I Don’t Want To Defy The Heavens – DTH ตอนที่ 42 ไม่จำเป็นต้องกลัว

“ด้วยกำลังภายในที่มาถึงขั้นสองข้าสามารถควบคุมแมลงได้มากขึ้น และขอบเขตที่ควบคุมมันก็ไกลมากขึ้นเช่นกัน เอาล่ะได้เวลาทำงานแล้ว”

 

กำลังภายในแบบพิเศษของวิชาควบคุมแมลงแพร่กระจายออกมาจากขาของเขาอย่างช้าๆ เช่นเดียวกับเฟิงโพหลิว

 

กำลังภายในของวิชาควบคุมแมลงมันเป็นสีเทา แต่เมื่อมันถูกปล่อยออกมามันจะไม่มีสี และถ้าหากไม่ใช่เพราะหญ้าที่กำลังสั่นไหวมันก็ยากที่จะสังเกต

 

“มันแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก” มีมดจำนวนมากพุ่งออกมาจากทุกซอกทุกมุมของลานบ้าน เปลือกสีดำของมันเปล่งประกายภายใต้แสงจันทร์

 

แม้ว่าการเคลื่อนไหวของมดที่ออกมาจากรังจะไม่ส่งผลต่อมนุษย์ แต่การสั่นสะเทือนของมันนั้นมีอิทธิพลอย่างมากต่อสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้ดิน

 

ดินพลิกกลับและมีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหว

 

ไส้เดือนจำนวนมากโผล่ออกมาจากดินและบิดตัวไปมาเพราะอุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้พวกมันอึดอัด

 

“ถ้าพวกแกไม่ใช่แมลงก็อย่าออกมาสิ”

 

วิชาควบคุมแมลงมันสามารถควบคุมได้แค่แมลงเท่านั้น แล้วเหตุใดไส้เดือนจึงโผล่ออกมา?

 

แต่เขาก็อยากจะลองดู

 

เขาต้องการจะดูว่ากำลังภายในแบบพิเศษของวิชาควบคุมแมลงจะมีผลกับไส้เดือนหรือไม่

 

กำลังภายในส่วนหนึ่งของเขาเข้าไปห่อหุ้มไส้เดือนหนึ่งในนั้นทันที

 

ทันใดนั้นความรู้สึกของเขาก็ได้เชื่อมต่อกับไส้เดือน

 

“มันได้ผล?”

 

หลิน ฟานตกตะลึง

 

เชี่ย!

 

เขาถูกชื่อของวิชาหลอกและคิดว่ามันสามารถควบคุมได้แค่แมลง แต่ตอนนี้เขาควบคุมได้แม้กระทั้งไส้เดือน

 

“ฮาฮา ถ้าอย่างนั้นก็ขอโทษด้วยละกัน”

 

หลิน ฟานควบคุมไส้เดือนให้กลืนดินและเริ่มขุด

 

ยุ้งฉางของตระกูลเหลียงอยู่ไม่ไกลมากนัก แต่มันก็ไม่ได้ใกล้เช่นกัน

 

ความจริงแล้วเขาคิดว่าความเร็วของไส้เดือนค่อนข้างช้า แต่แล้วเขาก็กลับพบว่าความเร็วในการขุดอุโมงค์ของมันนั้นเร็วเป็นอย่างมาก

 

“ดูเหมือนว่ามันจะต่างเล็กน้อย”

 

ไส้เดือนปกติสามารถขุดอุโมงค์ได้ประมาณนาทีละสามสิบมิลลิเมตรในที่ดินชื้น

 

แต่ความเร็วของไส้เดือนที่เขาควบคุมมันเร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัด

 

มันเร็วมาก

 

อย่างน้อยก็สี่ถึงห้าเท่า

 

“เป็นไปได้ไหมที่กำลังภายในของข้ามีผลต่อแมลงเหล่านี้?” หลิน ฟานไตร่ตรอง

 

แม้ว่าเขาจะเป็นนายน้อยที่ร่ำรวบ แต่สมองของเขาก็ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าผู้อื่น

 

เฟิง โพหลิวถือว่าวิชาควบคุมแมลงเป็นสมบัติของเขา

 

หากมันสามารถควบคุมได้แค่แมลง มันจะเป็นสมบัติได้ยังไง?

 

และถ้าหากมันไม่สามารถทำอะไรที่เป็นประโยชน์ได้ มันก็โคตรจะไร้ค่า

 

เขาควบคุมไส้เดือนสองสามตัวให้เริ่มขุดอุโมงค์

 

หลังจากนั้นไม่นานหลิน ฟานก็เริ่มสังเกตเห็นสิ่งแปลกๆ

 

ความจริงแล้ววิชาควบคุมแมลงมันต้องใช้กำลังภายในในการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง แต่เขากลับพบว่าเขาแทบไม่รู้สึกถึงการใช้พลังใดๆเลย

 

แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีกำลังภายในมากนัก แต่มันก็ไม่สามารถดูถูกได้เช่นกัน

 

แคร็ก! ปัง!

 

ไส้เดือนกระแทกเข้ากับก้อนหินที่ปิดกั้นเส้นทางของพวกมัน

 

หากเป็นคนปกติพวกเขาจะหาทางอ้อมเพื่อผ่านไป

 

แต่สำหรับหลิน ฟานเขาไม่ได้สนใจมันเลยสักนิด เขาสั่งให้พวกมันกระแทกต่อไปทันที

 

ไส้เดือนตัวหนึ่งตาย เนื้อและเลือดที่เป็นของเหลวข้นหนืดไหลออกมาชโลมไส้เดือนตัวที่อยู่ข้างหลัง จากนั้นมันก็กลืนศพตัวที่ตายแล้วค่อยๆเคลื่อนที่มาข้างหน้า

 

ไส้เดือนที่ตามหลังมากินอีกครั้งหนึ่ง เหตุการณ์นี้ถูกทำซ้ำไปเรื่อยๆจนศพหายไปจากทาง

 

ชาวบ้านที่กำลังทำงานอยู่ในเมืองหยูฉางไม่ได้รู้เลยว่าข้างใต้พวกเขากำลังมีไส้เดือนที่กำลังเปิดเส้นทางด้วยชีวิตอยู่

 

ในตอนนั้นเอง โกวชิที่เดินเข้ามาในลานบ้านก็สังเกตเห็นว่านายน้อยของเขากำลังนอนอยู่ที่เดิมราวกับว่าเขากำลังหลับ

 

เขาจึงไม่คิดจะรบกวนและออกจากลานบ้านไปทำอย่างอื่นทันที

 

ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ

 

ในที่สุดไส้เดือนก็สามารถขุดอุโมงค์ออกมายังอีกฟากได้ ขนาดรูของมันนั้นเล็กมาก เล็กขนาดที่หากไม่ตั้งใจมองมันดีๆก็ไม่สามารถเห็นได้

 

“วิชาควบคุมแมลงช่างน่าทึ่งนัก มันสามารถทำให้กำลังภายในเป็นเกลียวเพื่อนำทางไส้เดือนได้ และการที่สามารถกระจายกำลังภายในไปได้ไกลถึงเพียงนี้อาจจะเป็นเพราะความสามารถของข้าเอง”

 

หลิน ฟานรู้สึกภูมิใจเล็กน้อย

 

ตามข้อมูลที่ถูกส่งกลับมา ที่นั่นคือยุ้งฉางตระกูลเหลียง

 

การป้องกันของยุ้งฉางนั้นเข้มงวดมาก พวกเขามียามสามกะลาดตระเวนพร้อมกัน แม้กระทั่งแมลงวันก็ไม่สามารถเล็ดลอดผ่านไปได้

 

อย่างไรก็ตามใครจะมานั่งสังเกตอุโมงค์เล็กๆที่ไส้เดือนขุดกัน

 

หลิน ฟานเดินไปรอบๆลาน

 

มีมดจำนวนนับไม่ถ้วนไหลออกมาจากทุกซอกทุกมุม เปลือกสีดำของมันสะท้อนแสงภายใต้แสงจันทร์

 

เขากลับไปในบ้านนั่งขัดสมาธิและนำมดพวกนั้นเขาไปในรูเล็กๆที่ขุดไว้ทันที

 

พวกมันคลานกันเป็นแถวเดียวและตามกันไปอย่างเป็นระเบียบ แม้จะเป็นแบบนั้นแต่พวกมดก็เคลื่อนที่ได้ค่อนข้างเร็ว

 

ข้างในยุ้งฉางตระกูลเหลียง ณ รูเล็กๆตรงมุมหนึ่ง ได้มีมดตัวหนึ่งโผล่หัวออกมามันขยับตัวราวกับเป็นหุ่นเชิดเพื่อสังเกตการณ์ไปรอบๆ หลังจากที่มันยืนยันแล้วว่าไม่มีการเคลื่อนไหว มันก็รีบคลานออกมาจากรูอย่างรวดเร็ว

 

หลังจากนั้นไม่นานมดตัวอื่นก็ได้คลานออกมา

 

กระสอบข้าวขนาดใหญ่จำนวนมากถูกวางเอาไว้บนพื้น ข้างในของพวกมันเต็มไปด้วยธัญพืช

 

มันได้ใช้ฟันที่แหลมคมเจาะกระสอบ

 

แควก!

 

เมล็ดข้าวจำนวนมากได้ไหลออกมาจากรูที่มดเปิดเอาไว้

 

มดเริ่มเคลื่อนตัวไปจับเมล็ดและสร้างเส้นลำเลียงเป็นขบวนกลับสู่ทางเดิมที่พวกมันเข้ามา

 

ด้านนอกมีกลุ่มยามแปดนายคอยป้องกันทางเข้ายุ้งฉาง ตราบใดที่มีหญ้าเคลื่อนไหวพวกเขาจะส่งเสียงเตือนทันที อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้รู้เลยว่ายุ้งฉางที่พวกเขาปกป้องอยู่นั้นกำลังถูกปล้นโดยโดยอยู่

 

คฤหาสน์หลิน ณ ลานด้านหลัง

 

มีสองร่างค่อยๆร่อนลงบนหลังคาที่อยู่ไกลออกไปอย่างเงียบๆ

 

“นายท่าน ดูเหมือนว่านายน้อยจะฝึกฝนอยู่” อาวุโสวู่เห็นสถานการณ์ภายในผ่านหน้าต่างที่เปิดอยู่

 

นายน้อยกำลังนั่งสมาธิพร้อมกับหลับตา นี่เป็นสัญญาณว่าเขากำลังฝึกฝนอยู่

 

“โอ้?” หลิน วานยี่ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น เขาไม่เคยคิดเลยว่าลูกชายของเขาจะรู้วิธีฝึกจริงๆ หากตอนนี้มันไม่ใช่ตอนกลางคืนเขาคงคิดว่าพระอาทิตย์ขึ้นจากทางตะวันตก

 

อาวุโสวู่ยิ้ม “นายท่าน ปากนายน้อยอาจจะบอกว่าไม่อยากฝึก แต่ลึกเข้าไปข้างในแล้วเขาอยากจะฝึกแน่นอน เพียงแต่เขาไม่ต้องการให้เรารู้เท่านั้นเอง”

 

“เหอะ หากเจ้าเด็กไม่เอาไหนคนนี้ไม่ยอมแพ้ต่ออนาคตมันก็ดีแล้ว วันนี้เราจะปล่อยเขาไปก่อน แต่ถ้าหากข้าไม่เห็นเขาฝึกตอนกลางคืน ข้าจะสอนบทเนียนให้แก่เขา”

 

เมื่อพูดจบหลิน วานยี่ก็ลอยออกไป

 

มีรอยยิ้มโล่งอกที่มุมปากของเขา

 

ดูเหมือนว่าเขาจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

 

ทั้งหมดที่เขาทำมามันไม่ได้ไร้ประโยชน์

 

อาวุโสวู่ยิ้มโดยไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าในใจของท่านหัวหน้าตระกูลกำลังมีความสุข แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

 

อย่างไรก็ตามนายน้อยกำลังฝึกวิชาอะไรอยู่?

 

มันไม่ใช่คัมภีร์อาทิตย์ม่วงสี่นักบุญ

 

แต่ก็ช่างเถอะ เพราะตราบใดที่นายน้อยคิดจะฝึกมันก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว

 

มันไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ถ้าเห็นก็จะพบว่ากำลังภายในของหลิน ฟานเปลี่ยนเป็นเกลียวเล็กๆและกระจายไปในอากาศ

 

สำหรับคนธรรมดาพวกเขาไม่สามารถควบคุมมันได้นานนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องมาควบคุมมดจำนวนมากแบบนี้แล้วด้วย

 

สุดท้ายแล้วกำลังภายในก็จะเหือดหายไปอย่างรวดเร็ว

 

มดหลายตัวคลานออกมาจากรูเล็กๆและนำเมล็ดมาวางไว้มุมหนึ่ง จากนั้นพวกมันก็กลับเข้าไปในรูแล้วคลานมุ่งหน้ากลับไปที่ยุ้งฉางตระกูลเหลียง

 

ทีละเมล็ด

 

ในไม่ช้าภูเขาเมล็ดข้าวก็ได้ก่อตัวขึ้นที่มุมหนึ่งของลาน

 

แม้ว่ามดมันจะตัวเล็กและอ่อนแอแต่พวกมันก็มีจำนวนมาก และถึงแม้ว่าจำนวนของพวกมันจะมีน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนของที่อยู่ในยุ้งฉางตระกูลเหลียง แต่พวกมันก็มีทั้งเวลาและความเร็วที่สามารถเคลื่อนย้ายเมล็ดข้าวภายในทั้งหมดได้

 

ท้องฟ้าค่อยๆเปลี่ยนสีพร้อมกับเสียงไก่ที่ดังขึ้น

 

ภายในยุ้งฉางมดตัวสุดท้ายได้คว้าเมล็ดข้าวและหายไป

 

ไส้เดือนพลิกตัวไปรอบๆและปิดรูเล็กๆที่พวกมันขุดออกมา

 

ทุกอย่างกลายเป็นเงียบสนิท ไม่มีใครรู้ว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรยกเว้นคนผู้นั้นจะได้เห็นด้วยตาของตนเอง

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don't Want To Defy The Heavens, IDWTDTH, Wǒ Bùxiǎng Nì Tiān A, 我不想逆天啊
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I Don’t Want To Defy The Heavensภายในห้อง มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเงียบสงบกำลังนั่งอยู่ข้างเตียง พร้อมกับทำสีหน้าเคร่งเครียด อย่างไรก็ตามลึกเข้าไปข้างในแล้วเขากำลังมีความสุข “นี่มันก็วันที่สามแล้ว ข้าคงไม่สามารถกลับไปได้อีกต่อไป” ภายในใจของหลิน ฟานตอนนี้กำลังยุ่งเหยิง เพราะเขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขายังอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน ตอนนั้นภายในสถานีรถไฟใต้ดิน มีสถานการณ์ที่ไม่สบอารมณ์เกิดขึ้น เมื่อเขาต้องสู้กับพวกสารเลวสองคน แต่ตัวเขาค่อนข้างแข็งแกร่งและได้ใช้วิชาหวิงชุนกลับไป อย่างไรก็ตามสองสามวินาทีต่อมา เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับหมัดขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งตรงมาทางเขา หลังจากเสียง ‘ปัง’ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลยอีกเลย เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีเขาก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การแกล้งกัน อย่างไรก็ตาม เขารู้จักตัวเองดี เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติหากไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเมื่อเดินสวนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโดนแกล้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset