I Don’t Want To Defy The Heavens – DTH ตอนที่ 33 หากเจ้ามีความกล้าก็เข้ามา

(TL: การบ่มเพาะ,การเพาะปลูกและฝึกฝน คืออันเดียวกันนะครับจะสลับใช้เพื่อให้อ่านได้ไหลลื่น)

 

“มันง่ายจริงๆ”

 

เขาลืมตาขึ้น

 

กำลังภายในภายในร่างกายของเขาเปลี่ยนไปมันแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก

 

เขานำกำลังภายในไปที่แขนของเขาตอนนั้นเองมือของเขาก็ถูกห่อหุ้มด้วยชั้นแสงสีม่วงบางๆ

 

“ดูเหมือนว่านี่จะเป็นกำลังภายในที่คนพูดถึงกัน” หลิน ฟานโบกมือ แสงที่อยู่รอบๆฝ่ามือของเขาช่างลึกลับจริงๆ ทันใดนั้นเขาก็ย้ายมือของตัวเองไปคว้าเทียนที่อยู่บนโต๊ะไม้

 

เขาเคยเห็นลูกพี่ลูกน้องของเขาสามารถคว้าและทำลายสิ่งของต่างๆในอากาศได้โดยใช้กำลังภายใน

 

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเขาคว้าไปที่เทียนมันกลับไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว

 

“มันเป็นเพราะข้ายังไม่แข็งแกร่งพองั้นหรือ?” หลิน ฟานส่ายหัวและมองไปที่ระบบสนับสนุนขนาดเล็ก

 

ร่างกาย : 90 (เส้นทางการต่อสู้ขั้นสาม)

 

กำลังภายใน : 30 (เส้นทางการต่อสู้ขั้นหนึ่ง)

 

เทคนิคการบ่มเพาะจิตใจ : คัมภีร์อาทิตย์ม่วงสี่นักบุญ (ขั้นหนึ่ง)

 

เทคนิคการเพาะปลูก : วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต (จุดสูงสุด)

 

คะแนนความโกรธ : 1,322

 

“การเพิ่มคะแนนลงไปที่กำลังภายในถึง30จนทำให้กำลังภายในได้กลายเป็นขั้นหนึ่ง บวกกับร่างกายที่เดิมอยู่ขั้นสามอยู่แล้วดังนั้นข้าจึงสามารถเรียกตัวเองว่าเป็นผู้ปลูกฝังแบบคู่ได้” หลิน ฟานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

 

ตอนแรกเขาต้องการเพียงแค่บ่มเพาะร่างกายเท่านั้น แต่ภายหลังเขาก็พบว่าประโยชน์ของการฝึกกำลังภายในมันน่าสนใจไม่น้อย

 

เรื่องนี้มันทำให้เขาปวดหัว

 

แต่เขาก็ไม่ต้องการจะล่มเลิกเช่นกัน ดังนั้นทางเลือกของเขาจึงเหลือเพียงฝึกมันทั้งสองไปพร้อมกันเพียงเท่านั้น

 

เพราะถึงยังไงข้าก็เป็นนายน้อยที่ร่ำรวยอยู่ดี ข้าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า ข้านั้นมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้บางครั้งมันก็เป็นการดีที่ได้ต่อสู้กับผู้อื่น ด้วยเหตุนั้นมันจึงทำให้ข้ารู้สึกสนุกและมีความสุขอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

 

และถ้าหากผู้อื่นไม่บังคับเขา เขาก็จะไม่มีทางฝึกฝนอย่างแน่นอน

 

“ไม่เลวดูเหมือนว่าข้าจะเริ่มต้นได้ดี การเพาะปลูกภายนอกขั้นสามรวมกับการบ่มเพาะภายในขั้นหนึ่ง ข้าน่าจะสามารถต่อสู้กับผู้ฝึกฝนเส้นทางการต่อสู้ขั้นสี่ได้”

 

เขาต้องการจะทดสอบแต่ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่ถึงเวลา

 

“เอาล่ะ ดูเหมือนว่าจะได้เวลานอนแล้ว”

 

เขายังมีคะแนนความโกรธเหลืออยู่อีกหนึ่งพันคะแนนซึ่งเขาจะทิ้งมันไว้ใช้เวลาเขาเบื่อ

 

เขาเอนตัวลงนอนและหลับไปทันทีเมื่อเขาปิดตา

 

ด้านนอก

 

หลิน วานยี่ที่เดิมกำลังจะจากไป แต่เขาก็หยุดเมื่อเขาเห็นหลิน ฟานกลับไปนอนหลังจากเริ่มฝึกไปได้ไม่นาน ในดวงตาของเขามีความโกรธแล้วที่เขายกย่องไปตอนแรกมันเพื่ออะไรกัน ถ้าในท้ายที่สุดมันจะจบลงแบบนี้

 

“นายท่านนี่มัน…” อาวุโสวู่รู้สึกอายจริงๆ ทำไมนายน้อยถึงไม่ฝึกให้มันนานกว่านี้สักหน่อยเล่า? อย่างน้อยก็ขอจนกว่าท่านหัวหน้าตระกูลจะกลับไปก่อน

 

“ไม่ต้องไปไหนแล้ว พวกเราจะลงมือกันคืนนี้” หลิน วานยี่พูดอย่างดุเดือด

 

อาวุโสวู่ตอบ “ขอรับนายท่าน”

 

เรื่องนี้อาวุโสวู่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากพูดว่านายน้อยทำตัวเองเท่านั้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ท่านหัวหน้าตระกูลกำลังจะทำมันก็เพื่อประโยชน์ของนายน้อยทั้งสิ้น

 

อาวุโสวู่สวมหน้ากากและเหยียบอากาศไปทางลานด้านหลังที่หลิน ฟานอยู่

 

หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีเสียงโห่ร้องดังออกมา

 

“เจ้ามือสังหารหน้าด้าน เจ้ายังกล้ามาที่นี่อีกงั้นหรือ! นี่มันมากเกินไปแล้ว!”

 

“ช่วยข้าด้วย! มีนักลอบสังหาร!”

 

เสียงตะโกนดังออกไปแต่จู่ๆเขาก็หยุดพูดอย่างกะทันหัน

 

“นายน้อย!” โกวชิที่กำลังฝึกวิชาวิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตอยู่ด้านหลังภูเขา เมื่อได้ยินตะโกนเขาจึงรีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับดาบในมือทันที “นายน้อยไม่ต้องกลัวเพราะข้าอยู่นี่แล้ว”

 

นักลอบสังหารเปลี่ยนเป็นเฉียบคมเขาเตะออกไปขณะที่หลิน ฟานพยายามป้องกันลูกเตะนั้น

 

เมื่อหลิน ฟานเห็นโกวชิวิ่งเข้ามาพร้อมกับดาบเขาจึงตะโกนออกไป “อย่าเข้ามา!”

 

การที่นักลอบสังหารไม่สามารถฆ่าเขาได้มันไม่ได้หมายความว่าโกวชิที่อ่อนแอจะสามารถสู้ได้ บางทีเขาอาจจะถูกฆ่าตายโดยไม่มีโอกาสได้ต่อต้านเลยด้วยซ้ำ

 

“ถ้าเจ้าต้องการจะทำร้ายนายน้อย เจ้าต้องข้ามศพข้าไปก่อน!” โกวชิตะโกนออกมา เขาจับดาบด้วยมือทั้งสองข้างและฟันออกไปทางนักฆ่าโดยไม่กลัวตายพร้อมกับพูดออกมาว่า “นายน้อยหนีไป ข้าจะกันเขาเอาไว้เอง”

 

โกวชิที่เพิ่งเริ่มฝึกฝนจะแข็งแกร่งแค่ไหนเชียว? ในสายตาของผู้เชี่ยวชาญบางคนพวกเขาสามารถมองเห็นจุดอ่อนทั้งหมดได้ และเทคนิคดาบของโกวชิก็อาจจะดีกว่าคนธรรมดาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

อาวุโสวู่พยักหน้าเงียบๆ คนรับใช้ผู้นี้ยอมเยี่ยมจริงๆ

 

ในช่วงเวลาที่เจ้านายของตนเผชิญหน้ากับอันตรายเขากลับพุ่งเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัว เขามีความภักดีและเหมาะที่จะเป็นคนที่อยู่ข้างกายนายน้อย

 

เขาชี้นิ้วไปข้างหน้าและรวบรวมกำลังภายในเพื่อโจมตีโกวชิ

 

ตุบ! ตึง!

 

นัยน์ตาของโกวชิหดลงร่างกายของเขาล้มลงไปกับพื้น

 

“ไม่ต้องกังวล เขายังไม่ตาย ข้าทำให้เขาเป็นลมเท่านั้นเพราะเป้าหมายของข้าก็คือเจ้า” เสียงของนักลอบสังหารยังเด็กมาก ที่อาวุโสวู่ทำแบบนี้เขามีจุดประสงค์บางอย่าง

 

นายน้อยสงสัยว่าหัวหน้าตระกูลเป็นนักฆ่าและความสงสัยของเขาดันถูกต้องซึ่งมันก็เป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องขจัดความสงสัยนั้นออกไปเพื่อซ่อนความจริงจากนายน้อย

 

หลิน ฟานถอนหายใจด้วยความโล่งอกจากนั้นเขาก็กลิ้งตัวไปที่ด้านข้างของโกวชิ เขาแตะชีพจรและพบว่ามันยังเต้นอยู่ ดังนั้นเขาจึงหยิบดาบขึ้นมาแล้วถามออกมาอย่างระมัดระวัง “เจ้าเป็นใคร!?”

 

อาวุโสวู่ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเพราะเขารู้ตัวดีว่าถ้าเขายิ่งพูดเขาก็จะยิ่งดูมีพิรุธ

 

เขาพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับทิ้งรอยเท้าลึกเอาไว้เบื้องหลัง เพียงชั่วพริบตาเขาก็มาอยู่ต่อหน้าหลิน ฟานแล้ว

 

“เชี่ย! คนตระกูลหลินหายหัวไปไหนกันหมด?”

 

“มีนักฆ่าโว้ยย!”

 

หลิน ฟานตะโกนสุดเสียง

 

ตอนกลางวันมีผู้คนมากมายแต่ตอนนี้กลับหายไปเหมือนผี และการที่นักฆ่าเข้าออกบ้านของเขาเป็นว่าเล่นแล้วแบบนี้เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

 

หลิน ฟานหลบออกมาทันทีด้วยการขยับร่างกายเพียงเล็กน้อย ตอนนั้นเองที่เขาก็ได้เห็นช่องโหว่เขาจึงรีบเหวี่ยงดาบด้วยมือข้างหนึ่งออกไปที่นักฆ่าทันที

 

“เจตจำนงพยัคฆ์”

 

ด้วยการที่เขาฝึกวิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตจนมาถึงขั้นจุดสูงสุดมันจึงทำให้พลังของวิชาก้าวไปอีกระดับหนึ่ง

 

แม้ว่าเทคนิคดาบนี้จะเป็นวิชาธรรมดาๆ แต่เมื่อฝึกมันจนถึงระดับสูงสุดมันจะให้พลังที่ไม่สามารถจิตนาการได้

 

เมื่อหลิน ฟานฟันออกไปเสือปีศาจสีดำที่ดูน่าหวาดกลัวก็ปรากฏบนดาบของเขา

 

กำลังภายในภายในร่างกายของเขาเดือดและค่อยๆมาปกคลุมที่ใบดาบ

 

ถ้าหากว่าไม่มีกำลังภายในเขาจะไม่สามารถทำการโจมตีที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้

 

อาวุโสวู่ตกตะลึง

 

เยี่ยมมาก

 

นายน้อยไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ

 

หัวหน้าตระกูลพูดถูกแล้วความกดดันจะช่วยดึงศักยภาพของนายน้อยออกมาได้

 

และถ้าหากเขาไม่ได้เห็นโดยบังเอิญเขาจะไม่มีวันรู้เลยว่านายน้อยแข็งแกร่งมากขนาดนี้

 

“กำลังภายในได้มาถึงเส้นทางการต่อสู้ขั้นหนึ่ง ไม่เลว” อาวุโสวู่รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

 

เขาไม่ได้คิดจะหลบดาบของนายน้อยตั้งแต่แรกแล้ว

 

เขายื่นมือพร้อมกับกางนิ้วทั้งห้าออกไปและใช้ร่างกายของเขารับดาบนั้น

 

ปัง!

 

ปรากฏว่ามันรุนแรงกว่าที่เขาคิดเอาไว้

 

“เจ้ามันหยิ่งเกินไป หากว่าเจ้ามีความกล้าแน่จริงก็มาตอนกลางวันสิโว้ย! การที่เจ้าเข้ามาดึกๆเช่นนี้มันทำให้ผู้อื่นไม่ได้นอนเจ้ารู้บ้างไหม!?” หลิน ฟานโกรธมากจริงๆและทุกการโจมตีของเขามันหมายถึงการระบายความทุกข์ร้อนในใจออกไป

 

เขาไม่ได้นอนงั้นหรือ?

 

อาวุโสวู่ถอยหลับ ภายใต้หน้ากากมีใบหน้าที่ดูตกใจปรากฏขึ้น

 

ดูเหมือนว่าเขาจะประมาทและประเมิณนายน้อยต่ำเกินไป

 

เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าพลังของนายน้อยจะมากขนาดนี้ เขาปลูกฝังทั้งภายในและภายนอกเลยหรือไม่?

 

นี่มันไม่ถูกต้อง

 

ถ้านายน้อยไม่ได้บ่มเพาะภายนอกแล้วเขาจะยกระดับร่างกายของเขาได้เช่นไร อย่างน้อยมันก็อยู่ในระดับเส้นทางการต่อสู้ขั้นสามแล้ว

 

เส้นทางการต่อสู้มันมีทั้งหมดสองทาง

 

หนึ่งคือเทคนิคภายนอกและสองคือเทคนิคการบ่มเพาะภายใน

 

มันมีน้อยคนมากที่คิดจะฝึกฝนทั้งคู่เพราะสุดท้ายแล้วพลังของทุกคนมีจำกัด

 

และถึงแม้ว่าจะมีคนที่มีความสามารถจริงๆแต่ก็มีน้อยคนนักที่ฝึกมันทั้งสองอย่าง ส่วนมากพวกเขามักจะเน้นฝึกฝนที่กำลังภายใน

 

นายน้อยช่างยอดเยี่ยมนักเขาได้ฝึกกำลังภายในจนถึงขั้นหนึ่งแล้ว และการโจมตีเมื่อสักครู่น่าจะกินกำลังภายในภายในร่างกายของเขาไปครึ่งหนึ่ง การโจมตีนั้นสามารถทำให้ผู้ที่เชี่ยวชาญที่อยู่เส้นทางการต่อสู้ขั้นสองบาดเจ็บสาหัสได้เลย

 

“หลังจากการโจมตีเมื่อสักครู่กำลังภายในของเจ้าก็น่าจะหมดลงแล้วใช่หรือไม่?” อาวุโสวู่พูด

 

หลิน ฟานไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย เขายังรู้สึกว่าร่างกายของเขานั้นเต็มไปด้วยกำลังภายใน

 

มันให้ความรู้สึกราวกับว่าเขาแค่เหวี่ยงดาบธรรมดามันไม่ได้กินกำลังภายในของเขาเลย

 

หลิน ฟานกระโดดขึ้นพร้อมกับดาบในมือเขาจะโดนและฟันออกไปข้างหน้าอย่างดุร้าย

 

“เจตจำนงพยัคฆ์”

 

ปัง!

 

“เจตจำนงพยัคฆ์”

 

ปัง!

 

หลิน ฟานโบกดาบที่อยู่ในมือของเขาจากนั้นก็ฟันไปที่นักลอบสังหารครั้งแล้วครั้งเล่า และทุกๆครั้งที่เขาฟันออกไปก็จะมีเสียงคำรามของเสือตามมาด้วยเสมอ

 

“นายน้อยผู้นี้จะฟันเจ้าจนกว่าเจ้าจะตาย!”

 

เขาไม่รู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่น้อยกลับกันเทคนิคดาบที่เขาใช้ออกมามันก็ค่อยๆคุ้นเคยกับเขามากขึ้นเรื่อยๆ

 

“เป็นไปได้ยังไง?” อาวุโสวู่หวาดกลัว นายน้อยออกท่ามามากกว่า10ครั้งแล้ว

 

เขามีกำลังภายในพอที่จะสนับสนุนได้อย่างไร?

 

ฐานการฝึกฝนด้านกำลังภายในของนายน้อยอยู่แค่ที่ขั้นหนึ่งเท่านั้น

 

กลับมาที่หลิน วานยี่ตอนแรกเขาต้องการเพียงแค่จะดูว่าเจ้าเด็กไม่เอาไหนจะร้องไห้จากการถูกทุบตีหรือไม่เพียงเท่านั้น

 

แต่อย่างไรก็ตามการแสดงออกตอนนี้ของเขากลับเคร่งขรึม

 

มีประกายออกมาจากดวงตาของเขา

 

เจ้าเด็กไม่เอาไหนคนนี้ทำให้เขาประหลาดใจ

 

“ดี”

 

ถ้าหลิน ฟานรู้ว่าพ่อของเขากำลังดูอยู่และพูดว่าดี เขาคงจะอุทานออกมาว่า ท่านเป็นพ่อแบบไหนกัน?

 

เพราะการนอนไม่หลับมันส่งผลเสียอย่างมากต่อตับ

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don't Want To Defy The Heavens, IDWTDTH, Wǒ Bùxiǎng Nì Tiān A, 我不想逆天啊
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I Don’t Want To Defy The Heavensภายในห้อง มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเงียบสงบกำลังนั่งอยู่ข้างเตียง พร้อมกับทำสีหน้าเคร่งเครียด อย่างไรก็ตามลึกเข้าไปข้างในแล้วเขากำลังมีความสุข “นี่มันก็วันที่สามแล้ว ข้าคงไม่สามารถกลับไปได้อีกต่อไป” ภายในใจของหลิน ฟานตอนนี้กำลังยุ่งเหยิง เพราะเขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขายังอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน ตอนนั้นภายในสถานีรถไฟใต้ดิน มีสถานการณ์ที่ไม่สบอารมณ์เกิดขึ้น เมื่อเขาต้องสู้กับพวกสารเลวสองคน แต่ตัวเขาค่อนข้างแข็งแกร่งและได้ใช้วิชาหวิงชุนกลับไป อย่างไรก็ตามสองสามวินาทีต่อมา เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับหมัดขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งตรงมาทางเขา หลังจากเสียง ‘ปัง’ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลยอีกเลย เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีเขาก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การแกล้งกัน อย่างไรก็ตาม เขารู้จักตัวเองดี เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติหากไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเมื่อเดินสวนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโดนแกล้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset