I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด – ตอนที่ 227

ตอนที่ 227 เพื่อนร่วมทีมที่โง่เขลา

 

หลังจากที่ได้ยินเสียงตําหนิของแม่ สตีเวิร์ดก็ทําหน้าตาบึงตึงใส่เอลิซาเบธในทันทีก่อนที่จะก้มหน้าพร้อมกับเล่นรูบิกในมือของตนเองต่อ

 

หลังจากที่สงบสติลงแล้วหญิงสาวก็ค้นพบว่าในเวลานี้หล่อนถูกเด็กชายคนนั้นเล่นหัวเสียแล้ว แต่หล่อนก็ไม่ได้นึกใส่ใจอะไรหรือนําการกระทําของเด็กที่มีอายุเพียง 8 ปีมาคิดเล็กคิดน้อยอะไร

 

หล่อนถือนิตยสารไว้ในมืออยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะหันหน้าไปทางประตูห้องประชุมเล็กที่ถูกปิดอยู่ในเวลานี้

 

เป็นเพราะคนงี่เง่าคนนั้นเพียงคนเดียว!

 

หญิงสาวพึมพําในใจอย่างเงียบๆ พร้อมกับนึกโกรธเอริคขึ้นมา

 

เอริคที่อยู่ภายในห้องประชุมถัดออกไปยังไม่รู้ตัวว่าในเวลานี้เขากําลังถูกคนที่อยู่ ด้านนอกแอบพึมพําด่าอยู่ในใจ เอริคนั่งตรงข้ามไบรอันและชาร์ลีสัน แลงเคิลด้วยใบหน้าเรียบไร้การแสดงความรู้สึก

 

” 10ล้านเหรียญและส่วนแบ่งบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาเหนือ 10 % ชาร์ลีนี่คือความหมายที่คุณกําลังจะพูดถึงใช่ไหม ? ” หลังจากที่เอริคเงียบไปครู่หนึ่งเขาก็เอ่ยถามขึ้น ดูเหมือนว่า Caa ยังไม่ได้รับบทเรียนเพราะในเวลานี้พวกเขาได้แสดงความโลภของตนเองออกมาอีกครั้ง การเจรจาของครูซและแฮงซ์ก่อนหน้านี้ Caa กําลังพยายามที่จะได้รับส่วนแบ่งกําไรที่มูลค่าสูง ส่วนแบ่งบ็อกออฟฟิศและส่วนแบ่งกําไรแม้ว่าจะมีความแตกต่างทว่าท้ายที่สุดผลลัพธ์ที่จะได้กลับมีความแตกต่างอยู่ที่หลายสิบล้านดอลลาร์

 

ชาร์ลีมองไปที่เอริคด้วยความประหม่าโดยที่เขาเองไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากพูดออกมาอย่างไร ไบรอันที่อยู่ข้างเขาในตอนนี้จึงพูดขึ้นว่า “ คุณวิลเลี่ยม คุณแลงเคิลได้มอบหมายการเจรจาครั้งนี้ไว้ให้กับผมแล้ว เขามาที่นี่เพียงเพื่อรับฟังเท่านั้นหากคุณมีปัญหาอะไรคุณสามารถถามผมได้โดยตรง ”

 

” อ่อ ” เอริคตอบเสียงเรียบก่อนจะถามขึ้นว่า “ ถ้าการเจรจาในครั้งนี้เกิดความเสียหายหรือผิดพลาด คุณคัซแมนสามารถรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นได้สินะ ?”

 

หลังจากที่คําพูดของเอริคถูกกล่าวออกไป ชาร์ลีซัน แลงเคิลก็มองไปที่ตัวแทนของเขาทันทีพร้อมแสดงออกทางสีหน้าอย่างระมัดระวัง

 

เห็นได้ชัดว่าชาร์ลีเองก็รู้ว่าเงื่อนไขในครั้งนี้เมื่อเทียบกับกฏการจ่ายของดาราฮอลลีวูดแล้วมีบางอย่างที่ไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่นัก ซึ่งภายในใจของเขากลับก็รู้สึกได้ถึงความขัดแย้งของสิ่งเหล่านี้ ในอีกมุมหนึ่งแลงเคิลเองก็อยากที่จะได้รับค่าตอบแทนและสัญญาที่ได้ผลประโยชน์สูง ทว่าในเวลาเดียวกันเขาเองก็รู้ดีว่าหากยังยืนยันเงื่อนไขการได้รับผลประโยชน์เช่นนี้ต่อไป ดูเหมือนว่าการเจรจาจะมีข้อผิดพลาดและได้รับความเสียหายสูงเช่นกัน

 

เอริคมองหน้าของแลงเคิลที่กําลังถอดสี หัวใจของเขาก็สงบลงในทันที ขอเพียงแค่ฝ่ายตรงข้ามไม่ส่งมอบอํานาจการต่อรองให้กับตัวแทนรายใหม่อย่างสมบูรณ์ก็เพียงพอแล้ว

 

เอริคเองก็ไม่รู้ว่าทําไม Caa ถึงได้เปลี่ยนตําแหน่งของฮอร์เนอร์ วิลลี่ให้คนอื่นเข้ามาแทนที่ แต่ดูเหมือนว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสาเหตุของความวุ่นวายในช่วงครึ่งปีแรก

 

แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่เอริคกังวล เพราะเขารู้จักตัวตนของแลงเคิลเป็นอย่างดี เขาเป็นชายวัยกลางคนที่ไม่ได้มีความเห็นใดๆ ทว่าเขามักจะเก็บเรื่องที่เหนือความสามารถไว้ในมือของเขา และมักจะเป็นทุกข์กับการสูญเสียที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง

 

ดังนั้นเอริคจึงรู้ว่าวัตถุประสงค์หลักของการเจรจาในครั้งนี้จุดเปลี่ยนจะอยู่ที่แลงเคิล ดูเหมือนว่าในครั้งนี้ไบรอัน คัซแมนจะฉลาดและดูมีความมั่นคงมากกว่าฮอร์เนอร์ วิลลี่ แต่เคยมีคนกล่าวไว้ว่านักรบที่ทรงพลังก็ไม่สามารถที่จะทนการลากดึงของเพื่อนร่วมทีมที่โง่เขลาได้

 

ไบร์อันยังคงปกปิดความต้องการของแลงเคิลไว้ ก่อนหน้านี้เขาได้พูดคุยอย่างละเอียดกับชายวัยกลางคนคนนี้มาก่อนแล้ว โดยที่เขาบอกว่าตราบใดที่แลงเคิลไม่เข้ามาแทรกแซงในการเจรจา เขาก็สามารถที่จะเรียกค่าตอบแทนและสัญญาต่างๆที่เพิ่มมากขึ้นจากฝ่ายตรงข้ามได้ และแน่นอนว่าเขาเองก็จะได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน แต่เป็นที่น่าเสียดายที่สามีภรรยาคู่นี้ปฏิเสธที่จะให้อํานาจทั้งหมดกับเขาในการเจรจาครั้งนี้

 

และในเวลานี้เอริคเองก็แค่พูดออกมาเป็นการลองเชิงฝ่ายตรงข้าม และดูเหมือนว่าชายวัยกลางคนที่ไร้ความสามารถผู้นี้จะ เปิดเผยรายละเอียดของเขาไปหมดแล้ว

 

ไบรอันรู้ดีว่าหากแลงเคิลยังอยู่ภายในนี้ การเจรจาระหว่างเขาและเอริคก็คงจะไม่มีอะไรก้าวหน้าอย่างแน่นอน

 

” คุณแลงเคิล หากคุณเชื่อใจผม ผมคิดว่าคุณควรจะออกไปรอข้างนอกก่อนนะ “ เพื่อที่จะไม่ให้แลงเคิลรบกวนแผนที่เขาวางไว้ก่อนหน้านี้ ไบรอันจึงยิ้มออกมาพร้อมกับบอกให้แลงเคิลออกไปรอด้านนอก

 

เอริคแสร้งทําเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่ไบรอันพูดและเขาเองก็ไม่ได้แสดงท่าทางคัดค้านใดๆ เพราะในเวลานี้เขาได้นําความไม่ไว้วางใจของพวกเขาทั้งสองใส่ไว้ในใจของแลงเคิลแล้ว หากในเวลานี้แลงเคิลเลือกที่จะออกจากห้องนี้ไปดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อย

 

หลังจากที่แลงเคิลได้ยินคําแนะนําของไบรอัน ร่างกายของเขาก็ขยับเล็กน้อยทว่าเขากลับไม่ได้ลุกขึ้นอย่างที่ไบรอันคิดไว้ ผ่านไปครู่หนึ่งแลงเคิลก็กล่าวขึ้นมาว่า ” ไบรอัน ผมคิดว่าผมอยู่ที่นี่ดีกว่า พวกคุณเจรจากันไปผมจะนั่งฟังอย่างเงียบๆโดยที่ผมจะไม่แทรกบทสนทนาของพวกคุณ ”

 

ไบรอันวางมือของตนเองพร้อมกับบีบแน่นกว่าใบหน้าของเขายังคงยิ้มอยู่ เขาพูดกับเอริคโดยที่ไม่ได้สนใจชาร์ลีว่า ” คุณวิลเลี่ยม พวกเรารู้ว่าคุณและ Fox ได้ทําการเซ็นต์สัญญากันแล้ว และ สิทธิ์ในการขายของหนังก็มีเรื่อง Home alone อยู่ภายในนั้นด้วย ผมคิดว่าหากคุณยินดีที่จะให้ Fox เองก็คงจะไม่ยอมให้การเจรจาครั้งนี้ล้มเหลว ใช่ไหม ?”

 

” งั้นคุณก็ควรจะรู้นะ ว่า บ็อกออฟฟิศในเวลานี้ได้ทะลุ 200 ล้านเหรียญสหรัฐจากหนังเรื่อง The Dark War ซึ่งเดิมที่เป็นของ Fox แต่ท้ายสุดกลับกลายเป็นว่าถูกบริษัท Columbia นําไปเป็นของตนเอง ดังนั้นมันเป็นเรื่องใหญ่ของผมที่จะถ่ายทําภาพยนตร์เรื่องใหม่ให้กับ Fox ” เอริคกล่าวออกมาเรียบๆพร้อมกับควงปากกาในมือของเขา

 

ไบรอันได้ยินเช่นนั้นก็เกิดอาการลังเลก่อนที่จะกล่าวว่า “ Fox คงจะไม่ยินยอมให้คุณเปลี่ยนภาพยนตร์ง่ายๆหรอก เพราะคุณไม่สามารถสร้างผลงานที่โด่งดังเท่ากับหนังเรื่อง Home alone ได้ “

 

ได้ยินคําพูดของไบรอัน ภายในใจของเอริคก็รู้สึกราวกับถูกก้อนหินวางถ่วงไว้ในใจ ดูเหมือนว่า Caa จะไม่รู้เกี่ยวกับรายละเอียดเกี่ยวกับสัญญาที่เขาเซ็นต์กับ Fox ก่อนหน้านี้

 

ในตอนต้นของสัญญาสําหรับภาพยนตร์สามเรื่องของ Fox ก่อนหน้านี้ เดิมที่ได้มีการตกลงที่จะทําภาคต่อของหนังเรื่อง Home alone ดังนั้นพวกเขาจึงยอมรับเงื่อนไขของเอริค ซึ่งหนึ่งในเงื่อนไขคือการที่สตีเวิร์ดจะต้องแสดงเป็นนักแสดงนําต่อให้กับหนังเรื่องนี้

 

เนื่องจาก Caa ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงทําให้เอริคมีความมั่นใจและมีความกล้ามากขึ้นที่จะพูดแทรกขึ้นมาโดยไม่มีความกังวลว่า “ ถ้า Fox ไม่ยอมที่จะเปลี่ยนภาพยนตร์ ผมก็ยังสามารถที่จะเปลี่ยนนักแสดงนําได้ และผมเชื่อว่ามีครอบครัวจํานวนมากที่จะส่งลูกของตนเอง เข้ามาแสดงภาคต่อของหนังเรื่อง Home alone ด้วยการเรียกค่าตัวที่ต่ํากว่าหลายหมื่นดอลล่าร์ คุณว่าจริงไหมละ ? “

 

พูดจบ เอริคก็หันไปมองแลงเคิล เขาเชื่อว่าในเวลานี้แลงเคิลจะต้องเกิดอาการสะอึกกับคําพูดของเขาอย่างแน่นอน

 

แม้ว่าค่าตัวส่วนแรกของสตีเวิร์ดที่มาจากการเล่นหนังเรื่อง Home alone จะไม่ได้สูง แต่เขาก็มีชื่อเสียงภายในช่วงปีนี้เป็นอย่างมาก และเป็นเพราะการเซ็นต์สัญญาของสตีเวิร์ดจึงทําให้สามีภรรยาคู่นี้มีรายได้ถึงหนึ่งล้านเหรียญ “ ชาร์ลี รู้สึกว่าสัญญาที่สตีเวิร์ดเซ็นต์ไว้จะเป็นสัญญาระยะหนึ่งปีใช่ไหม ? หากผู้โฆษณารู้ว่าสติวไม่ได้เป็นนักแสดงนําภาคต่อของหนังเรื่อง Home alone แล้ว คุณคิดว่าพวกคุณจะยังได้รับเงินหลายสิบล้านดอลลาร์จากผู้โฆษณาในปีหน้าได้อีกเหรอ ? “

 

” คุณวิลเลี่ยม คุณเอาแต่พูดถึงเรื่องของพวกเรา ทําไมคุณถึงไม่พูดเรื่องของตัวเองบ้างละ ถ้าภาคต่อของหนังเรื่อง Home alone ไม่ได้ประสบความสําเร็จ Firefly เองก็อาจจะต้องสูญเสียเงินมากกว่าหลายร้อยล้านดอลลาร์เลยไม่ใช่หรอ ? ถ้าเอามาเปรียบเทียบกันแล้ว ข้อเสนอของเราดูเหมือนว่าจะเหมาะสมอย่างมาก อีกอย่างสตีเวิร์ดก็เป็นนักแสดงหลักที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครด้วย ”

 

เอริคส่ายหน้าก่อนจะกล่าวว่า ” หากคุณยืนยันกับข้อเสนอแปลกๆของพวกคุณเช่นนี้ Firefly ที่มีหน้าที่ในการจ่ายเงินให้กับสตีเวิร์ด ท้ายที่สุดจะมีส่วนแบ่งเพียง 25 % จากหนังเรื่องนี้อีกอย่าง ในจํานวนเหล่านี้ยังต้องหักกับการนําภาคต่อจากภาคแรกออกไปด้วยซึ่งอาจจะมีมูลค่าเกิน 25 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในงบประมาณการผลิตในท้ายที่สุดผลกําไรของเราอาจไม่ได้ดีมากนัก นี่ยังไม่รวมถึงการสูญเสียเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย อีกอย่าง คุณเข้าใจผิดแล้วคุณไบรอัน ในฮอลลีวูดไม่มีใครมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวหรอก ผมสามารถบอกคุณได้เลยว่าในเวลานี้ Fireflyมี แผนทางเลือกที่มากกว่าหนึ่ง หากค่าตัวที่พวกคุณเรียกร้องสูงจนเกินไป พวกเราก็คิดไว้แล้วว่าจะ เปิดรับนักแสดงหน้าใหม่ที่จะมาเล่นหนังเรื่อง Home alone ในทันที ซึ่งจากการประกาศหานักแสดงจะทําให้หนังเรื่องนี้ได้รับชื่อเสียงอีกครั้ง อีกอย่างงบประมาณการผลิตขั้นสุดท้ายอาจเป็นเพียงเศษเสี้ยวของ 25 ล้านเหรียญเท่านั้น”

 

ไบรอันที่ได้ยินเช่นนั้นกําลังจะกล่าวคัดค้านออกมา ทว่าชาร์ลีที่นั่งอยู่ด้านข้างก็อดไม่ได้ที่จะเปิดปากพูดขึ้นว่า “ เอริค ดูเหมือนว่าคุณจะยังไม่ได้พูดว่าจะให้ค่าตอบแทนกับสตีเวิร์ดจํานวนเท่าไหร่นะ ?”

 

ไปตายซะ !

 

ไบรอันอดไม่ได้ที่จะด่าออกมาในใจ ในเวลานี้ภายในใจของเขาเดือดดาลจนแทบอยากจะใช้หมัดของตัวเองซัดเข้าไปที่หน้าอ้วนๆของแลงเคิลที่นั่งอยู่ด้านข้างเขาเป็นอย่างมาก

 

” 80 ล้านเหรียญ “

 

เอริคพูดจํานวนเงินออกมาหลังจากนั้นก็พูดแทรกขึ้นมาอีกว่า “ ชาร์ลี คุณไม่ควรที่จะสนใจอยู่กับค่าตัวเล็กๆน้อยๆพวกนี้นะ คุณควรจะมองให้ไกลออกไปมากกว่านั้นซึ่งทุกคนมองเห็นกันหมดศักยภาพของสตีเวิร์ดจะเพิ่มมากขึ้นในด้านการโฆษณา ตราบใดที่เขายังสามารถรักษาชื่อเสียงในหนังเรื่อง Home alone ไว้ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นเมื่อถึงปีหน้าพวกคุณก็จะยังได้รับเงินหลายสิบล้านดอลลาร์ และหลังจากนั้นสตีเวิร์ดก็จะเป็นดาราฮอลลีวูดที่มีชื่อเสียงได้ไม่ยาก ในกรณีเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นทอม ครูซ บรูซ วิลลี่ หรือจูเลีย โรเบิร์ตพวกเขาต่างก็มีค่าตัวไม่ถึง 80 ล้านเหรียญอีกอย่างพวกเขาก็ไม่ได้รับการเป็นพรีเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่องเหมือนกับสตีเวิร์ดด้วยเพราะพวกเขามีคู่แข่งในวัยเดียวกันเป็นจํานวนมาก ”

 

” คุณวิลเลี่ยม” 

 

ไบรอันเคาะโต๊ะราวกับว่าจะพูดแทรกอะไรขึ้นมา

 

แต่ในเวลานี้เอริคกลับไม่ได้สนใจเขา เขายังคงมองไปที่ชาร์ลีก่อนจะพูดขึ้นว่า ” ดังนั้น หาก Firefly ใช้วิธีอย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ สติวก็อาจจะไม่ได้รับชื่อเสียงในปีหน้า ถึงแม้ว่าภาคต่อของหนังเรื่อง Home alone จะเกิดการเปลี่ยนตัวนักแสดงจริงๆมันก็อาจจะมีความเสี่ยง แต่ความหวังในความสําเร็จที่จะเกิดขึ้นมันก็ยังมีอยู่สูงมากเช่นกัน คุณคิดว่าหากหนังเรื่องนี้ประสบความสําเร็จอีกครั้งเขาจะเลือกพรีเซ็นเตอร์ที่เป็นนักแสดงใหม่หรือจะเลือกสติวที่ถูกปลดออกจากหนังไปแล้วหล่ะ ? ผมว่าคุณน่าจะเห็นข้อนี้ชัดเจนมากพอนะ คุณลองคิดดูเถอะ ชาร์ลี การที่คุณคาดหวังกับรายได้และสัญญาที่มันไม่สมเหตุสมผล อาจจะทําให้คุณขาดรายได้จํานวนหลายสิบล้า นเหรียญ อ้อไม่สิ.. บางทีอาจจะมากกว่าหลายร้อยล้านเหรียญ เพราะบทต่อของหนังเรื่อง Home alone จะถ่ายทําหลายตอน ไม่ว่าสติวจะยังเป็นนักแสดงหลักหรือ Firefly เปิดรับนักแสดงหน้าใหม่มาแทนที่ ดูเหมือนว่าจะเป็นการสร้างคู่แข่งให้กับสติวในทุกๆปีเลยนะ ”

 

เอริคพูดจบ หน้าผากของชาร์ลีก็มีเหงื่อไหลซึมออกมา ไบรอันที่นั่งข้างเขาในเวลานี้เขารับรู้ได้ถึงความล้มเหลวในการเจรจาที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นเพราะชาร์ลีถูกเอริคพูดจนทําให้เขาลังเล ถึงเวลานี้ถึงแม้ว่าเขาจะกลับคําพูดหรือคิดอยากจะแก้ตัวก็คงจะไม่ทันแล้วเสียแล้วสิ

 

I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด

I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด

我就是好莱坞
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูดผู้กำกับหนังได้กลับมาเกิดในปี 1988 ที่ฮอลลีวูดในฐานะเด็กชายชาวตะวันตกวัย 18 ปีที่ชื่อ เอริควิลเลียม จากนั้นเขาก็เริ่มเขียนบนทหนัง เพลงและรายการทีวีขึ้น แล้วกลายเป็นผู้กำกับที่เก่งในทุกด้านของวงการบันเทิง ชนะใจของดาราสาวทุกคนและเข้าสู่เส้นทางตำนานผู้กำกับแห่งฮอลลีวูด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset