I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด – ตอนที่ 210

ตอนที่ 210 ทําไมไม่เล่นเป็นผู้เล่นละ

 

ถึงแม้ว่าในใจของเอริคตอนนี้จะคิดถึงแต่ซีรี่ย์เรื่อง Friend ก็ตาม แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะทิ้งบริษัทตัวเองและการทําหนังเลยแม้แต่น้อย วันที่สามหลังจากกลับมาถึงลอสแองเจลิส เอริค เจฟฟรีย์และโรเบิร์ตได้มารวมตัวกันเพื่อเลือกที่อยู่ใหม่ให้กับบริษัท Firefly

 

“ เอริค ที่นี่ละคุณคิดว่าไง ? ” ขณะที่ทั้งสามคนกําลังนั่งอยู่บนรถ MPV ·คันหนึ่ง โรเบิร์ต เชียร์ก็ชี้ไปที่ตึกสูง 7 ชั้นที่อยู่ใกล้กับทางด่วนพร้อมกับพูดขึ้น

 

เอริคเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปตามนิ้วชี้ของโรเบิร์ต ภายนอกของตึกสํานักงานตึกนี้เป็นสีเงินราวกับโลหะ ซึ่งปกติแล้วตึกใหญ่ๆแบบนี้จะปรากฏในใจกลางเมืองของลอสแองเจลิสเท่านั้น นอกพื้นที่ก็ไม่ได้มีให้เห็นมากนัก ด้วยเหตุนี้ตึกสํานักงาน 7 ชั้นนี้จึงเป็นตึกที่ตรงใจเอริคอย่างมาก แต่เมื่อผ่านไปสักพัก เขาชี้ไปที่ทางด่วนที่มีรถวิ่งกันขวักไขว่ที่อยู่ด้านหลังของตึก ” คุณโรเบิร์ต ตึกนี้อยู่ใกล้ทางด่วนเกินไป มันค่อนข้างสียงดังไปหน่อยไหม ? ”

 

” ไม่หรอก ” โรเบิร์ต เชียร์ ส่ายหน้า “ ก่อนหน้าหน้าฉันกับเจฟฟรีย์ได้ไปสํารวจทุกชั้นมาแล้วในนั้นค่อนข้างปิดกั้นเสียงได้เป็นอย่างดี ถ้าปิดหน้าต่างก็ไม่ได้ยินเสียงวุ่นวายของรถแล้ว อีกอย่าง คุณดูนี่ เราสามารถผนวกเข้ากับตึกทางทิศเหนือได้ เมื่อคิดคํานวณดูแล้วเราจะมีพื้นที่รวมๆ ประมาณ 10,000 ตารางเมตร ถ้าในอนาคตได้ใช้จริงๆ เราก็สามารถสร้างตึกสํานักงานเพิ่มขึ้นได้อีกสองสามที่เลยทีเดียว ถึงตอนนั้นเราก็ไม่ต้องกังวลปัญหาเรื่องเสียงดังอีกด้วย ”

 

เอริคคํานวณพื้นที่ตามที่โรเบิร์ต เชียร์พูด พื้นที่ตรงนี้รวมๆกัน 1000 ตารางเมตรโดยประมาณ เขาดูแผนที่ที่ผู้ช่วยยื่นมาให้…เมื่อพิจารณาตามพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทิศใต้มีพื้นที่ประมาณ 400 เมตร ตะวันออกมีพื้นที่ไม่ถึง 300 เมตร

 

“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ทําไมไม่สร้างตึกสํานักงานให้อยู่ไกลจากถนนสักหน่อยละ ?” เอริคดูแผนที่แล้วเงยหน้าขึ้น

 

” เดิมที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์คิดจะสร้างย่านธุรกิจขนาดเล็กที่นี้อยู่แล้ว แต่น่าเสียดายที่หุ้นบริษัทของปีที่แล้วล่มละลาย จึงทําให้มีเงินทุนไม่พอที่จะสร้างต่อ ก่อนที่ตึกนี้จะถูกปิดลง ดังนั้นเอริค ถ้าเราอยากรับช่วงต่อฉันคิดว่านี่คือการลงทุนที่คุ้มค่ามากสําหรับบริษัท Firefly “

 

เมื่อเอริคได้ยินอย่างนั้นก็ทําให้เขาตื่นเต้นขึ้นไม่น้อย ถ้าซื้อที่ดินผืนนี้ บริษัท Firefly จะถือว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์แห่งแรก และที่สําคัญไปกว่านั้นคือก่อนที่เอริคจะมาเกิดใหม่ที่นี้ ธุรกิจพวกอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่สร้างกําไรได้อย่างมหาศาล แม้ว่าอสังหาริมทรัพย์ในอเมริกาเหนือจะเกิดวิกฤตกาลผันผวนไม่แน่นอนก็ตาม แต่ทั้งหมดก็พัฒนาขึ้นจากการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้

 

” ถ้าเราเอาทั้งหมดราคาจะอยู่ที่เท่าไหร่ครับ ? “ เอริคถามขึ้นในที่สุด

 

” 20ล้านดอลล่าห์ “ โรเบิร์ต เชียร์ตอบกลับ เขากลัวว่าเอริคจะคิดว่าแพงเกินไปจึงรีบพูดขึ้นต่ออีกว่า ” เอริค ราคานี้เราพอจะรับได้นะ คุณดูทั้งสี่ทิศของตึกนี้สิ เราไม่สามารถหาพื้นที่ที่ดีแบบนี้ได้ในเบอร์แบงก์แล้วนะ อีกทั้งการคมนาคมที่นี้ก็สะดวกสบายมาก เพราะอยู่ใกล้กับทางด่วนด้วย “

 

เอริคยิ้มก่อนจะหันหน้าไปทางเจฟฟรีย์แล้วพูดขึ้นว่า “ เจฟฟรีย์ คุณคิดว่าไง ?”

 

“ ฉันเห็นด้วยกับคุณโรเบิร์ตนะ ฉันแนะนําให้เราซื้อตึกนี้ทั้งหมด ที่ตรงนี้เหมาะสมมากสําหรับบริษัท Firefly แห่งใหม่ของเรา ฉันกับโรเบิร์ตไปตรวจสอบกันหลายครั้งแล้ว พื้นที่ตรงนี้ห่างจากบริษัทหนังเหล่านั้นไม่เกิน 5 กิโลเมตร อย่างบริษัท Disney บริษัท Warner บริษัท Global Times และบริษัทหนังอื่นๆอีกหลายแห่ง ด้านข้างของตึกนี้มีสวนเล็กๆด้วย” ขณะที่เจฟฟรีย์พูดมือของเขาก็ชี้ไปทางเนินเขาทางทิศใต้ เขาหยุดพักหนึ่งก่อนพูดต่าว่า “ เอริค คุณดูนั้น เนินเขาที่ลูกนั้นเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ ”

 

เอริคมองไปทางเจฟฟรีย์ เนินเขาที่ไม่ชันมากนักที่เจฟฟรีย์ชี้เป็นส่วนที่ขยายออกมาจาก เบเวอร์ลี่ฮิลส์ แต่พวกเขาไม่เห็นสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของฮอลลีวูด

 

” สัญลักษณ์นั้นโดนเนินเขาบดบังอยู่ “ เจฟฟรีย์อธิบายต่อว่า ” ได้ยินมาว่าบริเวณเนินเขานั้น เคยเป็นของคนที่มีชื่อเสียงอย่างฮาวเวิร์ด ฮิวจ์สมาก่อน แต่ตอนนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าตกไปอยู่ในมืออสังหาริมทรัพย์ไหนแล้ว “

 

เอริคมองไปที่เนินเขานั้นอีกครั้ง

 

เอริคตะลึงเล็กน้อย เจฟฟรีย์และโรเบิร์ตที่ยืนประกบข้างเอริคก็มองไปทางเอริคด้วยความคาดหวัง

 

ฮาวเวิร์ด ฮิวจ์สเป็นผู้ชายที่มีความทะเยอทะยานสูงมาก บางที่พวกเราอาจจะเป็นเหมือน ฮาวเวิร์ด ฮิวจ์ส คนที่สองก็ได้

 

“ โอเค งั้นเอาที่นี่แหละ” เอริคเงยหน้าดูก่อนจะพูดขึ้นว่า ” พวกเราเดินเข้าไปดูกันเถอะ ”

 

โรเบิร์ต เชียร์แสดงออกได้ถึงสีหน้าที่ตื่นเต้นดีใจอยู่ไม่น้อย เพราะที่แห่งนี้เป็นที่ที่เพื่อนของเขาแนะนํามาอีกที ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ค่าคอมมิชชั่นในการขายก็ตาม แต่เขากลับทําให้อสังหาริมทรัพย์ของนิวยอร์กติดหนี้บุญคุณตนจนได้ แน่นอนว่าเงิน 20 ล้านดอลลาห์ไม่ได้กระทบบริษัทมากนัก อีกทั้งโรเบิร์ต เชียร์ก็ยังเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งของบริษัท Firefly อีกด้วย เขาคงจะไม่ทําให้ตัวเองขาดทุนเป็นแน่ จริงๆพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่ดีมาก แต่ก็ไม่ได้มีผู้ซื้อมากนัก พวกเขาเลยเพิ่มราคาให้สูงขึ้นเล็กน้อย ซึ่งก็ไม่มีผู้ซื้อคนใหนที่กล้าจ่ายเงินทั้งหมดในครั้งเดียวเหมือนเอริค ซึ่งผู้ขายเองก็ร้อนเงินเพื่อนําเงินไปแก้ไขปัญหาวิกฤตทางการเงินของเขาทั้งสามคนเดินดูได้รอบหนึ่งจึงมานั่งพักตรงเก้าอี้กยาวที่สนามหญ้า เจฟฟรีย์จึงถามขึ้นว่า “ เอริค คุณจะไปเข้าร่วมงานฉลองเรต ตั้งของซีรี่ย์เรื่อง Friend ที่จัดขึ้นคืนนี้ใช่ไหม ? ”

 

โรเบิร์ต เชียร์ก็มีแววตาที่สนใจเช่นกัน

 

เอริคส่ายหน้า แล้วจู่ๆก็พยักหน้าอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่งุนงงของทั้งสองก็อดยิ้มออกไม่ได้ก่อนจะพูดว่า “ ผมต้องไปครับ ถ้าขึ้นเลื่อนออกไปอีกครั้ง เมอร์ด๊อกต้องสงสัยอะไรบางอย่างแน่ ๆ

 

เจฟฟรีย์หัวเราะ “ ฮ่า ฮ่า ไม่เจอคุณไม่กี่วัน ก็บริษัท Fox ถูกคุณควบคุมแล้วเหรอเนี่ย พวกเขาคงจะได้ยินสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ทั้งสามต่างวางแผนที่จะช่วงชิงการออกอากาศของซีรี่ย์เรื่อง Friend แน่ๆ ”

 

เอริคเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีครามในเมืองลอสแองเจลิสอีกครั้ง ใบหน้าของเขาผ่อนคลายลงเล็กน้อยก่อนพูดต่อว่า “ ถ้าพวกเขาใจเย็นลงสักหน่อยก็ไม่ต้องกังวลมากขนาดนี้หรอก แต่ในสถานการณ์ตอนนี้คงเป็นเรื่องยากที่รูเพิร์ต เมอร์ด็อกจะใจเย็นลงได้”

 

” ทําไมเหรอ “ โรเบิร์ต เชียร์ ถามขึ้นด้วยความสนใจ แม้แต่เจฟฟรีย์ก็แสดงสีหน้าไม่เข้าใจ

 

เอริคอธิบาย ” ถ้าหากสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ทั้งสามแห่งอยากจะกําจัดสถานีโทรทัศน์ Fox จริงๆ ทาง Fox ก็คงไม่ยอมแน่นอน คงต้องถึงขั้นฟ้องร้องคดีกัน ถึงตอนนั้นซีรี่ย์เรื่อง Friend ก็คงต้องงดออกอากาศไป ปกติแล้วการฟ้องร้องคดีแบบนี้ต้องใช้เวลาครึ่งปีเลยที่เดียว สถานีโทรทัศน์ทั้งสามแห่งจึงใช้เวลาช่วงนี้แหละในการกําจัดสถานี Fox โดยการเพิ่มความกดดันให้อีกฝ่าย แต่สุดท้ายแล้วเราก็ไม่สามารถออกอากาศซีรี่ย์เรื่อง Friend ได้หรอกเพราะยังไงก็ต้องรอให้การฟ้องร้องคดีจบลงซะก่อน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยบางที่สถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ทั้งสามแห่งอาจจะทําตามสัญญาที่ให้ไว้กับเราก็เป็นได้”

 

เมื่อโรเบิร์ตฟังจบเขาก็พูดแนะนําเพิ่มเติมอีกว่า ” ถ้าอย่างนั้นก็นําซีซั่นแรกไปให้สถานีโทรทัศน์แห่งอื่นสิ ฉันคิดว่าทั้งสามสถานีนั้นน่าจะเป็นองค์ที่เหมาะสมที่สุด แล้วเราก็เพิ่มส่วนแบ่งจากการโฆษณาของซีรีย์เรื่องนี้ขึ้นอีก 10% “

 

เอริคหันหน้าไปทางโรเบิร์ต เชียร์ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ คุณเบิร์ต ทําไมพวกเราไม่จับตาดูในระยะยาวๆก่อนละ เราอาจจะได้ส่วนแบ่งที่สูงขึ้นอีกก็ได้นะ เพราะตอนนี้พวกเรายังเป็นฝ่ายรุกอยู่ ดังนั้นไม่ใช้โอกาสที่ดีอย่างนี้ไปเล่นงานผู้เล่นกันละ “

 

โรเบิร์ต เชียร์อึ้งไปพักหนึ่งก่อนจะยิ้มเงื่อนๆออกมา ก่อนจะคิดในใจว่า : นี่เราแก่เกินไปหรือความทะเยอทะยานของชายหนุ่มคนนี้มีมากเกินไปกันแน่ ?

 

บนถนนเรียบชายฝั่งทะเล แลมโบกินีสีม่วงคันหนึ่งกําลังแล่นไปบนถนนท่ามกลางรถที่แล่นกันขวักไขว่ อนิสตันใส่เสื้อคลุมสีขาวนั่งอยู่ตรงข้างคนขับ กําลังหยิบกระจกขึ้นมาสองใบหน้าของตัวเอง

 

“ เอริค คุณช่วยฉันดูหน่อย ฉันแต่งหน้าสวยไหม “ หญิงสาวพิจารณาหน้าตัวเองอีกครั้งแล้ว จัดการผมหน้าม้าให้เรียบร้อยก่อนจะหันไปทางเอริค

 

เอริคประคองใบหน้าของหญิงสาวแล้วพิจารณาสักพักก่อนหันกลับไปมองทาง” โอเคแล้วสวยแล้ว ว่าแต่เจนนี่ เธอเป็นคนเลือกชุดสีขาวนี้เองเหรอ ?”

 

” ใช่สิ สวยไหม ? “ ถ้าไม่ได้นั่งอยู่บนรถอนิสตันคงยืนแล้วหมุนให้เอริคดูแล้ว

 

เอริคทนไม่ไหวจึงพูดต่อว่า ” พรุ่งนี้ฉันจะโทรหาคาร์พูล ให้เขาช่วยหาสไตลิสต์ให้คนหนึ่ง ตอนนี้เธอเป็นดาราดังแล้วนะ ต้องเรียนรู้การแต่งตัวสักหน่อย ”

 

“ อื้อ “ อนิสตันได้ยินประโยคนั้นของเอริคพูดก็เข้าใจได้ทันที หญิงสาวไม่ได้โง่นะที่จะไม่เข้าใจคําพูดของเอริค หล่อนจึงหันไปพูดด้วยความั่นใจว่า “ คุณกําลังจะบอกว่า การแต่งตัวของฉันมีปัญหาเหรอ ? ”

 

เอริคพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะใช้น้ำเสียงอันอบอุ่นพูดขึ้นว่า “ ที่จริงมันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก เพียงแต่ว่า ชุดนี้ค่อนข้างน่าจะเหมาะกับงานประกาศผลรางวัลมากกว่างานปาร์ตี้แบบนี้ “

 

” ว้า…ก็จริงแฮะ ไม่ได้การละ เอริค ยูเทิร์นกลับเดี๋ยวนี้ ฉันต้องจะต้องกลับไปเปลี่ยนชุด “ หญิงสาวก้มหน้าลงพิจารณาชุดตัวเองที่ยาวจนถึงพื้นก็รีบหันไปเขย่าแขนเอริคทันที

 

” เฮ้ เฮ้ เฮ้ อย่ากวนสิ ฉันกําลังขับรถอยู่นะ ”

 

อนิสตันเก็บมือกลับมาทันที แต่ยังคงพูดเหมือนเดิม “ รีบกลับสิ ฉันต้องรีบกลับไปเปลี่ยนชุด นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจะได้ออกงานคู่กับคุณ ฉันไม่อยากให้ใครหัวเราะเยาะ ”

 

เอริคเคาะไปที่นาฬิกาของตัวเอง “ ไม่ทันแล้ว กลับไปตอนนี้แล้วมาใหม่ต้องสายแน่ๆ ”

 

” เฮ้อออ…” อนิสตันที่กําลังก้มหน้าอย่างกลุ้มใจ จู่ๆหล่อนก็เงยหน้าขึ้นแล้วหันไปค้อนใส่เอริคทันที “ แสดงว่าคุณเห็นตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม แล้วทําไมตอนนั้นถึงไม่เตือนฉันละ ? “

 

” ที่ฉันไม่แสดงอะไรตอนนั้นก็เพราะฉันรู้สึกว่าเธอสวยแล้ว”

 

มือ แล้วที่นี้จะทํายังไงละ ?

 

เอริคหันไปมองป้ายจราจรนอกหน้าต่างรถก่อนพูดขึ้นว่า ” มีอีกวิธีหนึ่ง วิลล่าของเวอร์จีเนียไม่ไกลจากนี้ ถ้าเธอยินยอมเราจะไปวิลล่าของหล่อนแล้วดูว่ามีชุดไหนที่เหมาะกับเธอไหม ฉันมีกุญแจวิลล่าของหล่อนพอดี ”

 

“ ไม่ ฉันยอมโดนหัวเราเยาะ ” หญิงสาวหันหน้าหนีทันที

 

เอริคยักไหล่อย่างจนปัญญา ” งั้นก็ช่วยไม่ได้ในงานปาร์ตี้ก็ระวังอย่าสะดุดกระโปรงตัวเองแล้วกัน ”

 

ปาร์ตี้ฉลองเรตติ้งของซีรี่ย์เรื่อง Friend ไม่ได้ถูกจัดในโรงแรมแต่อย่างใด แต่ตระกูลเมอร์ด๊อกไปจัดที่สถานที่กษัตริย์ที่ชื่อว่ามาลีบลู

 

เมื่อรถมาถึงที่แห่งนี้ เอริคยื่นกุญแจให้กับคนรับรถ ก่อนจะจูงอนิสตันเดินเข้าไปในงาน

 

เมื่อรู้ว่าเอริคมาถึงแล้ว รูเพิร์ต เมอร์ด็อกและแบร์รี่ ดิลเลอร์ที่มาถึงก่อนแล้วก็เดินเข้ามาต้อนรับเอริคทันที

 

เอริครู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นเอลิซาเบธที่ไม่ได้เจอมาหลายวันเดินคู่กับเมอร์ด็อกเข้ามาต้อนรับเขาเช่นกัน หญิงสาวยิ้มอย่างงดงามให้กับเอริค แต่เขากลับมองออกว่ารอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้านั้นไม่ได้มาจากความจริงใจเลยสักนิด

 

I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด

I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด

我就是好莱坞
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูดผู้กำกับหนังได้กลับมาเกิดในปี 1988 ที่ฮอลลีวูดในฐานะเด็กชายชาวตะวันตกวัย 18 ปีที่ชื่อ เอริควิลเลียม จากนั้นเขาก็เริ่มเขียนบนทหนัง เพลงและรายการทีวีขึ้น แล้วกลายเป็นผู้กำกับที่เก่งในทุกด้านของวงการบันเทิง ชนะใจของดาราสาวทุกคนและเข้าสู่เส้นทางตำนานผู้กำกับแห่งฮอลลีวูด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset