Legend of the mythological genes – ตอนที่ 105

“เฟิงหลิน ทำให้ดีล่ะ หากเทคนิคการสร้างยาผลึกผงสำเร็จ บริษัทยาของเราจะตอบแทนคุณอย่างงาม!” แฟรงค์ยิ้มหลังจากนั้นเขาก็หันหลังและเดินออกไป
 
หัวใจของเฟิงหลินยังคงหนาวสั่น
ดูเหมือนว่าจากสนามเด็กเล่นจะขยายออกไปจนอยู่เหนือการควบคุมของเขา
หากการวิจัยประสบความสำเร็จเขาจะกลายเป็นบุตรแห่งพระเจ้าอย่างงั้นหรอ?
ใครเขาต้องการรางวัลแบบนั้นกัน!
เฟิงหลินเชี่ยวชาญด้านทฤษฎีพันธุกรรมมาก มาพูดเรื่องเลือดศักดิ์สิทธิ์บ้าบออะไรกัน?
มันคือกระบวนการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม พันธุกรรมที่มาจากสายเลือดและเผ่าพันธุ์เดิมจะถูกกำจัดและเปลี่ยนแปลงทั้งหมด
ไม่น่าแปลกใจที่นักวิจัยเหล่านี้ไม่มีกิริยาท่าทางและลักษณะของเผ่าพันธุ์อื่นเลย แต่ทุกคนมีผิวขาวให้ความรู้สึกแปลกประหลาดมาก
ทำไมเฟิงหลินถึงจะไม่อยากเป็นคนจีนและกลายเป็นมนุษย์ไข่ – สีขาวด้านนอก สีเหลืองด้านใน – แทนล่ะ?หยุดล้อเล่นได้แลว?
ไม่ว่าผลประโยชน์จากการเป็นบุตรของพระเจ้านั้นจะดีแค่ไหนก็ตาม เฟิงหลินก็ไม่สนใจแม้แต่น้อย!
ที่สำคัญที่สุดคือเขากำลังเดินบนเส้นทางตำนานของซุนหงอคงในตำนานฮัวเซีย และในตำนานบอกไว้ว่าต้องเป็นคนเชื้อสายจีนเท่านั้นที่จะสามารถปลุกยีนในตำนานของซุนหงอคงได้
ถ้าเขาเปลี่ยนเป็นมนุษย์ไข่ บางทีลักษณะเฉพาะของยีนที่เขาปลุกและพลังชีวิตของเขาจะถูกปรับเปลี่ยน นี่หมายความว่าเขาจะต้องทำลายเส้นทางการบ่มเพาะของตัวเองหรอ?
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงการคาดเดา แต่เขาก็รู้สึกว่าตราบใดที่มีโอกาสเฟิงหลินจะไม่เสี่ยง
แต่แม้ว่าเขาจะเสียใจตอนนี้ ทุกอย่างก็สายเกินไป
หลังจากเข้าห้องปฏิบัติการใต้ดินนี้ และเข้าร่วมแผนกหลักของบริษัทยาไจแอนท์ เขาได้อยู่ในตำแหน่งที่สูงมากแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะหนีไป
เขาต้องคิดถึงหาทางปกป้องตัวเอง!
ขณะที่เฟิงหลินกำลังไตร่ตรอง มนุษย์ไข่เหล่านั้นก็เดินมาล้อมเขา พวกเขาจ้องมองเฟิงหลิน “หัวหน้า เริ่มการวิจัยได้แล้วครับ!”
 
หัวใจของเฟิงหลินเต้นกระหน่ำ มนุษย์ไข่เหล่านี้อาจได้ชื่อว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา แต่ในความเป็นจริงแล้ว?พวกเขามีหน้าที่จับตามองเฟิงหลินใช่ไหม?
เขาพยักหน้าเงียบๆ“ มันสำคัญมากสำหรับบริษัทยาไจแอนท์ของเราที่จะพัฒนาเทคนิคการสร้างยาผลึกผงที่สมบูรณ์ นี่จะเกี่ยวข้องกับการพัฒนาในอนาคตของเรา ดังนั้นเราจึงต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้สำเร็จ!”
 
“ครับ!” นักวิจัยเหล่านั้นพยักหน้าและเตรียมพร้อม
“เอาสูตรยาพันธุกรรมยักษ์เขียวมาให้ผม!” เฟิงหลินสั่ง
“ครับ!” มัตสึชิตะ โอนิจินเหมือนลูกแกะเชื่อง ความคิดของเขาแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้เขาเชื่อฟังไม่ต่อต้าน ส่งสูตรยาพันธุกรรมให้เขา โค้งคำนับราวกับเขาไม่มีศักดิ์ศรี แต่ดวงตาฉายแววสุนัขจิ้งจอกที่หิวโหย
 
เฟิงหลินไม่ใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
เห็นได้ชัดว่ามัตสึชิตะ โอนิจินเป็นคนญี่ปุ่นที่กลายมาเป็นคนผิวขาว เขามีลักษณะของชาวญี่ปุ่น สำหรับเขามันเป็นเรื่องปกติที่ผู้แข็งแกร่งจะข่มเหงผู้อ่อนแอ
สำหรับคนอย่างมัตสึชิตะ โอนิจิน พวกเขาคงถูกสั่งสอนมาก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กลายมาเป็นแบบนี้
เฟิงหลินเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวและเขายังมีเทคนิคยาผลึกผง ไม่ต้องคำนึงถึงความแข็งแกร่งหรือเทคนิคทางพันธุกรรมของเขา มันก็เพียงพอแล้วสำหรับเขาที่จะกำราบคนๆนี้ เขามั่นใจว่ามัตสึชิตะ โอนิจินจะไม่สามารถลอบกัดเขาได้
เขาไม่กังวลเลย ดังนั้นเขาจึงรับสูตรมาและเริ่มต้นการวิจัย
 
ยิ่งเขาแสดงความมั่นใจมากเท่าไร มัตสึชิตะ โอนิจินก็ยิ่งเคารพเขามากขึ้นเท่านั้น
และเฟิงหลินก็แน่ใจในข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจนี้
ทรัพยากรบ่มเพาะวัดตามขั้นพลังงาน พวกมันสามารถแบ่งออกได้เป็นสี่ระดับ ต่ำ กลาง สูง และสูงสุด แต่ละระดับยังสามารถแบ่งออกเป็นเกรดต้น กลาง สูง ไร้ที่ติและสมบูรณ์
ดังนั้นจึงปรากฏว่ายายักษ์เขียวเป็นยาระดับต่ำเกรดสูง การกินมันหลายครั้งจะทำให้สามารถปลุกยีนยักษ์เขียวขึ้นมาได้!
ยีนยักษ์เขียวคือประเภทของยีนยักษ์เกรดกลางที่เกิดจากการรวมยีนยักษ์และยีนรังสีเข้าด้วยกันผ่านการดูดซับพลังงานรังสีไม่หยุดหย่อน ผู้ที่ปลุกยีนนี้จะมีความแข็งแกร่งไร้ขีดสุด แต่เป็นเพราะผลข้างเคียงของรังสี ความคิดของพวกเขาจะงง สับสน และมีแนวโน้มที่จะโกรธและใช้ความรุนแรง (เช่นฮัค)
สิ่งที่ยากยิ่งกว่าก็คือนี่เป็นยีนที่สร้างขึ้นตามตำนานที่ไม่ค่อยพบเห็น
ทุกคนรู้ว่าผู้บ่มเพาะระหว่างดวงดาวส่วนใหญ่จะใช้ตำนานเป็นแนวทางของพวกเขา ในขณะที่พวกเขายังคงพัฒนายีนของพวกเขา เดินบนเส้นทางที่จะนำไปสู่ความเป็นเทพ
แต่ละเส้นทางในตำนานมีรูปแบบการวิวัฒนาการที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงและตัวเลือกเส้นทางก็คือจุดสำคัญหลักของผู้บ่มเพาะระหว่างดวงดาว
แต่เพราะวิชายุทธ์ยีนหายากมาก ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับ
เมื่อเผชิญกับความยุ่งยาก ภูมิปัญญาของมนุษยชาติจึงไร้ขอบเขต
พวกเขาเริ่มพยายามใช้กระบวนการทางพันธุวิศวกรรมเพื่ออนุมานคุณสมบัติของยีน หลังจากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆ เชื่อมโยงยีนอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับยีนหลักเข้าด้วยกัน ทำให้พวกมันรวมกันเป็นหนึ่งเดินบนเส้นทางใหม่
 
โดยธรรมชาติ กลุ่มยีนที่เข้ากันไม่ได้มักปฏิเสธกัน ท้ายที่สุด ร่างมนุษย์จะระเบิด
แต่ก็ยังมีผู้ที่ได้รับพรจากโชคชะตาและสามารถอยู่รอดได้ด้วยโชคชะตา ประสบความสำเร็จ เปิดทางเดินใหม่และมีพลังที่ไม่อาจจินตนาการได้ทุกประเภท
ยีนยักษ์เขียวคือเส้นทางนี้อย่างแน่ชัด
นี่เป็นยีนที่สร้างขึ้นโดยการรวมยีนยักษ์เข้ากับยีนรังสี ยีนนี้จะให้พละกำลังไร้สิ้นสุดและร่างกายที่ทรงพลังมหาศาลนอกจากนี้เนื่องจากการดูดซับพลังงานรังสี มันจึงมีความสามารถต้านทานผลกระทบของพลังงานต่างๆ
จุดๆนี้ดูคล้ายกับยีนลิงหินมาก
อย่างไรก็ตาม แม้ยีนลิงหินจะเป็นแค่ยีนแรกเริ่มที่ด้อยกว่ายีนยักษ์เขียว ความสามารถของยีนลิงหินก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า
แต่ถ้ามันเป็นยีนลิงหินจิตวิญญาณซึ่งเป็นระดับหลุดพ้น อย่างน้อยมันก็จะเป็นยีนขั้นผันแปรหรือสมบูรณ์
และยีนยักษ์เขียวซึ่งเป็นแค่ยีนระดับหลุดพ้นขั้นกลางย่อมไม่อาจเทียบกับมันได้
 
เฟิงหลินเข้าใจข้อมูลทั้งหมดนี้ จากนั้นเขาก็นึกถึงประเด็นหนึ่ง บริษัทยาไจแอนท์ทำเช่นนี้เพราะพวกเขาต้องการสร้างกองทัพยักษ์เขียว?
หากกระบวนการตกผลึกสำหรับยายักษ์สีเขียวเสร็จสิ้นแล้วและคนทั่วไปสามารถบริโภคได้ โคลนเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก แฟรงก์บอกว่าจะจัดตั้งกองทัพเพื่อป้องกันตัวเอง … หรือจะเป็นกองทัพยักษ์เขียว
หัวใจของเขาเย็นเฉียบ
ต้องรู้ว่ายีนยักษ์ใหญเขียวเป็นยีนระดับหลุดพ้น เมื่อปลุกมันขึ้น คนๆนั้นจะกลายเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูง ก้าวเหนือกว่าผู้บ่มเพาะดวงดาวทั่วไป
มันปรากฏว่ากองทัพปฏิวัติดาวอังคารเดาผิดอย่างสิ้นเชิง บริษัทยายักษ์ต้องการสร้างกองทัพพันธุกรรม แต่มันไม่ได้สร้างขึ้นจากผู้บ่มเพาะระหว่างดวงดาว กองทัพที่พวกเขาต้องการสร้างจะเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงแทน
ต้องรู้ว่าในโรงเรียนที่เฟิงหลินมา อาจารย์ใหญ่ก็ยังเป็นแค่ผู้บ่มเพาะระดับสูงคนเดียว แต่ถึงกระนั้น เขาก็ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญของเมืองฮั่วเซีย
หากกองทัพที่น่าสะพรึงกลัวนี้สามารถก่อตัวขึ้นได้จริง มันก็เพียงพอแล้วที่จะกวาดผ่านระบบสุริยะทั้งหมดไปพร้อมๆกัน
เฉพาะตอนนี้เฟิงหลินก็เชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่าสิ่งที่แฟรงค์พูดกับเขาก่อนหน้านี้คือเรื่องโกหกทั้งหมด
การสร้างกองทัพที่แข็งแกร่งเช่นนี้เพื่อปกป้องตัวเอง ใครจะไปเชื่อกัน?
พายุกำลังกวาดไปทั่วระบบสุริยะ
ในเวลานั้นเขาควรเลือกยังไง?
 
….
เฟิงหลินกำลังไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง
 
“หัวหน้าคุณดูสูตรของยายักษ์เขียวแล้วหรือยัง?เราจะเริ่มต้นการวิจัยเกี่ยวกับเทคนิคการตกผลึกได้หรือยังครับ?”โอนิจินถาม
 
มนุษย์ไข่เหล่านี้แน่นขนัดไปรอบตัวเขารอให้เขาออกคำสั่ง
 
ริมฝีปากของเฟิงหลินขดตัวด้วยรอยยิ้มลึกลับ “แน่นอน!”
“บางทีพวกคุณทุกคนอาจจะตั้งคำถามนี้: เทคนิคการเรียงตัวของการตกผลึกเป็นเทคนิคอะไรกันแน่?ความเชื่อมโยงระหว่างเทคนิคกับยาโบราณคืออะไร?”
“นี่เป็นเพราะโครงสร้างภายในของยาโบราณอันศักดิ์สิทธิ์เป็นโครงสร้างผลึกจริงๆ มันสามารถระงับความแรงของยาและปล่อยมันออกมาช้าๆ ทำให้มนุษย์ธรรมดาสามารถดูดซับมันได้ เทคนิคการสร้างผลึกยาของผมถูกสร้างขึ้นเนื่องจากผมพยายามเลียนแบบโครงสร้างผลึกภายในยาศักดิ์สิทธิ์โบราณ “
“โอ้ ผลึกอะไรกัน?”
“ พวกมันเต็มไปด้วยความงามทางคณิตศาสตร์ แต่คุณต้องใช้พลังงานจิตก่อน คุณถึงจะสามารถทำลายกำแพงของอนุภาควิญญาณเพื่อรับรู้พวกมันได้!”
“แล้วเราจะตกผลึกยาได้อย่างไร?”
“ไฟ! ใช้ไฟและพลังจิตเพื่อสังเกตองค์ประกอบโมเลกุล และพยายามเลียนแบบลักษณะเฉพาะของโครงสร้างผลึกที่พบในยาโบราณ!”
 

 
ภายในห้องปฏิบัติการใต้ดินนั กวิจัยยังคงถามคำถามกับเฟิงหลินเกี่ยวกับความลับของเทคนิคการสร้างยาผลึกผง
เฟิงหลินดูเหมือนจะเปิดกว้าง เขาบอกพวกเขาทุกอย่างแบบไม่กั๊ก
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสังเกตเห็นว่านิ้วมือข้างหนึ่งของเขาเคลื่อนไหวเรื่อยๆ ระลอกคลื่นไร้รูปร่างทางจิตแผ่ออกมาจากเขา
นักวิจัยเหล่านี้รู้สึกว่ามีลมอุ่นพัดผ่านใบหน้า ความวุ่นวายในใจของพวกเขาที่มีต่อเฟิงหลินก็ค่อยๆหายไป
 
“ หัวหน้าเป็นคนดีจริงๆ เขาไม่ปิดบังสักนิดและบอกเราทุกอย่าง!”
“ แม้ว่าหัวหน้าจะยังเด็ก แต่ไม่มีอะไรให้สงสัยเกี่ยวกับความสามารถของเขาเลย!”
 

ความคิดและความรู้สึกของพวกเขาที่มีต่อเฟิงหลินเริ่มเปลี่ยนไป
หากก่อนหน้านี้ทุกสิ่งที่พวกเขารู้สึกต่อเฟิงหลินคือความเป็นปฏิปักษ์และการดูถูก ตอนนี้พวกเขาก็เต็มไปด้วยความหลงไหลและชื่นชมจนเกือบยกย่องเหมือนเทพ
อิทธิพลที่มองไม่เห็นนี้ค่อยๆเปลี่ยนหัวใจของนักวิจัยโดยพลังงานจิตของเฟิงหลิน เขาค่อยๆควบคุมทุกคนที่นี่ในห้องทดลองใต้ดิน
เขาไม่กังวลว่าความลับของเทคนิคการสร้างยาผลึกผงจะรั่วไหลเลยหรอ?
 
เฟิงหลินไม่กังวลเลย
ตั้งแต่เริ่ม ไม่มีเทคนิคใดเหมือนเทคนิคการสร้างยาผลึกผง นั่นเป็นเพียงการโกหกที่เฟิงหลินสร้างขึ้นเพื่อปกปิดความลับของเทคนิคการเล่นแร่แปรธาตุ
เทคนิคการสร้างยาผลึกผงนี้เป็นเพียงรูปแบบขั้นพื้นฐาน มันไม่สำคัญอะไร
ทั้งสองนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง เป็นระบบที่ต่างกันสุดขั้ว
พวกเขาไม่มีความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุของจีนโบราณ เพียงแค่สิ่งพื้นฐานที่สุดก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้นักวิจัยเหล่านี้ใช้เวลาทำความเข้าใจนานนม
นอกจากนี้เทคนิคการสร้างยาผลึกผงยังต้องใช้พลังจิตซึ่งจำเป็นต้องมีการปลุกยีนจิต เงื่อนไขนี้เข้มงวดเพียงพอแล้ว
เฟิงหลินไม่กังวลเลยว่าพวกเขาจะสามารถแกะความจริงเบื้องหลังเทคนิคนี้ได้
เมื่อมองไปที่นักวิจัยเหล่านี้ เขาก็หัวเราะในใจ ความพยายามของพวกเขาจะล้มเหลวและเสียเวลาเปล่า
แม้ว่าเขาจะหัวเราะเยาะ แต่เขาก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก
หลังจากการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ เขาเพิ่งตระหนักว่าเทคนิคการเล่นแร่แปรธาตุที่น่าตกใจของโลกที่เขาได้เรียนรู้มาจริงๆแล้วเป็นวิชาสังหารมังกร!

Legend of the Mythological Genes

Legend of the Mythological Genes

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ!เมื่อมนุษย์เข้าสู่ยุคดวงดาว การบ่มเพาะโบราณได้ส่องประกายสู่ชีวิตใหม่ ยีนดำรงอยู่ในตัวคุณ!ประโยคเดียวที่แสดงถึงความหมายแท้จริงของการบ่มเพาะ ตำนานไม่ใช่เรื่องในจินตนาการ มันมียีนในตำนานอยู่จริง ยีนของห่าวยี่ช่วยให้ยิงลูกศรได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ลูกศรนัดเดียวสามารถทำลายโดมแห่งสวรรค์ ยีนกัวฟู่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ไล่ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ ยีนมังกรเทวะจะช่วยให้พุ่งทะยานเหนือหมู่เมฆ แหวกว่ายรอบห้วงอวกาศ … เกือบหมื่นปีได้ผ่านไป เฟิงหลินมาจากศตวรรษที่21สู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ ตามความเข้าใจเข้าถึงตำนานของยุคโลกโบราณ เขาได้เริ่มเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะยีนสุดพิเศษ ยีนลิง+ยีนหิน = ยีนลิงหิน ยีนลิงหิน+??? = ยีนลิงหินวิญญาณ ยีนลิงหินวิญญาณ+??? = ยีนราชาลิงสุดหล่อ ยีนราชาลิงสุดหล่อ+??? = ยีนซุนหงอคง ยีนซุนหงอคง+??? = ยีนมหาเทพเทียมฟ้า Every myth and legend is a path to Godhood! When humans enter the interstellar era, ancient cultivation techniques shone with new life. Your genes exist with you! A single sentence showing the true meaning of cultivation. Myths and legends are not a fantasy, there are ancient mythological genes in the bodies of everyone. The Hou Yi Gene allows you to shoot a hundred miles, using a single arrow to break down the dome of heaven. The Kuafu Gene allows you to run with flying speed, chasing after the sun and moon. The Divine Dragon Gene allows you to soar among the clouds, roaming around the starry space. …. Almost ten thousand years have passed. Feng Lin came from the 21st century to this majestic era that surged forth with great momentum. Based on his understanding on the myths and legends of the ancient earth era, he embarked upon a unique genetic cultivation path. Monkey Gene + Stonebirth Gene = Stone Monkey Gene Stone Monkey Gene + ??? = Spiritual Stone Monkey Gene Spiritual Stone Monkey Gene + ??? = Handsome Monkey King Gene Handsome Monkey King Gene + ??? = Sun Wukong Gene Sun Wukong Gene + ??? = Great Sage Equal to Heavens Gene

Options

not work with dark mode
Reset