I Never Run Out Of Mana – ตอนที่ 45. Slam. Charge. (8)

45. Slam. Charge. (8)

“อยู่ห่างๆ! แกอย่า!”

“พูด กูไม่ต้องการถามสองครั้ง!”

ด้วยเลือดที่ปกคลุมไปทั่ว ผมเข้าไปใกล้เธอ.

มันเหมือนกับการอาบน้ำ.

เธอเห็นแล้วว่าลูกน้องของเธอตายต่อหน้าต่อตาอย่างไร.

มีความกลัวในสายตาของเธอ มันเป็นการกลัวคนที่มีพลังมากกว่า.

“วะ… ไว้ชีวิตฉัน.”

“แกรู้อะไรเกียวกับฉันบ้าง?”

“ฉันมันก็แค่มดตัวเล็กๆ ฉันไม่เคยได้รับรายงานมากไปกว่านี้.”

“แกไม่รู้?”

“ใช่ ฉันแค่ทำงานเพื่อหาเงินและจัดการกำลังพลเท่านั้น ดังนั้น ได้โปรดปล่อยฉัน.”

“ฉันไม่คิดว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากของคนที่เห็นชีวิตคนอื่นเป็นเหมือนกับแมลงวัน.”

“…..”

“ตอนนี้ชื่อของไอ้เหี้ยที่มันขว้างมีใส่กู คนที่ทำหลุมที่ท้องกูอยู่ไหน? ถ้ามันมีฝีมือขนาดนั้นไม่มีทางที่มันจะตายไปพร้อมกับไอ้ขยะพวกนี้ เขาอยู่ที่ไหน ตรงไหน คิดสิ?”

“……”

เมื่อได้ยินคำถามของผม ปาร์คฮยอนก็กลายเป็นใบ้.

แม้ว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับความตาย หึ ผมนับถือเธอจริงๆ.

อย่างไรก็ตาม.

‘ดาบเจาะ.’

สกิลโจมตีพุ่งเข้าหาเธอ.

“กูบอกแล้วว่ากูไม่ชอบพูดสองครั้ง?”

“อ่าาา! จิน!”

มันใช้เวลาไม่นานหลังจากที่แขนและขาของเธอถูกตัดออกเหมือนกับหนังเก่าๆที่ขาดรุ่ย.

ผมไม่มีแผนที่จะทำอะไรเชื่องช้าแบบนี้ในวันนี้.

ปาร์คฮยอนพยายามที่จะฮีลตัวของเธอเองด้วยมานาอันน้อยนิด.

ตาของเธอเหมือนกับคนที่เสียสติไปเรียบร้อยแล้ว.

ร่างกายของเธอสั่นขณะที่ผมรักษาเธอ.

เพราะว่าผมมีคำถามมากมายที่จะถามเธอ.

“จิน? นั่นคือชื่อของไอ้เหี้ยนั่น? มึงรายงานเรื่องกูกับจิน ถูกไหม?”

“ถะ… ถูกต้อง……”

“และจินก็จะรายงานต่อคนที่อยู่สูงกว่ามัน.”

“…..”

“ทำไมมึงต้องการให้กูเข้าร่วมขนาดนี้?”

“มันเป็นการทำให้โลกเป็นไปตามต้องการของเรา โลกของยูโทเปียใบใหม่”

“ด้วยพลังของกู หรือว่าทั้งหมด?”

“……”

“กูควรจะฉีกมึงอีกรอบไหม? กูจะถามครั้งสุดท้าย มึงกำลังทำอะไร?”

“ปะ.. โปรเจ็ค…. ใต้ดิน ชะ-”

ในเวลานั้นเเอง.

ร่างกายของเธอก็ระเบิด.

การระเบิดเหมือนกับว่าเธอกำลังกินระเบิด.

แน่นอนว่าการทำงานแบบนี้ต้องเป็น ‘จิน’.

ตอนที่เธอกำลังเปิดเผยข้อมูลสำคัญ.

เพื่อที่จะหยุดไม่ให้เธอพูดจึงต้องลงมือฆ่าเธอ.

จากนั้นบ่อเลือดที่พื้นดินก็มีร่างของมนุษย์ปรากฎขึ้น.

เงา.

ดูเหมือนว่าเขากำลังสูบบุหรี่ เขามองต่ำไปที่ศพของปาร์คฮยอนและพูด.

“อีกระหรี่โง่ ไม่เคยทำอะไรสักอย่างให้ราบรื่นได้เลยใช่มั๊ย.”

“แกคือคนที่ถูกเรียกว่าจิน?”

ชายตรงหน้าที่กำลังสวมหน้ากากสีดำ

มีออร่าสีแดงแปลกๆอยู่รอบร่างกายของเขา.

ไม่มีอะไรนอกจากสีดำ และเขาก็เหมือนเงา.

“คุณน่าทึ่งมากกว่าที่คิด คุณมีพลังมากกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้.”

“อย่ามาไร้สาระตอบมา แกคือจิน?”

“ใช่.”

“งั้นก็ฟังฉันนะ ฉันไม่ต้องการรู้ว่าใครที่แกกำลังรายงานเรื่องของฉันหรือสิ่งที่เขาวางแผนที่จะทำ และฉันก็ไม่สนใจว่าแกกำลังพยายามทำอะไรอยู่ แต่รู้ไว้อย่าง ถ้าพวกแกมาขวางทางฉันไม่มีอะไรนอกจากจะตายเป็นหมาข้างถนน เข้าใจ๊?”

“หึ ตลก.”

“แกคิดว่าฉันกำลังล้อเล่น?”

ดาบมากกมายถุ่งออกไป

มันเจาะเข้าไปในร่างของเขาทั้งหมด.

แต่เขาก็ไม่ได้ตอบสนองหรือเคลื่อนไหวอะไรแม้แต่น้อย.

แบนวอน จินชอนตัดผ่านร่างของเขา.

อย่างไรก็ตามไม่มีเลือดไหลแม้แต่หยดเดียว

เกือบทั้งหมดมันผ่านร่ายกายเขาไปเหมือนกับควัน.

หลังจากการโจมตีนับไม่ถ้วนเสียงหัวเราะของเขาก็สะท้อนไปทั่ว.

“คุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า.”

ด้วยเสียงหัวเราะของเขาทำให้ผมหันหัวกลับไป.

เขาแยกร่างมากกว่าร้อยและอยู่ไปทั่วสายตาของผม.

ทั้งดาบเจาะและกราวิตี้เลเซอร์ไม่สามารถจัดการเขาได้

เขาไม่ได้อยู่ในหมู่ที่คุณจะจัดเขาไว้ในกลุ่มของขยะ.

การโจมตีทำลายโล่ของผมทั้งสามที่เลเวล100ได้ด้วยการโจมตีครั้งเดียว.

แม้ว่าจะทำลายมันหมดแล้วมันจะทำร้ายผมได้อีกด้วย.

ผมรู้ว่าเขาใช้การลอบสังหาร แต่เขาก็ยังเกินความคิดของผม.

ผมหยุดการใช้สกิลทั้งหมดของผม.

ทันทีเขาก็ปรากฎต่อหน้าผมและพูด

“มานาไม่มีวันหมด ด้วยพลังขนาดนี้ ทำไมไม่ฝันให้ใหญ่กว่านี้”

“ฝันที่ยิ่งใหญ่? แกกำลังบอกให้ฉันครองโลกใช่มั๊ย?”

“ด้วยศักยภาพของนายที่นายทำ…กับพวกเขา มันก็ไม่อาจที่จะบอกว่าเป็นไปไม่ได้.”

“ด้วยความฝันเด็ก แกสามารถทำทั้งหมดได้เพียงแค่ไม่ต้องมายุ่งกับฉันหรือคนรอบข้าง.”

“นั่นคือทั้งหมดที่นายจะพูด.”

“ตอบฉัน.”

“อุฟ. ฉันไม่ชอบแผนการที่ซับซ้อนเหมือนกับคนอย่างปาร์คฮยอนด้วยเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าคุณจะมีประโยชน์มากมาย เราจะได้พบกันอีกครั้ง ไอ้เด็กเหลือขอ.”

“ตอนที่ฉันจะเห็นนายอีกครั้ง คือนายตาย.”

ในตอนที่ผมกำลังอยู่ในระหว่างการร่ายอีกครึ่งนึงของภูเขาน้ำแข็ง แต่จินก็ทิ้งรอยยิ้มแดกดันไว้และหายไปในเงามืด.

ชั้นใต้ดิน ชั้น12.

ท่ามกลางสมรภูมิที่เต็มไปด้วยอาวุธที่ไม่มีเจ้าของและกลิ่นเหม็นของเลือด.

ผมใช้ตาพายุเพื่อรอบรวมของที่เหลือและใช้ไฟช๊อคเผามัน.

ผมไม่สามารถทิ้งหลักฐานได้.

อุปกรณ์ที่เหลือไว้เหล่านี้ แน่นอนว่ามันจะต้องมีราคามากอย่างไม่น่าเชื่อ.

แต่ผมไม่อยากยุ่งกับใครสักคนนึง.

ผมรีบไปที่ลิฟต์.

ผมต้องไปศูนย์บัญชาการกลางเพื่อกำจัดหลักฐานทั้งหมดที่ผมอยู่ที่นี่

แต่ก่อนหน้านั้นผมต้องบางแห่งก่อน

ด้วยคำพูดก่อนตายของเธอ ผมสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของพวกเขา.

พวกเขาทำอะไรได้บ้าง

ลิฟต์ลงไปใต้ดินมี14ชั้น

13 และ 14.มีเวลาในการมองไปรอบๆ.

-ติ้ง. ชั้นใต้ดิน 13.

* * *

“อะไร? ไม่มีอะไรอยู่ที่นี่ ตั้งแต่ที่รู้ว่าเธอกำลังจะตายเธอหลอกฉันทำไม?”

บนชั้น13และ14ไม่มีอะไรอยู่เลย.

ทั้งสองชั้นว่างเปล่าอย่างสมบูรณ์.

สิ่งทั้งหมดที่ผมเห็นคือรากฐานของอาคารและตาข่ายโลหะ.

มันไม่ได้ช่วยอะไรผม แต่รู้สึกว่ามีบางอย่างถูกปิดไว้.

ผมกลับไปที่ลิฟต์และไปยังปุ่มชั้นต่างๆ.

มีปุ่มเล็กๆอยู่ด้านล่างชั้น14.

“ใช่แน่.”

-ติ๊ง ชั้นที่ 15.

“อะไรว… ทำ?”

ชั้นที่ต่ำที่สุดในชั้นใต้ดิน ชั้นที่15.

เมื่อประตูลิฟต์เปิดแล้วมันก็ไม่สามารถที่จะไม่อาจทำให้ผมไม่ประหลาดใจได้.

มีพอร์ทัล.

มันเป็นพอร์ทัลที่เคยระเบิดและจะมีมอนสเตอร์ออกมา.

ตอนนี้มันเป็นพอร์ทัลเลเวล25.

พอร์ทัลปรากฏขึ้นแบบสุ่ม.

มีความเป็นไปได้ที่ว่าพอร์ทัลนี้จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติที่ชั้นใต้ดินของอาคารนี้.

แต่มันก็อาจจะหมายความว่าพวกเขารู้เกี่ยวกับพอร์ทัลนี้และทำสำนักงานใหญ่โนเบลซนี้คลุมไว้.

หลังจากนี้มันอาจจะน่าเหลือเชื่อ.

ผมโฟกัสพอร์ทัลนี้ช่วงเวลาสั้นๆ.

ผมมองไปรอบๆกำแพงด้วย.

มีเครื่องมือที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเชื่อมต่อกับด้านบนสุดของพอร์ทัล.

และที่ผนังก็ดูเหมือนกับมีบางอย่างหลับอยู่ภายในแคปซูล.

มันไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสอง แต่เป็นร้อยๆ.

แคปซูลทั้งหมดเชื่อมต่อกับเครื่องที่อยู่บนพอร์ทัล.

อาจจะเป็นไปได้ว่าเครื่องเครื่องอาจจะดึงข้อมูลบางอย่างจากคนเหล่านี้ไปยังพอร์ทัล.

หรืออาจจะเป็นไปได้ว่ามีสารสกัดบางอย่างจากพอร์ทัลฉีดเข้าไปในคนเหล่านี้ทั้งหมด.

“นี่มันห่าอะไรวะ?”

หลังจากคิดสั้นๆผมได้ตรวจสอบเวลาบนโทรศัพท์ที่เริ่มทำงานอีกครั้ง.

ใน2ชั่วโมงที่ผ่านมากมีสายที่ไม่ได้รับจากจุงโฮ

มันต้องขึ้นมาบนชั้น 12 ที่ซึ่งสัญญาณทั้งหมดถูกบล๊อค.

ผมไม่สามารถใช้เวลาที่นี่ได้อีกต่อไป

ผมได้ถ่ายชั้น 15 ด้วยโทรศัทพ์ของผม.

ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังทำอะไรบางอย่างที่เป็นอันตรายอย่างไม่น่าเชื่อ

ผมมุ่งหน้าไปยังศูนย์บัญชาการกลางหลังจากนั้น.

ภาพของกล้องวงจรปิดถูกเก็บเอาไว้ทั้งหมดที่นี่

ถ้าผมทำลานที่นี่ก็ไม่มีอะไรที่สามารถบัญทึกไว้ได้.

เนื่องจากมันเป็นสถานที่ที่ไม่ได้สร้างมาเพื่อรับผลกระทบ ผมจึงใช้สกิลไลนิ่งสเปรย์ที่อ่อนแอที่สุดของผม.

หลังจากนั้นก็มีไฟกระพริบและเสียงเรียกเข้าโทรศัทพ์ดังขึ้น.

จุงโฮโทรเข้ามา.

“ครับฮยอง”

“นี่! ทำไมนายไม่รับ!”

“ผมอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ผมคิดว่ามันไม่มีสัญญาณ.”

“นายเป็นไงมั่ง? นายอยู่ไหนตอนนี้?”

“ผมกำลังจะออก คุณอยู่ที่ไหน?แลัวแม่?”

“เรายังเถียงกันอยู่ ไม่ว่าใครจะเข้ามามันก็ปลอดภัย ฉันยังโทรหานาย แต่นายไม่ได้รับ ฉันคิดว่าฉันกำลังจะตายจากความกังวล อย่าจริงจักเกินไปนัก.”

“นั่นเยี่ยมไปเลย ผมสบายดี ผมกำลังจะเสร็จและออกไป.”

“เอาหล่ะ นายไม่เป็นอะไรใช่มั๊ย? หลังจากที่ออกมาแล้วโทรหาฉัน สัญญานะว่าจะทำ.”

“ใช่ ผมเข้าใจแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง.”

* * *

ผมไปด้านหลังของอาคาร.

ทางออกทั้งหมดถูกปิดไว้.

ผมใช้พลังของผมสร้างทางออก ผมสองไปด้วยความสงสัย

อาคารที่อยู่ใกล้ๆนี่ห่างออกไป 30-40 กิโลเมตร

ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าจากกระเป๋าเซลโล่และเอาแบนวอน จินชอนใส่ไว้.

หลังจากนั้นผมก็กระโดดข้ามไปยังอาคารอื่น

ด้วยความแข็งแกร่งที่ผมมี ระยะทางเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหา

ผมเดินผ่านอาคารอื่นๆไปยังชั้นล่าง.

มันจับแลัว มันเป็นจริงมากว่าที่คิดไว้?

จิน ‘ตอนนี้’ มันไม่สามารถที่จะผ่อนคลายได้จริงๆ

ไม่ การโจมตีของผมต้องหนักกว่านี้

แต่จากสิ่งที่เขาพูด ดูเหมือนว่าจะมีคนที่สูงกว่าเขาที่เขาต้องรายงาน

ทรงพลังยิ่งกว่าเขา

ผมตัดสินใจที่จะเลิกคิดรายละเอียดที่ซับซ้อน.

ผมโบกแท๊กซี่อย่างไว.

จากทางหน้าต่าง, ผมเห็นว่ามีเครื่องจักรที่กำลังพยายามเปิดประตูเข้าไปข้างในตึกโนเบลซ

“คนขับ พาผมไปที่สำนักงานใหญ่ของสมาคม มาโปกุ.”

“ครับ ไปสำนักงานใหญ่”

* * *

ทันทีที่มินชอยออกจากอาคารกิลด์โนเบลซ…

จินปรากฎอย่างรวดเร็ว.

มันเป็นการทำลายห้องโปรเจ็คที่อยู่ใต้ดิน.

มันเป็นสถานการณ์ที่ตัวตนของเขาได้รับการเปิดเผย

เขาได้กำจัดร่องรอยของมินชอยอย่างสมบูรณ์ รอยนิ้วมือที่วิทยุตลอดจนรอยเท้าที่เปื้อนเลือด.

หลังจากที่จัดการเสร็จเขาก็มาที่ฐาน.

“จิน สถานการณ์?”

“กิลด์โนเบลซถูกทำลาย รวมทั้งปาร์คฮยอน.”

“สุดท้ายอีโง่นี่ก็ทำมันจนได้ โครงการ?”

“นอกเหนือจากพอร์ทัลของมันแล้ว หลักฐานทั้งหมดถูกลบทิ้ง”

“พวกเขาทั้งหมดคนจะเลิกกังวลกับโนเบลซและปาร์คฮยอน.”

“นั่นถูกต้อง.”

“ไม่ต้องพูดมาก เอาแค่เนื้อๆก็พอ คุณแน่ใจว่ามันเป็นเพราะเขาทำมันคนเดียวทั่งหมด?”

“ใช่ ผมมั่นใจว่าเขามีมานาไม่จำกัด สามารถใช้เวทย์ทุกอาชีพได้ทั้งหมด.”

“การคาดเดาของเราถูกต้อง ความสามารถของเขาในการสู้รบคืออะไร?”

“อย่างที่คุณเห็นเขามีพลังมากพอที่จะฆ่าคนในกิลด์ทั้งหมดทั้ง500คน แต่เนื่องจากเขาไม่สามารถทำร้ายผมได้ เขาจึงเป็นมือใหม่ในด้านความเข้าใจและการควบคุมสกิล”

“ฉันรู้ จิน โปรดดูแลเรื่องนี้ ฉันไม่สามารถที่จะพึ่งพาชาวนาโง่ๆที่ไม่ได้เรื่องอีกต่อไป.”

“เข้าใจแล้ว ต่อไปนี้ผมจะเริ่มจับตาดูเขา.”

“เพื่อแผนการของเขา เขาเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้.”

“ครับ.”

จินออกจากห้องประชุม

เบื้องหลังผ้าม่านมีชายคนนึงที่กำลังทำมือประสานกันและพูดกับตัวเอง

“เพราะงั้นฉันเลยต้องยกลูกเสือ…อุฟฟ นี่น่าสนใจมาก.”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset