I Never Run Out Of Mana – ตอนที่ 60. เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด การระเบิดของพอร์ทัล. (2)

60. เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด การระเบิดของพอร์ทัล. (2)

ต้องขอบคุณเหตุการณ์ระเบิดของพอร์ทัลเลเวล 29 ทั้งสมาคมจึงอยู่ในช่วงโกลาหล

มันต้องใช้เวลาอีกนานก่อนที่ตัวแทนรัฐบาลจะมาถึงที่นี่เช่นกัน.

ก่อนที่ตัวแทนจะมาถึงพวกเขาต้องหาสาเหตุของการระเบิดและวิธีจัดการ

ไฟเริ่มที่จะลนก้น

เนื่องจากประธานสมาคมได้ยกระดับชื่อเสียงของเขามากขึ้นเรื่อยๆ

“มีบางอย่างที่คุณสงสัยไหม? มันคือ?”

“นั่น..คุณเคยได้ยินสิ่งที่เรียกว่า Portal Erasure Test ไหม?”

“นั่นไม่ใช่การทดลองที่ล้มเหลวหรอกหรอ?”

ในวันที่พอร์ทัลปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อ 3 ปีก่อน หลังจากที่อเวคคนแรกปรากฏตัว

ในขณะที่กำลังพยายามจะหาวิธีที่จะกำจัดพอร์ทัลที่ค่อยๆเพิ่มเลเวลขึ้นทุกๆปี นี่มันอาจจะเป็นบททดสอบก็เป็นไปได้

มันมีอเวคจำนวนมากที่รวบรวมมานาและส่งเข้าไปยังพอร์ทัล.

ด้วยมานาที่ควบแน่นของพวกเขา มันอาจจะทำให้พลังของพอร์ทัลเพิ่มขึ้นแทน
(TL:จากที่คิดว่าดันเจี้ยนจะหายไปกลายเป็นว่ามันระเบิดและมีมอนเตอ์ออกมานอกดันเจี้ยนแทนและมันยังแข็งแกร่งกว่าที่อยู่ด้านในดันเจี้ยนอีก)

“ใช่ ขณะที่กำลังพยายามทำลายพอร์ทัล มันก็เป็นการเร่งให้มันระเบิดออกมาแทน การทดสอบนี้จึงล้มเหลว.”

“อะไร เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับสถานการณ์ในปัจจุบันของเรา?”

“นี่คือสิ่งที่ฉันได้ยินจากผู้รอดชีวิตจากการทดลองนั้น เนื่องจากความล้มเหลวของการทดสอบ พอร์ทัลจึงระเบิดและทำให้มอนเตอร์ออกมา จากที่คาดการณ์เอาไว้และมันมีผลกระทบขนาดใหญ่ที่สูงมาก.”

“… งั้นนี่ก็ตรงกับที่ยูนจองซันรายงานมา?”

“ใช่ ถูกต้อง อย่างไรก็ตามหลังจากที่การทดสอบล้มเหลว และได้มีการกำจัดข้อมูลเหล่านี้ออกไปจนหมด ดังนั้นมันจึงไม่มีรายละเอียดอะไรที่เพียงพอจะสันนิษฐานได้ นี่เป็นเพียงการบอกเล่าจากพยานเพียงอย่างเดียว.”

“หืม…”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น หัวหน้าแผนกสมาคม ผู้เป็นประธานได้ลูบคางพร้อมกับการแสดงออกที่จริงจังบนใบหน้า.

ถ้าสิ่งนี้ การระเบิดประสบผลสำเร็จ เนื่องจากมีคนที่มีเจตนาที่มุ่งร้าย สถาการณ์นี้ก็จะอยู่นอกเหนือการควบคุม.

คิดอยู่ชั่วครู่  เขาก็เปิดปากพูดอีกครั้ง

“ทุกท่าน ฟังทางนี้ สิ่งที่หัวหน้าการวิจัยพูด ไม่นับเป็นการพูดอะไรได้ เจ้าหน้าที่รัฐจะมาในไม่ช้า ไม่นานเราจะรู้เรื่องเหล่านี้ได้.”

“….”

ตอนนั้นเองคิมโฮจินจากหน่วยควบคุมพิเศษอเวคก็ได้ลุกขึ้นยืน.

ถึงแม้ว่าคนอื่นๆกำลังยุ่งอยู่กับการนวดคอตัวเองและพยายามที่จะเอาความดีความชอบจากประธานเป็นให้ตัวเอง เขาก็ยืนขึ้น

คิมโฮจินพูดตรงๆ.

“เหตุผลของมันมีสำคัญอะไร? ในสถานการณ์นี้มันเลวร้ายตลอดเวลา.”

ด้วยประโยคเดียวของเขา เขาก็ดึงความสนใจจากผู้คน.

เขาได้ถามคำถามที่เป็นข้อห้ามที่ไม่มีใครอยากถาม.

สังเกตจากท่าทีของประธานที่กำลังโกรธ พวกเขาก็เงียบ

“อ่า หัวหน้าแผนกคิมโฮจิน นี่เป็นคำถามที่ดี.”

“….”

“สมมุติว่าพอร์ทัลถูกระเบิดขึ้นอย่างจงใจ คุณคิดว่าใครอยู่เบื้องหลัง?”

“ดีมันต้องอย่างนั้น…”

“มันไม่เหมือนกับพวกอันพาลทั่วๆไปและรวบรวมมานาของพวกเขาใส่เข้าไปยังพอร์ทัล! สถานการณ์เช่นนี้มันไม่ได้ทำให้เกิดเรื่องที่ใหญ่กว่าที่เคยเป็นและแค่หาข้อแก้ตัวที่เหมาะสม! หากคุณไม่อาจหาข้อแก้ตัวที่เหมาะสมใดๆ เพียงแค่ทำอย่างเดียว! ทุกคนเข้าใจไหม? แค่ปกปิดและพูดออกไปว่าเรามีทีมพิเศษสำหรับการสอบสวนเรื่องนี้!”

“ครับ.”

“ครับ ประธาน.”

หลังจากที่พูดจบ ชอยมันโซก็กระทืบเท้าของเขาเดินออกจากห้อง.

กลุ่มหัวรุนแรง ทุกคนมีความคิดแบบเดียวกัน.

แต่ทุกคนที่อยู่ในกลุ่มหัวรุนแรงเป็นอเวคทุกคน

หากจะโทษ ก็สามารถโทษสมาคมก็ได้ เนื่องจากมันอยู่ในอำนาจของพวกเขา.

นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาพยายามที่จะปกปิดของการระเบิดของพอร์ทัลแบบง่ายๆ.

เพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบที่พวกเขาควรจะเป็นคนทำ

หลังจากที่ประธานเดินออกไป คิมโฮจินก็อดไม่ได้ที่จะโกรธ

“แม่ง…แกก็แค่ชอบเอาความดีเข้าตัวเองเท่านั้น นายคิดเหมือนกันไหม?”

“55 ความเครียดทำให้นายพูดอย่างนี้ มันช่วยไม่ได้นะ”

คนที่เหลืออยู่ในห้องประชุมได้ทำตามคำสั่งและเริ่มอภิปรายเกี่ยวกับวิธีที่พอร์ทัลระเบิด

มันจะพูดให้ถูกต้องที่ว่า พวกเขากำลังสร้างเหตุผลเหมือนที่ผ่านๆมา

พวกเขาเพียงแค่สร้างข้ออ้างขึ้นและก็วนเวียนอยู่กับนักล่าของสมาคมที่พวกเขาถ่ายทอดสด

****

-ครึ่น.

“KWAAAAA!”

การ์กอยล์ที่อยู่ท่างกลางเกลียวคลึ่นที่โถมเข้ามา.

อย่างไรก็ตามเมจการ์กอยล์ที่อยู่ด้านหลังได้หยุดลง

เป็นเพราะพวกมันถูกแช่แข็งจากการโจมตีเวทย์น้ำแข็งของอเวคกว่า 100 คนที่ร่ายออกมา.

ปีกและร่างกายของพวกมันถูกแช่แข็ง แต่ละตัวก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

การโจมตีทางเวทย์นับไม่ถ้วนที่ปล่อยออกมาแม้กระทั่งจากตัวยูนจองซันก็ปล่อยออกมาในเวลานี้

การ์กอยล์ที่ถูกโจมตีได้ใช้การโจมตีกายภาพจนถึงจุดที่แผ่นดินถล่มทลาย

“โอร่าาาา!”

ยูนจองซันผู้ซึ่งมีเวทย์ชิลเพียงคนเดียวก็เริ่มร่านเวทย์ออกมา

และมีลูกแก้วเวทย์อยู่ในมือข้างหนึ่ง ขณะที่อีกข้างถือไม้เท้า

อักขระคาถาของเวทย์ของเขาได้ปรากฏออกมาและพุ่งไปด้านหน้าเพื่อแช่แข็งการ์กอยล์

“KU..KWUA.”

“KWUH!”

ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและกลายมาเป็นสีฟ้าในเวลาสั้นๆ.

มันเหมือนกับพายุฝน มีศรน้ำแข็งนำไม่ถ้วนพรุ่งไปหาพวกมัน

สกิลนี้ถูกเรียกว่า ‘Frozen Shower(โฟรเซ่นชาวเวอร์-อาบแท่งน้ำแข็ง)’.

มีการใช้มานาถึง 2500 หน่วย แต่เขาก็ยังคงร่ายเวทย์ด้วยมืออีกข้าง.

ที่มันเป็นไปได้ เพราะสเตตัสมานาของเขาและเกรียร์ที่เขาถืออยู่ในมือแต่ละข้าง

อาวุธทั้งสองเพิ่มสเตตัสมานาเป็นจำนวนมาก

ร่างกายของพวกมันเริ่มแข็งตัวและไม่อาจเคลื่อนไหวได้ในเวลาต่อมา พวกเขามันทำได้เพียงรับการโจมตีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

มันจำเป็นต้องถูกทุบด้วยค้อนหรือสิ่วเพื่อทำให้ร่างของการ์กอยล์แตกสลาย

เสียงกรีดร้องครั้งสุดท้ายของพวกมันดังจอแจ เนื่องจากมีมอนเตอร์มากมายมารวมกันที่นี่ จนกระทั่งมันเหมือนกับแนวประการังตลอดทั้งทาง

หากเจอมอนเตอร์การ์กอยล์เหล่านี้ได้ในชั้น 29 ตามปกติ อย่างน้อยพวกมันจะทำให้พวกเขาครึ่งนึงตายลง

เนื่องมอนเตอร์ระดับ A+ ต้องถูกร่ายเวทย์ถึงสองครั้ง พวกมันถึงจะตาย

อย่างไรก็ตามพวกมันต้องมีความต้านทานเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1.5 เท่าของปกติ

พวกมันได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่มีเพียงไม่กี่ตัวที่เสียชีวิต

จากการตรวจสอบสภาพของมอนเตอร์ เขาพึมพำกับตัวเอง

“อย่างที่ฉันคิด พวกมันมีความแข็งแกร่งจำนวนมาก พวกมันไม่ใช่แค่มีขนาดใหญ่เพียงเท่านั้น.”

เขาเป็นยูนจองซันที่เคยเครีบร์ดันเจี้ยนเลเวล 29 มานับไม่ถ้วน

ขณะที่พวกเขาไม่หวังว่าต้องทำลายทั้งหมดในคราวเดียวกัน แต่พวกเขาต้องทำให้มันตายให้มากที่สุด.

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้มันดี

หลังจากที่ใช้มานาไปกว่า 5000 แล้วพวกมันก็ยังไม่ได้รับความเสียหายขนาดใหญ่

หลังจากที่เขาโจมตีเสร็จสิ้นแล้ว ฮีลเลอร์ที่อยู่ข้างๆเขาก็พูด

“นายพล การ์กอยล์ส่วนใหญ่ที่มาที่นี่เป็นเพียงแนวหน้า”

“คุณฟื้นฟูได้เท่าไร? สำหรับมานาของผม.”

“แม้ว่าพวกเราจะใช้มานาทั้งหมดของเราออกไปก็ฟื้นฟูมานาได้แค่ 2000 เท่านั้น”

“หืม..พวกเราไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะใช้ชิลด์ได้”

“เราควรทำอย่างไร?”

“ด้วยความเร็วนี้ ขณะที่เราถอยออกไป ที่แห่งนี้จะกลายเป็นแดนรกร้าง.”

“นั่น…”

“เราจะต้องยื้อไว้ก่อน กำลังเสริมจะมาถึงในเร็วๆนี้ พวกเราต้องยื้อไว้เท่านั้น.”

“ครับ ผมเข้าใจแล้ว.”

ยูนจองซันหันหน้าไปหาอเวคที่อยู่ด้านหลังของเขา.

“ดูเหมือนว่าจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก.”

การโจมตีทางด้านเวทย์มนต์ของอเวคมากกว่าร้อยคน

แม้ว่าจะมีการโจมตีจากแรงค์เกอร์อย่างยูนจองซัน พวกมอนเตอร์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะถอยกลับ

จิตวิญญาณต่อสู้ที่เผาไหม้อยู่ในดวงตาของเขา กลายเป็นความกลัวและสิ้นหวัง

“พวกเรา…พวกเรากำลังจะตายแล้วตอนนี้?”

“นี่มันบ้าไปแล้ว ถ้าฉันไม่ได้จับไม้สั้น…ใครจะรู้ว่ามอนเตอร์จากดันเจี้ยนเลเวล 29 จะแข็งแกร่งขนาดนี้.”

พวกเขาแต่ละคนพูดอย่างไม่เชื่อภายในใจ

ดันเจี้ยนเลเวล 29 สามารถเครียร์ได้โดยใช้อเวคไม่กี่คนที่ผ่านมา หรือที่พวกเขารู้จักและเรียกว่า แรงค์เกอร์

พวกเขาไม่อาจรู้ได้เลยว่ามอนเตอร์ที่พวกเขาเจอตอนนี้มีทั้งขนาดและความแข็งแกร่งที่มากยิ่งกว่าปกติของการ์กอยล์ทั่วๆไป.

พวกเขาทำได้เพียงหวาดกลัวเพียงอย่างเดียวกับพลังที่แท้จริงของเหล่ามอนเตอร์

จากการร่ายสกิลประเภท AOE(บริเวณกว้าง) มานาที่พวกอเวคใช้นั้นสูงมาก

แม้ว่าจะเป็นอเวคระดับสูงที่สูงกว่าทุกคนในกิลของเขา มันก็ยังยากที่จะร่ายมันออกมาได้ถึง 4 ครั้ง

ยูนจองซันแบ่งกลุ่มออกมาครึ่งหนึ่ง

เขาพูดกับด้านซ้ายก่อน

“ด้านนี้ ได้โปรดร่ายเวทย์ชิลด์ให้กับผม ใช้เวทย์ที่มีค่าร่ายน้อยที่สุด.”

“รับทราบ.”

“ครับ.”

“ด้านนี้ เมื่อเมจการ์กอยล์เริ่มหลุดจากการแช่แข็ง เราจะโจมตีด้วยเวทย์มนต์อีกครั้ง ใช้ทั้งระยะประชิดและระยะไกล เราต้องฆ่ามันให้ได้มากที่สุด ทุกคนใช้มานาเกือบทั้งหมดร่ายออกไป ได้โปรดรอผมร่ายเวทย์ชิลด์ก่อน.”

“ครับ.”

เพื่อให้แน่ใจว่ามานาจะถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ.

เป้าหมายนี้คือการยื้อเอาไว้จนกว่านักเวทย์จากสมาคมจะมาถึง.

แม้ว่าตอนนี้เขาเริ่มให้คำสั่งกับผู้คน นักเวทย์จำนวนมากก็จะมาช่วย

ผู้ที่ไม่อาจเข้ามาร่วมด้วยได้ เนื่องจากสกิลอย่างวาป ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงโดยยานพาหนะ

ทันทีที่พวกเขาได้รับคำอธิบายเสร็จ กองหน้าการ์กอยล์ก็เริ่มเข้ามาจู่โจม

กรงเล็บของพวกมันฉีกชิลด์ออกได้อย่างง่ายๆ มันเกือบจะเป็นเรื่องน่าหัวเราะที่ชิลด์ถูกฉีกอย่างง่ายดาย

ถ้าเมจการ์กอยล์โจมตีเข้ามาในเวลานี้ด้วย ทั้งยูนจองซันและอเวคทั้งหมดจะถูกกวาดล้างทันที

“อ้ากก…. ไอ้พวกสารเลว.”

“KWUAAAA!”

เพื่อเพิ่มสถานการณ์แห่งหายนะให้มากขึ้น พวกเขาได้ใช้สกิลทั้งหมดของเขาและวิ่งออกไป เพื่อให้สกิลดึงดูดโครวคราวน์ใช้งานได้อย่างเต็มที่

ถ้าการดึงดูดของเขาหมดไป นั่นเท่ากับว่าพวกเขากลายเป็นเศษเนื้อ.

จากการเหลือมานาอีกครึ่งจาก2000 เขาจึงร่ายเวทย์ดึงดูดอีกครั้ง

ฮีลเลอร์ทั้งสองคนี่อยู่ข้างๆเขากำลังวุ่นอยู่กับการถ่ายโอนมานาทั้งหมดที่พวกเขามี เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เอนเอียงมาฝั่งพวกเขา.

หลังจากที่มันผ่านไปประมาณ 10 นาที

จำนวนอเวคที่ด้านขวา ได้ทำลายเมจการ์กอยล์ลดลงเป็นจำนวนมากในเวลานี้

นั่นหมายความว่ามานาใหญ่ของพวกเขาถูกนำไปใช้ในจุดๆนี้

ในระดับนี้ การโจมตีระยะไกลในระยะยาวก็ไม่ได้ผลดีเสมอไป

ร่างกายของยูนจองซันเต็มไปด้วยเลือด.

ถ้าเขายังสามารถร่ายเวทย์ชิลด์ของเขาได้ เขาจะไม่ได้รับความเสียหายมากนัก

อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีมานาเหลืออยู่ เขาจึงสามารถโจมตีต่อไปได้

ลมหายใจเริ่มติดขัด

เขาไม่มีมานาเหลืออยู่แล้วในตอนนี้.

“ฮู่~… ฟู่~…..”

“นายพล! คุณควรจะหนีไปตอนนี้…”

“ผมสบายดี พวกคุณกำลังทำอะไร? เรายังมีมานาเพียงพอ ใช่ไหม?”

เพื่อเพิ่มขวัญและกำลังใจ เขาตะโกนและทำให้อเวคตอบสนองเพื่อให้พวกเขาร่ายเวทย์ของเขาต่อไป

มันเกิดขึ้นในแว่บเดียว! การ์กอยล์ที่ถูกแช่ก็กลายเป็นชิ้นๆ

“KWUAAAA!”

และจากนั้น….

ในท้องฟ้าที่มืดครึ้มของสุดกองกำลังมอนเตอร์ มีเสียงเพียงเสียงเดียวดังออกมาอย่างยินดี.

“โอ้เด็กน้อย ไอ้พวกลูกเจี๊ยบอย่างนี้นี่นะที่จะมาแบกภาระ.”

“ตาเฒ่านี่ยังแข็งแรงอยู่อีก.”

“นายพล!”

“หู่~…. ฟู่~, แกมาสาย?”

ในที่สุดสมาชิคทั้ง 40 คนจากสมาคมที่เป็นกำลังเสริมก็มาถึง.

ราวกับมันเป็นลมหายใจเฮือกสุดท้าย เขาถอนหายใจและยินดีต้อนรับพวกเขา

จากอเวคทั้ง 40 คนมีเพียง สามคนที่เป็นผู้นำ.

พวกเขาเป็นนักเวทย์แรงค์เกอร์ที่อยู่ถัดจากยูนจองซัน.

“ปล่อยให้ชายชราคนนี้ดึงดูดต่อไปเอง คุณมีสถานที่ที่เหมาะสมที่คุณจะใช้มันหลังความตายไหม?”

“อ่า….5555!”

คนที่พูดตลกไร้สาระที่อยู่ข้างๆยูนจองซันเป็นชายวัย 40 ปี.

ยูนจองซันที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดก็ยังคงหัวเราะด้วยความอารมณ์ดี

เมื่อมองคนที่มาใหม่ที่มีฮีลเลอร์ตามมาด้วย

มันเป็นเหมือนคำสั่งเงียบๆที่ให้คนที่บาดเจ็บออกจากสนามรบ

ฮีลเลอร์ทั้งสองก็พยักหน้าและขณะที่คอยช่วยประคองยูนจองซันก็เริ่มที่จะถอยกลับ

“ย่ามาด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับการดูแลที่เหมาะสม.”

“ซังโฮ ฉันนับถือแกเลย.”

พร้อมกับการพยักหน้า เขาก็ร่ายเวทย์ดึงดูดเหมือนกับที่ยูนจองซันร่ายมาก่อนหน้านี้

ในเวลาเดียวกันฮีลเลอร์ทั้งสองที่อยู่ข้างๆเขาก็ทำแบบเดียวกัน

“เมจการ์กอยล์.”

“ฉันจะดูแลพวกแกเอง.”

“ดี.”

“งั้นคุณเฮวอนอา คุณและผมจะดูแลพวกมันเอง.”

“ครับ เข้าใจแล้ว.”

“งั้นเราจะเริ่มได้หรือยัง?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset