I Don’t Want To Defy The Heavens – DTH ตอนที่ 74 แลกเปลี่ยนวรรณกรรม

I Don’t Want To Defy The Heavens

DTH ตอนที่ 74 แลกเปลี่ยนวรรณกรรม

วันต่อมา

“พี่หยวนข้าได้ยินมาว่าเมืองหยูฉางของท่านมีหอนางโลมชื่อดังที่ เรียกว่าศาลาหงซิ่วอยู่” หวัง หยุนเฟยกล่าว

เมื่อเขาพูดถึงเรื่องนี้คิ้วของเขาก็ยกขึ้น ขณะที่มีรอยยิ้มปรา กฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

 

เราไม่ควรตัดสินหนังสือจากปก

หยวน เทียนชูไม่เคยคิดเลยว่านายน้อยหวังจะเป็นคนที่เต็มไปด้วยตัณหาขนาดนี้

ในตอนที่พวกเขาพบกันครั้งแรก เขารู้สึกว่านายน้อยหวังผู้นี้ช่างคู่ควรกับตําแหน่งนายน้อยของเมืองหลงจริงๆ ทั้งกลิ่นอายและวิธีพูดของเขานั้นคนธรรมดาไม่สามารถเทียบได้

 

แต่ตอนนี้

 

เชีย!

 

ทุกอย่างที่เห็นมันเป็นของปลอมทั้งนั้น

ก่อนที่พวกเขาจะสนิทกัน เขาสามารถซ่อนตัวตนที่แท้จริงของเขาได้เป็นอย่างดี แต่หลังจากที่สนิทกันอย่าว่าแต่เก็บได้เลย เขาไม่คิดจะซ่อนมันด้วยซ้ํา

คืนหนึ่ง

ขณะที่หวังหยุนเฟยนั่งดื่มด้วยกันกับเขาอยู่ที่ลานด้านหลัง จู่ๆเขาก็พูดออกมาว่า คืนนี้ช่างงดงามนัก แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีหญิงงามอยู่ด้วย ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสียจริง

 

เขาทําให้สิ่งต่างๆชัดเจนเพื่อให้หยวนเทียนชูเข้าใจ

 

ส่วนทางหยวน เทียนชูเขาก็ต้องการประจบหวังหยุนเฟยอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไปจัดการเรื่องนี้ เขาประกาศออกไปว่านายน้อยของตระกูลหวังแห่งเมืองหลงอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลหยวน และต้องการจะพูดคุยเรื่องบทกวีกับบุตรสาวของพ่อค้า หากสนใจโปรดรีบมา

 

เขาไม่จําเป็นต้องพูดมากไปกว่านี้ เพราะเขามั่นใจมากว่าพวกพ่อ ค้าจะส่งบุตรสาวของพวกเขามาทันที

 

“พี่หวัง ท่านรู้จักศาลาหงซิ่วด้วยงั้นรึ?” หยวนเทียนชูถาม

“ฮาฮา” หวังหยุนเฟยยิ้ม “จากคําบอกเล่า ข้าได้ยินมาว่าโทนี่จากศาลาหงซิ่วได้สร้างเทคนิคพิเศษที่มีชื่อว่า36กระบวนท่าพลิกเมฆ และ72 เทคนิคป้องฝน”

 

“หอนางโลมในโลกทุกวันนี้ต่างก็บริการด้วยทักษะที่ถูกส่งต่อมา แต่ของเหล่านั้นล้วนเป็นเพียงของเลียนแบบไม่ใช่ของแท้แต่อย่างใด แต่ถึงแม้มันจะเป็นแบบนั้นมันก็ยังสามารถทําให้ผู้ชายนับไม่ถ้วนหลงไหลในรสชาติของมันจนอดใจไม่ไหวที่จะกลับมาหามันอีกครั้งอยู่ร่ําไป”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ดูเหมือนว่าหวัง หยุนเฟยจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ

 

หยวน เทียนชูตกตะลึง พี่หวังกําลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน? เขาไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว

36กระบวนท่าพลิกเมฆ?

72 เทคนิคป้องฝน?

 

ทําไมมันถึงฟังดูครอบงําขนาดนี้?

ตามปกติแล้วเขาจะไม่เดินไปเฉียดสถานที่สกปรกเหล่านี้

เนื่องจากตระกูลหยวนของเขาเข้มงวดมาก และห้ามไม่ให้สมาชิกตระกูลคนใดเข้า หรือออกจากสถานที่เหล่านี้ เพื่อป้องกันในกรณีที่พวกเขาพลาดหรือติดโรคกลับมาเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อทั้งตระกูล

 

“พี่หวัง หากท่านสนใจทําไมเราไม่ไปด้วยกันละ?” หยวนเทียนชูกล่าว

 

เขาไม่มีทางเลือก

เมื่อมองไปยังนายน้อยหวังเห็นได้ชัดเลยว่าเขาต้องการจะไปที่นั่น การจะหยุดเขาก็มีแต่จะทําให้เขาขุ่นเคืองเท่านั้น

 

“นั่นไม่ค่อยดีเลยนะ” นายน้อยหวังแสร้งทําเป็นลําบากใจ ข้าก็เป็นคนมีฐานะคนหนึ่ง การจะไปหอนางโลมกลางวันแสกๆแบบนี้มันอาจจะดูไม่ดี

 

หยวนเทียนชูแย้ง

ช่างน่ารังเกียจนัก

เห็นได้ชัดเลยว่าเขาอยากจะไป แต่แสร้งทําเป็นไม่อยาก

 

และต้องการให้ใครสักคนเป็นผู้นํา

เขาไม่มีทางเลือก ใครใช้ให้อีกฝ่ายเป็นนายน้อยจากตระกูลหวังกันล่ะ?

“พี่หวังมันมีตรงไหนที่ไม่ดีกัน? เพราะไม่ว่ายังไงที่แห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่พิเศษในเมืองหยูฉาง มันไม่ใช่สถานที่เลวร้าย และเราก็แค่ไปที่แห่งนั้นเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับบทกวี” หยวนเทียนชูกล่าว

หวัง หยุนเฟยยิ้ม “ใช่! ใช่แล้ว! พี่หยวนพูดถูก ดูเหมือนว่าข้าจะคิดมากเกินไป เราแค่ไปที่นั่นเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับบทกวีเท่านั้น มันจะมีตรงไหนที่ไม่ดีกัน?”

หยวนเทียนชูถอนหายใจ

ช่างเจ้าเลห์จริงๆ

 

ทั้งสองคนเดินทางไปที่ศาลาหงซิ่ว

หยวน เทียนซูมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง ไม่ใช่ว่าเขากลัวคนอื่นจะเห็น แต่กําลังมองหาชายที่น่ารังเกียจคนนั้นว่าอยู่รอบๆหรือ

 

แต่ทุกอย่างดูปกติดี ไม่มีวี่แววของชายคนนั้นเลยแม้แต่น้อย

แต่ในความมืดร่างหนึ่งกําลังลอบมองไปทางหยวนเทียนชูอย่างเงียบงัน ร่างนั้นติดตามพวกเขาไปตลอดทางเพื่อดูว่าพวกเขาจะไปที่ไหน

เมื่อเห็นว่าพวกเขาเข้าไปในศาลาหงซิ่ว เขาจึงรีบจากไปทันที

ณ ศาลาหงซิว

เหล่าหญิงสาวที่อยู่โดยรอบกําลังหว่านเสน แม้ว่ามันจะยังกลางวันอยู่ แต่พวกเธอก็พยายามทํางานอย่างเต็มที่

เพราะการให้บริการแขกคือหน้าที่ของพวกเธอ

 

และเมื่อแขกบอกว่าบริการของพวกเธอยอดเยี่ยม พวกเธอก็จะภูมิใจไปกับมัน

นี่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่ามีคนยอมรับในสิ่งที่พวกเธอทํา

 

หวัง หยุนเฟยไม่มีพัด แต่เพื่อบรรยากาศเขาจึงซื้อพัดกระดาษบนถนนมา ทําให้เขาในตอนนี้มีบรรยากาศของนายน้อยที่กําลังมุ่งหน้าไปยังหอนางโลม

“พี่หยวน ท่านคิดว่าข้าดูเป็นยังไงบ้าง?” หวังหยุนเฟยถาม

 

หยวนเทียนชูครุ่นคิด เขาอยากจะพูดออกไปตรงๆเลยว่าอีกฝ่ายเป็นพวกเสแสร้ง แต่เขาพูดแบบนั้นไม่ได้มิฉะนั้นมันจะทําให้หวังหยุนเฟยโกรธเคือง

“พี่หวัง บรรยากาศของท่านทําให้ข้าแทบอยากจะคารวะเลยล่ะ มั่นใจได้เลยว่าเหล่าหญิงสาวในศาลาหงซิ่วจะต้องเข้ามารุมและกลืนกินท่านอย่างแน่นอน” หยวนเทียนชูอวยเขา

 

“ฮาฮาฮาฮา”

 

หวังหยุนเฟยหัวเราะ “โชคดีที่พี่หยวนเตือนข้า มิฉะนั้นหากข้าทําตัวโดดเด่นมากเกินไป มันจะเป็นเรื่องง่ายที่จะทําให้ผู้คนรู้สึกอิจฉา”

 

นายน้อยของตระกูลชนชั้นสูงที่มากจากภายนอกไร้ยางอายขนาดนี้เลยงั้นหรือ?

“แหม ที่แท้ก็เป็นนายน้อยหยวนผู้สูงส่งนี่เอง ในที่สุดท่านก็มาที่นี่เสียที่” ผู้ดูแลหอนางโลมมองไปที่หยวนเทียนชูด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย นี่คือนายน้อยจากตระกูลหยวน เขาถือเป็นลูกค้ารายใหญ่

 

หยวน เทียนชูไอเบาๆ “นี่คือนายน้อยหวังจากเมืองหลง เขาได้ยินมาว่าศาลาหงซิ่วของเจ้ามีบางอย่างพิเศษเขาจึงอยากจะมาดูปรนนิบัติเขาให้ดีมิเช่นนั้นศาลาหงซิ่วของเจ้าอาจจะต้องปิดตัวลง”

แม้ผู้ดูแลหอนางโลมจะมีร่างกายที่ใหญ่โต แต่เธอกลับคิดว่าตนเองนั้นมีเสน์มาก อย่างไรก็ตามในสายตาของผู้อื่นแล้วนั่นส่งผลต่อความอยากอาหาร

 

เธอไม่ใช่คนโง่ เนื่องจากนายน้อยหยวนทําสิ่งต่างๆให้ชัดเจนแล้ว เธอจะไม่เข้าใจได้อย่างไร

 

สิ่งที่เขาจะสื่อนั้นชัดเจนมาก

นายน้อยหวังผู้นี้คือแขกคนสําคัญ

 

จากนั้นเธอจึงทําการเรียกสาวๆให้รีบเข้าไปดูแลนายน้อยหวังทันที

 

นายน้อยหวังกางพัดกระดาษของตน ขณะที่เขาเดินเข้าไปข้างในพร้อมกับเหล่าหญิงสาวที่กําลังรายล้อม

ทางด้านสาวๆเมื่อรู้ว่ามีลูกค้ารายใหญ่เข้ามา พวกเธอจึงพยายามเข้าหาด้วยกําลังทั้งหมดที่มี

ทําให้โต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรสถูกรายล้อมไปด้วยสาวๆ

 

“นี่ผู้ดูแล ข้าได้ยินมาว่าสิ่งพิเศษที่เจ้ามีคืออาจารย์โทนี่ผู้สร้างมาแล้วถึง108แบบ ดังนั้นทําไมเจ้าไม่เรียกนางออกมาให้ข้าได้ดูหน่อย เล่าว่านางมีฝีมือและน่าทิ้งเพียงใด” หวังหยุนเฟยถามขณะที่ดื่ม และกอดหญิงสาวที่อยู่ข้างกาย

 

“ดี! ดี! นายน้อยหวังโปรดรอสักครู่” ผู้ดูแลหอนางโลมพยายาม เอาใจและเรียกตัวนางมาทันที

 

ไม่นานหลังจากนั้น โทนี่ก็ได้มาถึง

 

“แหม ท่านไหนคือนายน้อยหวัง?” เสียงของเธอเหมือนเป็ด จะชายก็ไม่ใช่จะหญิงก็ไม่เชิง ลําคอใหญ่ โหนกแก้มสูงและถูกแต่งแต้มเอาไว้ด้วยสีแดง

 

เมื่อหวังหยุนเฟยเห็นเขาก็เกือบจะพ่นไวน์ออกมา

 

“ออกไป ออกไปให้พ้นสายตาข้า คนอย่างเจ้าควรจะอยู่เบื้องหลังต่อไปน่ะดีแล้ว” หวัง หยุนเฟยกล่าว

“หึ!” อาจารย์โทนี่บิดก้นของเธอ บีบผ้าเช็ดหน้าขณะพูดด้วยท่าทางรําคาญ “ข้าก็ไม่อยากเจอเจ้าเช่นกัน!”

อุจาดตานัก!

 

หยวน เทียนชูเช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผาก

เขาจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกเป็นครั้งที่สองแน่

 

มันช่างเลวร้ายจริงๆ

หวัง หยุนเฟยไม่ได้สนใจอาหารบนโต๊ะนัก เขาทานไปไม่กี่คําก่ อนที่จะชี้ไปที่เด็กผู้หญิงสองคน และพาพวกเธอเข้าห้องไป

 

เขาอยากจะคุยกับพวกเธอข้างในอย่างช้าๆ เพราะที่ตรงนี้มันเปิดเกินไป

“นายน้อยหยวน ท่านสนใจคนไหน?” ผู้ดูแลหอนางโลมถาม

หยวน เทียนชูไอเบาๆ “ไม่จําเป็น ข้าแค่จะนั่งรออยู่ตรงนี้”

ผู้ดูแลหอนางโลมจะยอมให้นายน้อยหยวนนั่งรออยู่เฉยๆได้อย่างไร? แบบนั้นไม่ได้แปลว่าเธอปล่อยให้ทองหลุดมือไปงั้นหรือ? ดังนั้นเธอจึงเสนอบริการของพวกเธออย่างกระตือรือร้น

“นายน้อยหยวนท่านไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ดังนั้นข้าจึงอยากจะนําเสนอบริการมากมายที่เรามี”

 

“ชักงูออกจากรู”

“ม้าบนทุ่งหญ้า”

 

“งูรอบเอว”

 

“เล่นจะเข้กับวัว”

“หมากรุก วาดภาพ หนังสือ จะเข้”

“แยกภูเขาและพลิกมหาสมุทร

 

“สัมผัสชีวิต”

 

“เรามีกิจกรรมมากมาย รวมแล้ว 108แบบซึ่งทั้งหมดถูกสร้างขึ้นด้วยมือของโทนี่”

 

หยวน เทียนชูตกตะลึง เขาไม่เคยได้ยินเรื่องพวกนี้มาก่อน เธอกําลังพูดถึงอะไรกัน?

“ทั้งหมดมันฟังดูเหมือนบทกวีเล็กน้อย มันคือการแลกเปลี่ยนวรรณกรรมใช่หรือไม่?”

 

ผู้ดูแลหอนางโลมยิ้ม “ใช่แล้ว มันคือการแลกเปลี่ยนวรรณกรรม”

 

หยวน เทียนชูเงียบไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ สิ่งนี้มันน่าจะสามารถพัฒนาความรู้ของข้าได้ และมันก็ไม่ใช่ปัญหาเลยหากมันเป็นแค่การแลกเปลี่ยนความรู้”

 

ณ ด้านนอกศาลาหงซิ่ว

 

หลิน ฟานเงยหน้าขึ้นมอง “ให้ตายเถอะ! เขากล้ามาที่นี่กลางวันแสกๆ ลูกพี่ลูกน้องเราเข้าไปจากด้านหลัง และไปสอนบทเรียนให้เขากันเถอะ”

“ได้เลยลูกพี่ลูกน้อง” โจวเชียงเหมาตอบ

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don't Want To Defy The Heavens, IDWTDTH, Wǒ Bùxiǎng Nì Tiān A, 我不想逆天啊
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I Don’t Want To Defy The Heavensภายในห้อง มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเงียบสงบกำลังนั่งอยู่ข้างเตียง พร้อมกับทำสีหน้าเคร่งเครียด อย่างไรก็ตามลึกเข้าไปข้างในแล้วเขากำลังมีความสุข “นี่มันก็วันที่สามแล้ว ข้าคงไม่สามารถกลับไปได้อีกต่อไป” ภายในใจของหลิน ฟานตอนนี้กำลังยุ่งเหยิง เพราะเขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขายังอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน ตอนนั้นภายในสถานีรถไฟใต้ดิน มีสถานการณ์ที่ไม่สบอารมณ์เกิดขึ้น เมื่อเขาต้องสู้กับพวกสารเลวสองคน แต่ตัวเขาค่อนข้างแข็งแกร่งและได้ใช้วิชาหวิงชุนกลับไป อย่างไรก็ตามสองสามวินาทีต่อมา เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับหมัดขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งตรงมาทางเขา หลังจากเสียง ‘ปัง’ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลยอีกเลย เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีเขาก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การแกล้งกัน อย่างไรก็ตาม เขารู้จักตัวเองดี เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติหากไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเมื่อเดินสวนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโดนแกล้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset