I Never Run Out Of Mana – ตอนที่ 66. โจ๊กเกอร์

66. โจ๊กเกอร์

“ผมต้องการดาบพวกนั้นอีกครั้ง”

เมื่อได้ยินคำพูดของผม จุงโฮยังคงนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง

ผมไม่ได้ยินแม่แต่เสียงลมหายใจทางโทรศัพท์

“ห๊ะ! วางสายไปแล้วหรอ? ฮัลโหล?”

“มันเริ่มแล้วหรอ?”

เสียงของเขาหนักหน่วงกว่าทุกครั้ง เขาปฏิเสธที่จะคืนแรร์ไอเทมที่ผมฝากเขาไว้.

มันราวกับว่าผมกำลังพูดคุยกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันเลย.

“หึ้ม…ผมพูดงั้นหรอ?”

“นายจะต้องไม่ตามหาพวกเขา หากนายไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนและนายยังไม่พร้อมที่จะเผชิญ”

“ใช่ เขาปรากฏตัวออกมาด้วยตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่อาจจัดการผมได้ ผมเลยต้องทำให้มันจบ”

“แกมีแผนไหม?”

“แน่นอน ผมมีแผนที่แม้กระทั่งขงเบ้งก็ยังต้องตกใจ”

“อุฟฟ มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะถาม แผนของนายมันคงไม่มีอะไรไปมากกว่าแผน”เข้าไปและฆ่าให้เหี้ยน”หรืออะไรทำนองนั้น? มีอะไรที่ฉันช่วยได้ไหม?”

“ถูกต้อง! คุณรู้ดีจริงๆ แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณพูดผิดไปผมจะ”ฆ่าทุกคนที่เข้ามาหาผม”หรือมากกว่านั้น? ขอบคุณสำหรับคำสาบานที่จะปกป้องแม่ผมให้ปลอดภัย มันยากที่จะให้คุณไปรับมือพวกเขาผมพูดจริงๆ”

“แกนี่ไม่เป็นงานเป็นการเลยจริงๆ มาเล่นตลกอะไรในเวลานี้ เห้อ…”

“แล้วฮยองหล่ะ? คุณพูดหยาบคายมาก! พยายามผลักไล่ไสส่ง ผมเดาว่าผมคงไม่ต้องกังวลเรื่องงานศพหากผมตาย”

“หยุดเลย! อย่าพูดอะไรเป็นลางแบบนั้น! ฉันจะไปเจอนายทีหลัง ฉันจะเอาดาบไปด้วย”

“ได้ เข้าใจแล้ว”

ผมแกล้งทำเป็นว่าผมไม่กังวลต่อหน้าจุงโฮ แต่ในความเป็นจริงแล้วผมกังวลเล็กน้อย

หนึ่งในสามผู้นำกลุ่มหัวรุนแรง -โจ๊กเกอร์.

ผมได้ต่อสู้กับคนทั้งกิลด์โนเบลสและจิน.

เห็นได้ชัดว่าเขาแข็งแกร่งกว่ามากอย่างไม่อาจเทียบได้กับสิ่งที่ผมเคยเผชิญมาก่อน

ในกรณีนี้ผมต้องพยายามอย่างมากในหลายๆด้านและเติบโตอย่างแข็งแกร่งเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตามผมไม่รู้ว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหนจนกระทั่งผมได้ต่อสู้กับเขา.

ถ้านั่นจะพูดว่ามันเป็นข่าวดี มันก็มีเพียงอย่างเดียวคือ มีคนรู้เรื่องของผมคนเดียว นั่นก็คือโจ๊กเกอร์

ไม่แน่ใจว่าอะไรทำให้เขาต้องมาหาผมอย่างเร่งรีบ

ถ้าผมจัดการเขาได้ผมคงไม่ต้องกังวลไปสักระยะหนึ่ง

****

วันต่อมาผมได้รับโทรศัพท์จากคิมโฮจิน

พร้อมกับสัญญาว่าจะเป็นพันธมิตรแล้วมันก็ทำให้ผมพอใจมาก

เนื่องจากเขาอยู่ในสมาคมมากว่า 20 ปี ผมมั่นใจว่าเขาต้องมีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย

หลังจากที่พบกับเขา ผมก็ใช้-สเตล-และมุ่งหน้าไปยังดันเจี้ยนเลเวล 13

แน่นอนว่าต้องใช้ ID ปลอม(ตอนก่อนๆจำได้ว่าเป็นบัตรประจำตัวนะครับตั้งแต่นี้จะเปลี่ยนเป็นให้ทันสมัยเรื่อยๆ เนื่องจากมีคนทักมา)

“วู้วว ในที่สุดก็หลบพวกสอดรู้สอดเห็นได้สักที”

“เดาว่านายต้องอารมณ์เสียมากแน่ๆ”

“ใช่ ผมคิดว่าผมต้องกลั้นใจอีกสักพัก นี่คือสิ่งที่คุณต้องการจากผมก่อนหน้านี้”

โฮจินนำ ID ออกมา

เขาออกจากสมาคมแล้ว แต่ด้วยการใช้เส้นสายของเขาที่เขามีอยู่ เขาก็สามารถได้รับมันมาได้ไม่ยากเย็นจากเซจิน

ID นี้ดูเหมือนกับ ID ปกติ แต่มันจะไม่ส่งข้อมูลไปยังเครือข่ายของสมาคมแม้ว่าจะแสกนลงบนเครื่องแสกนหน้าดันเจี้ยน.

มันไม่จำเป็นต้องใช้ลายนิ้วมือ ดังนั้นคุณสามารถบอกได้เลยว่ามันเป็นเหมือนกับมาสเตอร์คีย์หรือคีย์สาธารณะ

“ด้วยสิ่งนี้ นายจะสามารถเข้าไปในดันเจี้ยนไหนก็ได้ตามที่นายต้องการโดยไม่มีร่องรอยใดๆ อย่างแน่นอน”

“ขอบคุณ”

“มันถูกสร้างมาเพื่อทดสอบเครื่องแสกนเมื่อมันเกิดบกพร่องและมีคนที่มีพวกมันอยู่เพียงไม่กี่คน นี่อาจจะทำให้เกิดปัญหากับเซจินเพราะว่าเขาต้องทำงานตรวจสอบพวกนี้เป็นประจำ ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นเมื่อไหร่รีบกลับมาหาพวกเราทันทีเพื่อที่จะได้ตรวจสอบมัน”

“ไม่ต้องห่วง ผมจะทำตามที่คุณพูด”

“งั้นก็รับไปซะ”

“อืม….หลักฐานของการเป็นพันธมิตรของเราก็คือผมจะเข้าร่วมด้วยเพียงสองวันนี้นับจากนี้ ผมไม่คิดว่าผมต้องการมันตอนนี้หรืออาจเป็นไปได้ว่าผมไม่ต้องการมันเลย”

“นายหมายความว่าอะไร?”

เมื่อตัดสินแล้วว่าร่วมมือกัน

มันก็ไม่มีเหตุผลที่ผมจะซ่อนมันจากเขา

มีคนพูดว่า สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว

ผมพูดต่อ

“ผมจะไปเจอกับฝ่ายหัวรุนแรง แน่นอนว่าต้องไปต่อสู้กับเขา”

“ห๊ะ….”

“คุณก็รู้ แต่มีผู้นำย่อย 3 คนอยู่ภายใต้หัวหน้าฝ่ายหัวรุนแรง”

“……”

“นอกจากนั้นพวกเขา มีคนชื่อว่าโจ๊กเกอร์ที่กำลังระดมพลมาโจมตีผม เขาต้องการความสามารถของผม”

“ความสามารถ?”

“ใช่ ผมจะบอกคุณทีหลังหลังจากนี้”

“ฉันรู้จักโจ๊กเกอร์ด้วยเหมือนกัน ย้อนกลับไปที่อีจินฮานเป็นประธานสมาคม งานหลักของฉันคือการตรวจสอบคนที่ชื่อโจ๊กเกอร์ว่าเกี่ยวข้องกับพวกหัวรุนแรงไหม?”

ก่อนหน้านี้ผมรับข้อความว่าสมาคมกำลังรับซื้อโซลสโตนของแมนติคอร์ที่ดรอปจากดันเจี้ยนเลเวล 12

ในข้อความมีคนชื่ออีจินฮานอยู่บนนั้น

มันห่างเพียงไม่กี่เดือนมานี้เอง แต่ผมเดาว่าหัวหน้าสมาคมคนใหม่ได้เข้ามาแทนเขา

“โจ๊กเกอร์,โกสต์และดาร์กเลดี้ มีเพียงไม่กี่คนในสมาคมและรัฐบาลรู้ถึงการคงอยู่ของพวกเขา ประธานคนก่อนที่ผมพูดถึงกำลังวางแผนที่จะโจมตีพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะโจมตีพวกเราก่อน อย่างไรก็ตามก่อนที่แผนของเขาจะดำเนินการต่อไปได้ เขาก็หายตัวไปและเอาขยะอย่างชอยมันฮโยเข้ามรับตำแหน่ง

“ใช่ ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน เมื่อเห็นว่ามีบุคลากลของพวกเราหลายคนพยายามจัดการ พวกเขาก็หายตัวไป ฉันไม่อาจเดาได้ว่ามีคนจากพวกหัวรุนแรงมากมายแค่ไหนที่ซ่อนอยู่ในนี้”

“ผมรู้ คุณเล่าเรื่องโจ๊กเกอร์เพิ่มเติมได้ไหม?”

จากนั้นคิมโฮจินก็พูดข้อมูลที่เขารู้ให้ผมฟัง

นอกจากผู้นำย่อยทั้ง 3 เขามีความสามารถในการต่อสู้มากที่สุดพร้อมกับ คลาส เพรชฆาต(executioner)

อย่างไรก็ตามข้อมูลที่เขาบอกหลังจากนั้นดูเหมือนจะเป็นประโยชน์เกี่ยวกับการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น

“โจ๊กเกอร์เป็นบุคคลที่มุ่งเน้นไปที่การโจมตีเพียวๆของเขา มันแสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีความสามารถในการป้องกันตัว”

“คุณหมายถึง?”

“จากข้อมูลที่ฉันได้รวบรวมมาในตอนนั้น ฉันสามารถบอกได้เลยว่าถ้าผู้นำย่อยทั้งสามต่อสู้กันใครจะชนะ”

“ความแข็งแกร่งคืออำนาจทางการเมือง ดูเหมือนว่าสิ่งที่พวกเขาทำจะเป็นแบบนั้น”

“ถูกต้อง และนี่เป็นการตัดสินใจจากมุมมองของฉัน ดังนั้นฉันจึงไม่มีอะไรจะพูดเพิ่มอีก ไม่มีข้อมูลเกี่ยว โกสต์ เขาเป็น ผีจริงๆ ไม่มีแม้แต่ความสามารถของเขา… นั่นเลยเหลือเพียงดาร์กเลดี้และโจ๊กเกอร์”

“…..”

“ดาร์กเลดี้ เหมือนกับผู้นำย่อยคนอื่นๆ เธอมีคลาสรองด้วย เป็นทั้งแทงก์( Tanker)และพ่วงด้วยคลาสแอสซาซิน(assassin)

“สุดยอดป้องกันและสุดยอดโจมตี กลบจุดอ่อนกันและกัน”

“อย่างไรก็ตาม ไม่เหมือนกับดาร์กเลดี้ที่โจมตีมากมายแต่การโจมตีก็ยังไม่มากพอ โจ๊กเกอร์ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ แม้ว่าดาร์กเลดี้จะไม่ใช้สกิลป้องกันและใช้สกิลโจมตีเพียวๆ แต่เธอก็ไม่อาจสร้างความเสียหายโจ๊กเกอร์ได้นั่นก็เพราะเขาใช้ สกิล -ดอจออร่า(Dodge Aura)- จากคลาสเพรชฆาตของเขา เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มให้ความสนใจที่จะใช้สกิลป้องกัน ความสามารถการโจมตีโดดนางเธอก็ลดลง แต่เธอก็ยังคงสู้กลับอย่างต่อเนื่อง มันเป็นการฟื้นฟูจากความเสียหายที่เธอได้รับเช่นกัน”

ฟังคำอธิบายของเขา ผมก็เริ่มค้นหาจุดอ่อน ผมพยายามที่จะเรียนรู้ความแข็งแกร่งของพวกเขา.

ราวกับว่าเขากำลังพยายามที่จะทำให้ผมใจฟ่อก่อนที่ผมจะต่อสู้

เพื่อหยุนเขา ผมเลยต้องถามคำถามออกไป

“รอเดี๋ยว คุณไม่ได้บอกว่าการป้องกันของเขาอ่อนแอไม่ใช่หรอ? จากสิ่งที่คุณเล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับโจ๊กเกอร์จนถึงตอนนี้เขาฟังดูเหมือนว่าเขาเป็นคนที่มีการโจมตีและการป้องกันได้เก่งมาก?”

“โทษที ฉันอธิบายมากไป ประเด็นคือชิลด์ของโจ๊กเกอร์มันแตกต่างจากชิลด์ปกติ”

“มันไม่มีคูลดาวน์หรือเวลาร่าย?”

“ไม่ มันแค่ดูดซับความเสียหายส่วนหนึ่ง มันป้องกันการโจมตีได้เพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น”

ชิลด์ปกติจะพังหลังจากที่ได้รับความเสียหายเกินกว่าจะดูดซับไหว

การที่จะเพิ่มการป้องกันในการดูดซับ มันต้องเพิ่มเลเวลของสกิล ชิลด์

แต่จากสิ่งที่โฮจินบอกผม โจ๊กเกอร์มี-ดอจออร่า-และมันไม่ได้ป้องกันความเสียหาย

ไม่ว่าการโจมตีนั้นจะรุนแรงแค่ไหน มันก็ไม่ถูกนับว่าเป็นการโจมตี

โฮจินพูดต่อ

“แม้ว่าจะมีข้อมูลไม่มากนักเกี่ยวกับคลาสเพรชฆาต แต่ข้อมูลเกี่ยวกับสกิลส่วนใหญ่ของคลาสเพรชฆาตก็สามารถพบได้ในสมาคม อย่างไรก็ตามฉันไม่อาจหาข้อมูลหรือสกิลใดๆที่คล้ายกันกับ -ดอจออร่า- ของเขาได้”

“ผมรู้”

“เนื่องกจาการต่อสู้สิ้นสุดลงภายใน 5 นาที ฉันไม่รู้ว่าเขามีสกิลลับอะไรอีกหรือเปล่า”

เป็นคนที่แข็งแกร่งเหมาะแก่การเผชิญ”

“อย่างไรก็ตาม ดาร์กเลดี้โจมตีใส่โจ๊กเกอร์อย่างต่อเนื่อง สุดท้ายเธอก็สามารถทำลาย-ดอจออร่า-ของเขาได้และโจ๊กเกอร์ก็ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าดาร์กเลดี้จะเน้นไปที่การป้องกันมากขึ้น ดังนั้นฉันจุงไม่รู้ว่าสกิลลับนั้นคืออะไร แต่ฉันรู้ว่าเขาแค่ต้องเพิ่มแต้มไปที่ความแข็งแกร่ง”

“ตอนนี้ผมเข้าใจความหมายของจินแล้ว ความสามารถที่เหมาะกับการสู้ 1-1”

“เธอต้องการที่จะไปตามคำยั่วยุวันพรุ่งนี้จริงๆ?”

“ถูกต้อง ผมมีข้อมูลที่ผมจำเป็นต้องจัดการเขา ดังนั้นผมต้องไปเผชิญหน้ากับเขา”

“มีพวกแรงค์เกอร์บางคนที่เป็นกลางอย่างนายพลยูนจองซัน แต่เขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะเผชิญหน้ากับพวกเขา นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันไว้ใจเธอ”

“ผมเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อ วันมะรืนผมจะกลับมาอย่างปลอดภับเพื่อขอรับ ID นี้”

“โอเค ฉันจะเก็บมันไว้จนถึงตอนนี้ ระวังตัวด้วย”

ไม่มีอะไรที่ต้องเตรียมตัวอีกแล้ว

เมื่อถึงเวลาผมก็ต้องเผชิญหน้ากับเขาอยู่แล้ว แต่เวลาที่จะทำอย่างนั้นมาเร็วกว่าปกติ

ทำหัวให้โล่งและกลับบ้าน

****

ในห้องที่มีแต่ความมืดมันเหมือนกับสกิลที่เขาใช้ โจ๊กเกอร์เป็นคนรอบคอบ.

เขากำลังคิดว่าจำให้มินชอยยอมจำนนเพื่อที่เขาจะได้ผลัดดันโครงการระเบิดพอร์ททัลดันเจี้ยน.

เขาไม่ได้คิดว่าเขาจะแพ้ด้วยซ้ำ

แม้ว่าเขาจะมีมานาไม่สิ้นสุด แต่เขาก็มีทักษะไม่กี่อย่าง นอกจากนี้สกิลอย่าง-มานาชิลด์- ก็จะถูกทำลายจากสกิลที่ไม่มีแรงค์ทั้งหมด.

มันคงเป็นเรื่องของเวลาก่อนที่เขาจะได้รับความไว้วางใจจาก เซคิล(Zekill) กลับมาหลังจากที่เขาแพ้ดาร์กเลดี้.

ตอนนั้นเองที่มีคนมาเคาะประตู

“เข้ามา”

“ท่านโจ๊กเกอร์ มัน 21.00 น. แล้วตามที่คุณพูด”

“ใช่ มันได้เวลาแล้ว”

โจ๊กเกอร์จับอาวุธของเขา

ราวกับกำลังพิสูจน์ความสามารถของคลาส แต่ละมือเขาถือดาบเพรชฆาตอยู่

ดาบคู่ที่รู้จักกันในนาม ดาบโค้ง(smooth curves.)

เขาจะไม่ใช้อาวุธไปด้วย แต่มันบางอย่างที่ร้ายแรง

เมื่อเขาดูตอนนี้ ลูกน้องของเขาก็เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดขณะที่เขาพูด

“เราจะติดตามไป เราควรจะเตรียมสมาชิคของเราไปประมาณ 20 คนใช่ไหม?”

“ฉันไม่เป็นไร ดูแลงานของแกไปเถอะ”

“ครับ โจ๊กเกอร์”

ลูกน้องได้ออกจากห้อง

โจ๊กเกอร์วางแผนที่จะใช้มินชอยเป็นถังมานาเพียงคนเดียว

ถ้าเซคิลรู้เกี่ยวกับมินชอย เขาจะเห็นความสามารถที่ไม่จำกัดที่เขามีและหัวหน้าของเขาอาจจะให้เขามาเป็นผู้นำ.

พร้อมกับรอยยิ้มของคนบ้า โจ๊กเกอร์ถือดาบพร้อมกับยิ้มออกมา.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset