แต่หญ้าคลาดสายตา”

 

มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่โจว เชียงเหมาจะไม่ไปพักผ่อน

 

เพราะคนที่พักอยู่ข้างในเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาที่เขาเป็นห่วงมากกว่าพวกยาม ดังนั้นเขาจึงให้ความสำคัญกับทุกการเคลื่อนไหว

 

เขาจะไม่ฝากชีวิตลูกพี่ลูกน้องของเขาเอาไว้กับพวกยามแน่

 

“เดี๋ยวข้าจะมาตรวจสอบพวกเจ้าภายหลังว่าหย่อนยานหรือไม่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นพวกเจ้าต้องรายงานข้าให้เร็วที่สุด และห้ามดำเนินการใดๆโดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด” โจว เชียงเหมาพูด

 

“ขอรับ” ยามทั้งสองตอบ

 

โจว เชียงเหมาตอนนี้นั้นตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เขาพยายามกระจายการรับรู้ของเขาออกไป ทันใดนั้นก็ได้มีหมอกสีขาวไหลออกมาจากร่างกายผ่านขาของเขาเหมือนใยแมงมุงครอบคลุมพื้นที่บริเวณลานด้านหลังทั้งหมด

 

เมื่อแสงจันทร์สาดส่องลงมาบนพื้นสิ่งที่ดูเหมือนใยแมงมุงก็กลับกลายเป็นน้ำค้างแข็งในฤดูหนาว

 

เมื่อมีใครเข้ามาในลานเขาจะสามารถรับรู้ได้ทันที

 

ผู้ที่ไม่ได้มีกำลังภายในแข็งแกร่งจะไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้

 

ลมหนาวที่พัดผ่านได้ทำให้ผมของเขาปลิวขึ้นไปในอากาศ

 

ในตอนนั้นเองอยู่ๆการแสดงออกของโจว เชียงเหมาก็เปลี่ยนไปเป็นน่ากลัว เขารู้สึกได้ว่ามีใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังเขา

 

คนที่สามารถมาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังของเขาได้โดยที่เขาไม่รู้ตัวจะต้องเป็นบุคคลที่ทรงพลังมากแน่

 

ทันใดนั้นเหงื่อก็ได้ไหลออกมาจากหน้าผากของเขา

 

ตู้ม!

 

เขาโดนกระแทกเข้าที่คออย่างแรงจนตัวของเขาลอยไปข้างหน้าพร้อมกับสติที่ใกล้จะหมดลง

 

ดวงตาของเขาเบิกกว้าง รูม่านตาของเขาหดเล็กลง

 

ข้าห้ามหมดสติ

 

ตอนนี้ในใจของโจว เชียงเหมามีเพียงความคิดนี้เท่านั้น

 

ปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด

 

มิฉะนั้นลูกพี่ลูกน้องจะ…

 

เขาเปิดปากและกัดลิ้นของเขา เมื่อลิ้นของเขาถูกกัดจิตใจของเขาก็ตื่นตัวทันที

 

‘คัมภีร์หัวใจปีศาจ’ ก็เริ่มทำงานทันที

 

กล้ามเนื้อส่วนหลังของเขาขยายออก กำลังภายในภายในร่างกายของเขากลายเป็นหมอกและไหลออกมาจากรูขุมขนด้านหลังของเขา

 

อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น

 

อากาศกำลังบิดเบี้ยวและระเหยตามอุณหภูมิที่สูงขึ้น

 

“แทง…”

 

ปัง!

 

นิ้วถูกแทงเข้ามาที่กลางหลังของเขา

 

ตุบ!

 

เขาล้มลงกับพื้นและหมดสติไปโดยไม่สามารถขัดขืนได้

 

“ไม่เลว ดูเหมือนว่าเขาจะพัฒนาขึ้นเล็กน้อย”

 

ด้านหน้าทางเข้าลานด้านหลัง

 

ยามทั้งสองล้มลงกับพื้น โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อนที่พวกเขาจะสลบไป

 

มันเป็นหลิน วานยี่ที่เดินเข้ามาในลานพร้อมกับหน้ากากผีและเสื้อผ้าสีดำ

 

ภายในห้อง

 

หลิน ฟานกำลังนอนหลับอย่างสบาย ผ้าห่มที่คลุมตัวของเขาอยู่ถูกเตะลงไปบนพื้น

 

เสียงกรนเบาๆค่อยๆดังออกมาจากตัวเขา

 

เอี๊ยด!

 

หน้าต่างไม้ถูกเปิดออกทำให้มีเสียงดังเล็กน้อย

 

ถ้าเป็นคนธรรมดาการกระทำแบบนี้จะทำให้พวกเขาตื่นอย่างแน่นอน แต่สำหรับหลิน ฟานมันกลับไม่ได้ทำให้เขาตื่นขึ้นเลยแม้แต่น้อย

 

เมื่อหลิน วานยี่มองไปยังลูกชายที่ไร้ประโยชน์ของเขาที่กำลังหลับ มันก็ทำให้อารมณ์ของเขาแย่ลงทันที

 

นี่เป็นครั้งที่สองแล้วทำไมเขาถึงไม่รู้จักจำ

 

เสียงตอนเปิดหน้าต่างมันก็ค่อนข้างดัง

 

แล้วทำไมเขาถึงยังไม่ตื่นอีก?

 

เขายังคงหลับสนิทอยู่เหมือนเดิม

 

หลิน วานยี่เดินมาที่ข้างเตียงพร้อมกับกริชในมือจากนั้นเขาก็นำมันไปพาดเอาไว้ที่คอของหลิน ฟาน

 

จิตสังหารเริ่มกระจายออกมาจากตัวของเขาจนทำให้อากาศโดยรอบเย็นขึ้นทันที

 

สำหรับผู้เชียวชาญตราบใดที่มีจิตสังหารต่อให้มันเล็กน้อยเพียงใดก็สามารถรู้สึกได้

 

สถานการณ์ภายในห้องเริ่มอึดอัดขึ้นเรื่อยๆ

 

หลิน วานยี่วางกรีชเอาไว้ที่คอลูกชายของเขาพร้อมกับเจตนาฆ่าที่เริ่มเข้มข้นขึ้นไปทุกขณะ

 

อย่างไรก็ตามหลิน ฟานก็ยังคงหลับสนิทอยู่

 

มิหนำซ้ำเขายังกรนออกมาอีกด้วย

 

ตอนนั้นเองดูเหมือนเขารู้สึกคันที่เป้า เขาจึงเอามือมาเกาก่อนที่จะนอนต่อไป

 

หลิน วานยี่กำหมัดของเขาแน่นจนมีเสียงกระดูกดังออกมา

 

“ความโกรธ +88”

 

“ความโกรธ +123”

 

“เจ้าเด็กไม่เอาไหน เจ้าจะนอนต่อใช่ไหม? ได้ ข้าจะทำให้เขาหลับฝันดี” หลิน วานยี่ดึงกรีชกลับมาจากนั้นเขาก็เอานิ้วกดเอาไปยังจุดหนึ่งของร่างกายหลิน ฟาน

 

แต่ดูเหมือนหลิน ฟานจะไม่ได้รู้สึกอะไรและยังคงหลับต่อไป

 

ปัง!

 

เสียงเหมือนบางอย่างถูกกระแทก

 

ท้องฟ้าเริ่มมีสัญญาณของรุ่งสาง

 

เอี๊ยด~

 

“ลูกพี่ลูกน้อง! ลูกพี่ลูกน้อง!” โจว เชียงเหมารีบผลักประตูเข้ามาและเมื่อเห็นหลิน ฟานนอนอยู่บนเตียงใบหน้าของเขาก็แสดงอาการตื่นตระหนกทันที

 

เขาคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับลูกพี่ลูกน้องของเขา

 

เขาจึงรีบดึงตัวลูกพี่ลูกน้องของเขาขึ้นมา

 

“ลูกพี่ลูกน้อง! รีบตื่นสิ! ข้ามันคนไร้ประโยชน์…” ก่อนที่โจว เชียงเหมาจะพูดจบ

 

หลิน ฟานก็ตื่นขึ้นมาและพูดอย่างไม่พอใจ

 

“ลูกพี่ลูกน้องเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? นี่มันเช้ามากเจ้าจะมาปลุกข้าทำไม?”

 

เมื่อเห็นว่าลูกพี่ลูกน้องไม่ได้เป็นอะไรเขาก็ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น จากนั้นเขาก็คว้าไหล่ของหลิน ฟานและเขย่าเขา “มันเยี่ยมมากที่ท่านไม่เป็นอะไร มันเยี่ยมมากจริงๆ ท่านทำให้ข้ากลัวแทบตาย”

 

“เดี๋ยวก่อนนะ”

 

หลิน ฟานพยายามทำให้โจว เชียงเหมาใจเย็นลง แต่ทันใดนั้นเองเขาก็เอื้อมมือของเขาไปแตะที่ตาซ้าย

 

จิ

 

เขาถอนหายใจด้วยความเจ็บปวด

 

เขาลูกออกจากเตียงก่อนที่จะวิ่งไปทางกระจก

 

ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเศร้าก็ดังไปทั่วทั้งลานด้านหลังทั้งหมด

 

“ไอสารเลวตัวไหนมันกล้าต่อยตาข้า?!” หลิน ฟานตะโกนออกมา

 

ใครเป็นคนทำแบบนี้กับข้ากัน?

 

ข้าแค่นอนและตื่นมาก็เป็นแบบนี้แล้ว

 

“ลูกพี่ลูกน้อง มันมีนักฆ่าบุกเข้ามาเมื่อคืนนี้ ข้าไม่สามารถสู้มันได้และถูกทำให้หมดสติ และสุดท้ายท่านก็ได้รับบาดเจ็บ” โจว เชียงเหมาโทษตัวเอง

 

ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเขาอ่อนแอเกินไปลูกพี่ลูกน้องคงไม่ได้รับบาดเจ็บ

 

“นักฆ่า?” หลิน ฟานตกตะลึง

 

ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกตัวเลย?

 

ด้วยการที่ตาซ้ายของเขาอยู่ในสภาพนี้ผู้บุกรุกจะต้องโจมตีอย่างรุนแรงแน่นอน แต่ทำไมเขาถึงยังหลับต่อไปได้ละ

 

แล้วเขาก็ยังฝันดีอีกด้วย

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don't Want To Defy The Heavens, IDWTDTH, Wǒ Bùxiǎng Nì Tiān A, 我不想逆天啊
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I Don’t Want To Defy The Heavensภายในห้อง มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเงียบสงบกำลังนั่งอยู่ข้างเตียง พร้อมกับทำสีหน้าเคร่งเครียด อย่างไรก็ตามลึกเข้าไปข้างในแล้วเขากำลังมีความสุข “นี่มันก็วันที่สามแล้ว ข้าคงไม่สามารถกลับไปได้อีกต่อไป” ภายในใจของหลิน ฟานตอนนี้กำลังยุ่งเหยิง เพราะเขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขายังอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน ตอนนั้นภายในสถานีรถไฟใต้ดิน มีสถานการณ์ที่ไม่สบอารมณ์เกิดขึ้น เมื่อเขาต้องสู้กับพวกสารเลวสองคน แต่ตัวเขาค่อนข้างแข็งแกร่งและได้ใช้วิชาหวิงชุนกลับไป อย่างไรก็ตามสองสามวินาทีต่อมา เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับหมัดขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งตรงมาทางเขา หลังจากเสียง ‘ปัง’ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลยอีกเลย เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีเขาก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การแกล้งกัน อย่างไรก็ตาม เขารู้จักตัวเองดี เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติหากไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเมื่อเดินสวนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโดนแกล้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset