I Never Run Out Of Mana – ตอนที่ 40. Slam. Charge. (3)

40. Slam. Charge. (3)

เรียกดาวตกและภูเขาน้ำแข็งยังไม่ถึงเลเวล20

สกิลเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหากโจมตีมอนเตอร์เป็นกลุ่ม.

ดันเจี้ยนเลเวล18 มีมอนเตอร์เพียง 10-15ตัวเท่านั้น

สกิลอื่นๆก็อ่อนแอมากและยังอยู่ในเลเวลต่ำ ดังนั้นผมจึงมุ่งหน้าไปดันเจี้ยนแมนติคอร์เพื่มเพิ่มเลเวลของพวกเขา.

แต่แม้ว่าจะอยู่ในเลเวล 1 สกิลเหล่านี้ก็สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง.

ดังนั้นผมจึงไม่คิดอะไรมาก

หลุมไต้ฝุ่นและวังวนมหึมา.

แรงค์โจมตีของสกิล

ถ้าผมเพิ่มเลเวลพวกเขามันควรจะสร้างความเสียหายด้วยจำนวนมหาศาลจากสถานะความแข็งแกร่งของผมที่มีมากกว่า1,000.

การต่อสู้ของผมและกิลด์อาจจะเกิดขึ้นภายในสัปดาห์นี้

ผมเสียใจที่ไม่เพิ่มเลเวลสกิลมากกว่านี้จนผมอยู่ในสภาวะวิกตฤแบบนี้

มันเหมือนกับนักเขียนที่กำลังปั่นงานก่อนที่จะถึงเส้นตาย.

ผมวางแผนที่จะใช้เวลาทั้งวันในการเพิ่มเลเวลสกิล

วันนึงไม่มีเพียงพอที่จะเพิ่มเลเวลสกิลระดับA+ที่ต้องใช้มานามากและมีคูลดาวน์

เวลาในการเพิ่มเลเวลของตาพายุให้อยู่ในเลเวลตันก็เยี่ยม ผมได้เลือนมันมาหลายวัน.

เพื่อที่จะดูการทำงานร่วมกันของมัน

ผมเข้าไปในดันเจี้ยนซัคคิวบัสที่สามารถใช้เพียงการโจมตีทางกายภาพเท่านั้น

ผมยังเติบโต(เลเวลอัพ)ขึ้นเล็กน้อยจากการเพิ่มเลเวลสกิลของผม

* * *

ประมาณค่ำๆเกี่ยวกับการเพิ่มเลเวลอย่างบ้าคลั่ง.

ดาวตกและภูเขาน้ำแข็งอยู่ในเลเวล 40.

ในเวลา14ชั่วโมงผมเพิ่มเลเวลได้ถึง 19 เลเวล.

มันเป็นความรู้สึกที่น่าทึ่งที่สามารถทำได้แบบนี้เพราะมีพวกมันหลายร้อยตัว

แม้ว่าจะถูกโจมตีด้วยเวทย์ที่รุนแรงขนาดนี้พวกมันก็ไม่ได้สะทกสะท้านเนื่องจากมีพลังป้องกันทางเวทย์มาก

แม้ว่าจะเป็นนักเวทย์ขั้นสูงอย่างยูนจุงซัน แต่ก็มีน้อยกว่า1%ของนักเวทย์ทีจะสามารถเพิ่มมันให้เป็นเลเวล40ได้เนื่องจากการใช้มานาของมันมาก.

ข้อความจากคนแคระก็ปรากฎออกมา

การค้าจะเกิดขึ้นในที่ทำงานของเขา

[กรุณามาที่ออฟฟิศเวลา 10โมง.]

[แน่นอน.]

ความต้องการโล่ที่ดีซึ่งเป็นความกังวลที่ใหญ่ที่สุดที่ผมต้องดูแล

อย่างไรก็ตามผมไม่แม้แต่จะเสียดายเงินในการซื้อโล่มานา.

เงินมาและไป

นั่นคือเหตุผลที่ผมต้องเจอคนขายด้วยตัวเอง?

นั่นเป็นเหตุผลที่ผมต้องการเอาชนะและขโมยมันจากผู้ขายหรอ?

ไม่มีทาง ผมจะไม่ทำแบบนั้นกับคนที่ไม่ทำอันตรายกับผม.

ผมจะกลายเป็นคนที่โหดเหี้ยมกับคนที่ทำความเสียหายทางร่างกายและจิตใจผมเท่านั้น

ผมมาถึงออฟฟิศของคนแคระ

ในลานจอดรถมีรถหลายคันที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน.

มันอาจจะซื้อขายกันตรงนี้ก็ได้.

เนื่องจากจำนวนเงินที่มากมายรวมทั้งสกุลเงินมาเกี่ยวข้องอีกมันไม่น่าแปลกใจ.

เริ่มมองเห็นพวกเขาอยู่ใกล้ขณะที่ผมเคลื่อนที่ไปหา.

มีชายคนนึงที่ดูเหมือนกับพนักงานขายในออฟฟิศ.

อายุอาจจะพอๆกับจุงโฮมั้ง?

เมื่อสบตากันของสองเรา ผมถามคนแคระเบาๆ

“ดูเขาจะอายุน้อยไปเกินกว่าจะขายโล่ระดับสูงนะ?”

“คนส่วนใหญ่จะส่งเด็กๆออกมาขายของ ไม่มีอะไรที่ดีกว่าจะซื้อขายแบบเจอตัวตรงๆ.”

“คุณก็รู้ แต่การซื้อขายมันน่าจะอยู่ในออฟฟิศ?”

“เยี่ยม ผมไม่ได้ซื้อเอง เพียงแค่ระบุสถานที่……”

“ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับฉัน มีอะไรอยู่ในตู้นิภัยนั่น?”

มือของผมชี้ไปที่ตู้นิภัยหลังคนแคระ

“เอ๋? อะไร… จริงดิ?”

“คุณหมายถึงอะไร ไม่ใช่ว่างานของคุณที่ให้กู้เงินและทวงมัน?”

“ใช่… มันก็จริงแต่…..”

“ผมแค่ยืมมันนิดหน่อย ผมควรจะเอามันด้วยตัวเอง? หรือว่าคุณต้องการเปิดโดยไม่มีความเสียหาย?”

“…..”

ด้วยใบหน้าที่เหมือนกับขี้และมองแต่รองเท้าของเขา ผมเคลื่อนไหวร่างกายของผมไปยังตู้นิระภัย

แต่แล้วเขาก็คว้าแขนของผมอย่างรวดเร็ว.

“ฉันจะ! ฉันจะเปิดมัน!.”

“ขอบคุณ ผมจะคุยกับเขาเพื่อดูว่าเขาต้องการมากแค่ไหน”

“……”

ผมไปหาชายหนุ่มบนโซฟา

บนโต๊ะมีกล่องขนาดเล็กที่ทำจากไม่โอ๊ค

เห็นได้ชัดว่าหนังสือสกิลอยู่ข้างใน

ผมพูดกับเขาก่อน.

“สวัดดี.”

“อืม.”

จากช่วงเวลาที่ได้พบกัน เขายังไม่คลายการระวังตัว.

เขาไม่มาที่นี่เพื่อขายสินค้าอื่นๆใช่ไหม

และมันยังเป็นการขายโดยตรงโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง.

“ผมสามารถเช็คสินค้าก่อนได้ไหม?”

“แน่นอน.”

ในกล่องไม้โอ๊คเป็นหนังสือสกิล

ผมชี้สมาร์ทโฟนไปที่เขา

มันเป็นท่าทางที่ผมจะสแสกนด้วยโทรศัทพ์ของผมและดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจ

เขาพยักหน้าและจิบกาแฟ.

-โล่มานา-

คลาสที่ใช้งานได้: นักเวทย์, หมอผี (คลาสอื่นจะไม่ได้รับผลเมื่อใช้.)

การใช้มานา: เท่ากับจำนวนความเสียหายทางกายภาพและเวทย์มนตร์

สกิลเริ่มต้น: ดูดซับความเสียหายทั้งกายภาพและเวทมนตร์.

*เมื่อได้รับความเสียหาย จะลดจำนวนมานาแทนพลังชีวิต.

*หลังจากใช้มันไปครั้งนึงแล้วมันจะอยู่ต่อไปจนมานาหมด. (สามารถยกเลิกได้โดยผู้ใช้.)

*(??)แรงค์ของสกิลไม่สามารถดูดซึมได้.

*(??)แรงค์ของมอนเตอร์ในการโจมตีไม่สามารถดูดซึมได้.

CD: ไม่มี. (ไหลเรื่อยๆ)

แรงค์สกิล: A

คำอธิบายเพิ่มเติม: สามารถใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว

(เพิ่ม) การใช้โล่มานาจะถูกยกเลิกหากใช้มืออีกข้างนั้นร่ายเวทย์.

ราคาหนังสือสกิล: ???

มันเป็นของจริง

โล่มานานี่มันเหมือนกับสูตรโกงการป้องกัน

แน่นอนว่ามานาของผมไม่มีวันหมด มันจะไม่มีวันพังหรือหายไปจนกว่าผมจะยกเลิกมันเอง.

แต่ผมจะใช้มันได้นานแค่ไหนในเมื่อผมมีมานาไม่มาก?

และผมก็ไม่จำเป็นต้องเพิ่มเลเวลสกิล

มีแต่การใช้มานามากขึ้นเมื่อเลเวลเพิ่ม

มันไม่ได้ส่งผลกับความเสียหายที่ถูกดูดซึม

อย่างไรก็ตามมีปัญหาเล็กน้อย.

ขณะที่ใช้โล่มานาผมไม่สามารถใช้มือนั่นร่ายเวทย์ได้

ต้องมีมือหนึ่งข้างในการใช้โล่มานา

ปัญหาคือมันไม่สามารถป้องกันสกิลแรงค์ ?? ได้.

แต่สกิลที่ไม่มีการจัดแรงค์เป็นแค่ข่าวลือของพวกเขาเท่านั้น.

มันเป็นความจริงที่ผมไม่มีข้อมูลที่แน่นอน.

จากสิ่งที่ผมได้รวบรวมมา มีอเวคไม่กี่คนที่ได้เรียนรู้พวกมัน

ผมไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสกิลและความสามารถของมันในสกิลดังกล่าว

เยี่ยมมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่.

การโยนโล่ทิ้งและใช้มือทั้งสองข้างใช้สกิลรัวๆและผมก็เพียงใช้มือข้างเดียวขณะที่โล่อื่นๆติดคูลดาวน์เพื่อความปลอดภัยที่แน่นอน.

และสกิลที่เหนือกว่าการจัดแรงค์ ผมสงสัยว่าโนเบลซคงจะมีพวกนั้นบ้าง.

บางทีอาจจะอยู่ในระดับต้นๆ.

ในขณะที่ผมคิดเกี่ยวกับมันชายอีกคนที่กำลังจิบกาแฟได้พูดขึ้น

“คุณยืนยันเสร็จแล้วหรือยัง?’”

“แน่นอน พวกมันราคาเท่าไร?”

“มันเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถหาได้ง่าย ด้วยเงิน…..”

“ใช่ผมรู้ คุณคงไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อกลับไปพร้อมกับกล่องที่เต็มไปด้วยเงินใช่มั๊ย?”

“…..”

เขาวางนานบัตรจากกระเป๋าหน้าอกของเขา

ที่ด้านหลังบัตรมีข้อมูลที่เขาต้องการ

เมื่อเห็นกังนั้นผมลุกขึ้นและไปหาคนแคระ

“คุณให้มันกับผมได้ไหม?”

“นี่…..”

“คุณมีสองแก่นอเวคไหม?”

“ใช่… ใช่?? มันไม่ใช่เงินแต่มันเป็นแก่นอเวค?”

“ทำไมคุณต้องแสดงออกแบบนั้น ผมไม่ได้เอามันไปแต่ยืม และคุณก็รู้ว่ามันไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน?”

เขามองไปที่ตู้นิรภัยของเขาราวกับวิญญาณของเขาหายไป

มันไม่ได้ใช้เวลาในการค้นหานานนักในตู้นิรภัย

ภายในนั้นผมเป็นมีช่องเล็กๆสร้างแยกไว้ต่างหากจากตู้นิรภัย.

“บิงโก.”

โดยไม่มีข้อกังขา.

มันเหมือนกับวัวทองคำที่ต้องเฝ้าไว้อย่างดี.(เกาหลีส่วนใหญ่ชอบวัว เหมือนกับวีดที่สร้างวัวที่ทำมากจาทองคำ/ไรต์)

หินเหล่านี้มีขนาดเท่าหัวแม่มือ ผมสงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงมีราคาแพง.

ทั้งสองถูกต้อง.

ด้วยความจริง ผมรู้ว่าโล่มานาต้องเสียประมาณสองแก่นอเวค

และผมก็มีเพียงแค่สอง

ดังนั้นถ้าคนแคระไม่ได้มีแก่นอเวคผมจะใช้ของผมในการซื้อมัน

แต่นี่เป็นเพราะว่าเขาปล่อยเงินกู้อย่างผิดกฎหมายและปฏิบัติของลูกหนี้ไม่ดี.

ผมวางแผนที่จะยืมแก่นอเวคจากเขาเล็กน้อย

มันเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น.

“ผมจะขอยืมพวกนี้หน่อย.”

เขาพยักหน้าด้วยความรู้สึกที่ไม่เสียดายในชีวิตของเขา

“และเราก็ไม่ต้องการเอกสารอะไรใช้มั๊ย?เหมือนกับวันแรกที่เราเจอกัน.”

“…..”

ผมกับไปยังโต๊ะคนขาย

ผมวางแก่นอเวคสองก้อนข้างกล่องไม้

ด้วยลักษณะที่เคร่งครัด เขายืนยันแก่นอเวคและใส่มันไว่ในกระเป๋าเสื้อของเขา.

“งั้นก็ลาก่อน.”

เขา(คนแคระ)พยายามที่จะเอานามบัตรออกไปจากชายคนนั้น

แต่ผมก็ฉกนามบัตรเขาจากมือโดยตรง

“ผมคิดว่าเราจะพบกันบ่อยขึ้นนับแต่นี้เป็นต้นไปดังนั้นผมจะรับเรื่องพวกนี้เอง ตกลง?”

“ไปเถอะ.”

“งั้นเราจะได้เจอกันอีก.”

ไม่มีการมองกลับมา ผมนั่งอยู่ที่นั่นและเรียนรู้โล่มานา.

หนังสือเริ่มเรืองแสงและถูกดูดซึมเขาสู่ร่างกายของผมอย่างสมบูรณ์.

‘โล่มานา’

ในขณะที่ผมใช่เวทย์มนตร์ก็มีบาเรียสีน้ำเงินคลุมร่างของผม.

เมื่อโล่คลุมร่างกายของมันเสร็จแล้วมันก็เหมือนกับเปลือกไข่

แต่โล่มานาออกมาจากมือของผมที่เหมือนกับถุงมือ

ผมให้หนึ่งในคนโง่โจมตีผมด้วยอาวุธเสริมพลัง

“โจมตีผมให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้”

“ได้.”

คราวนี้ผมเห็นรอยยิ้มที่อยู่เต็มใบหน้าและเปลี่ยนไปตรงกันข้าม แต่มันก็หายไปราวกับพริบตา

สนับมือที่เสริมแรงของเขาได้โจมตีเข้าที่หน้าของผมโดยตรง

แต่มันต่างจากที่ผมคาด ไม่มีเสียงดังอย่างที่คิดไว้

มันเหมือนกับไฟซ๊อตและถูกดูดซึมไปอย่างสมบูรณ์และผมก็รู้สึกได้เพียงแรงสั่นๆเล็กน้อย.

ผมไม่สามรถบอกได้ว่ามานาของผมลดลงไปเท่าไร.

เพราะว่าผมไม่สามารถเห็นค่ามานาของผมตั้งแต่แรก

ก่อนหน้านี้หมัดของเขาได้โจมตีเข้าที่โล่น้ำแข็ง มีชิ้นส่วนของโล่ที่แตกออกพร้อมกับเสียงที่ดังอย่างมาก.

โล่มานาต้องมีประสิทธิภาพมากเมื่อเทียบกับโล่อื่นๆ

แต่ต่างจากโล่อื่นๆที่สามารถแตกหักได้ง่าย.

มันดูดซับความเสียหายอย่างสมบูรณ์และใช้มานาเป็นตัวรับการโจมตีแทน.

มองไปที่เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้ว่าจะมีสกิลที่เหมาะกับผมมากไปกว่านี้ไหม.

แม้จะอย่างนั้นผมก็เก็บความประหลาดใช้ไว้สั้นๆ

หันไปรอบๆผมเห็นใบหน้าของคนแคระที่อยู่ตรงนั้นราวกับสูญเสียทุกสิ่งอย่างไป.

“ตกลง เมื่อไหร่ที่ผมต้องจ่ายสิ่งของที่ผมยืมไป? หากจะมาที่บ้านผมโปรดโทรมาก่อน.”

“ไม่ ทำไมต้องกำหนดเวลา แต่ได้โปรด…คืนผมด้วย.”

“อ่า…นี่ไม่ในเรื่องง่ายๆ ผมจะไปหาพวกมันมาจากไหน?อย่างไรก็ตามขอบคุณมากสำหรับวันนี้ ผมจะมาเจอกันอีกครั้ง.”

“ได้……”

“ใช่! กรุณาหันกลับไป.”

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ซ่อมประตูที่ถูกทำลายเมื่อวานนี้

ผมแอบเข้าไปและเตรียมตัวอย่างลับๆล่อๆ ก่อนมุ่งไปที่สำนักงาน

“เทเลพอต, โล่มานาเมื่อฉันต้องการผ่อนคลาย. โล่สะท้อนสำหรับการล่า…ฉันเป็นคนเดียวที่มีมันทั้งหมด. ผมรอไม่ไหวที่จะเห็นหน้าของปาร์คยอนแล้ว.”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset