I Never Run Out Of Mana – ตอนที่ 47. The Firing from the Readied Marksman Begins (2)

47. The Firing from the Readied Marksman Begins (2)
หลังจากที่ได้รู้ความสามารถของผมแล้วจุนโฮก็ไม่ได้หยุดไม่ให้ผมเข้าไปที่ชั้น23.
เขากระตือรือล้นที่จะบอกให้ผมรู้เกี่ยวกับดันเจี้ยนนั้น.
มันเป็นเพราะว่าผมสามารถใช้ดางตกและภูเขาน้ำแข็งได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว.
หลังจากใช้ชิ้นส่วนของเซ็ตลูว์เวอร์ผมไม่รู้สึกลำบากแม้แต่น้อยกับดันเจี้ยนระดับสูง เลเวล 5
ดันเจี้ยนเลเวล 23 มีมอนเตอร์เป็นจำนวนมาก.
และมันยิ่งดีขึ้นเมื่อมันดรอปแก่นแท้หลังจากที่มันตาย
การดูดซึมแก่นแท้ด้วยเซ็ตลูวเวอร์มันก็เหมือนกับอะไรก็ตามไม่อาจผ่านพ้นมันได้….ผมหมายถึงโล่.
นั่นหมายความว่าผมสามารถใช้มือทั้งสองข้างโจมตีด้วยสกิลได้
นั่นหมายความว่าผมต้องใช้แก่นแท้ในครั้งแรกหรือครั้งที่สอง ผมไม่จำเป็นต้องใช้โล่.
ต้องขอบคุณโล่นี้มันทำให้สัตย์สาบานเกิดประโยชน์มากขึ้น.
การทดสอบโล่นี้ปรากฎว่ามันแข็งแกร่งกว่าโล่อื่นๆหลายอย่าง.
บางมันอาจจะพอป้องกันการโจมตีของจินได้อย่างง่ายๆ?
ในการล่าผมได้ใช้โล่ของเซ็ตลูวเวอร์
หลังจากการล่าหรือเวลาที่ผมนอนผมก็ใช้โล่มานาเพื่อการป้องกันที่สมบูรณ์แบบ.
ที่ดันเจี้ยนเลเวล 23 ‘ไม่เท้าลิซคิง’ ดรอปลงมา.
มันเป็นอาวุธที่ผมเคยใช้มาก่อน
เยี่ยม ผมสามารถใช้มันเพื่อหลอกคนอื่นได้
มันเป็นอาวุธที่่เพิ่มมานา มันเลยไม่มีประโยชน์สำหรับผม
แค่ที่ผมสนใจคือ ‘เกราะลิซคิง’.
มันเป็นชื่อที่แสดงให้เห็นว่า หัว(เฮมเมต) กับ ลำตัว(อาร์เมอร์) แยกกับ
นักเวทย์ ยูนจุงซัน ก็ใส่เกราะเหล่านี้ด้วย
มันไม่ได้เพิ่มความแข็งแกร่งหรือความชำนาญเหมือนปกติ.
อย่างไรก็ตามมีเหตุผลที่ชิ้นส่วนนี้มีความนิยมอย่างมาก.
เพราะว่าเกราะและหมวก สามารถรับความเสียหายทางกายและเวทย์ได้ถึง 20%.
คุณสามารถบอกได้ว่ามันเป็นเพราะทำมาเพื่อการต่อสู้.
รองเท้าไททันที่ต่อต้านดีบักและเกราะลิงคิงที่ป้องกันความเสียหายกายและเวทย์ ผมสามารถใช้มันในการสู้รบได้เต็มความสามารถ
การล่าและการต่อสู้ มันเป็นทางเลือกที่จะจับกระต่ายทั้งคู่.
[TL:หมายความว่า มันก็เหมือนกับเค้กที่มีให่กินมากมาย] 1
แน่นอนว่ามันจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อบอสลับลิซคิงออกมาบ่อยๆ
จากนั้นมันก็ไม่ใช่ความฝันที่ห่างไกลในการที่จะได้รับเกราะลิซคิง.
ผมจะทำให้มันเป็นไปได้เหมือนกับที่ผมเคยทำมาจนถึงตอนนี้.
* * **
ส่วนที่เลวร้ายที่สุดของดันเจี้ยนเลเวล 23 คือ กลิ่นเหม็นที่โล่ของผมไม่สามารถปิดกั้นมันได้.
มีกูลหลายร้อยตัวปรากฎในดันเจี้ยน
เมื่อพูดคำว่ากูลสิ่งแรกที่น่าจะเป็นคือซอมบี้ที่ตายก่อนที่จะเป็นไอ้ตัวนี้ถูกไม๊.
ไม่ตายก็อยู่
กูลเป็นแบบนั้น
ผิวหนังที่หลุดร่อนออกมาเพียงแค่เคลื่อนไหว
ร่างกายที่ไม่สามารถรักษาและเน่าเปื่อย
ไม่มีอะไรแตกต่างจากซากศพที่มีชีวิต
กูลที่มีลักษณะต่างกันปรากฎขึ้นที่นี่.
จำนวนความหลากหลายของมอนเตอร์ที่กำลังเข้ามาใกล้เริ่มมีมากขึ้น.
พวกมันอาจจะถูกแบ่งเป็นสามประเภทหลักๆ.
ตัวที่พุ่งเข้ามาใส่อย่างรวดเร็วและโจมตีด้วยเล็บและฟัน.
ตัวที่ใช้ทั้งคำสาปและเวทย์.
และตัวสุดท้ายเป็นการโจมตีระยะไกลด้วยการยิงกรดหรือสาดใส่เข้ามา.
อย่างไรก็ตามการโจมตีของมันก็ไม่สามารถทำให้ผมตกอยู่ในอันตรายได้.
นั่นเป็นเพราะการโจทตีของมันขึ้นอยู่กับพิษ.
การถูกพิษมันอยู่ในหมวดดีบัฟ
ตั้งแต่ผมใส่รองเท้าไททันการโจมตีหลักของพวกมันก็ไม่ได้เกิดผลกระทบกับผม.
สิ่งเดียวที่เหลือจากการโจมตีของพวกมันคือการโจมตีกายภาพและเวทย์มนต์
อย่างไรก็ตามคนที่มีโล่ไม่มีที่สิ้นสุดแบบผม มันก็ไม่อาจจะทำอะไรได้
พวกมันทั้งหมดเป็นตุ๊กตาไขลาน
มันเหมือนกับถูกลงโทษในนรก
คิดถึงมัน อย่างลานน้ำแข็งที่ลื่นและเย็นพร้อมกับเสียงคล้ายโลหะที่กำลังไถลตามพื้น
เพื่อจัดการพวกมันทั้งหมดผมได้รวมมันไว้ในที่เดียวกว่า 300 ตัว
วิ่งไปยังสุดท้ายของดันเจี้ยนและจัดการพวกเขาทั้งหมดที่มาเห็นผม มันเหมือนกับฉากหนังซอมบี้
“อัค!”
“ฮึ. น่าสะอิดสะเอียน.”
‘กูลที่มีแต่สัญชาติญาณในการฆ่า แต่พวกมันก็เป็นดั้งอาหารเมื่อผมล่าและเพิ่มกำไรให้ผม.’
ดาวตกเลเวล 50 ตกใส่พวกมัน.
ขณะที่เลเวลสกิลเพิ่มขึ้นขนาดและความเร็วของมันมองเห็นได้อย่างง่ายดาย
แต่ผมก็ไม่สามารถจัดการพวกมันทั้งหมดได้ในครั้งเดียว
พวกมันเป็นมอนเตอร์เลเวล 23 จะตายง่ายขนาดนั้นเลย?
เมเทโอจัดการพวกมันเป็นชิ้นๆ อย่างไรก็ตามมันก็ยังมีชีวิตอยู่แม้ว่าจะเหลือไม่กี่ชิ้น.
ส่วนใหญ่จะตายจากไปเมื่อเวลาผ่านไป
ตัวที่รอบรอบนอกก็เริ่มเข้ามาโจมตีอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม.
กว่าครึ่งของกูลที่ประดังการโจมตีเข้ามาหาผมถูกตัดด้วยโล่สะท้อน
โล่สะท้อนที่มีเลเวลกว่า150ขึ้นไปจะมีโอกาศ 40% ที่จะสะท้อนความเสียหาย 65%.
ในเวลานี้มันสามารถบอกได้ว่ากูลสร้างความเสียหายอย่างมากผิดกับความทนทานของพวกมัน
หลังจากโดนสะท้อนความเสียไปถึง 65% มันก็กลายเป็นควันสีแดงและหายไป
ผมยินดีที่จะได้ประสบการณ์มากขึ้น
เสียงสีแดงจากหินเลือดยิ่งทำให้ผมมีความสุขมากขึ้นไปอีก
ความแร็วที่ผมจัดการก็น่าเหลือเชื่อ.
ค่าประสบการณ์ของมันได้น้อยกว่ากริฟฟอน 2 และนากาพิษ… [TL:คนเขียนใช้นกฟินิกซ์แต่ผมยังไม่เห็นมันเลยคิดว่าน่าจะเป็นกริฟฟอน]
แต่เมื่อผมจัดการมันมากขนาดนี้มันก็เหมือนกับแบ่งเค้กเป็นชิ้นเล็กๆ.
* * *
“เฮ้ มินชอย ภาพที่นายเอามาให้ดู ฉันคิดว่าเคยเห็นมันมาก่อน.”
“เครื่องที่ติดอยู่บนพอร์ทัล?”
“ช่าย ดูนี่.”
จุงโอเปิดแฟ้มที่หนาปึ๊กให้ดู
เอกสารที่มีสีเหลืองบ่งบอกได้ว่ามันมีอายุมากกว่า 20 ปี.
ความหวังและทัศนิคติต่อเขาเพิ่มขึ้น
“นี่ นี่มัน!”
เมื่อผมเห็นเครื่องแบบเดียวกันที่อยู่ในกิลด์โนเบลซ ผมชี้ด้วยความตื่อนเต้น
มันมีแบบเดียวกับที่อเวคหลายร้อยคนที่กำลังเชื่อมต่อและถ่ายโอนมานา.
เมื่ออ่านข้อมูลมันก็ได้บอกว่าเป็นการหยุดพอร์ทัลจากการระเบิด.
วัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวคือการควบแน่นเพื่อหยุดยั้งพอร์ทัล
“มันคล้ายกัน….”
“เกี่ยวกับเรื่องนี้ ในข้อความมันอาจจะมีความบังเอิญที่เหมือนกัน อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะใช้เครื่องจักรนี้้เพื่อเร่งความเร็วหรือทำให้พอร์ทัลระเบิดได้?”
จุงโฮชี้ไปที่เป้าหมาย
จินและกลุ่มของเขาคงไม่ทำการวิจัยเพื่อจัดการพอร์ทัล พวกเขาไม่ได้เป็นคนประเภทแบบนั้น.
นอกจากนี้ทำไมพวกเขายังต้องการผมที่มีมานาไม่สิ้นสุด.
ใช้มานาไม่สิ้นสุดเพื่อเร่งการระเบิดของพอร์ทัล
เป้าหมายคือพอร์ทัลเลเวล 28 ซึ่งคล้ายกับที่เจอในภูเขาไฟ.
“โอ้โห?”
“และเห็นได้ชัดว่าหากเกิดการระเบิดของพอร์ทัลซึ่งนำไปสู่การสูญเสีย หลังจากนั้นทุกประเทศไม่ให้ใครยุ่งกับพอร์ทัล.”
“ผมแน่ใจว่าเป็นอย่างนั้น ใช้มานาเพื่อเร่งไปให้พอร์ทัลระเบิด”
“ถูกต้อง พวกเขาต้องทำอย่างนั้นแน่นอน.”
“รัฐบาลหรือสมาคมควรได้รู้เกี่ยวกับชั้นใต้ดินของกิลด์โนเบลซ มันควรจะมีกรณีที่คล้ายๆกันมาก่อน แต่ทำไมถึงไม่มีข่าวเปิดเผยออกมา? แม้ว่านายจะห่อและเก็บมันไว้อย่างดีเพื่อป้องกันหวาดกลัวของมวลชน มันก็ต้องไม่ใช่อะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อน.”
“นายคิดว่ามันจะมีผลไม้งอกออกมาจากต้อนไม้ที่เน่าไม๊? แม้ว่าจะมีผลไม้ แต่ก็อาจจะกินได้โดยไม่มีข้อบกพร่อง นายไม่สามารถไว้ใจสมาคมหรือรัฐบาลได้ในตอนนี้.”
“…..”
“อย่างงี้เราจะเป็นอาชญากรหรือไม่?”
ผมคิดสักพักว่าอาจจะมีรัฐบาลหรือสมาคมที่เกี่ยวข้องกับจินและกลุ่มของเขา.
แต่เนื่องจากสัญญาณรบกวนผมไม่สามารถหาหลักฐานได้ ถ้าผมทำอะไรที่หยาบคายปืนของพวกเขาจะชี้มาที่ผม.
มันจะต้องเป็นการสู้ส่วนตัว
ผมไม่สามารถช่วยได้ แต่มันจะเต็มไปด้วยความขมขื่น,เหงาและยากลำบาก.
“ขอบคุณฮยอง.”
“ฉันเข้าใจแค่ 10% ที่แม่นายกำลังศักษาอยู่ มีสิ่งดีๆมากมายที่ฉันเห็น”
“บอกผมเมื่อคุณรู้อะไรอีกเกี่ยวกับพวกนี้อีก ขอโทษที่ผมต้องพึ่งพาคุณ.”
“นายเห็นไหม? ฉันเหมือนคนโง่ ฉันมักจะพูดแบบนี้ทุกครั้ง แต่ได้โปรดอย่าพูดถึงมันอีก.”
“อุ๊ ฉันเข้าใจแล้ว.”
* * **
ในเขตมาโปกุ เป็นที่ตั้งของสมาคมใหญ่ของอเวคเกาหลีใต้.
มันเป็นการประชุมที่พิเศษ
สถานที่ที่มีสมาชิกกว่า20คน บางคนก็มารายงานเกี่ยวกับกฎของดันเจี้ยนและคนอื่นๆที่มีการเติบโตที่ผิดธรรมชาติ.
มีหลายคนช่วยกันจัดดันเจี้ยนที่เหมาะสมกับพวกเขาโดนใช้ข้อมูลประจำตัว.
หากมีการถอนใบอนุญาตพวกเขาจะต้องเผชิญกับอาชญากรมากมาย.
ส่วนใหญ่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายทางกายหลังจากที่เขาได้เป็นอเวค.
ตรงกลางมีชายแก่อายุ 40 ปี
เขาเป็นประธานและผู้อำนวยการพิเศษของอเวค คิมโฮจิน
เขาตะโกนขณะกระแทกโต๊ะ
“วิธีนี้เป็นไง?”
“คุณถูก.”
“คนที่กลายเป็นอเวคเดือนสิงหาจะเข้าไปในดันเจี้ยนเลเวล 23 ด้วยตัวเองได้อย่างไร?”
“ไม่ว่าคุณจะรวยมากแค่ไหนก็เป็นเรื่องยาก…เราควรทำอย่างไร?”
“คุณคิดว่าไง รายงานทันทีและใช้มตรการโต้ตอบ อะไร! เขายังได้รับโบนัสจากการจัดการหลังจากพอร์ทัลระเบิดซัคคิวบิในเดือนกันยายร? เขาเป็นคนที่เราต้องยืนยัน!”
“เราจะดูแลเรื่องนี้ทันที.”
หัวข้อของสมาคมคือมินชอย.
เพื่อเข้าดันเจี้ยน อเวคต้องแสดงตัวเองด้วยใบอนุญาติของพวกเขาที่เครื่องจักรหน้าดันเจี้ยน.
ทั้งเข้าและออก ข้อมูลทั้งหมดได้รับการบัณทึกและส่งไปยังสมาคม
ระหว่างการระเบิดพอร์ทัลซัลคิวบิและความพยายามที่จะได้รับรางวัลจากสมาคมที่สงสัยในตัวมินชอย.
ดันเจี้ยนเลเวล 18 เข้าใจได้ แต่ เลเวล23…
ความยากลำบากของดันเจี้ยนเกิดกว่าใครสักคนที่เป็นอเวคได้แค่เพียง 100 วัน.
หรือมันอาจจะเป็นข้อผิดพลาดของเครื่องจักรหลังจากที่มีการตรวจสอบซ้ำๆกับดันเจี้ยนใต้ตินเหล่านั้น.
สมาคมได้ข้อสรุปว่ามีใครบางคนกำลังเครียร์ดันเจี้ยนภายใต้บัตรของมินชอย.
“เริ่มการเฝ้าระวังดัวเจ้าของที่ได้รับอนุญาต!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset