I Never Run Out Of Mana – ตอนที่ 83. ขอบคุณสำหรับอาหาร (2)

การโจมตีครั้งแรกของแอสซาซินถูกป้องกันโดยมานาชิลด์ของผม.

เนื่องจากเลเวลสูงและยังเป็นสกิลที่ยอดเยี่ยม ชิลด์ของผมขึงสั่นไม่น้อย.

อย่างไรก็ตามชิลด์จะไม่ถูกทำลายหากไม่ใช่สกิลบียอนแรงค์.

แม้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้น แต่ชิลด์อื่นๆของผมก็สามารถป้องกันมันและมานาชิลด์ของผมยังคงป้องกันมันได้ 30%เหมือนเดิม.

“โอร่าาา!”

พวกเขาถูกแบ่งออกเป็น 8 ทีม.

หนึ่งในพวกเขาที่ซ่อนตัวอยู่ปรากฏขึ้นอีกครั้งพร้อมกับตะโกน.

เวทย์มนต์เสริมพลังถูกร่ายให้กับอาวุธซัดที่ขว้างมาหาผม.

มันเป็นการโจมตีจากผู้นำคนหนึ่งของทีม.

ยิ่งกว่านั้นคนรอบๆต่างใช้ทุกอย่างทั้งบัฟ ทั้งสกิลให้กับเขา.

“มุ่งความสนใจไปที่บัฟให้กับหัวหน้าทีม!”

“นี่ เอาไป!”

อาวุดซัดถูกปล่อยออกมาจากมือซ้ายของเขาอย่างตั้งใจ.

การโจมตีที่มาพร้อมกับบัฟจากหลายๆคลาสทำให้ความเสียหายและความเร็วในการโจมตีเพิ่มขึ้น.

ความเร็วและพลังสามารถมองเห็นได้จากบรรยากาศรอบๆที่สั่นไหวขณะที่มันบินออกมา.

-ชิ้ง

การโจมตีพุ่งเข้าหาผมอย่างแท้จริง.

อย่างไรก็ตามการโจมตีนั้นมันช่างน่าสมเพชที่เป็นของกากๆสำหรับมานาชิลด์ของผม.

แม้การโจมตีจะล้มเหลวเจ้าของอาวุธยังคงใช้สกิลเทเลพอตและสกิลเสตลเพื่อโจมต่อย่างต่อเนื่อง.

อย่างไรก็ตามกับคนอย่างผมที่มีความสามารถไม่สิ้นสุด เขาก็ตายอย่างง่ายๆ.

“ออก อัค!”

ผมไม่จำเป็นต้องโจมตีอีก

จากการวัดพลังและความรู้สึกของเขาดูเหมือนจะอ่อนแอกว่าจินมากทีเดียว.

ผมเดาว่ามันอาจจะไม่แฟร์ที่ผมเปรียบเทียบ เขากับคนที่ทำงานให้กับโจ๊กเกอร์.

ผมจับไปที่คอของเขา.

ผมมองไปที่ดวงตาของเขาตรงๆ ผมพูด.

“หยุดการเล่นไล่จับได้แล้ว”

“แกร๊ก!”

คอของเขาหักเนื่องจากพลังที่น่าเหลือเชื่อของผม เขาจับไปที่คอของเขาพร้อมกับน้ำหูน้ำตาไหลออกมา.

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่อาจหายใจได้ง่ายๆ.

เขาชักดิ้นชักงอ ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมามอง.

ราวกับว่าได้เห็นบางอย่างที่เขาไม่ควรมอง ดวงตาของเขาแดงก่ำและมีเส้นเลือดขนาดใหญ่ปูดขึ้น.

จากนั้นเขาก็หยุดต่อต้านและยอมแพ้กับชีวิต.

การหายใจของเขายังไม่หยุด แต่เขายอมรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น.

ถูกต้อง.

ด้านบนของดันเจี้ยนเต็มไปด้วยเมเทโอ 6 ลูก.

พวกเขาเห็นเมเทโอที่ปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ มันเหมือนกับว่าพวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนหรือไม่เคยได้ยินมา.

ทั้งแสงและขนาดมันเพียงพอที่จะทำให้พวกเขากลัวสุดๆ

เมื่อเห็นภาพนี้หัวหน้าทีมคนอื่นๆต่างก็เริ่มตะโกนอย่างรีบเร่ง.

“ระ-รูบแบบป้องกัน!”

“ป้องกันมัน! ป้องกัน!”

สมาชิกแต่ละคนเริ่มร่างสกิลของตัวเอง.

จากที่ออกมาทั้งหมดมีสกิลที่ดึงดูดผมมาก มันมาจากกลุ่มนักเวทย์ เขาคือคนที่ใช้กสิล คอลคิวบ์(skill call Cube).

มันสร้างห้องขนาดใหญ่พอที่จะเก็บทุกคยในทีมของเขา ทำให้ทีมของเขาหายไปจากสายตา

“เล่นซ่อนหา…. งั้นก็ต้องหา ‘มัน’ ให้เจอ.”

มันสนุกที่ได้เห็นภาพต่างๆผ่านEye of Insight.

พวกเขารวมกันอยู่ในห้องเล็กๆ แต่ละคนใช้สกิลป้องกันตัวเอง.

สถานที่นั้นถูกซ่อน มันอยู่ห่างไกลจากสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงคนอื่นๆ.

ทีม 50 คนใช้สกิลป้องกันทั้งหมดของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาคงจะคิดว่าสกิลคิวบ์นั้นจะเป็นดั่งที่หลบภัย.

แต่ความคิดเหล่านั้นก็เปลี่ยนไปในไม่ช้า.

“ฉันสงสัยว่ามันจะป้องกันเมเทโอที่ผ่านการรู้แจ้งแล้วไปได้ไหม?”

ผมกระจายเมเทโอ ทั้ง 6 ลูก ออกจากกัน.

แต่ละลูกตกลงในที่ที่ผมต้องการให้มันตก.

-ตูมม!

-ต้ามมม!

“อร๊ากกกก!”

พลัวของมันไม่ใช่ที่จะคิดออก.

คิวบ์ที่อยู่ออกไปหายไปอย่างไร้ร่องรอย.

ไม่เหลือแม้แต่ซากศพ.

ผมใช้เมเทโอเพียงแค่สามลูก แต่เมื่อคิดว่ามันจะเป็นอย่างนี้.

ในการต่อสู้กับกิลด์โนเบลซก่อนหน้านี้ ผมใช้เมเทโอเลเวล 40.

อย่างไรก็ตามพวกเขาใช้รูปแบบการป้องกันและป้องกันมันได้สำเร็จ.

ผมเดาว่าความแตกต่างนี้ในอดีต สกิลต้องใช้เวลาในการร่ายและมีคูลดาวน์ดังนั้นการโจมตีจึงไม่ต่อเนื่อง.

อย่างไรก็ตามการรูแจ้งของเมเทโอไม่อาจเทียบได้กับความสามารถก่อนหน้านี้.

ลืมการป้องกันไปเลย พวกเขาไม่แม้แต่จะร่ายเวทย์ออกมาได้.

มันไม่ใช่แค่บริเวณที่คิวบ์อยู่ที่เป็นอย่างนี้.

“ว๊ากกก!”

“อ๊ากก…กกก!”

ครั้งนึงคนที่แข็งแกร่งกว่า 400 คน ตอนนี้เหนือเพียง 50 คนเท่านั้น.

แม้แต่คนที่รอดชีวิตยังต้องกระอักเลือดและบางคนจับไปที่แขนขา.

คนที่ผมบีบคออยู่นั้นตายตั้งแต่ผมทำมันไปแล้ว

อุณภูมิในดันเจี้ยนนั้นเพียงพอที่จะเผาไหม้เนื้อของคนปกติ.

กลิ่นของเลือดเริ่มหนาแน่นขึ้นเมื่อความร้อนเพิ่มมากขึ้น.

ผมกำลังค้นหาการตำแหน่งของเขาจากการโจมตี.

โกสต์ไม่ได้อยู่ในนั้น อย่างไรก็ตาม นี่คือสิ่งที่ผมไม่พอใจ.

เหนือประมาณ 60 คนที่ยังคงปกป้องเขา.

ในระหว่านั้นผมเห็นโกสต์ยิ้ม.

เขาเสียลูกน้องไปหลายร้อยคนในเวลาไม่ถึงนาที.

บางทีอาจจะนั่นอาจจะเป็นความตื่นเต้น ผมรู้สึกสั่นเมื่อเขาเริ่มเคลื่อนไหว.

“ไอ้คนวิปริตน่ารังเกียจ.”

ผมอดไม่ได้ที่จะพูดตามความคิดอย่างนั้น.

ผมทำลายคนที่เหลืออยู่ในคราวเดียว.

หลังจากทั้งหมด ผมไม่อาจเสียเวลาไปกับมันได้.

ขณะที่ผมกำลังร่ายลมหายใจ ดาบบุชเชอร์ก็เริ่มสั่นเล็กน้อย.

‘สถานะ!’

พวกเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย.

พวกเขาเป็นอเวคที่มีเลเวลมากกว่า 300.

ไม่! พวกเขาอาจจะมีเลเวลสูง.

ผมสามารถขโมยค่าสถานะ 5% จากทั้งหมด.

จำนวนที่ควรจะได้ควรจะเยอะเป็นอย่างมาก.

อเวคเลเวล 300 โดยปกติมีค่าสถานะ 1,500 แต้ม.

5% เท่ากับได้ 75 แต้ม.

ผมจะได้รับค่าสถานะเท่ากับการเลเวลอัพ 15 เลเวล.

ยิ่งกว่านั้น ผมอาจจะได้รับถึง 400 หรือมากกว่า.

‘75×400 มันน่าจะเป็น…3…30,000?’

ผมได้รับของโกงเหมือนกับมานาไม่มีวันหมดของผม.

แต่การได้สถานะที่บ้าคลั่งอย่างนี้ มันอาจจะเป็นอะไรที่ยิ่งกว่าการโกง.

อย่าไงก็ตาม สถานะที่ผมได้รับบางอย่างมันมีค่าสถานะของมานาด้วย มันไร้ประโยชน์สำหรับผม.

Strength: 100

Mana: 100

Dexterity: 50

Stamina: 50

หากคิดแบบนี้ สำหรับสถานะอย่างนี้ แม้บางอย่างที่ผมได้จะไม่ได้ใช้ แต่มันก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างมาก.

Strength: 5

Mana: 5

Dexterity: 2.5

Stamina: 2.5

ผมคิดว่ามันควรจะเป็นอย่างนี้.

ผมไม่มั่นใจว่าจะได้รับค่าสถานะเท่าไร ถ้าผมเอาค่าสถานะของมานาจากฮีลเลอร์และเมจิคเชี่ยน มันก็ยังเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง.

แน่นอนว่าผมกำลังจะตรวจสอบค่าสถานะที่ดาบของผม.

“สวยงาม ความสามารถแกยอดเยี่ยมมาก!”

โกสต์ทำท่าเด็กๆ ในขณะที่เขาปรบมือและเดินเข้ามาหาผม.

มีกาดเดินตามหลังเขามา.

ไม่นานนักก่อนที่พวกเขาจะตายเพราะเพลิงสีดำ.

พวกเขาโจมตีมาที่ผมโดยไม่ถามผมเลยหรือไม่?

ผมตรวจสอบคูลดาวร์เกราะของผมที่หมดอย่างรวดเร็ว.

ผมจับดาบของผมแน่นอีกเล็กน้อย.

โกสต์พูด.

“เมเทโอเลเวล 200? แกร่ายได้ทีละ 3 ลูก? ว้าว ความสามารถของแก…มองดูน่าอร่อยๆจริงๆ…”

“แกมันบ้า.”

“เอาคนมากกว่า 400 คนเพื่อสู้.”

“พวกเขาเป็นลูกน้องแก ฉันได้ยินมาว่าแกเคยผ่านบางอย่างที่เหมือนกันเมื่อ 15 ปีก่อน.”

“ยี้ห่า! ถูกต้อง มันเป็นอย่างนั้น? แต่…นั่นก็เป็นเพราะพวกเขาอ่อนแอ? เพราะ-พวกเขา-อ่อน-แอ.”

“…..”

“ลองคิดดูสิ่งที่ฉันทำตอนนี้ มันน่าอายแค่ไหนที่ฉันอยู่กับพวกเขา แม้ว่าจะชั่วระยะเวลาเดียว.”

“ฉันไม่อยากได้ยิน เราจะมาสู้กันเลยไหม? หรือว่าฉันควรจะเริ่มจากลูกน้องของแกก่อน?”

“หืม…แต่ฉันต้องการเห็นมันมากกว่านี้? ฉันหมายถึงความสามารถที่น่าดูชมนั่น.”

“งั้นก็ ตามที่แกขอ.”

เขามองไปที่ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังของเขาและพูด.

“แกอย่างทำให้เขาตายในทีเดียว! เอาเลย?”

“…ครับ หัวหน้า!”

“เราจะจัดการมัน.”

“คุฮ่าฮ่าฮ่า ถูกต้อง! แสดงให้ฉันดู…ตอนนี้ ไป เร็วๆ!”

“ครับ!”

พวกเขาโจมตีเข้ามาอย่างรวดเร็ว.

แต่ละคนรักษาะระยะห่างระหว่างผมกับตัวของพวกเขา.

‘นั่นไม่ใช่แผนที่จะไม่ตายในการโจมตีครั้งเดียวที่กลุ่มคนพวกนี้ได้คิดถึง?’

นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมเลย.

คูลดาวน์? เวลาร่าย? นั่นไม่มีสำหรับผม.

มันเพียงแค่รอให้ผมยิ่งออกไปในหลายๆทิศทาง.

ถ้าหากเรื่องการควบคุมสกิลของผม ผมมั่นใจว่าผมจะสามารถร่ายเวทย์ได้เร็วกว่าใคร

เมเทโอเพลิงร่วงลงมาจากด้านบน.

ไม่ใช่คนที่อยู่รอบๆตัวผม แต่เป็นโกสต์.

อย่างไรก็ตาม.

“หืม? นี่มันผิดกฏนา.”

‘หา! เป็นไปไม่ได้.’

เมเทโอที่ผมร่ายใส่เขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย.

ความเร็วในการโจมตีของผม มันเกินว่าที่จะเอาเวลามาป้องกัน.

อย่างไรก็ตาม คทาที่ถืออยู่ในมือของเขาได้ดูดเมเทโอเข้าไปหมด.

ไม่เพียงแค่คลาสและความสามารถที่ซ่อนเอาไว้ แต่เป็นอาวุธที่ดูดซับได้แม้กระทั่งเมเทโอ.

ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นการต่อสู้ง่ายๆ แต่ตอนนี้ผมกำลังคิดว่ามันเป็นเรื่องยากแล้ว.

“แกกล้าดีจัง! ปกป้องหัวหน้าของเรา!”

“ไม่ ไม่ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับฉันและต่อสู้ต่อไป ฉันต้องการดูสิ่งพวกนี้จริงๆ.”

“ครับ?… ครับผม!”

-ซึบ! ซึบ! ฉึบ!

ความสับสนที่เกิดจากโกสต์นั้นมีเพียงชั่วครู่เท่านั้น.

พวกเขาเริ่มโจมตีผม.

คนที่มีหอกและขวานพุ่งเข้าหาผม.

เขาฟันทันทีที่เข้าใกล้ผม.

“วินวิล?”

ไม่.

ชิลด์ของผมถูกทำลาย.

มันเป็นสกินบียอนแรงค์แน่นอน.

มานาชิลด์ไม่อาจทำงานของมันได้ แต่รีเฟร็กชิลด์ของผมกับสะท้อนกลับไปขณะที่มันฟันมา.

เอฟเฟ็คของมันดูเหมือนกับวินวิล.

‘เดาว่าพวกเขาไม่มีการป้องกันตัวเองเลย.’

ผมไม่อาจปล่อยการป้องกันของผมได้แม้สักครู่.

เมื่อผมกำลังจะสับหัวของเขาด้วยดาบของผม มีฟินิกซ์บินเข้ามาหาผมด้วยความรวดเร็วอย่ามากจากด้านบน.

มันเป็นสกิลระยะไกลของคลาสแรนเจอร์ มันไม่ได้ทำแค่เพียงยิงเข้าหาเป้าหมายที่อยู่บนพื้นดินเท่านั้น แต่มันสามารถยิงอยู่บนอากาศได้เหมือนกัน.

มันเป็นสกิลแรงค์ A ดังนั้นที่ผมเห็นคือมันเป็นอีกาสีแดง.

อย่างไรก็ตาม ผมไม่แน่ใจว่ามันมีความสามารถอะไรบ้าง.

มันไม่สมเหตุสมผล แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องเตรียมพร้อมเสมอ.

เนื่องจากความสามารถในการบุกของผมนั้นมากกว่าพวกเขาหลายพันเท่า มันจึงไม่จำเป็นต้องโหมโจมตีออกไป.

‘ถ้าจะโจมตี เราเน้นการป้องกันมากกว่า.’

-แกร๊ก!

นกไฟบินไปยังที่หมายและระเบิด.

ขณะที่พวกเขาทั้งหมดพยายามโจมตีในเวลาเดียวกัน กาแลตติกฟิว ก็แช่แข็งพื้นที่รอบๆเกิดขึ้น.

ช่วงเวลานั้นผมไม่ได้ทำอะไรชักช้า ผมร่ายเมเทโอออกไป.

-ตูมม!

เมื่อผมเข้าใกล้พวกเขา ผมใช้ Formless Sword Aura ใส่พวกเขาทันที.

พวกเขาตายโดยที่ไม่อาจทำอะไรได้.

“อ้ากก…แอะ! หัวหน้าาา!”

“ชิ.”

เมื่อมองไปที่พวกเขา โกสต์ก็บ่น.

“เฮ้ย! ฉันบอกแกแล้วไงว่าอย่าตายจากการโจมตีครั้งเดียว ฉันต้องการเห็นสกิลกายภาพของเขาด้วย…..”

“ฉันจะแสดงให้เห็นเป็นการส่วนตัว ย๊ากก!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset