I Never Run Out Of Mana – ตอนที่ 78. ใบหน้าที่คุ้นเคย

“เราได้รับคำสั่งว่ามีการกระเบิดพอร์ทัลทั้งสี่ในยางพย็อง ที่นี่เรามีรองหัวหน้าสมาคมอเวคของเขาเกาหลี นายฮวางอินจุง รองหัวหน้าแผนก ถ้าคุณต้องการจะพูด.”

“ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ผม ฮวางอินจุง.”

“พอร์ทัล 4 ที่ระเบิดพร้อมกันในคราวเดียว.”

“ใช่ครับ.”

“แต่คุณบอกว่าพอร์ทัลทั้ง 4 ถูกกำจัดเร็วกว่าเดิม? แม้ว่ามันจะมีสถานที่แตกต่างกันทั้ง 4 แห่ง แต่พอร์ทัลก็ระเบิดออกมาพร้อมกัน.”

“ครับ เราสามารถหยุดมันได้ก่อนที่จะเกิดความเสียหายใดๆ ด้วยการที่มีเครื่องมือที่แม่นยำและสิ่งที่พวกเราได้เตรียมการและฝึกฝนมาก่อน.”

“ค่ะ ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของคุณ แต่การระเบิดก็เกิดขึ้นกันอย่างต่อเนื่องในเกาหลีใต้ คุณคิดว่าอะไรคือเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเหล่านี้?”

“เรายังคงหาสาเหตุเบื้องหลังของมันอยู่ สมาคมอเวคทั่วโลกกำลังช่วยเหลือเราเช่นกัน.”

“เกือบหนึ่งเดือนแล้วตั้งแต่ที่พอร์ทัลเลเวล 29 อันแรกได้ระเบิดขึ้น แต่คุณก็ยังบอกว่ายังไม่อาจพบเหตุผลอยู่?”

“มีข่าวลือว่าการระเบิดพอร์ทัลนั้นเป็นเรื่องโกหก คุณคิดอย่างไรกับข้อสงสัยเหล่านี้?”

“ครับ ผมได้พูดคุยกับความเป็นไปได้นั้นผ่านการสนทนา แต่ผมไม่อาจบอกได้อย่างแน่นอนว่าโอกาสที่สิ่งเหล่านี้เป็นจริงนั้นคือ 0%.”

“ถ้าเป็นอย่างนั้น มีการคาดเดาไหมคะว่าทำไมสิ่งเหล่านี้ถึงเกิดขึ้นในเกาหลีเท่านั้น?”

“เราจะแจ้งให้สาธารณชนทราบเมื่อการตรวจสอบของพวกเราเสร็จสมบูรณ์.”

จุงโฮ,โฮจินและผมกำลังมองไปที่ TV.

เรารู้สึกโกรธหลังจากฟังเรื่องไร้สาระแบบนี้บน TV.

โฮจินรู้บางอย่างเกียวกับฮวางอินจุง ก็พูดขึ้น.

“ดูเขาสิ เขาไม่อาจสบตาได้ในท้ายที่สุด เขาอาจจะทำในสิ่งที่ประธานชอยมันซอยบอกให้เขาทำ ไอ้หนูสกปรก…”

“จากทั้ง 4 ที่ ผมระงับไว้ได้ 2 และผมเดาว่าพวกเขาหลีกเลี่ยงหัวข้อของฝ่ายหัวรุนแรงจนหยดสุดท้าย.”

“พวกเขาเป็นแบบนี้เสมอ พวกเขาเอาหน้าไปทั้งหมดและหากมีอะไรผิดพลาดพวกเขาก็ยุ่งกับการปัดรับความผิดชอบไปที่อื่น.”

“ดีใจที่ดันเจี้ยนเลเวล 34 และผมก็เปิดมันเป็นอย่างน้อย”

“นี่ มินชอย แกคิดว่ามันจะเป็นการดีกว่าหรือไม่ที่จะหยุดไปที่ดันเจี้ยนเลเวล 34 ที่ยางพย็องสักพัก? แม้ว่าพวกเขาจะรายงานว่ามันเป็นความผิดพลาดแต่อเวคก็รู้ความจริงว่าพอร์ทัลเลเวล 29 ทั้งสองนั้นถูกจัดการในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง.”

“แน่นอน นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงได้ให้คุณหาข้อมูลของดันเจี้ยนเลเวล 34.”

“คุณพี่โฮจิตครับ เกี่ยวกับที่ตั้งพอร์ทัลอื่นๆที่ผมถาม มันไปถึงไหนแล้ว?”

“โฮ๊ะโฮ๊ะ ฉันเจออันนึง แต่ข้อเสียอย่างเดียวคือมันไกลเกินไป…”

“ไม่เป็นไร เราใช่วาปได้.”

“อ่า ใช่แล้ว มันอยู่แถวๆ พาจู เขตปลอดทหาร(Paju DMZ).”

“ว้าว…มันค่อนข้างไกล ได้โปรดบอกตำแหน่งที่แน่นอนให้กับผมทีหลัง.”

“ได้ ฉันทำแน่นอน.”

“ทุกวันนี้พี่และคุณ ได้ลงดันเจี้ยนมั่งหรือเปล่า?”

“ที่ไหน? ดันเจี้ยนเลเวล 18.”

“ช่าย.”

“ถ้าอย่างนั้นผมควรจะใส่[Healing Denial]และ[Lower Resist]ลงไปในแหวนด้วย?”

“ทำไม? ฉันไม่คิดว่าเราต้องการมันหรอก? พวกมันตายเพราะเมเทโอเพียงอันเดียว.”

“อ่า…ผมเดา…ผมได้เรียนรู้สกิลทั้งสองสกิลเพื่อเครียร์ดันเจี้ยน”

“โฮ่ โฮ่ ต้องขอบคุณ คุณมินชอย เราสามารถเพิ่มเลเวลได้อย่างบ้าคลั่ง.”

“เราใช่มาเพียงเพื่อป้องกันขณะที่สลับไปใช้สกิลจากแหวนเท่านั้น เนื่องจากมานาของเราเต็มทุกครั้งที่เราเลเวลอัพ เราจึงสามารถลงดันได้อน่างนอนสต๊อป.”

“ดีใจที่ได้ยิน หากคุณโชคดีคุณยังสามารถได้เซ็ตลูวเวอร์และบันวอนจินชอยอีกด้วย.”

“ถูกต้อง ตอนนี้ฉันเลเวล 150 และคุณพี่โฮจินเลเวล 147 หรือ 148 นี่แหละ.”

“เลเวล 148 ฉันต้องอยู่บ้านทุกวันหยุด…”

“ในเรตนี้เรากำลังเดินหน้าอย่างไม่หยุดก่อนที่เราทั้งสามคนจะไปทุบตีพวกหัวรุนแรงให้กระจายไปเลย.”

“โอ๊ะ ใช่ อีกอย่าง เกิดอะไรขึ้นกับชายที่คุณเจอที่ดันเจี้ยนเลเวล 25 หรือเปล่า?”

“ผมไม่เห็นเขาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว.”

“อืม….นี่มีโอกาสสูงที่คนที่คุณพูดถึงคือ โกสต์.”

“ผมก็คิดอย่างนั้น แต่คุณบอกว่าไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับโกสต์.”

“ใช่ ไม่มีข้อมูล แม้แต่คลาสหรือความสามารถของเขา.”

“ถ้ามันลงมือ มันอาจจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก.”

“ใช่ ฉันจะพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติม พยายามหลีกเลี่ยงตอนนี้.”

“ได้ ผมจะทำอย่างนั้น.”

“มันเป็นมื้อเย็นที่ดี ผมจะบอกลาแม่ของคุณและกลับไป”

“คุณจะกลับแล้ว?”

“ใช่ ดูเหมือนว่าฉันก็ต้องกลับแล้วเหมือนกัน.”

****

[ในห้องพักผ่อนของสมาคมใหญ่ของเหล่าฮันเตอร์…]

ผู้บัญชาการ ยูนจองซัน และ ลีซางโฮ แม้แต่ ชินยอง ที่เข้าร่วมการปราบปรามการระเบิดของพอร์ทัลอยู่รวมกัน.

หัวข้อการพูดคุยเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่หยุดการระเบิดพอร์ทัลเลเวล 29.

ลีซางโฮพูดคนแรก.

“ปู่ ผมคิดว่ามันเป็นคนเดียวที่ทำ.”

“แกกำลังบอกว่ามีคนคนนึงที่สามารถหยุดเลเวล 29 ทั้งสองที่? ซางโฮ…”

“ครับ มันไม่มีหลักฐานว่าเป็นเขาหรือเธอ มันไม่มีสิ่งใดๆบอกเลย รวมถึงแรงจูงใจ หากมีหลายคนร่วมมือกันมันคงเป็นการยากที่จะทำอย่างนั้น แน่นอนว่าไม่มีองค์กรไหนที่จะมีทีมเวิร์กที่สมบูรณ์แบบอย่างนี้ได้.”

“อืม…”

“การหยั่งรู้ของฉันบอกว่ามันเป็นคนเดียวอย่างแน่นอน เราเรียกเขาว่านาย A เพื่อความสะดวก ฮเยวอน และ จียอน ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับนาย A.”

ตามที่ซางโฮพูด ชินยองขมวดคิ้วขณะที่เขาพูด.

“นี่ คุณจะให้เราไปหาที่ไหน มันไม่มีหลักฐานหรือโอกาส เราต้องมีแรงจูงใจก่อนที่จะเคลื่อนไหวคุณรู้หรือเปล่า? คุณกำลังบอกให้เราจับคยแปลกหน้าแบบการถามสุ่มๆ?”

ผู้บัญชาการ ยูนจองซันเริ่มคิดอย่างหนัก.

เกือบจะถึงจุดที่เขาไม่ได้ยินการสนทนาระหว่างลีซางโฮและชินยอง.

จากนั้นเขาก็พูดกับตัวเอง.

“มีคนเดียวที่มีความสามารถเพียงพอที่จะป้องกันการระเบิดของพอร์ทัลทั้ง 2 แห่ง…”

การคงอยู่ของมินชอยได้แว่บเข้ามาในใจทันที.

เขาดูไม่เหมือนเด็กทั่วๆไป เขากำลังเครีบร์ดันเจี้ยนด้วยความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ.

แต่เขาก็เครียร์ดันเจี้ยนเลเวล 18 หลังจากนั้น.

มันเป็นการยากที่จะเชื่อว่าเขามีพลังมากพอในเวลาสั้นๆในการเครียร์ดันเจี้ยนเลเวล 29 ได้อย่างรวดเร็ว.

“อืม…มันต้องมีข้อจำกัดบางอย่าง….”

“คุณกำลังพูดอะไรกับตัวเอง?”

“ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมัน ตอนนี้เฝ้าระวังกันต่อไป หากเราไม่ได้รับความช่วยเหลือจากนาย A การระเบิดนี้อาจจะเป็นการต่อสู้ที่ยากมาก ดังนั้น นาย A จึงเป็นดั่งดาบสองคม.”

“….”

“ถ้านาย A เข้าร่วมฝ่ายเรา มันจะเป็นกำไรอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ถ้านาย A เข้าร่วมฝ่ายรุนแรง…”

“ไม่ว่าจะอย่างไร เราต้องได้ตัวเขาก่อน ทุกคนยกเลิกภารกิจอื่นๆยกเว้นภารกิจบังคับ เราต้องโฟกัสไปที่นาย A ก่อน.”

****

มันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้วตั้งแต่ที่ผมได้มาที่ดันเจี้ยนเลเวล 34 ในพาจู ที่โฮจินพูดถึง.

สถานที่ไม่เพียงแตกต่างไป มอนเตอร์ที่เจอก็แตกต่างดัวย.

แก่นแตกก็ยังไม่ตกลง.

อาติแฟ็คก็เหมือนกัน.

“ต่างจากที่ฉันคิดเอาไว้ พวกมันไม่ดรอปลงเลย.”

-ครึ่นๆๆ!

คลื่นสั่นสะเทือนจากเมเทโอได้กระจายกลับมาหลังจากที่ผมปล่อยลงมาเต็มดันเจี้ยน.

ในขณะที่ผมรับของที่ดรอปลงมาจากมอนเตอร์ทั้งหมด ทางออกควรจะปรากฏที่ใจกลางของดันเจี้ยน แต่มันยังไม่ปรากฏขึ้น.

“บอสลับโผล่มาก?”

ไม่.

ถ้าบอสลับโผล่ออกมาจะมีการปรากฏตัวที่ยิ่งใหญ่และมีผลกระทบที่เหมือนกับสกิล[Howling]เต็มไปทั่วดันเจี้ยน.

เมื่อผมใช้[Eye of Insight] ผมมองไปรอบๆดันเจี้ยน.

“โอ้ใช่! มิมิค!”

ผมโยนกระเป๋าลงและไปที่จุดศูนย์กลางของดันเจี้ยน.

มิมิคไม่อาจตรวจจับได้ ไม่แม้ว่าจะใช้[Eye of Insight]และจะปรากฏขึ้นหลังจากที่โจมตีมันโดน

ราวกับว่าดันเจี้ยนกลายเป็นพื้นสีขาว ทะเลเพลิงก็ลุกโชนจากเมเทโอ.

จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งด้วยระยะสกิลของผม หนึ่งในสามของดันเจี้ยนก็เต็มไปด้วยเปลวเพลิง.

ผมก็เปลี่ยนตำแหน่งของผมไปเรื่อยๆ.

-กรี๊กกกก

ผมแน่ใจว่ามันเป็นมิมิค.

ผมวิ่งไปหามันทันทีและใช้สกิล[Bind].

มือหินก้อนหนึ่งปรากฏขึ้นจากพื้นและจับมันไว้.

มันไม่อาจเคลื่อนไหวได้.

ผมดึงแขนเสื้อและชกไปที่มัน.

มิมิคนั้นแตกต่างจากมิมิคก่อนหน้าที่ผมเจอกับจุงโฮ.

ภายนอกไม่ได้แตกต่างอะไร แต่ผมต้องต่อยเป็นสองเท่าจากตัวก่อนหน้านี้ แต่มันก็ยังไม่เปิด.

เพราะว่ามันมาจากดันเจี้ยนเลเวล 34 มันเลยแข็งแกร่งมาก?

ยังคงเหมือนเดิม ผมจึงยังคงต่อยออกไปเรื่อยๆ.

-ตึง ตึง

-คลิ๊ก

“ฟู่ว…มันยากมาก.”

ในที่สุดกล่องก็เปิดออก.

มันเกือบจะเหมือนกับถูกระเบิด ของที่ดรอปกระจายไปทั่วทุกที่.

เมื่อเทียบกับตัวก่อนหน้านี้ ตัวนี้ให้ของมากขึ้น.

เนื่องจากยังมีเวลาเหลืออีกมาก่อนที่ดันเจี้ยนจะหมดเลเวล ผมจึงตัดสินใจที่จะตรวจสอบของที่ดรอปออกมา.

ผมไม่มองแม้ว่ามันจะเป็นบลัดสโตนแรงค์ A.

สิ่งเดียวที่ผมมองหาคือแก่นแตกและอาติแฟ็ค.

ก่อนอื่น ผมเอาชุดเกราะยักษ์และอาวุธไปวางไว้มุมหนึ่ง.

จากนั้นก็เริ่มเรียกแก่นอเวค.

[Eye of Insight]ได้เปิดเผยชื่อจริงของมัน มันคือ [Essence of Transcendence] หรือ แก่นแท้ที่เหนือจากความเข้าใจ.

เมื่อดูที่คำอธิบายมันจะทำให้สกิลที่เลเวลแม็กแล้วเลื่อนขั้นขึ้นไปอีก.

ผมได้รับมันทั้งหมด 3 ชิ้น แก่นอเวคก็เหมือนกัน.

“[Mana Shield]?[Meteor]?หรือบางที[Iceberg]? หรือผมควรจะเลือก[Formless Sword Aura]?”

เพียงแค่ถือมันไว้ก็ตื่นเต้นแล้ว.

สกิลเหล่านี้จะต้องแสดงพลังโจมตีอย่างไม่น่าเชื่อแน่ๆ.

ผมไม่อาจคิดได้เลยว่ามันจะทรงพลังแค่ไหน หากพวกมันอยู่ในระดับที่เหนือกว่า.

ผมไม่ได้คิดอย่างนี้มานามากแล้ว.

ผมหันกลับไปมองดาบและอาวุธ.

มันไม่รู้สึกว่ามันจะดีกว่าสิ่งที่ผมได้รับจากการฆ่าโจ๊กเกอร์.

ถ้ามีอะไรที่แข็งแกร่งกว่านี้มันต้องเรียกว่าของโกง.

อย่างแรกที่ผมจะตรวจสอบคือเกราะ.

โชคไม่ดี มันเป็นสีแดงที่น่าอาย.

บนหน้าอกมีสัญลักษณ์ที่ผมไม่เข้าใจ.

ผมใช้ [Eye of Insight] เพื่อตรวจสอบเกราะ

-Thirst of Blood-(กระหายเลือด)

Strength +0

Mana +0

Dexterity +0

Stamina +0

*สถานะจะได้รับแตกต่างกันไปหลังจากที่สังหารมอนเตอร์.

*สถานะ 1 แต้ม ต่อมอนเตอร์ 100 ตัว.

“ดูเหมือนว่ามันจะเป็นอะไรที่ดี แต่ตอนนี้มันอ่อนเป็นอย่างมาก…”

มันไม่ดีพอที่จะเปลี่ยนกับชุดเกราะที่ผมมีในปัจจุบัน.

อย่างไรก็ตามผมคิดว่ามันเหมาะกับจุงโฮหรือโฮจิน เนื่องจากพวกเขากำลังมุ่งมั่นกับการกวาดล้างมอนเตอร์อยู่ในตอนนี้.

ในดันเจี้ยนที่มีมอนเตอร์มากมายปรกาฏขึ้น มันจะกลายเป็นสถานะของเขา.

พวกเขาทั้งสองจะกลายเป็นพลังที่แข็งแกร่งจากตอนนี้.

มันก็เพียงเท่านี้ที่จะหาอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับความแข็งแกร่งของพวกเขา.

อันต่อมาที่ผมตรวจสอบคือดาบ.

มันไม่สะดวกที่ผมจะไปขอบันวอนจินชอยของผมคือทุกครั้ง มันเป็นอะไรที่ไม่สะดวก.

ดาบที่ผมถืออยู่ในมือ ผมสามารถบอกได้เลยว่ามันเป็นดาบที่เรียบง่าย.

ยิ่งไปกว่านั้นมันขนาดเล็กอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อเทียบกับบันวอนจินชอย.

พูดตรงๆมันคล้ายกับ ฮังโด ที่ผมได้รับจากช่างตีเหล็กก่อนหน้านี้.

เมื่อตรวจสอบความสามารถของดาบผมก็อดไม่ได้ที่จะสถบ.

“เชี่ย! มันเป็นไปได้ด้วย?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset