I Never Run Out Of Mana – ตอนที่ 39. Slam. Charge. (2)

39. Slam. Charge. (2)
ล่าและขายของที่ดรอปทุกวัน
และมีรายได้ที่มหาศาลกับมัน
ช่วงที่ผมกำลังเตรียมเข้ากันเจี้ยนปกติของผม.
จากนั้น.
ผมรู้สึกเหมือนกับมีอะไรพุ่งเข้ามาและเกิดการสั่นเป็นอย่างมาก.
โล่ของผมแตกมันเหมือนกับลูกกระสุนที่พุ่งเข้าใส่น้ำ
“อะไร! ไอ้พวกเหี้ยตัวน้อยนี่เป็นใคร!”
สถานที่ผมเดินเข้าออกประจำมีอเวคไม่กี่คนอยู่หน้าทางเข้า
โล่ของผมฟื้นฟูด้วยความเร็วไม่น่าเชื่อ มันฟื้นฟูเนื่องจากมานาของผมมีมหาศาล.
สถานการณ์เหล่านี้ผมสาบานด้วยตัวเอง.
การตะโกนของผมทุกคนมองมาที่ผมอย่างแปลกใจ
แต่ผมก็ไม่เห็นมัน และรู้สึก
หลังจากที่ออกจากกิลด์แล้วผมก็จะใช้โล่ทุกครั้งที่มันไม่มีคูลดาวน์เพื่อให้แน่ใจว่ามันยังถูกใช้งาน
ความเป็นไปได้ที่ทำให้ผมไม่สบายใจ อย่างที่ผมคิด.
แต่ตอนนี้ มีใครเข้ามาโจมตีระหว่างที่ผมเข้าดันเจี้ยน
ถ้าโล่ของผมมีเลเวลน้อย ผมจะต้องถูกโจมตีอย่างรุนแรง
การโจมตีที่เฉียบคมและมุ่งเป้ามาที่ผมด้วยพลังทั้งหมด
ผมพยายามที่จะคิดว่าการโจมตีมันมาจากตรงไหน.
ผมมองไปรอบๆแต่ไม่พบใคร
เกิดอุบัติเหตุจากคาถาของใครสักคน? ไม่มีทาง
พลังที่เหลือเชื่อและเป้าหมายการโจมีที่รวดเร็ว มีคนเล็งเป้ามาที่ผม
และมีฝีมีที่ยอดเยี่ยม…..
ผมบังคับให้ตัวเองสงบลงและทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถ้าปล่อยให้ตัวเองถูกควบคุมด้วยอารมณ์ ผมจะเปิดเผยจุดอ่อน.
ความสงบของผมก็อยู่เพียงครู่เดียวเท่านั้น.
ผมรู้สึกว่ามีใครมองผมมาจากอาคาร
มันไม่ได้เป็นระยะทางที่มองเห็นได้ แต่รู้สึกว่าเขาจะยิ้มอย่างชัดเจน.
ไม่ ผมแน่ใจว่า เขาต้องหัวเราะใส่ผม
“……”
ผมกัดฟันแน่น
ผมหันกลับไปราวกับจะบอกว่าเขากำลังทำอะไร
มองไปที่ตรงนั้นผมต้องการให้ดาวตกลงยังพื้นดินที่เขาอยู่
จะเป็นใครได้
มันเหมือนกับสิ่งที่ผมคิด
แต่การกระหันขนาดนี้?
และหลังจากการโจมตีปรากฎบนยอดหลังคาราวกับว่าเขาต้องการให้ผมเห็น.
‘มันยังไม่จบ มันแค่เริ่มต้น’ – นี่เป็นข้อความที่เขาพยายามจะส่งมาหาผม.
ผมต้องการกังวลนานนักแต่
‘หืมม…มันเหมือนกับที่จุงโฮทำนายไว้?’
ใบหน้านั้นปรากฎขึ้นมาในใจ!
หัวหน้ากิลด์โนเบลซ ปาร์คฮยอน
มันเป็นเวลาสองเดือนนับตั้งแต่ผมออกจากกิลด์ ด้วยช่วงเวลาเหล่านี้มันทำให้ผมคิดว่าปลอดภัย.
ถ้าความคิดของผมถูกต้อง มันก็เหมือนกับหมาจิ้งจอกที่คิดว่าตัวเองกล้าหาญ.
คำพูดของเธอที่ผมไม่เข้าใจและข้ามมันไป
‘ถ้าคุณไม่ต้องการมาที่กิลด์ก็ทำตามที่คุณต้องการ แต่ก็ไม่รู้ว่าชีวิตหลังออกไปจะเป็นอย่างไร ถ้าเราเจอกันอีกครั้งและคุณมาหาเราหวังว่าเราจะอยู่ข้างเดียวกัน.’
เมื่อคิดถึงสถานการณ์นี้แล้วผมคิดว่ามันคงมีความหมายอยู่เบื้องหลังของเธอแล้วในตอนนี้.
เธอคาดเดาความสามารถของผมได้ในระดับหนึ่งแล้ว
ไม่อย่างนั้นเธอคงจะไม่เสนอสัญญาที่ล่อลวงได้ในขนาดนี้เพื่อให้ผมเข้าร่วม
แต่ผมไม่คิดว่าเธอจะรู้ว่าผมระวังเธอ
ถ้าเธอรู้ เธอคงจะไม่พูดขณะที่ผมจะออกมาและจะไม่มีการโจมตีแบบนี้
ไม่อย่างนั้นหลังจากที่ผมออกมาผมจะหายไปโดยไม่มีคำพูด
ผมยังสามารถคาดเดาสิ่งที่เธอต้องการจากผมได้
แทนที่จะมีอันตรายภายนอกอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเข้าร่วมก็จะปลอดภัย.
ภาพสะท้อนของเธอเหมือนกับหมาจิ้งจอกน้อยอายุ18ปี.
‘เร็วๆนี้คุณจะรู้ว่าฉันไม่ได้เป็นฝ่ายตรงข้ามที่อ่อนแอ.’
ผมจ้องมองที่เขายืนอยู่พักนึง
ดูเหมือนว่าถึงเวลาที่ผมจะต้องตัดสินใจแล้ว
ผมแน่ใจว่าไอ้โง่ทั้งสองและคนแคระนั่นเกลียดผม.
อย่างไรก็ตามเขาจะไม่จ้างคนที่มีสกิลเพียงแค่การล้างแค้น?
ไม่ว่าจะมีเงินมากน้อยแค่ไหนแต่มันก็มีโอกาศน้อย
และถ้าพวกเขาพยายามที่จะพาผมไปพวกเขาจะโจมตีจนกว่าผมจะได้รับบาดเจ็บสาหัส.
นอกจากนี้พวกเขาจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวตนของเขาพวกจะไม่ถูกเปิดเผย
* * *
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมถูกโจมตีด้วยอเวคแทนที่จะเป็นมอนเตอร์.
มันเกือบจะสั่นสะท้านอย่างไม่หยุดได้ในตอนนี้
จุงโฮโทรศัพท์เข้ามา.
หากมีกรณีที่มีปัญหามากขึ้นผมจะพูดคุยกับเขาในดันเจี้ยน
แน่นอนหลังจากที่ผมเครียร์ดันเจี้ยนแล้วผมจะใช้เวลาที่เหลือก่อนที่จะหมดเวลา.
“เกี่ยวกับเรื่องนี้?ค่อนข้างมั่นใจ?”
“อืม…ไม่ว่าผมจะมองมันอย่างไง มันก็เหมือนกับกิลด์โนเบลซ.”
“ฮยอง มีอะไรที่โจมตีโล่ได้ มีสกิลไหนเป็นแบบนั้นบ้างไหม?”
“อาจจะเป็นอาวุธขว้างของแอสซาซินและอเวคมาเรียบร้อยแล้วนั่นเอง.”
“นั่นเป็นแอสซาสซินบางคน ใช่มั๊ย?”
“ใช่ มันเป็นสกิลขว้างอาวุธขนาดเล็กไปยังเป้าหมายอย่างแม่นยำและสมบูรณ์แบบ แต่เมื่อนายอเวคมันแล้วมันจะทำให้นายมองไม่เห็นราวกับล่องหนไปในอากาศ.”
“ไม่ใช่โจมตีระยะไกล แต่เป็นสกิลเป้าหมายเดี่ยว สกิลแบบนี้มันยากที่จะเพิ่มเลเวลมาก มีแต่ระดับท๊อปเท่านั้นที่สามารถอเวคได้?”
“มันต้องเป็นสกิลที่สูงแน่นอน.”
“ให้เดาว่ามันพึ่งจะเริ่ม?”
“นายวางแผนที่จะทำอะไร?”
“….. ถ้าผมสามารถซื้อเวลาได้มากกว่านี้ ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ตัวและพยายามที่จะดูแลผมอย่างรวดเร็ว? แทนที่จะรออะไรสักอย่างให้เขาโจมตีเข้ามาก่อน”
“นายจะบอกว่านายจะเก็บกิลด์โนเบลซก่อนด้วยตัวของนายเอง?”
“คนเดียว? ผมมีฮยอง.”
“……”
ดวงตาของจุงโฮเต็มไปด้วยความกังวล
แต่ผมมีแผนในใจ
แม้ว่าผมจะไปโดยไม่มีแผนผมก็ไม่แพ้
เลเวล200และ300มีสกิลมากที่สุดแค่5สกิลเท่านั้น.
หัวหน้ากิลด์โนเบลซปาร์คฮยอนมีเลเวลเพียง 200ต้นๆเท่านั้น
แต่ผมมีเลเวล150ภายใน4เดือน
และสกิลทั้งหมดอยู่ในระดับมาสเตอร์
ตอนนี้ผมได้อเวคสกิลบ้างแล้ว
สิ่งเดียวที่ผมจะสามารถปรับปรุงได้ก็คือขาดโล่เพื่อป้องกันตัวเอง
โล่อย่างเดียวที่ผมมีอยู่คือ โล่สะท้อน,โล่น้ำแข็งและโล่สปิริต
โล่สะท้อนถูกอเวคเพื่อตอบสนองความต้องการของผม
มีสกิลอื่นๆอีกสองสกิลที่ทำงานแบบนี้คือโล่ดูดซีมและโล่ป้องกันความเสียหาย มันจะป้องกันได้อย่างมากเมื่อเลเวลของมันเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามมันก็ยังมีคูลดาวน์.
ในการต่อสู้ผมจะต้องป้องกันความเสียหายจำนวนมหาศาลจากการต่อสู้ด้วยโล่ของผม
ถ้าโล่ของผมพังเร็วกว่าที่คำนวนไว้ แผนและผลลัทพ์มันจะชัดเจนทันที.
ผมแยกความคิดและคุยกับจุงโฮ
“ฮยอง มีใครขายโล่ที่ใช้มานาป้องกันบ้างไหม?”
“โล่มานา? แม้แต่บริษัทก็ยากที่จะซื้อ”
“แล้วไง?มันก็เหมือนกับโฮลและบันที่ไม่มีมีเพียงแค่ในตลาดเท่านั้น?”
“อืม มันยากที่จะได้รับตามกฎหมาย.”
“ผมรู้ ตอนนี้ผมต้องการพึ่งพาสิ่งเล็กๆนั่น.”(เส้นสาย/ไรต์)
“หืม? สิ่งเล็กๆ? นายหมายความว่าอะไร?”
“ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมัน แค่ให้ผมไป”
“โอเค ถ้าเกิดอะไรขึ้นติดต่อฉันทันที ไม่ต้องกลัวว่ามันจะลำบากที่จะบอกฉัน!”
“ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น.”
“ด้วยกัน…ไม่ต้องสนใจ พูดตามนิสัยแล้ว ในสถานการณ์ที่ร้ายแรงขนาดนี้นี่นายยังจะเล่นตลกได้? กลับบ้านไปเร็วๆ.”
“อุฟ ผมกำลังไป!”
* * *
ผมมุ่งหน้าไปยังสำนักงานที่มีสิ่งเล็กๆ
แต่เดิมผมรู้ว่าจะติดต่อเขาอย่างไร แต่เมื่อเราย้ายไปยังเซฟเฮ้าซ์ ผมก็สามารถหานามบัตรของเขาได้
ตั้งแต่ที่ผมหาพวกเขาได้ เขาอาจจะโยนทุกอย่างทิ้งเมื่อผมเข้าไปเยี่ยม.
ผมเข้าด้วยการเคาะประตูสำนักงาน
ผมพึ่งให้ความโปรดปรานเขา แต่ผมจำได้ว่าเขาจ่ายค่ารักษาประตูของผมอย่างไร
แน่นอนว่ามีนามบัตรมากมายที่ผมไม่สนใจ
ตาของเขาเบิกกว้างขณะที่ต้องมองมาทางผมอย่างไร้กังวลกับจาจังเมี่ยนในมือของพวกเขา.[TL:มันเหมือนกับก๋วยเตี๋ยวของจีน แต่เส้นมันก็เหมือนกับสปาเก็ตตี้] 1
“โทษที แต่ผมจำได้ว่าคุณทุบประตูของผมพัง คุณสบายดีไหม?”
“…… แล้วนายมาทำไม?”
ลูกน้องทั้งสองคนโยนชามทิ้งและรีบทักทายผม
ขณะที่เขาทักทายผมผมเดินไปตรงหน้าคนแคระ
มองเข้าไปในสายตาของเขาและบอกสิ่งที่ผมมา
“ผมโดนโจมตีด้วยอาวุธขว้างของแอสซาซินในวันนี้ ผมมาถามคุณแบบนี้ มันถูกต้องไหม?”
“ฉัน… อะไร… โห! ไม่มีทาง. มันไร้สาระ”
“เยี่ยม ตอนนี้ผมมีภารกิจให้คุณคือ ‘โล่มานา’.”
“หืม?”
“ผมบอกคุณแล้วไงว่าผมไม่ชอบพูดซ้ำ.”
“อ่า… ใช่! โล่มานา. แต่ราคาไม่สามารถเทียบได้กับไอเทมก่อนหน้า…..”
“ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย คุณแค่ทำอย่างไรก็ได้ให้ได้มันมา.”
“ได้…..”
“3วัน มันเร่งด่วนมาก.”
“3 วันนี่… ถ้าสัก 1 สัป-”
พวกโง่หนึ่งในสองคนพูด
ก่อนที่เขาจะพูดเสร็จ!
ผมหยิบแบนวอนออกมา
พวกเขาตระหนักได้ถึงสกิลดาบเจาะของผม
ผมใช้สกิลแล้วถาม
“หนึ่งสัปดาห์?”
นายโง่กลืนคำพูดของเขาและอาหารของเขาต่อไป
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะบอก! 3วัน มีเวลาเหลือเฟือ.”
“มีอีกอย่างหนึ่งที่ผมต้องขอ”
“มันคืออะไร….”
“ผมไม่ต้องการทำการซื้อขายแบบเจอหน้าอย่างนี้.”
“ได้ ไม่ยากเลย.”
“แล้วผมจะ กลับ-มา-หา คุณอีก.”
ผมพูดขณะที่มองพวกเขาแต่ละคน
ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นประโยชน์
แต่มันก็มีกฎหมายในโลกใบนี้
กฎที่ผมพูดถึงคือผมจะได้รับในสิ่งที่ผมต้องการและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
เยี่ยม อย่างน้อยๆคนเหล่านี้ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บจริงๆ
* * *
ผมกลับมาที่สำนักงานของคนแคระอีกครั้ง
3วัน.ผมต้องได้ ‘สร้อยคอลูว์เวอร์’ และ ‘แบนวอน จินชอน’ ใน3วัน.
ผมได้เปลี่ยนเส้นทางบนรถแท๊กซี่จากดันเจี้ยนไปยังบริเวณตลาดอเวค
ถ้าผมได้อาวุธและชิ้นส่วนที่ถูกต้อง ผมต้องมีสกิลที่ใช้ร่วมกับมันได้.
สกิลที่ผมเลือกคือ ‘วังวนมหึมา’ และ ‘หลุมไต้ฝุ่น’. [TL:Doesn’t translate very well, as these names were made up as the author pleased, in Korean to boot.] 2
ผมจำ ‘ลมหมุน’ ในสงครามกิลด์ได้.
หมุนร่างกายอย่างรวดเร็วและสร้างความเสียหายอย่างมากพร้อมกับอาวุธ
ถ้า ลมหมุน มีระยะ4-5เมตร, วังวนมหึมา ก็ประมาณ 10 เมตร.
มันเหมือนกับเป็นสกิลอเวคของวังวนมหึมา.
ลมหมุน และ วังวนมหึมาทั้งคู่อยู่ในแรงค์A.
มันเห็นได้ชัดว่าต้อง วังวนมหึมา มากกว่าอย่างอื่น.
อย่างไรก็ตามทั้งสองอย่างมีการใช้มานาที่แตกต่างกัน.
สกิลของนักรับส่วนใหญ่ใช่มานาเป็นเปอร์เซ็นต์
ขึ้นอยู่กับความสามารถแต่พื้นฐานแล้วมันใช้ 3% สำหรับ ลมหมุน และ 10% สำหรับวังวนมหึมา.
ความเสียหายการโจมตีก็เหมือนกัน.
แต่เมื่อระยะมันเพิ่มขึ้นมันก็ใช้มานาเพิ่มขึ้น
ถ้าใครถูกสกิลนี้เขาก็จะถูกปั่นเหมือนกับเครื่องปั่นอาหาร
มันใช้ความแข็งแกร่งเป็นจำนวนมากและส่งกระทบต่อคู่แข่งจำนวนมาก.
สกิลต่อไป ‘หลุมไต้ฝุ่น’.
มันเป็นสกิลเพิ่มเติมจาก ‘ตาพายุ’.
คำอธิบายระบุว่ามันมีพลังเหลือเชื่อ
ตาพายุทำให้คนที่อยู่รอบๆเป้าหมายถูกดูดเข้าไปใกล้ผู้ใช้มากขึ้น.
หลุมไต้ฝุ่น จะหมุนไปคนละทางกับตาพายุ.
อย่างไรก็ตามหลุมไต้ฝุ่นเป็นสกิลที่รวมเอาการโจมตีเหมือนกับมีมีดนับร้อย.
ตาพายุจะเพิ่มความเสีบหายมากขึ้นเมื่อเลเวลเพิ่มแต่ หลุมไต้ฝุ่น จะหมุนไปอีกด้านที่มากยิ่งขึ้น.
หากทั้งสองสกิลเพิ่มเลเวลแล้วมันจะแสดงความสามารถที่มากขึ้น
“ผมมาที่นี่เพื่อที่จะเอา หลุมไต้ฝุ่นและวังวนมหึมา”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset