I Never Run Out Of Mana – ตอนที่ 68. ศึกตัดสินกับโจ๊กเกอร์ (2)

68. ศึกตัดสินกับโจ๊กเกอร์ (2)

“ลูกแมวได้กลายเป็นเสือแล้ว…”

มันกลายเป็นนิสัยไปแล้วที่จะต้องเปิดมานาชิลด์เพื่อปกป้องตัวเอง

ยิ่งไปกว่านั้น -รีเฟล็กซ์ชิลด์-,-ฟรอสชิลด์-และ-สปริตอาเมอร์-ก็ใช้ขึ้นแทบจะพร้อมๆกัน

มันมีความเหลื่อมล้ำช่วงเวลาหนึ่งระหว่างชิลด์ต่างๆของผม เนื่องจากระยะเวลาคูลดาวของมัน

เพื่อที่จะปกปิดช่องว่างเหล่านั้น ผมได้เก็บ -ไอร่อนสกิน- และ -โฮลี่บล็อค- เอาไว้

และถ้าผมได้รับการโจมตี เซ็คลูวเวอร์ก็จะดูดซับมานาเพื่อสร้าง-ชิลด์-เองอีกด้วย.

เกราะสีเทาที่ปกคลุมตัวโจ๊กเกอร์เริ่มเปล่งแสง

ราวกับว่าร่างกายของเขากำลังเดือด ควันขโมงลอยโชยขึ้นจากตัวของเขา

เอฟเฟกต์นั้นต้องมาจากบัฟโจมตีจากคลาส เอ็กซีคิวชั่นเนอร์(เพรชฆาต*)แน่ๆ

เขาย่ำเท้ามาข้างหน้าและพูด

“ฉันรู้สึกโล่งใจที่ฉันสามารถจัดการแกได้ตอนนี้ หลังจากนั้น…”

“คุณคิดกับตัวเองว่ามันเป็นไปได้หรอ? คุณควรจะพาคนมาอย่างน้อยๆก็คนหนึ่งเพื่อที่จะเก็บศพของคุณออกไป”

“ฉันสงสัยว่าความมั่นใจของแกมันอยู่ตรงไหนนะ?”

วิ้งงงง!

คลื่นกระแทกดังเข้ามาในหูราวกับว่าหูของผมกำลังแตกเป็นชิ้นๆดังขึ้น

ภายในไม่ถึงวิฯ ผมไม่อาจตามการเคลื่อนไหวของเขาได้ทัน.

เพียงพริบตา เขาก็โจมตีใส่ผม

เขาอยู่ข้างหลังผม

อย่างไรก็ตามตั้งแต่ที่ชิลด์ของผมยังดีอยู่ ผมจึงคิดว่ามันไม่ใช่การโจมตีที่ไม่มีแรงค์.

-มานาชิลด์-ของผมสั่นกระเพื่อมราวกับคลื่นหลังจากที่หินตกลงในน้ำ

ยิ่งไปกว่านั้นด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว กำไลลูวเวอร์ ก็ถูกชาร์จจนเต็ม

การโจมตีที่ต้องถูกลดความเสียหายลงจากอุปกรณ์ป้องกันที่ผมใส่รวมถึงลดความเสียหายทางกายภาพถึง 40% และลดความเสียหายทางเวทย์ 60%.

‘ถึงแม้ว่าจะมีเอฟเฟ็คลดความเสียหาย พลังของมันก็ยังคงมาก…’

มันแสดงให้เห็นว่าพลังโจมตีนั้นรุนแรงขนาดไหน

กำไลเรืองแสงสีฟ้า ราวกับว่ามันกำลังขอร้องให้ผมใช้สกิลที่รุนแรงออกไป

อย่างไรก็ตามมันคงไม่มีประโยชน์อะไรกับเขาตอนนี้

สกิลป้องกันได้ป้องกันการโจมตีได้จำนวนหนึ่ง เพราะงั้นมันจึงไม่ได้ทำดาเมจใส่ผม

“มานาชิลด์…”

“ย้ากกก!”

ตูม! ตูมมม!

ผมร่ายเอ็กโพชั่นและโฮลี่ช็อคใส่เขา

ผมไม่รู้ว่าจะมีการโจมตีกี่ครั้งก่อนที่-ดอจออร่า-จะสามารถปกป้องได้ แต่ในที่สุดมันก็สลายลง

และมานาของผมก็ไร้สิ้นสุด

อย่างไรก็ตามเขาหลีกเลี่ยงการโจมตีแบบเป้าเดี่ยวของผมได้อย่างง่ายดายราวกับเยาะเย้ยผม.

พลังและความเร็ว.

การมีมันทั้งคู่มันทำให้ผมดูราวกับสัตว์ร้าย

พร้อมกับ บันวอนจินชอน ที่กำลังปล่อยริ้วไฟออกไปอย่างไม่หยุดหย่อน

และในเวลาสั้นๆ…

วิซซซ!

ฟรอสฟิว ก็เพียงพอที่จะครอบคลุมสนามต่อสู้ทั้งหมด

ใช่ได้ใช่-กาแลคติกฟิว-

มันไม่ได้ทำดาเมจรุนแรง เพราะว่ามันเป็นเวทย์วงกว้าง มันควรจะโจมตีโดนเขาอย่างต่อเนื่อง

ยิ่งไปกว่านั้นผมได้ใช้ -กราวิตี้เลเซอร์- เสริมด้วย

ก่อนหน้านี้ที่ผมใช้กับจิน การโจมตีต่างๆได้หยุดลงเพราะว่าผมไม่อาจหาตำแหน่งของเขาได้

อย่างไรก็ตามครั้งนี้ผมได้ใช้สกิลนี้หลังจากที่ใช่ -อายออฟอินไซ-(ตาหยั่งรู้*)ดังนั้นมันจะต้องโจมตีโดนเขาแน่ๆ แม้ว่าเขาจะใช้ -สเตล-.

หลังจากที่ผมโจมตีเขาตลอดเวลา ทันใดนั้นเขาก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง.

โจ๊กเกอร์กระแทกดาบลงพื้น.

มันราวกับว่าเขากำลังหัวเราะเมื่อมีการโจมตีเข้ามาหาเขา

แม้พื้นที่จะทำจากวัสดุนาโน แต่ดาบของเขาก็ยังคงเจาะเข้าไปได้อย่างง่ายดาย

ผมเดาว่านี่อาจจะเป็นเพราะเขาได้ใส่แต้มสถานทั้งหมดลงไปที่ความแข็งแกร่ง

หลังจากนั้นโจ๊กเกอร์ก็ดึงดาบของเขาขึ้นมาจากพื้นและเก็บพวกมันแต่เล่มเข้าฝัก.

ผมไม่รู้ว่ามันเป็นทักษะอะไรที่เขาจะใช้

มันถูกเป็นไปแล้ว

มีดาร์กโฮลอยู่ด้านหลังของเขา.

มันดูเหมือนแบล็คโฮล แต่มันไม่ได้ดูดอะไร.

หลังจากนั้นดาบแล้วดาบเล่าก็ค่อยๆลอยออกมาจากรูเหล่านั้น.//ปล.กิลกาเมสก็มา

มันมีเอฟเฟ็คเดียวกับ-แทงดาบ-

ทันใดนั้นเขาก็ยื่นมือมาหาผม.

“รับไป!”

ด้วยคำสั่งของเขา ดาบจำนวนมาก็พุ่งเข้ามาหาผมด้วยความราวเร็วอย่างน่าตกใจ.

ในไม่ช้าผมก็เริ่มวิ่งด้วยความเร็วเต็มที่

แน่นอนว่ามันไม่ใช่สกิลของคลาสวอริเออร์.

และมันก็ใช้สกิลจากคลาส เพรชฆาต ที่จุงโฮแสดงให้ผมเห็น ผมไม่เคยเห็นสกิลไหนที่มีเอฟเฟ็คอย่างนี้

มันมีโอกาสสูงที่จะเป็นสกิลแรงค์สูงกว่า

‘หากเป็นอย่างนี้…’

แกร็ก!

แทนที่จะพยายามหลบหลีก ผมก็ร่าย-ไอซ์เบิร์ก-ไปด้านหน้าผม.

ภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของผม

ภูเขาน้ำแข็งโปร่งใสก็กลายมาเป็นสีม่วงหลังจากที่มันเลเวล 200 และเปล่งประกายราวกับว่ามันเป็นภูเขาที่สร้างขึ้นจากการแกะสลักด้านหน้าของผม.

สกิลนี้มีเอาไว้เพื่อโจมตีอย่างแน่นอน

คำอธิบายของสกิลก็ยังพูดว่ามันเป็นสกิลโจมตีที่อยู่ในแรงค์ A+.

แต่ตอนนี้ภูเขาน้ำแข็งลูกนี้ถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันต่อการโจมตีของเขา.

ผมเข้าใจว่าการใช้ทักษะไม่ได้ถูกจำกัดตามประเภทสกิลหรือแรงค์กิ้งของมัน แต่ความรู้สึกของผู้ใช้คือเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมกับการใช้งาน.

การโจมตีของโจ๊กเกอร์ยังคงพุ่งเข้ามาหาและปักลงไปบนภูเขาน้ำแข็ง

พลังทำลายของมันทำให้ภูเขากลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ผมเดาไม่ผิด

มันเป็นสกิลที่เหนือว่าแรงค์กิ้งแน่นอน.

ผมหยุดการโจมตีของผมและร่าย-ไอซ์เบิร์ก-อย่างต่อเนื่อง.

เมื่อเห็นว่าการโจมตีของเขาไร้ประโยชน์เพราะถูกป้องกัน โจ๊กเกอร์ก็อดที่จะโกรธไม่ได้.

“ไอ้ตัวเล็ก…แกเรียนรู้ทริคอย่างนี้มาจากไหน!”

“ผมคิดว่าชิลด์ของผมกำลังพูดทักทายคุณ แล้วคุณหล่ะ?”

“ห๊ะ! อ้ากกก!”

โจ๊กเกอร์ดึงดาบทั้งคู่ออกมาและพุ่งเข้าหาผมอีกครั้ง.

ทุกครั้งที่เขาเดินพื้นรอบๆทำให้ผมรู้สึกราวกับมีแผ่นดินไหว.

เขาปล่อยให้ผมโจมตีเขาต่อขณะที่เขาพุ่งเข้ามาหาผม

เขาพุ่งเข้ามาจนกว่าเขาจะอยู่ใกล้กับผม

ชิลด์ของผมหมดเวลา ผมร่าย-ไอร่อนสกินและ-โฮลี่บล็อค-ทันที

ผมจับ บันวอนจินชอน แน่น

เขาอาจจะยังคงต้องการเข้าประชิดเพื่อโจมตี

หากเป็นอย่างนั้น ผมควรจะเข้าหาเขาด้วยตัวเอง

“เข้ามาเลย!”

-ไพซิ่ง ซอร์ด-

เคล้ง!

โจมเกอร์ทรงพลังอย่างมาก

เขาป้องกันหรือหลบดาบนับไม่ถ้วนที่เข้าไปหาเขา.

อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะป้องกันมันได้อย่างหมดจรด

เหมือนกับที่โจ๊กเกอร์ได้ใช้สกิลเกินแรงค์ ดาบพันได้พุ่งเข้าหาเขาตามที่ผมต้องการ.

มันเพียงพอที่จะสงสัยว่ามีสกิลไหนที่จะจัดการชิลด์ของเขาหรือไม่

ผมใช้สกิล -ไพชิ่งซอร์ด-ด้วยมือทั้งสองข้าง.

ต้องขอบคุณ-ร่ายสองมือ- ทำให้ผมเหมือนกับมีมือที่ 3

ถ้าผมไม่ใช่มานาชิลด์ ผมน่าจะจบเขาได้ชีวิตเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตามผมจะไม่ทำผิดพลาดเหมือนกับที่เคยทำมาก่อน.

ผมกำลังโถมการโจมตีทั้งหมดที่ดูโกงๆ เข้าหาเขา.

“ให้ผมดูหน่อยว่าคุณจะหลบได้นานแค่ไหน!”

“แก!”

มันเป็นไปได้.

‘มันทะลวง’

บาดแผลจากบันชอนจินวอนนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนที่ไหล่ของเขา.

โอกาสนี้ผมไม่พลาด ผมหยุดและใช้ -แทงดาบ- ด้วยมือเดียว

จากนั้นผมก็ใช้สกิลโจมตีแรงค์ S -ออร่าดาบไร้รูปแบบ-

ด้วยเพราะ-ออร่าดาบไร้รูปแบบ- ทำให้ผมใช้ศิลปดาบได้ จากนั้นผมก็สามารถฝันไปที่คอของเขาได้อย่างแม่นยำ.

แม้ว่าจะมันลดลงไปครึ่งหนึ่ง แต่ทุกสิ่งที่โจ๊กเกอร์ทำได้คือต้องป้องกันการโจมตีของ-ไพร์ทชิ่งซอร์ด-

“อัค-อัค!”

ผมรู้สึกถึงตัวดาบ

มันเป็นการโจมตีด้วยพลังมากพอที่จะโจมตีขณะที่คนอื่นซ่อนตัวอยู่ได้.

โจ๊กเกอร์ผละร่างกายของเขาออกมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ดาบไม่อาจเข้าไปลึกได้มากกว่านี้.

อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือผมไม่อาจให้เขาผละออกจากการโจมตีของผมได้แม้แต่ครั้งเดียว

มันเป็นเพราะว่า-ดอจออร่า-ของเขาได้หมดเวลาแล้ว.

เขาไม่อาจหลบหลีกการโจมตีของผมในครั้งต่อไปได้

หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการใช้-ออร่าดาบไร้รูป-การโจมตีที่ตามมาจะไม่อาจป้องกันได้อีกครั้ง.

ไม่ว่าประสาทสัมผัสของเขาจะดีแค่ไหน ผมก็คิดว่ามันคงยากที่จะหลีดเลี่ยงการโจมตีของออร่าดาบที่เขาไม่รู้ว่ามาจากไหนได้.

“อัคคค”

“ผมจะทำให้จบ โจ๊กเกอร์

จากนั้น.

เขาก็ขยับมือของเขาก่อนที่จะเข้าสู่สถานะ-สเตล-.

“ผมคิดว่าคนที่ใช่เล่ห์เหลี่ยมสกปรกๆไม่ใช่ผม แต่เป็นคุณ”

“อั๊คคค แกคิดว่ามันจะจบลงแบบนี้? ไอ้อ่อนเอ้ย”

“ผมจะแสดงให้คุณเห็นว่าสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้คือการซื้อเวลาเท่านั้น!”

เช้งงง!

‘นั่น…อะไร!’

ผมรู้ตำแหน่งของเขาโดย-อายออฟอินไซ-

พร้อมกับย่นระยะทางอีกครั้ง ผมรีบเข้าไปหาเขา

อย่างไรก็ตามขณะที่ผมกำลังวิ่งเข้าไป ความมืดสนิทก็เข้ามาราวกับขวางไม่ให้ผมเดินหน้าต่อไปได้.

แน่นอนว่าผมมีภูมิต้านทานเอฟเฟ็คสถานะจากบู๊ทไททันที่ผมใส่อยู่

มันไม่ใช่ประเภทสถานะ ตาบอด หรือ ภาพลวงตา แต่มันอาจจะเป็นทักษะการป้องกันที่แข็งแกร่งมากๆ.

ผมถูกขวางจากทุกทิศทางที่กว้างประมาณ 10 เมตร

ไม่ว่าผมจะเหวี่ยงดาบไปเท่าไร กำแพงเหล่านั้นก็ไม่พัง.

เช้ง! เช้ง!

“คุฮ่าฮ่า!”

ความประหลาดใจของผมจากการโจมตีอย่างกระทันของเขานั้นสั้นมาก

จากกำแพงทั้ง 4 ด้าน, 3 แบล็คโฮลที่โจ๊กเกอร์ร่ายก่อนหน้านี้ก็ปรากขึ้น

ขนาดมันแตกต่างจากครั้งที่แล้ว.

มันใหญ่พอๆกับกำแพงในแต่ละด้าน

“นี่มันบ้าไปแล้ว!”

ผมทำได้แค่ร่ายไอซ์เบิร์กออกมาสองลูก

หากผมไม่ใช่มานาชิลด์ ผมจะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีของเขา.

ป้องกัน-ไพร์ทชิ่งซอร์ด-?

ไม่ มันยังไม่พอที่พยายามจะป้องกัน สกิลที่เหนือระดับแรงค์ นั้นมีพลังอยู่ในระดับต้นๆเมื่อยู่ในมือของโจ๊กเกอร์

ราวกับว่าผมไม่อาจหายใจได้ ใบมีดคู๋ขอบโจ๊กเกอร์นับไม่ถ้วนก็ก่อตัวขึ้น

เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าผมจะใช้ชิลด์มากแค่ไหน ผมก็ยังยากที่จะมีชีวิตอยู่.

เสียงของแรงเสียดทานระหว่างโลหะและความกลัวจากมุมมองรอบๆ

มันสั้นแต่แรงกดดันมหาศาล

“ฟู่ฟิ้วว…ถ้าผมมีโอกาสได้ผมกับคลาส เพรชฆาต ในอนาคตคนผมคงต้องสั่นซะแล้ว”

“นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของแก? ดูเหมือนคำว่า”ต่อไป”จะไม่เหมาะกับแกนะ”

ฟุบบบ

เคร้ง!

ร่ายไอซ์เบิร์กขึ้นมาแต่ละข้าง ผมร่ายเดวิลอวาต้า(ร่างมารเสมือน*)ไปยังด้านที่เหลือ.

ยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ด้วยเลเวลสกิลระดับ 200 เกิดขึ้นมา

การที่มอนเตอร์ยักษ์ทั้ง 3 อยู่ในห้องเล็กๆ ผมรู้สึกว่าหายใจไม่ออกจริงๆ

“โฮกกกก”

“กรรร…”

‘เสียงดังและดูที่ขนาดของมัน มันเป็นโล่เนื้อที่สมบูรณ์แบบ ความสามารถของโจ๊กเกอร์มีระยะเวลาประมาณ 1 นาที เพียงแค่รอให้ถึงตอนนั้น’

“ป้องกัน ใช้ร่างกายของแกปกปอ้งฉันด้วยชีวิต!”

“ฮู้มมมมมม!”

ด้วยคำสั่งของผม มารเสมือน ได้ป้องกันแบล็คโฮลด้วยร่างกายของมัน

ยิ่งไปกว่านั้นไอซ์เบิร์กที่ผมร่ายไปทั้งสองข่างทำให้การโจมตีของเขาไร้ประโยชน์

รอบๆตัวผมเต็มไปด้วยเลือดของมารเสมือน

มันเป็นความจริงที่พวกเขามีความสามารถในการป้องกันที่ยอดเยี่ยม แต่มันก็ดูไร้ประโยชน์ต่อหน้าการโจมตีของโจ๊กเกอร์

เศษของภูเขาน้ำแข็งทั้งสองข้างต่างก็ปลิวว่อนเช่นกัน

“แค่ป้องกันให้นานขึ้นอีกนิด!”

“โฮกกก.”

มารเสมือนทั้งสามก็ตายจากการถูกทิ่มแทงในเวลาเดียวกันแบล็คโฮก็หยุดลง.

ผมรู้สึกเสียใจต่อพวกมันทั้ง 3 พวกมันถูกฆ่าอย่างทารุณ แต่ในสถานการณ์ที่ชีวิตของผมตกอยู่ในอันตราย ความเห็นอกเห็นใจเหล่านั้นก็ไม่มีประโยชน์.

“แกทำดีแล้ว!”

ทันทีที่ผมพูดเสร็จ ความมืดมิดก็ที่จับผมก็หายไป

โจ๊กเกอร์ได้เข้ามาหาผมแล้ว

ปลายดาบโค้งของเขา

มันดูราวกับว่าเป็นตะขอ เขาพยายามเกี่ยวผม

มันไม่ใช้สกิล แต่มันก็มีพลังที่ร้ายกาจเมื่อเขาใช้กับผม.

เพราะว่าผมมีชิลด์ ผมจึงไม่ได้รับความเสียหาย แต่มันก็มีพลังมหาศเช่นกัน

ในเวลาเดียวกัน ออร่าดาบไร้รูปแบบของผมก็เริ่มฟันไปที่เขา

“คุ…ฮ่าฮ่า!”

โจ๊กเกอร์หัวเราะด้วยเสียงที่น่ากลัวออกมาขณะที่เขาโน้มตัวเข้ามาที่หูของผม

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเขาจะคิดที่จะปล่อยมันไป

ทันใดนั้นความรู้สึกกังวลก็ก่อตัว ผมร่ายชิลด์ทั้งหมดของผม

และด้วยความแข็งแกร่งของผม ผมจึงแทงดาบไปที่หัวใจของเขาและผลักเขาออกไปด้วยแขนด้านซ้าย

จากนั้น.

ตูมมม!

“แค่กๆ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset