I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด – ตอนที่ 154

Chapter 154 – ความกลัวที่มีต่อความเห็นที่เปลี่ยนไป

“ บทแบบพลิกไปมา, เพลงที่น่าตื่นเต้น, การตัดต่อและความสามารถของนักแสดง หลังจากความขี้เล่นของ Home Alone และความอบอุ่นใน Pretty Woman  เอริควิลเลียม ได้แสดงถึงอีกรูปแบบหนึ่งแล้ว “
“ จากเพลงเปิดตัวที่ลึกลับจนถึงเพลงเศร้าตอนจบ เพลงของ Running Out of Time ทั้งเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้หนังดูด้อยไปเลย ด้วยบทที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและหนังที่ไม่มีฉากซ้ำซาก หนังสองชั่วโมงนี้ได้ทำให้เกิดความสงบในใจ “
“ เซ็กส์และเลือดนั้นเป็นองค์ประกอบสองอย่างในหนังที่สามารถกระตุ้นผู้ชมได้แต่ในหนังหลายเรื่องที่เอาเซ็กส์และเลือดทำให้เกิดความตื่นเต้นขึ้นมาแต่การใช้เลือดใน Running Out of Time นั้นรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่า ในตอนที่ดูหนังนี้ทุกครั้งที่ ทอมครูส ไอแล้วมีเลือดออกมา ฉันได้ยินเสียงของแฟนคลับผู้หญิงรอบตัวที่ดูเศร้าแต่ก็แฝงไปด้วยความตื่นเต้น ชายที่ดูสุภาพบุรุษแต่ชั่วร้ายและลึกลับที่ทำให้ผู้หญิงส่วนมากตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น  เอริควิลเลียม ยังไม่ได้พอใจกับเรื่องแค่นั้นและการแต่งหญิงของตัวละครหลัก  ฉันมั่นใจว่าตัวละคร แอนดี้ ซึ่งแสดงโดย ทอมครูส จะทำให้ผู้สร้างหนังรายอื่นอยากที่จะเลียนแบบมันขึ้นมา “
“ ความสามารถอันวิเศษของนักแสดงนำทั้งสองคนไม่ได้ปกปิดความเฉิดฉายของนักแสดงสมทบเลย  โจเปสกี้ ยักคิ้วและส่ายหน้าซึ่งทำให้รู้สึกได้ถึงความสุข  การกลับมาอีกครั้งของ บรูกชีลล์ ที่ดูโดดเด่นมากกว่าเดิม บางทีเธออาจจะไปเรียนมาหลายปีแต่การแสดงของเธอไม่ได้ด้อยแบบเดิมอีกและมันดูมีพื้นฐานมากกว่าเดิม เธอออกมาในหนังแค่ไม่กี่นาทีแต่เธอก็สร้างความประทับใจให้ได้และฉันเชื่อว่าครั้งนี้แม้ว่า บรูกชีลล์ จะไม่ได้รางวัลการแสดงอะไรแต่พวกรางวัลนักแสดงยอดแย่คงไม่คิดถึงเธออีกแน่และฉันตั้งตารอหนังเรื่องอื่นของ บรูกชีลล์ ในอนาคตด้วยล่ะ “
เช้าวันต่อมาพร้อมกับเสียงพลิกหน้าหนังสือพิมพ์ เอริค นั่งอยู่ที่ห้องกินข้าวแล้วอ่านคำวิจารณ์หนังในหนังสือพิมพ์วันนี้  จากนั้น นิโคล ก็เดินเข้ามาก่อนจะวางอาหารเช้าไว้ตรงหน้าเขา
ไม่นาน ดรูวส์ ที่เหมือนยังง่วงๆอยู่ก็ได้เดินเข้ามาในห้องกินข้าว  เธอดึงเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งลงที่โต๊ะก่อนจะเอามือค้ำคางแล้วมองไปที่ เอริค ที่อ่านหนังสือพิมพ์อยู่
“ ทำไมเธอไม่หลับต่อ ?” – เอริค ถามโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามอง
“ หิว “ – ดรูวส์ พูดพร้อมกับจับเอาตะกร้าขนมปังที่วางไว้ที่กลางโต๊ะแต่ก็ถูกหนังสือพิมพ์ของ เอริค ฟาดเอา – “ แปรงฟันรึยัง ?”
“ กินเสร็จแล้วไม่ได้เหรอ ?” – เธอทำสีหน้าน่าสงสาร
“ กินหลังจากแปรงฟันแล้ว “ – เอริค มองไปที่เด็กสาวพร้อมกับเตรียมที่จะใช้หนังสือพิมพ์ฟาดลงไปอีกครั้ง
“ ได้ ได้ นายนี่มันพวกคนแก่จริงๆ ” – ดรูวส์ ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไป เธอเหมือนจะบ้าคลั่งกับงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้กินอะไรมาก ดังนั้นจึงทำให้เธอมีสภาพแบบนี้
นิโคล ยืนที่หน้าเคาเตอร์ในครัวและฟังบทสนทนาระหว่างทั้งสองคน ใจของเธอรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย แม้ว่าสองคนนี้จะไม่ได้มีคำพูดที่ดูใกล้ชิดอะไรแต่การพูดแบบนี้ได้ก็ทำให้คนรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น ในทางกลับกันแม้ว่า เอริค จะสุภาพกับเธอแต่เธอก็ไม่เคยปฏิบัติแบบว่าเธอเป็นของเขา เธอพยายามแล้วแต่มันก็ไม่ได้ผลเท่าไหร่
เธอเอาเนื้อที่ปรุงมาไว้ไว้ที่โต๊ะแล้วเริ่มแบ่งให้กับทั้งสองคนแต่หลังจากที่วางถ้วยลงไปตรงหน้า เอริค  เธอก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาแล้วพบว่า เอริค ขมวดคิ้วจ้องไปที่หนังสือพิมพ์
“ มีอะไรงั้นเหรอ ?” – เธอนั่งลงและถามออกมาเบาๆ
เอริค ส่ายหน้า  – “ ไม่มีอะไร ก็แค่คำวิจารณ์ “
นิโคล มองไปที่หนังสือพิมพ์ในมือ เอริค แล้วอ้าปากก่อนจะพูดขึ้นมา – “ มีคนวิจารณ์ทางแย่ๆเกี่ยวกับหนังเหรอ ? “
“ อือ “ –  เอริค พยักหน้าแล้วพูดขึ้น – “ มันแปลกนิดๆ คนนี้ดูเหมือนว่าจะตั้งใจเล็งมาที่ฉัน ฉันจำไม่ได้ว่าไปหาเรื่องเขาตอนไหนด้วย “ – เอริค พูดขึ้นพร้อมกับมองหาว่าใครเป็นคนเขียน ถ้าบทความนี้ถูกส่งไปให้ค่ายวิจารณ์หนังที่ดังกว่านี้ พวกเขาต้องเอาข้อมูลของคนเขียนบทความไว้ในส่วนท้ายเพื่อทำให้คนอ่านรู้สึกว่าคนนี้เชื่อถือได้
“ กลับเป็นว่าเป็นนักวิจารณ์จาก Premiere ที่จบจากมหาลัยโคลัมเบีย “ – เอริค กระซิบกับ นิโคล ซึ่งเมื่อได้ยินแบบนั้นทำให้เธอใจหล่นวูบ – “ เอริค ฉันขอดูหน่อยได้มั้ย ?”
เอริค ยื่นหนังสือพิมพ์ให้และเธอก็พบกับชื่อคนเขียน  เธอรู้สึกผิดขึ้นมาเพราะมันเขียนโดย จอร์จนอร์ทเทิน
“ …ไม่เข้าใจเนื้อเรื่อง, เพลงก็ดูลึกลับและฉากซ้ำๆที่ไร้ความหมาย มันเป็นหนังที่เรียบง่าย ฉันรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ทำให้เสียเวลากับเงินทิ้งไปเปล่าๆ…”
เธออ่านแค่ส่วนเดียวและรีบปิดหนังสือพิมพ์ลง ตาของเธอสั่นไหวเล็กน้อย เธอเข้าใจว่าบทความนี้ต้องเกิดขึ้นเพราะตัวเธอเอง เพราะ จอร์จ ตอนแรกก็ไม่ได้ต่อต้าน เอริค  การเปลี่ยนท่าทีนี้อาจจะเพราะเรื่องเมื่อคืนนี้ซึ่งทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอายขึ้นมา
ถ้าเธอบอกปฏิเสธดีๆ งั้นเรื่องนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
นิโคล คิดและรู้สึกผิดมากกว่าเดิม ดังนั้นเธอจึงถามออกมาด้วยท่าทีระวัง – “ เอริค คำวิจารณ์จะไม่ส่งผลต่อรายได้หนังใช่มั้ย ?”
“ ไม่ “ – เอริค พูดขึ้น – “ คำวิจารณ์ส่วนมากไม่ได้เป็นแบบอันนี้ เพราะหนังได้รับคำชม แม้ว่าจะมีหนึ่งรึสองบทความที่วิจารณ์ในแง่ลบแต่มันก็ไม่ได้มีค่าอะไรหากทิศทางโดยรวมจากการพูดปากต่อปากไม่ได้มีปัญหาอะไร “
“ โอ้ “ – นิโคล ถอนหายใจออกมา
เอริค มองไปที่สีหน้าของอีกฝ่าย – “ นิค เธอมีเรื่องกังวลอะไร ? “
“ ไม่มีอะไร “ – นิโคล ส่ายหน้าแล้วปฏิเสธทันที
เอริค ไม่ได้ถามต่อและรีบกลับไปอ่านหนังสือพิมพ์ที่เหลือก่อนจะกินข้าวเช้าต่อ
แต่ จอร์จ ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมแพ้แค่คำวิจารณ์เดียว ในวันที่สอง,วันที่สามและในอีกหลายๆวันเขาก็ยังทำการวิจารณ์ต่อและคำพูดของเขาก็ดูรุนแรงขึ้นทุกครั้ง
สุดท้ายเขาก็เริ่มตั้งคำถามกับหนังที่ เอริค กำกับ
จอร์จ ได้ไล่รายชื่อหนังก่อนหน้านี้ของ เอริค  ยังไงซะรูปแบบของ 17 Again, Home Alone และ Pretty Woman ก็ดูอบอุ่นและจากนั้นความสุขก็จบลง เปรียบเทียบกันแล้วหนังหลายเรื่องของเขาเช่น Home Alone ก็ไม่ได้มีความมืดของเนื้อเรื่องเลยเมื่อเทียบกับ Running Out of Time  สุดท้ายผู้อ่านก็รู้สึกว่า Running Out of Time ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับหนังก่อนหน้านี้เลยสักนิด
ต่อมา จอร์จ  ก็เริ่มพูดเรื่องคล้ายๆกันที่มีอยู่ในหนังของผู้กำกับคนอื่น จากตอนแรกจนถึงตอนจบเขาได้สร้างมุมมองให้กับผู้อ่านว่าถ้าหนังหลายเรื่องที่ทำโดยคนๆเดียว แม้ว่ารูปแบบจะเปลี่ยนไปแต่ผู้กำกับนั้นก็จะมีบางอย่างที่คล้ายคลึงกันในหนังของตัวเอง
แต่ Running Out of Time ไม่ได้มีแบบนั้น  ดังนั้น จอร์จ จึงบอกใบ้ว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้สร้างโดย เอริค แต่เป็นคนอื่นที่ Columbia หามา มันก็แค่การทำเงินที่จะใช้ชื่อของ เอริค และสุดท้ายแฟนๆน่ะแหละที่โดนหลอก
เมื่อเห็นบทความนี้ เอริค ก็ส่ายหน้าและตระหนักได้ว่าความคิดนี้ไม่ได้ร้ายแรงอะไรและเขากลัวกับการชักจูงความคิดของคนอื่นๆ เพราะการวิเคราะห์นี้มีรายละเอียดเยอะและดูเป็นมืออาชีพซึ่งเป็นบางอย่างที่ เอริค ไม่อาจที่จะรับมือได้ สมกับเป็นคนที่จบมาจากด้านนี้จริงๆ แม้แต่ตัว เอริค เองก็ต้องยอมรับว่าการวิเคราะห์ของอีกฝ่ายนั้นมีเหตุผลอย่างมาก
เพราะผลจากบทความของ จอร์จ ไม่ได้แย่  มุมมองที่มีต่อ Running Out of Time จึงได้รับผลกระทบ
การแข่งขันในช่วงหน้าร้อนนั้นดุเดือดอย่างมาก  เมื่อมีโอกาสที่จะกำจัดคู่แข่ง ค่ายหนังอื่นแน่นอนว่าต้องทุ่มสุดตัว ดังนั้นแค่ไม่กี่วันความสงสัยของสื่อก็เพิ่มมากขึ้นและ Columbia ก็เริ่มสนใจเรื่องนี้ก่อนจะติดต่อหา เอริค เพื่อหาวิธีรับมือ
“ บางทีเราฟ้องนักวิจารณ์ที่ชื่อ จอร์จนอร์ทเทิน เลยก็ได้ “ – หนึ่งในผู้บริหารพูดขึ้นมา
ฝ่ายกฎหมายส่ายหน้าและค้านขึ้น – “ วิธีนี้ถูกเอามาคิดแล้ว มันยากที่จะสำเร็จและศาลคงไม่รับคำขอของเรา  จอร์จนอร์ทเทิน เข้าใจกฎหมายดี บทความของเขาเหมือนกับคำพูดมากกกว่า  มันไม่ได้บอกชัดเจนตั้งแต่แรกที่ว่า เอริค ไม่ได้กำกับ Running Out of Time เขาแค่ใบ้มันและคำพูดของเขาก็กล่อมคนได้ เอาจริงๆถ้าฉันไม่เคยดูหนังมาก่อนรึดูช่วงระหว่างการถ่ายทำด้วย ฉันคงเชื่อคำพูดเขาไปแล้ว “
“ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการประกาศ เราให้มุมมองนี้ดำเนินต่อไปไม่ได้ “
“ นี่มันก็ชัดเจนแต่มันทำไม่ได้ง่ายๆ เราจะประกาศยังไงว่าเป็นหนังของ เอริค ? มันเป็นไปได้เหรอที่จะให้ เอริค ไปรายการทีวี ? เราเองก็พยายามหารูประหว่างการถ่ายทำกันอยู่แต่โชคร้ายที่เรามีแต่ภาพของ ครูส, แฮงค์ และแม้แต่ บรูกชีลล์ เรามีรูปของ เอริค แค่เพียงไม่กี่รูปซึ่งยากที่จะทำให้คนเชื่อได้ “
หลังจากที่ทุกคนกังวลกันได้สักพัก ในที่สุด เอริค ก็เข้ามาในห้องประชุมและในแขนของเขาก็ถือกล่องบางอย่างอยู่
“ โทษทีนะทุกคน เพราะฉันเตรียมของพวกนี้อยู่ ฉันเลยมาช้า “ – เอริค ถอนหายใจแล้วไปยังที่นั่งของตัวเอง
คนในห้องต่างก็หันไปสนใจกล่องที่ เอริค เอามาวางที่โต๊ะประชุม
เอริค เห็นสายตาสงสัยของทุกคนและเริ่มอธิบาย – “ โอ้ นี่คือวิดิโอเทป  พวกมันคือของ ดรูวส์ ที่วิ่งไปรอบๆสตูดิโออยู่หลายครั้งและมักจะถ่ายของพวกนี้เก็บไว้ “

I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด

I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด

我就是好莱坞
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูดผู้กำกับหนังได้กลับมาเกิดในปี 1988 ที่ฮอลลีวูดในฐานะเด็กชายชาวตะวันตกวัย 18 ปีที่ชื่อ เอริควิลเลียม จากนั้นเขาก็เริ่มเขียนบนทหนัง เพลงและรายการทีวีขึ้น แล้วกลายเป็นผู้กำกับที่เก่งในทุกด้านของวงการบันเทิง ชนะใจของดาราสาวทุกคนและเข้าสู่เส้นทางตำนานผู้กำกับแห่งฮอลลีวูด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset