I Don’t Want To Defy The Heavens – DTH ตอนที่ 6 เตะเธอ

กลางคืนท้องฟ้ามันเต็มไปด้วยดวงดาว

 

มันเหมือนผ้าคลุมสีขาวบริสุทธิ์ที่กำลังพาดผ่านเมืองหยูฉาง

 

ทุกอย่างมันเงียบสงบ

 

ในดินแดนที่ไร้ผู้คน ณ ด้านหลังของคฤหาสน์ของตระกูลหลิน

 

“ย้า!”

 

จ้าว กวงอี้ที่ตอนนี้ได้รับชื่อใหม่เป็น โกวชิกำลังถือดาบไม้และฝึกตามแบบของวิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต

 

เขาแข็งแกร่งเหมือนกับเสือ ขาซ้ายของเขากระแทกพื้นพร้อมกับฟันไปข้างหน้า

 

ปัง!

 

“นายน้อยเชื่อใจข้ามาก ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถทำให้ท่านผิดหวังได้ หากข้าไม่สามารถทำได้ในครั้งแรก ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะฝึกเพิ่มไปอีกหนึ่งร้อยครั้ง แต่ถ้ายังไม่สำเร็จข้าก็จะฝึกเพิ่มไปอีกหนึ่งพันครั้ง หรือจนกว่าข้าจะประสบความสำเร็จ”

 

คนรับใช้ตระกูลหลินไม่เคยสัมผัสกับศิลปะการต่อสู้ มีเพียงผู้คุ้มกันเท่านั้นที่ฝึกฝนมัน

 

โกวชินั้นรู้สึกหมดหนทางตั้งแต่เขาไม่เคยสัมผัสกับศิลปะการต่อสู้ เขานั้นไม่ทราบว่าหนทางข้างหน้าเขาจะเจอกับอะไรบ้าง และทำได้เพียงปฏิบัติตามที่วิชาบอกอย่างช้าๆเท่านั้น

 

กลางวันได้เข้ามาแทนที่กลางคืน

 

แสงบนท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้น

 

ภายในห้อง หลิน ฟานลืมตา

 

“ตอนนี้มันเช้าแล้ว มันเป็นการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง” หลิน ฟานลุกขึ้น ทุกๆวันของเขาผ่านไปอย่างสะดวกสบาย

 

มันน่ารำคราญจริงๆที่ต้องเป็นนายน้อยของตระกูลที่ร่ำรวย

 

สิ่งแรกที่เขาคิดเลยก็คือทำอย่างไรให้ตัวเองมีความสุข

 

โกวชิได้ยินการเคลื่อนไหวภายในห้อง และรออยู่ข้างนอก

 

เขาเข้ามาช่วยนายน้อยของเขาอาบน้ำและแต่งตัว

 

ทุกอย่างถูกเตรียมเอาไว้แล้ว

 

“โกวชิเก็บของ เรากำลังจะออกไปข้างนอก” หลิน ฟานไม่คิดจะอยู่แต่ในคฤหาสน์ตระกูลหลิน เขาอยากจะออกไปข้างนอกเพื่อหาบางอย่างมาเพิ่มความสุขให้กับชีวิตของเขา

 

“โอ้ แล้วอย่าลืมนำเงินมาให้พอด้วย”

 

เรื่องที่เกิดขึ้นที่ศาลาเสาวธารเมามายค่อนข้างน่าอึดอัดและมันก็อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้ง

 

โชคดีที่เหลียง หยงฉีนั้นไม่มีสมอง

 

แต่ถ้าเขามี มันอาจจะเป็นเรื่องใหญ่มากกว่านี้

 

“ขอรับ นายน้อย” โกวชิตอบ ส่วนเรื่องเงินเขาไม่คิดว่าเขาจะได้รับมาขนาดนั้น

 

นายท่านควบคุมเงินที่นายน้อยสามารถใช้ได้ สำหรับเรื่องของศาลาเสาวธารเมามายมันคงไม่เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง

 

ในขณะที่พวกเขากำลังเดินออกไป หลิน ฟานก็สังเกตเห็นปัญหาแปลก ๆ

 

“โกวชิ ทำไมตระกูลหลินของเราถึงไม่มีแม่บ้านอยู่เลยล่ะ?” หลินฟานถาม

 

ในฐานะนายน้อยที่ร่ำรวย อย่างน้อยเขาต้องมีข้ารับใช้ที่เป็นผู้หญิงด้วย แต่นี่อะไร ทำไมเขาถึงไม่เห็นใครที่เป็นแบบนั้นเลยสักคน

 

การที่มีแต่พวกผู้ชายล้อมรอบมันทำให้สถานการณ์น่าอึดอัดใจเล็กน้อย

 

“เมื่อนายน้อยยังเด็ก มันมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคารพท่าน หญิงคนนั้นถูกนายท่านจับได้และถูกตีจนตาย จากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีข้ารับใช้ที่เป็นผู้หญิงอีกเลย” โกวชิพูด

 

นั่นเป็นเรื่องใหญ่มากจริงๆ แต่พ่อของเขาก็เก็บมันเอาไว้ไม่ให้โลกภายนอกพบ

 

ใครก็ตามที่กล้าพูดถึงมันข้างนอก จะมีผลร้ายตามมา

 

หลิน ฟานสั่น เขาถูกข่มขืนรึไม่?

 

ไม่น่าจะเป็นไปได้

 

“ลูกพี่ลูกน้อง” ในตอนนั้นโจว เชียงเหมาเห็นหลิน ฟานมาแต่ไกล เขาจึงส่งเสียงเรียกออกมา

 

โจว เชียงเหมาที่แข็งแกร่งและมีร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ตอนนี้มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา

 

“ท่านกำลังจะไปที่ไหน?”

 

เขาได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

 

ลูกพี่ลูกน้องของเขาถูกดุโดยลุงของเขา มันจึงทำให้เขากังวลมาก เพราะเขาคิดว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาจะต้องถูกลงโทษแน่ๆ แต่เมื่อเห็นว่าเขาสบายดี มันจึงทำให้หินที่ถ่วงอยู่ในใจเขาหายไป

 

“ไม่รู้เหมือนกัน ข้าแค่อยากจะออกไปเดินเล่นเท่านั้น แล้วเจ้ามีอะไรจะพูดกับข้ารึเปล่า?” หลิน ฟานพูด

 

โจว เชียงเหมาทำหน้าแปลกๆ

 

ในอดีตลูกพี่ลูกน้องไม่เต็มใจที่จะพูดกับเขาเลย

 

แต่ตอนนี้เขากำลังพูดกับข้า

 

หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงขึ้นด้วยความตื่นเต้น

 

“ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เพราะข้าฝึกเด็กพวกนั้นไปแล้วเมื่อวานนี้”  โจว เชียงเหมาพูด

 

หลิน ฟานตบไหล่เขา “ไปกันเถอะ วันนี้เจ้าต้องตามข้าไปสนุกด้วยกัน”

 

เขาได้คิดสิ่งต่างๆอย่างรอบคอบแล้ว

 

ลูกพี่ลูกน้องของเขาดุร้าย

 

ดูขนาดตัวของเขาสิ

 

และมือของเขาก็มีแผลที่ตกสะเก็ดแล้วราวกับว่าเขาฝึกมาหลายพันครั้ง

 

หากเขาพบใครที่ต้องการเอาชนะเขาข้างนอกนั่น มันก็ต้องดูอีกทีว่าคนๆนั้นมีความสามารถพอหรือไม่

 

ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าการแสดงออกของลูกพี่ลูกน้องของเขามันแปลกไปเล็กน้อย

 

“ลูกพี่ลูกน้อง…” ดวงตาของโจว เชียงเหมาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง และดูเหมือนว่าเขากำลังหายใจไม่ออก

 

หลิน ฟานถอยกลับไปหนึ่งก้าว

 

เกิดอะไรขึ้น?

 

ในตอนั้นเองที่โจว เชียงเหมาก็มาจับมือของหลิน ฟานเอาไว้แน่นและไม่ยอมปล่อย “ลูกพี่ลูกน้อง ข้ารอให้ท่านพูดแบบนี้มานานแล้ว”

 

“เมื่อตอนเรายังเด็ก ท่านดูแลข้าอย่างดี และข้าก็ชอบที่จะเล่นกับท่าน อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่นานท่านก็เลิกพูดกับข้า”

 

“สิ่งที่ข้าหวังว่าจะได้ยินในแต่ละวันคือเสียงของท่าน”

 

คำสารภาพของลูกพี่ลูกน้องทำให้หลิน ฟานระวังตัว

 

ใครมันจะไปจำได้ว่าตอนเด็กมันเกิดอะไรขึ้น

 

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าโจว เชียงเหมาจะจำได้

 

เมื่อยังเด็กพ่อแม่ของเขาเสียชีวิต

 

มันเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ชวนเขาให้เข้ามาในตระกูลหลิน และปฏิบัติต่อเขาอย่างดี

 

ถ้าเขาไม่ใช่เพราะลูกพี่ลูกน้องของเขา

 

เขาคงจะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนทุกวันนี้

 

และถ้าหากผู้ที่รังแกลูกพี่ลูกน้องไม่ใช่ลุงของเขา เขาคงจะหยิบดาบและไปฆ่าเพื่อนคนนั้นซะ

 

หลิน ฟานต้องการดึงมือของเขาออก แต่มันกลับถูกจับไว้แน่นขึ้นแทน เขาจึงทำได้เพียงแค่ปลอบใจชายตรงหน้าเท่านั้น

 

“ลูกพี่ลูกน้อง ข้าเข้าใจถึงความปรารถนาและหัวใจของเจ้าแล้ว ไปกันเถอะเดี๋ยวข้าจะเป็นคนนำเอง”

 

โจว เชียงเหมายิ้มอย่างสดใส “โอเค ไปกันเถอะ”

 

ประตูคฤหาสน์ตระกูลหลิน

 

“นายน้อย”

 

“อาจารย์ โจว”

 

ชายวัยกลางคนหยิบหนังสือออกมาและกำลังจะเดินออกไป แต่เมื่อเขาบังเอิญเจอเข้ากับหลิน ฟาน เขาจึงทักทายกลับไปด้วยความเคารพ

 

แม้ว่านายน้อยจะไม่ชอบฝึกฝน แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่สามารถรังแกได้ง่ายๆ

 

นอกเสียจากว่าพวกเขาต้องการที่จะตายจริงๆ

 

“ผู้จัดการเฉิน เจ้ากำลังไปที่ใด?” โจว เชียงเหมาถามออกมา

 

คำพูดของเขามันรุนแรงเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นผลมาจากบุคลิกที่เย็นชาของเขา

 

“เรียนท่านอาจารย์โจว ข้ากำลังจะไปเก็บภาษีของพวกชาวนา” ผู้จัดการเฉินตอบ

 

“ไปเถอะ” โจว เชียงเหมาโบกมือ เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับเขา เขาเพียงแค่ถามเท่านั้น

 

“รอเดี๋ยว”

 

หลิน ฟานหยุดเขา

 

เก็บภาษีชาวนา?

 

แม้ว่าเรื่องนี้มันจะเป็นเรื่องปกติ

 

แต่ถ้าเขาทำได้ดี เขาอาจจะได้รับคะแนนความโกรธเพิ่ม

 

ยิ่งกว่านั้นตอนนี้เขาเป็นถึงลูกชายของตระกูลที่ร่ำรวย

 

เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของโลกนี้ด้วย

 

ตอนเขารู้เพียงแค่สถานการณ์ของตระกูลหลินเท่านั้น

 

สำหรับสถานการณ์ที่อยู่ข้างนอกเมืองเขานั้นไม่รู้อะไร

 

“นายน้อยท่านมีอะไรจะแนะนำหรือไม่?”  ผู้จักการเฉินถามอย่างสงสัย

 

หลิน ฟานพูด “วันนี้ข้าว่างและไม่มีอะไรทำ ดังนั้นข้าจะตามเจ้าไปด้วย”

 

ผู้จัดการเฉินตกใจ ในอดีตนายน้อยไม่ได้สนใจธุรกิจของครอบครัวเลย

 

จากนั้นกลุ่มของพวกเขาก็เริ่มออกเดินทาง และออกจากเมืองไป

 

ฟาร์มมันอยู่ด้านนอกทั้งหมด

 

ตระกูลหลินมีพื้นที่เพาะปลูกมากมาย ดังนั้นพวกเขาจึงให้พลเรือนที่อาศัยอยู่นอกเมืองเช่า

 

อีกสองตระกูลในเมืองหยูฉางก็ทำเช่นเดียวกัน

 

ไม่นานหลังจากที่พวกเขาออกมาจากเมือง สภาพแวดล้อมโดยรอบก็เริ่มเปลี่ยนไป มีอันตรายและการใช้ความรุนแรงมากขึ้น

 

ข้างถนนมีผู้ลี้ภัยจำนวนมาก

 

สภาพจิตใจของพวกเขาดูไม่ค่อยดี

 

พวกเขาผอมเหมือนกิ่งไม้

 

บางคนนอนราบไปกับพื้น ไม่มีใครสนใจว่าพวกเขาจะเป็นหรือตาย และพวกเขาก็ดูน่าสงสารจริงๆ

 

“โกวชิ ทำไมถึงไม่มีใครสนใจพวกเขา?” หลิน ฟานถามออกมา

 

“นายน้อย สาเหตุที่ไม่มีใครสนใจพวกเขามันเป็นเพราะเราไม่รู้ว่าพวกเขามาจากไหน และบางทีพวกเขาอาจจะพึ่งก่ออาชญากรรมครั้งใหญ่มาก็ได้” โกวชิพูด

 

หลิน ฟานส่ายหัว

 

น่าสงสาร!

 

วัยรุ่นที่เติบโตมาในยุคที่ดีภายใต้ธงแดงไม่สามารถรับสิ่งเหล่านี้ได้

 

“ผู้จัดการเฉิน ถ้าข้าพาพวกเขาไปด้วยและให้ที่ปลอดภัยแก่พวกเขา ท่านพ่อจะโกรธข้าหรือไม่?” หลิน ฟานถาม

 

ผู้จัดการเฉินคุ้นเคยกับสถานการณ์ที่นี่อยู่แล้ว และเขาก็ไม่คิดที่จะสนใจคนพวกนี้เลยด้วย

 

แต่เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่นายน้อยพูดมา

 

เขาก็ตกตะลึงและมองไปทางหลิน ฟานด้วยท่าทางงุนงง และสับสนโดยสิ้นเชิง

 

“นายน้อยท่านไม่ควรจะทำอย่างนั้น ถ้าท่านทำนายท่านจะโกรธมากจริงๆ” ผู้จัดการเฉินมีความรู้สึกว่านายน้อยกำลังคิดจะต่อต้านหัวหน้าตระกูล

 

นายน้อยจะต้องทำสิ่งต่างๆที่หัวหน้าตระกูลไม่ชอบแน่

 

หลิน ฟานยิ้ม

 

ร้อยยิ้มบนใบหน้าของเขามันเหมือนกับดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน

 

เขาจะต้องพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

มันน่าจะใช้ได้

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากข้างหน้าของเขา

 

“ชิ เป็นแค่พวกขยะแท้ๆ”

 

มีหญิงสาวผู้หนึ่งที่แต่งหน้าและใส่ชุดที่ดูสวยงาม ใบหน้าเล็กๆของเธอดูงดงาม แต่การแสดงออกที่เต็มไปด้วยความโกรธของเธอ มันทำให้เธอดูน่ากลัวและกลบรัศมีที่เธอสร้างมาทั้งหมด

 

เธอกำลังเหยียบหลังของใครสักคนอยู่

 

คนที่อยู่ข้างๆไม่กล้าเคลื่อนไหว เขาอยู่ตรงนั้นและปกป้องเด็กที่น่าจะมีอายุเพียงแค่สามถึงสี่ขวบ ในขณะที่เขาขอความช่วยเหลือไปด้วย

 

ผู้หญิงคนนั้นโกรธมาก

 

ระหว่างทางไปยังเมืองหยูฉาง มีเด็กเหลือขอตัวเล็กๆคนหนึ่งขว้างโคลนใส่เธอ และเธอก็ไม่สามารถรับมันได้

 

“นี่มันมากเกินไป มากเกินไปแล้ว”

 

เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นตอนกลางวันแสกๆ

 

“ลูกพี่ลูกน้อง ไปสั่งสอนเธอ”

 

หลิน ฟานโบกมือและเรียกลูกพี่ลูกน้องของเขา

 

โจว เชียงเหมาตกใจ “ลูกพี่ลูกน้อง สั่งสอนใคร?”

 

“ข้าจำเป็นต้องพูดไหม? ก็ผู้หญิงคนนั้นไง” หลิน ฟานพูด

 

ผู้จัดการเฉินขมวดคิ้ว เขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่การเคลื่อนไหวของโจว เชียงเหมานั้นเร็วกว่าเขามาก

 

ร่างของเขาเปลี่ยนเป็นภาพติดตาทันที

 

เขากระโดดขึ้นไปในอากาศ

 

และกางแขนของเขาออก

 

เขากำหมัดแน่น และต้องการจะที่จะใช้กำปั้นเขย่าปีศาจ เพื่อพุ่งไปข้างหน้า

 

“เตะหน้าเธอ!” หลิน ฟานตะโกน

 

“ได้เลย ลูกพี่ลูกน้อง”

 

โจว เชียงเหมาพุ่งลงไปข้างล่าง แต่เมื่อได้ยินแบบนั้น เขาที่กำลังจะต่อยก็หยุดชะงัก และเตะออกไปแทน มันทั้งทรงพลังและแม่นยำจริงๆ

 

ลูกพี่ลูกน้องบอกให้เขาเตะเธอ

 

เขาก็ทำตามที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาพูด

 

มันไม่มีช่องว่างสำหรับการสนทนา

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don't Want To Defy The Heavens, IDWTDTH, Wǒ Bùxiǎng Nì Tiān A, 我不想逆天啊
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I Don’t Want To Defy The Heavensภายในห้อง มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเงียบสงบกำลังนั่งอยู่ข้างเตียง พร้อมกับทำสีหน้าเคร่งเครียด อย่างไรก็ตามลึกเข้าไปข้างในแล้วเขากำลังมีความสุข “นี่มันก็วันที่สามแล้ว ข้าคงไม่สามารถกลับไปได้อีกต่อไป” ภายในใจของหลิน ฟานตอนนี้กำลังยุ่งเหยิง เพราะเขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขายังอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน ตอนนั้นภายในสถานีรถไฟใต้ดิน มีสถานการณ์ที่ไม่สบอารมณ์เกิดขึ้น เมื่อเขาต้องสู้กับพวกสารเลวสองคน แต่ตัวเขาค่อนข้างแข็งแกร่งและได้ใช้วิชาหวิงชุนกลับไป อย่างไรก็ตามสองสามวินาทีต่อมา เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับหมัดขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งตรงมาทางเขา หลังจากเสียง ‘ปัง’ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลยอีกเลย เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีเขาก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การแกล้งกัน อย่างไรก็ตาม เขารู้จักตัวเองดี เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติหากไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเมื่อเดินสวนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโดนแกล้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset