I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด – ตอนที่ 124

Chapter 124 – งานออสการ์ part 1

วันต่อมา The Hollywood Reporter ได้ตีพิมพ์เต็มหน้ากระดาษสี่แผ่นเรื่องที่ เอริค ได้เขียนไว้และใช้หัวข้อเดียวกับเขาด้วย  เอริค เองก็ไม่เลือกที่จะรับเงิน 1800 ดอลลาร์ที่พวกนั้นเสนอมา ที่มากกว่านั้นเพราะเขาสามารถอธิบายได้ว่าได้ข้อมูลพวกนี้มาจากที่ไหน เขาจึงเลือกที่จะตีพิมพ์บทความพวกนี้ลงในหนังสือพิมพ์ไป
บทความนี้ได้สร้างคลื่นลูกใหญ่ในแวดวงฮอลลีวูดทันที อีกทั้งงานออสการ์ครั้งที่ 61 ก็กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วัน
พวกฝ่ายต่างๆที่ซึ่งยังคงลดชื่อเสียงของ CAA ต่างก็พากันใจเย็นลงและโฟกัสไปที่บทความเหล่านี้
ไม่กี่วันต่อมา สื่อทั้งหมดต่างก็ร้อนระอุ บทความนี้ถึงกับตีพิมพ์เป็นรอบที่สองและหนังสือพิมพ์จำนวนมากถึงกับเริ่มตามกระแสและตีพิมพ์บทความนี้ตามไปด้วย
หลังจากที่อ่านบทความนี้แล้วผู้บริหารระดับสูงของเอเจนซี่ต่างๆก็รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงหยุดการเติบโตของ CAA ไม่ได้
ค่ายหนังใหญ่ส่วนมากนั้นเข้าใจว่าทำไมทุนการทำหนังถึงได้เพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆและทำไมพวกเขาถึงหยุดมันไม่ได้
ไมเคิลโอวิท เองก็เห็นบทความนี้ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่มันตีพิมพ์ขึ้นมา ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงกว่าที่เขาจะอ่านจบ เขาคิ้วขมวดตลอดในตอนที่อ่านบทความนี้ แม้แต่เขาก็อดชื่นชมคนเขียนไม่ได้ บทความนี้อาจจะพูดถึงหลายอย่างที่อยู่ในความคิดของเขาและบางอย่างที่เขาไม่รู้ว่าเขากำลังทำมันอยู่ มันแม่นยำเพราะความคิดนี้คือสิ่งที่เขาเคยใช้ในส่วนของการเจรจาระหว่าง SONY และ Columbia
แต่หลังจากที่คิดว่าทำไมบทความนี้ถึงเกี่ยวข้องกับบริษัทเขา โอวิท ก็โกรธอย่างมากจนเขาเริ่มคิดถึงการฆ่าคนเขียนบทความนี้ เพราะบทความนี้ได้บอกกลยุทธทั้งหมดของ CAA ให้กับคู่แข่งของเขา  ก่อนหน้านี้คู่แข่งของ CAA ทำได้แค่เลียนแบบกลยุทธของ CAA ซึ่งเกี่ยวข้องกับขั้นตอนซับซ้อนมากมายแต่ด้วยบทความนี้ หากคู่แข่งทะเยอะยาน พวกเขาก็สามารถทำตามแบบแผนกลยุทธนี้ได้ แม้ว่าจะไม่ได้เลียนแบบแผนของ CAA แต่พวกเขาก็ใช่ว่าจะหมดหนทางเมื่อเจอกับการเติบโตของ CAA
โชคร้าย The Hollywood Reporter ถึงกับพาดหัวไว้หน้าแรกเพื่อหาคนเขียนบทความนี้แต่พวกเขาก็ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ
สองวันหลังจากที่บทความถูกตีพิมพ์ วิลเลียมมอริส ซึ่งเป็น CEO ของสื่อได้บอกว่าถ้าผู้เขียนเต็มใจ WMA จะจ่ายให้เขา 5% ของหุ้นเพื่อให้เขามาเข้าร่วม WMA ในฐานะรองประธาน แม้ว่าขนาดของ WMA ตอนนี้จะต่ำกว่าที่มันเป็นในอดีตแต่มันก็ยังถึงว่าเป็นเอเจนซี่ที่เก่าแก่ ความต่างระหว่าง CAA กับ WMA นั้นไม่ได้มาก  5% ของหุ้นนั้นหมายถึงได้เงินเป็นสิบล้านดอลลาร์ ในวันเดียวกันหลังจากที่ประกาศ หลายคนที่บอกว่าตัวเองเขียนบทความนี้ขึ้นมาต่างก็แห่กันไปที่ WMA เพื่อพยายามลองรับงานนั้น
— —
ไม่กี่วันต่อมาก็เกิดเรื่องที่ดาราดังได้ออกจาก CAA เหมือนกับ ทอมครูส และดาราดังคนอื่นๆขึ้นอีก  ดาราคนนี้คือ ทอมแฮงค์ ยกเว้นแค่ครั้งนี้ที่ทอมไม่ได้เลือกย้ายไปที่ IMG และ WMA แต่เขากลับเลือกย้ายไปยัง UTA ที่เป็นของ เอริค แทน
ยิ่งกว่านั้น ทอมแฮงค์ ก็ไม่ได้ย้ายไปคนเดียว  เอริค ไม่รู้ว่าทอมใช้วิธีไหนแต่เขาถึงกับไปกล่อมคนของ CAA มากับเขาด้วย
ข่าวนี้ทำให้เกิดการคาดการณ์ต่างๆในแวดวง การขโมยตัวแทนจาก CAA นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย พวกนั้นตอนแรกก็เป็นแค่คนเดินเอกสารแล้วค่อยๆเพิ่มตำแหน่งขึ้นเรื่อยๆ หลังจากทำงานมามากกว่า 10 ปี เมื่อพวกเขาพิสูจน์ความสามารถของตัวเองได้ พวกเขาก็กลายเป็นตัวแทน  จากนั้นหลายปีถ้ามีสิทธิพอ งั้นพวกเขาก็จะกลายเป็นนายหน้าทองด้วยเงินเดือนรายปีที่มากกว่าหนึ่งล้านดอลลาร์
ตัวแทนของ แฮงค์ ได้ออกมาซึ่งหมายความว่ายอมทิ้งสิทธิทุกอย่างที่เขาได้เพิ่มพูนมา ถ้าเขากลับไปยัง CAA ในอนาคต เขาก็ต้องเริ่มจากศูนย์ใหม่
คาปัวร์ และตัวแทนของทอม ไซมอนวิลสัน ต่างก็เห็นถึงสัญญาระหว่าง เอริค กับ แฮงค์  อีกคนที่ได้เห็นนั้นคือผู้รับรองเอกสารใน LA  หลังจากที่ทำสัญญาแล้ว แฮงค์ ก็ไม่ได้ให้ เอริค เอาเงินวางไว้ 100 ล้าน  พวกเขาไปพูดคุยกันในร้านอาหารต่อ
สิ่งเดี่ยวที่ CAA ทำได้คือทำให้ ทอมแฮงค์ ต้องจ่ายเงินค่าเสียหายเล็กน้อยและตัดเงินของทอมในส่วน Running Out of Time ไป
หลังจากที่ แฮงค์ ได้ทำสัญญากับ Firefly  ทอมครูส ก็รู้เรื่องเงื่อนไขค่าตัวของ แฮงค์ และก็เป็นอย่างที่ เอริค คาดเอาไว้  ทอมครูส ได้ลดเงื่อนไขลง สุดท้ายวันหนึ่งก่อนงานออสการ์ ทั้งสองฝั่งก็ได้เซ็นสัญญากัน  ครูส ได้ค่าตัว 5 ล้านและส่วนแบ่งกำไร 5% ของ Running Out of Time ของส่วนอเมริกาเหนือ เงื่อนไขพวกนี้เป็นไปตามที่ เอริค คาดเอาไว้และ เอริค ก็ตัดสินใจที่จะเริ่มถ่ายหนังในวันที่ 5 เมษายน
— —
ในวันที่ 29 มีนาคม หลังจากที่เตียมการมากว่าหนึ่งเดือน งานออสการ์ครั้งที่ 61 ก็ได้จัดขึ้นอย่างเป็นทางการที่Shrine Auditorium ใน LA
เอริค รับหน้าที่เป็นพิธีกรของรางวัลนักแสดงหญิงสมทบยอดเยี่ยม บอกกันว่าผู้จัดแต่เดิมแล้วตั้งใจจะเชิญ เมลานีกริฟฟิน กับสามีของเธอ ดอนจอร์สัน มา แม้ว่า ดอน นั้นจะไม่ได้โด่งดังนัก แต่ภรรยาของเขานั้นได้กระโดดขึ้นมาเป็นดาราแนวหน้าในหนังเรื่องใหม่ของเธออย่าง Working Girl แต่โชคร้ายที่เธอไม่อาจจะแข่งกับ เอริค ซึ่งมี Columbia สนับสนุนอยู่และยังมีเส้นสายมากมายกับทางผู้จัดออสการ์ได้  สุดท้ายทางผู้จัดก็เลือก เอริค มาแทน
“ คาปัวร์ ชุดของฉันโอเครึยัง มันไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย ? “ – ในรถที่ขับช้าๆไปยังงานออสการ์ เวอร์จิเนีย ถามออกมาอย่างกังวล  เธอไม่เคยฝันเลยว่าเธอจะได้มาเดินในงานพรมแดงนี้
เอริค ลูบมือของเธอและพูดขึ้น – “ วิคกี้ ใจเย็นๆ เธอดูสวยแล้ว “
เวอร์จิเนีย นั้นยังคงไม่มั่นใจ เธอลูบผมของเธอเผื่อว่าจะมันจะไม่เข้าทรง เมื่อจำอีกอย่างได้ เธอก็ถามขึ้นมา – “ อ่ะ…..เอริค  ถ้า Tin Toy ชนะรางวัล นายจะให้ฉันขึ้นไปรับรางวัลจริงๆเหรอ ? “
“ แน่นอน “ – เอริค พยักหน้า – “ ฉันไม่ต้องการให้ครั้งแรกในการขึ้นไปรับรางวัลของฉันเป็นหนังอนิเมชันสั้นยอดเยี่ยม “
จอร์นลาสเซสเตอร์ ที่ควรจะไปงานรางวัลนั้นกลับเป็นคนบ้างานหลังจากที่ เอริค ได้ Pixar มา ตอนนี้ จอร์น หวังว่าเขาจะใช้ชีวิตในออฟฟิศของตัวเองได้ ถ้าผู้จัดออสการ์ไม่ได้ส่งบัตรเชิญไปให้ จอร์น คงลืมเรื่องรางวัลนี้แล้ว
แต่หลังจากที่ได้รับบัตรเชิญ จอร์น ก็ได้โทรหา เอริค โดยบอกว่าเขายุ่งและไปไม่ได้ ถ้า Tin Toy ได้รางวัล เอริค ควรที่จะรับมันแทน
เอริค ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรต่อ เขามั่นใจว่าถ้า Pixar เดินในเส้นทางเดิมเหมือนในชีวิตที่แล้วของเขา งั้นการชนะรางวัลในอนาคตคงเป็นเรื่องง่าย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับมัน  แต่เดิมแล้ว จอร์น กับ สตีฟจ็อบ นั้นต้องการจะชนะรางวัลนี้  หลักๆแล้วเพราะพวกเขาหวังว่าด้วยการชนะรางวัลนี้ พวกเขาจะได้มีธุรกิจมากกว่าเดิมแต่ตอนนี้เขาได้เงินของ เอริค มา รางวัลออสการ์นี่ก็แค่ตัวทำให้เสียเวลา  ในเวลาเดียวกัน เอริค ไม่ต้องการขึ้นไปรับรางวัลแบบนี้ เขายังให้โอกาสนี้เพื่อให้ เวอร์จิเนีย ได้โดดเด่นบ้าง
จากนั้น ลินคอร์น ก็ได้หยุดรถที่ทางเข้างาน มีเสียงกรีดร้องและเสียงเรียกจากแฟนคลับมากมายให้ได้ยินแม้ว่าเขาจะอยู่ในรถที่ไกลออกไป
เอริค ลงจากรถก่อน จากนั้นไปยังฝั่งของ เวอร์จิเนีย แล้วเปิดประตูรถให้กับเธอก่อนที่จะยื่นแขนให้เธอจับ  จากนั้นพวกเขาก็เดินไปตามพรมแดงช้าๆ
บางทีนักแสดงหญิงทุกคนคงเกิดมาเพื่อเดินพรมแดง เวอร์จิเนีย ที่กังวลอย่างมากในรถนั้นเมื่อเท้าแตะพรม เธอผ่อนคลายราวกับว่าความกลัวนั้นได้ระเหยไปแล้ว เธอจับที่แขนของ เอริค และเดินไปพร้อมกับเขาและโบกมือให้กับผู้คนด้วยรอยยิ้มอันมีเสน่ห์บนใบหน้าสุดสวยของเธอ

I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด

I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด

我就是好莱坞
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูดผู้กำกับหนังได้กลับมาเกิดในปี 1988 ที่ฮอลลีวูดในฐานะเด็กชายชาวตะวันตกวัย 18 ปีที่ชื่อ เอริควิลเลียม จากนั้นเขาก็เริ่มเขียนบนทหนัง เพลงและรายการทีวีขึ้น แล้วกลายเป็นผู้กำกับที่เก่งในทุกด้านของวงการบันเทิง ชนะใจของดาราสาวทุกคนและเข้าสู่เส้นทางตำนานผู้กำกับแห่งฮอลลีวูด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset