Chapter 113 – นักข่าว
เอริค พยายามทำให้เธอยินดีต่อ – “ งั้นมันมี ซาราล์ใน Ladyrinth เพื่อให้ได้เห็นเธอมากกว่าเดิม ฉันซื้อวิดีโอมาดูแต่โชคร้ายที่ทำมันหาย โอ้ และงานล่าสุดของเธอ Some Girls ฉันเองก็ชอบมันนะ “
เมื่อได้ยินที่ เอริค พูดถึงหนังเรื่องล่าสุดของเธอ เจนนิเฟอร์ ก็อายขึ้นมาเล็กน้อย Some Girls นั้นคือความพยายามครั้งแรกในหนังเรื่อใหญ่ ดังนั้นเธอจึงสนใจเรื่องคำวิจารณ์อย่างมาก
เหตุผลว่าทำไมเธอถึงถ่ายหนังเรื่องนั้นคือหลังจากรายได้ Labyrinth ล้มเหลว เธอก็หางานไม่ได้อยู่นาน เธอถึงกับพยายามไปที่ญี่ปุ่นเพื่อหาโอกาสใหม่ เธอถ่ายโฆษณาหลายอย่างที่นั่นและแม้แต่ทำเพลงให้กับทางญี่ปุ่นสองเพลงอย่าง Monologue of Love
และ Message of Love เธอร้องโดยการอ่านซับญี่ปุ่นเพราะเธอพูดภาษานั้นไม่เป็นแต่มันก็ไม่ได้ช่วยในเรื่องอาชีพของเธอเลย
หลังจากที่กลับมายังอเมริกา เพื่อที่จะอยู่ในฮอลลีวูดต่อ เธอต้องถ่ายหนัง Some Girls ไม่งั้นแล้วเธอก็ต้องกลับบ้านไป
เธอเป็นเพียงเด็กวัยรุ่น ดังนั้นหลังจากที่ได้ยินที่ เอริค ชม เธอก็ลดการระวังตัวและเปิดใจให้กับเขา หลังจากที่เธอใจเย็นลงแล้ว เธอก็เหมือนกับคนช่างพูด เธอเริมเปิดเผยชีวิตส่วนตัวของเธอและกินมื้อเย็นต่อไป การพูดคุยของพวกเขาเริ่มเป็นกันเองมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากที่กินมื้อเย็นเสร็จ เธอก็ได้ควงแขน เอริค และเดินไปที่ลานจอดรถกับเขา เมื่อเธอกลับเข้าไปในรถ เธอก็ต้องกังวลอีกครั้งว่าเขาจะไม่พาเธอกลับที่โรงแรมของเธอแล้วเธอจะทำยังไง ? เธอควรปฏิเสธเขาดีมั้ย ? รึเธอควรรับคำเชิญจากเขา ?
แต่บางที….
เธอรู้สึกกังวลจนเอามืออกมาเกาะกระเป๋าถือ ในตอนที่เธอพยายามแอบมอง เอริค เธอก็ต้องสบตากับเขา ในความหมายนั้นเธอรีบหลบสายตาทันที
เอริค ยิ้มกับความน่ารักของเธอ เขายังต้องการใช้เวลาอยู่กับเธอต่อ ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นมา – “ ก่อนที่ฉันจะพาเธอกลับ ไปดูหนังกันก่อนละกัน “
มันก็เหมือนกับคนที่มีโทษถึงตายที่ได้ยินว่าจะได้รับการเลื่อนโทษไป เจนนิเฟอร์ รีบพยักหน้าด้วยความตื่นเต้นและตระหนักได้ว่าท่าทีของเธอนั้นดูเกินไปหน่อย เธอจึงยิ้มออกมาด้วยความอาย
เมื่อเห็นเธอยิ้ม เอริค ก็พูดขึ้นมา – “เธอควรยิ้มให้มากก่วานี้ ฉันชอบเห็นเธอยิ้ม “
… …
เอริค ขับไปตามท้องถนนของเบเวอรี่ฮิลล์ เขาพยายามหาโรงหนังดีๆ ในตอนที่เขาพบ เขาจะจอดรถด้านนอกและมองไปที่โปสเตอร์หนัง หนังเรื่องแรกที่เขาเห็นคือหนังที่เพิ่งเข้าฉาย Road House
เขาไปจอดรถที่ลานจอดรถ เขาเดินไปที่ช่องขายตั๋ว จากนั้นก็ซื้อตั๋วออกมาสองใบ
“ หนังเรื่องอะไร ?” – เมื่อเห็น เอริค กลับมาที่ข้างๆเธอ เจนนิเฟอร์ ก็ได้ถามขึ้นมาแต่เมื่อเห็นตั๋วหนังในมือเขา เธอก็พูดขึ้นมา – “ Road House ไม่ใช่ว่าเป็นหนังใหม่ของ ริชาร์ดเกียรร์ หรอกเหรอ ในหนังสือพิมพ์มันบอกว่า….”
เมื่อพูดถึงตรงนั้นเธอก็ยุดไปทันที
เอริค จับมือของเธอแล้วเดินเข้าไปในโรงหนังและพูดขึ้นด้วยความแปลกใจ – “ ในหนังสือพิมพ์พวกเขาว่าไง ?”
“ มัน….มันบอกว่า Road House น่ะต้องทำได้ดีกว่า Pretty Woman ของนายแน่ “
“ ดูเหมือนว่า United Artists จะทำการกระตุ้นให้หนังพวกเขา พวกเขาถึงกับใช้กลยุทธกระจอกๆนี่ด้วย “ – เอริค หัวเราะออกมา – “ งั้นเธอคิดว่าข่าวลือนี่เป็นยังไง “
“ ฉันเชื่อว่าการวิเคราะห์ของหนังสือพิมพ์น่ะมีเหตุผลอย่างมาก “ – เจนนิเฟอร์ ตอบกลับอย่างอ่อนแรง
“ โอ้ รอเดี๋ยวนะ บอกฉันมาว่ามันบอกมาว่ายังไง ฉันว่าฉันสนใจมันแล้ว “
… …
ในตอนที่ทั้งสองคุยกันและซื้อป๊อปคอร์น มันก็มีชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังไม่ไกลจากพวกเขา ชายคนนี้ผิวขาวตัวเตี้ยและผอม เขามีกล้องที่กำลังถ่ายรูปของทั้งคู่อยู่และเขาก็ยิ่งตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนนั้นจะไปดู Road House นิ้วของเขาที่กดชัตเตอร์นั้นเร็วขึ้นยิ่งกว่าเดิม
ในตอนที่ เอริค และ เจนนิเฟอร์ เดินเข้าไปในโรงหนัง วิคเตอร์ ก็ได้ลดกล้องลง เขาคือนักข่าวของนิตยาสาร Los Angeles Fashion เขารับหน้าที่ในพวกข่าวแฟชั่น หลายครั้งที่เขาได้ติดต่อกับดารามากมาย ดังนั้นเมื่อ วิคเตอร์ เห็นข่าวที่มีค่า เขาจึงงอดไม่ได้ที่จะทำตัวเป็นปาปารัสซี่เพื่อหาเงิน
การได้พบ เอริค กับ เจนนิเฟอร์คอนเนลลี่ วันนี้ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญเพราะมันเกินเวลาการทำงานแล้ว วิคเตอร์ กำลังขับรถกลับบ้านตอนที่เขาเห็นรถของ เอริค ดังนั้นเขาจึงพยายามตามมาเพื่อถ่ายรูป
หลังจากที่ดูหนัง Pretty Woman , เขาจำได้ทันทีเพียงแค่มองรถของ เอริค แว๊บเดียว รถคันนี้จะวางขายในอีกไม่กี่เดือน ดังนั้นเขาคิดว่าถ้าเขาได้รูปไปบ้างและเขียนบบทความเรื่องรถที่ผลิตขึ้นมาแบบจำกัดนี้ เขาคงสามารถทำเงินได้แน่ๆ
เพราะ Pretty Woman หลายวันมานี้แลมโบกินีนั้นเกือบกลายเป็นยี่ห้อรถสปอร์ตที่ฮิตกันที่สุดในโลก โดยทิ้งเฟอร์รารี่และยี่ห้ออื่นๆไม่เห็นฝุ่นเลย
หลังจากที่ไล่ตามรถคันม่วงมา ในที่สุดรถนั้นก็ได้หยุดที่หน้าทางเข้าโรงหนัง วิคเตอร์ รอจนกว่าเจ้าของรถจะออกจากรถมาแล้วเริ่มถ่ายรูปแต่เขาพบว่าชายที่ลงจากรถนั้นคือผู้กำกับหนุ่มผู้โด่งดัง เอริควิลเลียม
การพบนี้ไม่ได้ทำให้ วิคเตอร์ ตื่นเต้นมากเท่าไหร่ ทุกคนรู้ว่า เอริค และแลมโบกินีได้ร่วมงานกันในการโฆษณารถ เมื่อเป็นแบบนั้นการได้รถแบบนี้มาคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ถ้า เอริค ลงจากรถแค่คนเดียว วิคเตอร์ คงไม่ต้องพูดถึง เอริค ในบทความของเขาและไม่เขียนชื่อของเจ้าของรถเพื่อให้ดูเป็นความลับและทำให้ผู้อ่านสนใจมากกว่าเดิมได้
แต่มีเด็กสาวที่ลงมาจากที่นั่งข้างๆ จากสีหน้าช็อกของ วิคเตอร์แล้ว เด็กสาวคนนี้ไม่ใช่ ดรูวส์ รึ จูเลีย ไม่ใช่ อนิสตัน ที่เป็นแฟนของ เอริค มันเป็นเด็กสาวอีกคน แม้ว่า เจนนิเฟอร์คอนเนลลี่ จะไม่ได้ดังมากเท่าไหร่แต่ วิคเตอร์ ก็ยังรู้ว่าเธอเป็นใคร
ชีวิตส่วนตัวของ เอริค นั้นเป็นที่สนใจของนักข่าวมาเสมอแต่โชคร้ายหลังจากที่เขาดังขึ้นมา เขาก็ไม่ได้ไปที่คลับรึบาร์อีกละเขาก็ไม่ได้มีนิสัยแย่ๆที่ปิดบังเอาไว้ด้วย แม้ว่าจะมีเรื่องผิดปกติตอนที่รู้ว่าเขามีแฟนที่ชื่อ เจนนิเฟอร์อนิสตัน แต่ข่าวนี้ไม่นานก็สงบลง หลังจากนั้นมันก็มีรูปที่โด่งดังที่ทั้งสองไปกอดกันในถนนที่นิวยอร์ก
เมื่อเป็นแบบนี้แม้ว่านักข่าวจะสงสัยเรื่องชีวิตส่วนตัวเขาแต่เพราะเขามักจะหนีนักข่าวเพื่อไม่ให้มาไล่ตามเขา ฮอลลีวูดนั้นมีดารามากมาย ไม่มีใครใช้เวลาหลายเดือนมาไล่ตาม เอริค เพื่อให้ได้ข่าวแค่ข่าวเดียวหรอก
เรื่องอื้อฉาวในวันนี้จึงเป็นของเขาคนเดียว ไม่มีนักข่าวคนอื่นที่แย่งข่าวนี้ไปจากเขาได้ เขาใส่ฟิล์มอันใหม่ลงไปในกล้องและรอคอยอย่างอดทนอยู่นอกโรงหนัง ในตอนที่ใจเต้นรัวนั้น วิคเตอร์ ควรโฟกัสไปที่ เอริค กับแฟนสาวคนใหม่ เจนนิเฟอร์คอนเนลลีรึควรจะโฟกัสไปที่การที่ เอริค มาดู Road House หรือควรที่จะแบ่งหัวข้อนี้เป็นสองเรื่องดี ?
