I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด – ตอนที่ 155

Chapter 155 – คำพูดที่เหลวไหลที่ดูจริงจัง

​ในวันที่ 10 มิถุนายน รายได้อาทิตย์แรก Running Out of Time ก็ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แม้ว่าจะมีคำถามของ จอร์จ ที่สร้างพายุกับสื่อแต่ชื่อเสียงของตัวหนังเองก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก  คำวิจารณ์กว่า 70% ไปในด้านบวก อาทิตย์แรกหนังยังอยู่ภายใต้แรงกดดันจาก Batman อยู่ซึ่งหมายความว่าทำรายได้ไปแค่ 27 ล้านระหว่างวันหยุด 3 วันแรก สำหรับข้อมูลนี้มุมมองของ Columbia ก็มีแตกต่างกันออกไป
พวกเขาพอใจเพราะนี่หมายความว่ามันทำรายได้ของอาทิตย์นี้ไป 40-50% รายได้ของ 7 วันแรกนั้นยังมีโอกาสที่จะทำได้สูงถึง 40 ล้าน แม้ว่าเพราะ Batman แต่พวกเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะตามรายได้อาทิตย์แรกของ Ghostbusters II ที่ทำได้ 45 ล้านรึเปล่าแต่ตัวเลขนี้ก็มากพอที่จะทำให้หลายคนใน Columbia ที่กังวลนั้นนอนหลับสบายได้ งั้นรายได้รวมทั้งหมดก็มีโอกาสที่จะทำได้ทะลุ 200 ล้าน
เพราะบทเรียนจาก Ghostbusters II ทำให้ทาง Columbia นั้นกังวลอย่างมากว่าหนังเรื่องนี้จะซ้ำรอยเดิมซึ่งรายได้ตกลงไปกว่า 50% ในอาทิตย์ที่สองและไม่เพิ่มขึ้นมาอีก หลังจากที่รายได้ของ Ghostbusters II นั้นลดลง มันก็ทำให้ Columbia วิตกขึ้นรมา หนังนี้มันก็เหมือนกับการพนัน ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ดังนั้นในตอนที่เกิดเรื่องจากการตั้งคำถามของ จอร์จนอร์ทเทิน  ทาง Columbia ก็ได้เรียกผู้บริหารทุกคนหาทางรับมือมัน  ผลจากเรื่องพวกนี้จากที่จะคาดเดาได้ บางทีหลังจากที่ผู้คนอ่านมันแล้ว พวกเขาอาจะลืมหลังจากที่พูดคุยกันเล็กน้อยแต่ Columbia เองก็พบว่าหลายคนไม่อยากให้เรื่องนี้โดนมองข้ามไป ไม่กี่วันหลายสื่อก็เริ่มเติมเชื้อเพลิงเข้าไป
พวกเขาจะไม่ยอมให้ Running Out of Time ที่กำลังได้กระแสดีต้องได้รับผลกระทบจากคำถามนี้ ยิ่งกว่านั้น Columbia ก็เข้าใจความคิดของการตลาดหัวข้อของ เอริค ด้วยการลงโฆษณาและส่วนหนึ่งของละครทีวีของ เอริค   พวกเขาต้องการจะใช้มันในการเพิ่มกระแสหนังในอาทิตย์ที่สองแต่การจะให้แผนนี้ราบรื่นได้ พวกเขาต้องกำจัดข้อสงสัยตอนนี้ก่อน ไม่งั้นแล้วมันคงยากในการคาดเดาถึงผลของตลาดหัวข้อได้ มันจะเป็นแบบนั้นก็เพราะการตั้งคำถามของแฟนๆก่อนหน้านี้อาจจะทำให้เกิดความคิดด้านลบต่อหนังซึ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก
ในตอนที่พวกผู้บริหารกำลังหาทางประกาศว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้หาผู้กำกับอื่นมาทำ กล่องวิดิโอเล็กที่  เอริค เอาเข้ามาก็ทำให้ทุกคนสดใสขึ้นมาได้ หลังจากที่เล่นวิดิโอเทปไป พวกเขาก็เริ่มปรึกษาหาวิธีรับมือที่เป็นไปได้ที่สุด
CBS มีสาขาที่อยู่ใน LA เอริค เตรียมที่จะนัดเจอกับเจ้าของที่ชื่อ โซเฟียร์เทมเปิล และพวกเขาก็จะอัดรายการที่ชื่อว่า Sophia Talk show ถ้าต้องการกำจัดข้อสงสัยให้เร็วที่สุด จะมีวิธีไหนที่ดีกว่าการเล่นวิดิโอเทปในรายการที่มีคนดูเป็นล้าน ?
ในตอนที่ผู้บริหารได้เสนอข้อเสนอนี้ออกมา  เอริค ก็คิดถึงรายการ Oprah Talk Show ชื่อดัง ยังไงซะรายการนี้ก็ดังมากๆแต่โชคร้ายที่ความคิดเขาก็ถูกลบไปเพราะช่วงเวลาการออกอากาศของ Oprah Talk Show นั้นเริ่มจากเดือนกันยายนจนถึงเดือนพฤษภาคม ตอนนี้มันอยู่ในช่วงพักรายการ ยิ่งกว่านั้นแม้ว่ารายการนั้นจะไม่ได้อยู่ในช่วงพักแต่มันก็เป็นไปไม่ได้ทีจะจัดหาเวลาให้พวกเขาได้ในเวลาไม่กี่วัน
เพราะแบบนั้น Columbia จึงหารายการ Sophia Talk show มาผ่านทางเส้นสายที่สถานี CBS  รายการนี้เลียนแบบ Oprah Talk Show มาแต่โชคร้ายที่ เอริค ไม่เคยได้ยินชื่อมันมาก่อน
โซเฟียร์เทมเปิล เป็นคนผิวขาว เธอแต่งตัวด้วยชุดคนทำงานออฟฟิศ, ผมสีฟ้าหม่น,จมูกที่ชี้ข้างหน้า  เอริค รู้สึกว่าเธอดูคล้าย คอ์เตนีย์ ค็อกซ์ จากละครเรื่อง Friends ในชีวิตก่อนของเขาแต่แม้ว่าหน้าตาจะคล้ายกันแต่เธอดูฉลาดกว่า คอ์เตนีย์ ค็อกซ์
หลังจากที่มองหน้ากันแล้ว เอริค ก็เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่รู้จักรายการนี้ เขาเดาว่ารายการแบบนี้คงอยู่ได้ไม่นานนัก
เพราะท่าทีของ โซเฟียร์เทมเปิล เหมือนกับพวกอาจารย์และเธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ  เอริค เดาว่าอีกฝ่ายต้องอยู่ในครอบครัวที่รวยและได้รับการศึกษาชั้นสูง  แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมีพรสวรรค์แต่ท่าทีของเธอยังคงดูขัดๆกับรายการ  ดังนั้น เอริค จึงรู้สึกว่าเธอเหมาะกับรายการที่จริงจังมากกว่านี้, สัมภาษณ์นักการเมือง, นักวิทยาศาสตร์รึพวกรัฐบาลและไม่เหมาะกับรายการที่ต้องมาพูดคุยกับแขกและสร้างบรรยากาศให้กับผู้ชม
ในทางกลับกัน โอปราห์ วินฟรีย์ เกิดมาในครอบครัวขั้นล่าง  ผลกระทบของเธอที่ส่งต่อให้กับผู้ชมทำให้พวกเขารู้สึกเข้ากับเรื่องที่เธอเล่าได้ เธอสามารถที่จะเล่นตลกออกมาได้ด้วยและทำให้ผู้ชมหัวเราะ  เอริค มั่นใจว่าการพูดคุยกับ โซเฟียร์เทมเปิล คงทำแบบนั้นไม่ได้
“ คุณเทมเปิล  คุณวิลเลียม ฉากพร้อมแล้ว เราเริ่มอัดได้แล้ว “ – ทีมงานคนหนึ่งเปิดประตูห้องพักเข้ามาบอก เอริค และ โซเฟียร์ ที่กำลังพูดคุยเรื่องบทการพูดกันอยู่
เอริค และ โซเฟียร์ ออกจากห้องมาก่อนจะเดินไปที่สตูดิโอ
“ พูดถึงการกำกับ ความประทับใจแรกที่หลายคนจำได้คือชายแก่ที่มีหนวด, ผมยุ่งและท่าทีกระตือรือร้น  แต่ปีที่แล้วมันก็มีตัวเลือกใหม่ในแวดวงผู้กำกับฮอลลีวูด เขาไม่ใช่แค่เด็กและหล่อเหลา เขายังมีพรสวรรค์อีกด้วย ที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือชายหนุ่มคนนี้ทำรายได้จนต้องตกใจกับหนังหลายเรื่อง โอ้ ฉันคิดว่าทุกคนคงรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร ยินดีต้อนรับแขกรับเชิญของเราในวันนี้ คุณเอริควิลเลียม ! “
หลังจากที่พูดเปิดรายการอย่างเชี่ยวชาญ เอริค ก็เดินออกมาพร้อมกับกล่องเล็กๆ  ทีมงานได้เสนอกล่องวิดิโอเทปนี้ควรที่จะวางไว้ในฉากก่อนแต่ เอริค ปฏิเสธ  เหตุผลหลักที่มารายการนี้ก็เพื่อกำจัดข้อสงสัยเรื่องผู้กำกับนอกและแน่นอนว่าความประทับใจของผู้ชมมีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
ในตอนที่เด็กสาวด้านล่างเวทีกรี๊ดออกมา เอริค ก็ยิ้มและโบกมือให้กับกล้องก่อนที่จะไปนั่งกับ โซเฟียร์
“ เอริค นี่ใช่ของขวัญที่คุณเตรียมมาให้กับทุกคนรึเปล่า คุณอยากให้ฉันช่วยอะไรมั้ย ?” – โซเฟียร์ ยิ้มและชี้ไปที่กล่องที่ เอริค ถืออยู่
เด็กสาวในหมู่ผู้ชมตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นอีกครั้งและหลายคนก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืนเพื่อดูว่ามีอะไรในกล่อง
เอริค ประกบมือเข้าด้วยกันก่อนจะยกมือบอกให้ทุกคนเงียบ จากนั้นเขาก็อธิบายออกมา – “ โทษทีนะ ทุกคน วันนี้ฉันรีบไปหน่อย สำหรับของพวกนี้ก็แค่วิดิโอเทป สำหรับเนื้อหาของมัน ฉันจะเก็บเป็นความลับก่อน รอสักเดี๋ยวแล้วฉันจะทำให้ทุกคนแปลกใจ “
แม้ว่าหลายคนที่ด้านล่างเวทีจะผิดหวังแต่พวกเขาก็พากันเงียบเอาไว้
โซเฟียร์ และ เอริค เริ่มพูดคุยตามบทและพยายามที่จะทำตัวคุ้นเคยกัน พวกเขาพูดถึงวัยเด็กของเขาและพูดถึงอดีตจนถึงตอนนี้และความคาดหวังในอนาคตของเขาด้วย
คำถามส่วนมากพูดคุยกันมาล่วงหน้าแล้ว  โซเฟียร์ นี่ทำตามที่ตกลงกันไว้จริงๆและแม้ว่าจะมีเรื่องแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ทำให้ เอริค รู้สึกยากลำบากอะไร
หลังจากที่พูดถึงความหลังของ เอริค มากว่า 10 นาที ทั้งสองก็เริ่มเปลี่ยนหัวข้อในการสัมภาษณ์
“ เอริค มีหลายคนบอกว่าเทียบกับหนังที่คุณเคยกำกับมา รูปแบบของ Running Out of Time นั้นได้เปลี่ยนไปมาก คุณคิดยังไงกับหัวข้อนี้ ? “
เอริค มองไปที่หน้าของอีกฝ่ายแล้วเริ่มพูดขึ้นมา – “ เอาจริงๆนะมันมีหลายองค์ประกอบที่ฉันทำหนังเรื่องแรกๆ ตอนนั้นพ่อฉันเพิ่งตาย ฉันออกจากโรงเรียนแล้วมาทำงานที่ร้านอาหารเล็กๆแต่นั่นไม่ใช่ชีวิตที่ฉันต้องการ ฉันสนใจในการทำหนังตั้งแต่ยังเด็กแล้ว ดังนั้นฉันจึงเขียนบท 17 Again และมันก็คือสิ่งที่ฉันเตรียมจะทำในฮอลลีวูด  Home Alone ได้รับแรงบันดาลใจมาตอนที่คุยกับ สจ๊วต  เด็กชายมาหาฉันที่บ้านในคืนหนึ่งตอนที่ฉันถ่าย 17 Again และ สจ๊วต ก็ถามฉันว่าเขาจะเล่นหนังได้ไหมและฉันก็ตอบว่าใช่ ดังนั้นจึงเกิด Home Alone ขึ้นมาและบทของ Pretty Woman เองก็มีเงื่อนไของมัน  ดังนั้น Running Out of Time ก็คือหนังที่ฉันอยากจะถ่ายมาสักพักแล้ว ฉันมีความคิดในการทำหนังแนวนี้มานานแล้ว สำหรับเหตุผลนี้ฉันถึงกับไปหา คุณแฮงค์ ก่อนที่จะถ่าย Pretty Wman และเชิญเขามาด้วย “
“ โอ้ งั้นคุณก็ไม่ค่อยได้รู้สึกอะไรกับหนังเรื่องแรกๆของคุณ ถ้าคุณบอกแบบนั้น ผู้กำกับหลายคนต้องใจสลายแน่ ! “ – โซเฟียร์ ถามออกมาด้วยเสียงที่หยอกล้อและผู้ชมก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง  ถ้า เอริค ทำหนังเรื่องแรกๆมาเล่นๆ มันคงเดาได้ว่าผู้กำกับหลายคนที่ดิ้นรนมาหลายปีในการทำหนังคงต้องพากันเอาหัวโขกกำแพงแน่
เอริค รีบยิ้มและปฏิเสธ  – “ แน่นอนว่าไม่ สำหรับหนังทุกเรื่องที่ฉันทำมา ฉันพยายามอย่างสุดความสามารถ ฉันคิดว่าคนเราต้องการที่จะสำเร็จ มันสำคัญอย่างมากแม้ว่าจะไม่สนใจมันก็ตามแต่ก็ยังพยายามทำให้มันออกมาดี “
โซเฟียร์ พยักหน้า – “ เอริค เรารู้ว่าคุณยังหนุ่มแต่ด้วยความสำเร็จตอนนี้ คุณแน่นอนต้องไม่หยุดทำหนัง เพราะคุณไม่ต้องการที่จะได้รับข้อห้ามรึการจำกัดอะไร มันหมายความว่าหนังในอนาคตของคุณจะมีรูปแบบเหมือน Running Out of Time อีกเหรอ ? “
“ ไม่ ฉันอยากลองสิ่งใหม่ๆ ดังนั้นหนังในอนาคตของฉันแน่นอนว่าต้องมีหลายๆแบบและฉันไม่ต้องการโดนมองแค่ว่าเป็นแค่ผู้กำกับหนังเด็ก “
“ แต่ฉันได้ยินมุมมองหนึ่งมาไม่กี่วันก่อนว่าแม้แต่ผู้กำกับที่ฝีมือดีแต่หนังของพวกเขาก็ต้องมีองค์ประกอบบางอย่างที่เหมือนกันแต่หนังสือพิมพ์บางฉบับได้วิเคราะห์ว่า Running Out of Time นั้นไม่ได้มีอะไรเหมือนกับหนังสองเรื่องแรกของคุณเลย มันเหมือนกับว่า…มันเหมือนว่าถ่ายทำโดยคนแตกต่างกัน “ – โซเฟียร์ มองไปที่ เอริค และพูดหัวข้อสำคัญขึ้นมา
ผู้ชมพากันกั้นหายใจ อันที่จริงหลายคนเดาเหตุผลได้ว่าทำไม เอริค ถึงได้มารายการนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงพากันสงสัยว่า เอริค จะปกป้องตัวเองยังไง

I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด

I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด

我就是好莱坞
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูดผู้กำกับหนังได้กลับมาเกิดในปี 1988 ที่ฮอลลีวูดในฐานะเด็กชายชาวตะวันตกวัย 18 ปีที่ชื่อ เอริควิลเลียม จากนั้นเขาก็เริ่มเขียนบนทหนัง เพลงและรายการทีวีขึ้น แล้วกลายเป็นผู้กำกับที่เก่งในทุกด้านของวงการบันเทิง ชนะใจของดาราสาวทุกคนและเข้าสู่เส้นทางตำนานผู้กำกับแห่งฮอลลีวูด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset