Legend of the mythological genes – ตอนที่ 142

คู่ต่อสู้ของฟิงหลินทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ สำแดงแสงและเงาจำนวนมากเพื่อทำให้ตาของเขาพร่ามัว น่าเศร้าที่มันไร้ประโยชน์ต่อพลังงานจิตที่สามารถเจาะทะลุทุกอย่างได้ของเฟิงหลิน
แสงและเงากระจายออกไปและคู่ต่อสู้ของเขาที่ถูกสะกดจิตก็เดินลงจากแท่นต่อสู้ และความรู้สึกของเขาก็กลับมาหลังจากผ่านไปนาน
ในตอนนั้นเฟิงหลินก็จากไปแล้ว
คู่ต่อสู้ของเขาไม่ได้พูดอะไรและเดินออกไปด้วยจิตวิญญาณอันหนักหน่วงเท่านั้น
นี่คือการสะกดข่มจากความแตกต่างด้านความแข็งแกร่งอย่างสมบูรณ์ ทำให้คู่ต่อสู้ของเขารู้สึกสิ้นหวังอย่างแท้จริง
เหมือนเมื่อก่อน การจะเกิดหายนะจากสวรรค์ แผนและวิธีการต่างๆอาจเป็นแค่เรื่องตลกก็ได้
 
“เฟิงหลิน ชนะ เวลาที่ใช้: 15 วินาที!”
 
อีกครั้งเฟิงหลินกำจัดคู่ต่อสู้ของเขา เริ่มเกิดความโกลาหล
เร็วมาก ผู้คนค้นพบว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น!
“เฟิงหลิน ชนะ! เวลาที่ใช้: 12 วินาที!”
ชนะเพียงแค่เหลือบมองอีกแล้ว
“เฟิงหลิน ชนะ! เวลาที่ใช้: 10 วินาที!”
 

 
คู่ต่อสู้ล่าสุดของเฟิงหลินเพิ่งเดินขึ้นไปบนแท่นประลองและลงไปอย่างช่วยไม่ได้ทันที
ทุกอย่างดูเหมือนเป็นเรื่องตลก
ตั้งแต่ต้นจนจบ เฟิงหลินไม่ได้โจมตีเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่มีใครใช้เวลาเกิน 15 วินาที พวกเขาทั้งหมดถูกสะกดจิตและยินยอมทันที
 
“พลังสูงเกินไป!” ถึงแม้ว่าเฟิงหลี่และเฟิงจินเผิงจะยังถือเป็นอัจฉริยะสูงสุด การสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้เพียงครั้งเดียวของเฟิงหลินก็ยังดูดความสนใจจำนวนมาก
 
คนอื่นต้องเริ่มโจมตีและฝ่ายตรงข้ามก็สามารถหลบเลี่ยงหรือป้องกันได้ แต่เฟิงหลินเพียงแค่เหลือบมองในการเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขา
เพียงแค่จุดนี้เพียงอย่างเดียวก็ทำให้หลายคนมองเขาด้วยความกลัวและกังวลใจ
 
“นายน้อยเฟิง ท่านคิดยังไงกับเฟิงหลิน?” หัวหน้าตระกูลเห็นการต่อสู้แสนเผด็จการของเฟิงหลิน หัวใจของเขาวกวนและปรึกษาชายหนุ่มรูปหล่อที่อยู่ข้างเขา
“เขามีพลังสูงมาก!” ชายหนุ่มเงยหัวและตอบด้วยการประเมินที่สูง
 
“ว่าไงนะ?” ผู้นำตระกูลตกใจมาก เขารู้ดีว่าต้นตระกูลของนายน้อยเฟิงมาจากไหน นายน้อยเฟิงนั้นได้รับการยกย่องเป็นอย่างมากและสำหรับเขาแล้ว มาตรฐานการบ่มเพาะที่นี่ในระบบสุริยะถือว่าต่ำมากจนเขาแทบไม่สนใจ แต่เขากลับประเมินเฟิงหลินว่ามีพลังสูงมาก
อาจเป็นเพราะพลังของเฟิงหลินเทียบเท่าเขา?
ราวกับเขาคาดเดาความคิดของหัวหน้าตระกูลออกชายหนุ่มรูปหล่อกลอกตาและพูดอย่างใจเย็นว่า “คุณคิดมากเกินไป คนทั่วไปในระบบสุริยะจะเปรียบกับกับผมได้ยังไง?แม้ว่าระบบสุริยะจะดูเหมือนกว้างใหญ่ แต่มันก็ยังเล็กเกินไปและไม่มีความหมายอะไรในจักรวาล ที่นี่มีความพิเศษเพียงเล็กน้อย นั่นคือเป็นจุดกำเนิดของมนุษย์ นอกนั้นมันไม่มีค่าเลย”
“ พวกคุณติดอยู่ในระบบสุริยะเหมือนกบก้นบ่อ ไม่ได้รู้ถึงความกว้างใหญ่ของพื้นที่รอบดวงดาวและความแข็งแกร่งของอัจฉริยะที่แท้จริง ซึ่งเกินกว่าจินตนาการของคุณ ผมบอกว่าเขาแข็งแกร่งมากเพราะเขากลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวตั้งแต่อายุ17ปี ถือว่าหายากมากในระบบสุริยะ คนอื่นๆจะไม่สามารถเอาชนะเขาได้ง่ายๆ แต่มันก็แค่นั้น”
“คุณต้องรู้ว่ามาตรฐานดังกล่าวในจักรวรรดิดวงดาวจะถูกพิจารณาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย มีเพียงผู้ที่กลายเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงด้วยวัย18ปีถึงถือว่าน่าประทับใจ…”
 
ชายหนุ่มหัวเราะเยาะเย้ยความเข้าใจผิดของหัวหน้าตระกูล
ไม่เพียงแต่หัวหน้าตระกูลจะไม่โกรธ เขายังถามอีกครั้งว่า “นายน้อยเฟิง ในกรณีนี้ท่านสามารถประเมินศักยภาพของเฟิงหลินได้ไหม?”
 
ชายหนุ่มรูปหล่อสำรวจเฟิงหลิน เขาคิดสักพักก่อนตอบว่า “ถ้าผมตัดสินไม่ผิด เฟิงหลินน่าจะปลุกยีนจิตขึ้นและเสริมความแข็งแกร่งให้อยู่ในระดับที่สูงมาก พลังงานจิตสามารถควบคุมความคิดและจิตสำนึก ทำให้เขาเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว
“ยิ่งไปกว่านั้นพลังจิตของเฟิงหลินยังรุนแรงมาก และมีเพียงผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกับเขาเท่านั้นที่สามารถต้านทานได้ สำหรับผู้ที่อ่อนแอกว่า มันไม่มีพลังแม้แต่จะยืนต่อหน้าเขา นับประสาอะไรกับการต่อสู้”
 
“เอกลักษณ์ของผู้บ่มเพาะที่ปลุกยีนจิตขึ้นคือ พลังจิตของพวกเขาจะพุ่งออกมาอย่างไร้รูปร่างและสะกดจิตทุกคนทำให้คู่ต่อสู้พ่ายแพ้ก่อนที่จะต่อสู้ มีคำพูดในอวกาศอยู่ อธิบายถึงผู้บ่มเพาะประเภทนี้ว่า’เหล่าคนที่ไม่กล้าจ้องตาฉันจะถือว่าเป็นพวกมด!’
 
เขาพูดอย่างใจเย็น วิเคราะห์และอธิบายสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ในการต่อสู้ของเฟิงหลิน
 
นายน้อยยังตัดสินต่อไป ” ยีนจิตเป็นเพียงยีนระดับพื้นฐาน เนื่องจากเฟิงหลินกลายเป็นผู้บ่มเพาะระหว่างดวงดาวได้ เขาจึงต้องปลุกยีนแรกเริ่มที่ทรงพลังมาก กลิ่นอายของร่างกายเขาเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล บางทีอาจมีเพียงไม่กี่คนเช่นเฟิงหลี่และเฟิงจินเผิงที่สามารถบังคับให้เขาแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้!”
 
“ ผมเห็นด้วย” หัวหน้าตระกูลพยักหน้าซ้ำๆ ราวกับว่าเขาได้รับประโยชน์จากการอธิบายนี้
 
เขาเปิดใช้งานระบบปัญญาประดิษฐ์และสังเกตเฟิงหลินอย่างใกล้ชิด ความคิดเกิดขึ้นในใจ
“การต่อสู้ครั้งต่อไปบนลานต่อสู้หมายเลข 11 เฟิงหลิน vs เฟิง เจิน!”
 
เฟิงหลินเดินขึ้นไป
 
“เฟิงหลิน แก … ” คราวนี้คู่ต่อสู้ของเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งและกำลังเตรียมที่จะพูดอะไรบางอย่าง
บูซ-
อากาศกระเพื่อม คลื่นพลังจิตใจควบคุมความคิดของเขา
ในช่วงเวลาต่อไป บุคคลผู้มีร่างกายผอมแห้งก็มองหน้าเขาแล้วยกมือขึ้นพร้อมกับพูดว่า “ฉันยอม”
เฟิงหลินเดินไปตามแท่นไม่พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ
ไม่มีใครหยุดเขาได้!
12 วินาที!
11 วินาที!
14 วินาที!
 

 
พลังจิตของเฟิงหลินนั้นกว้างและมีอำนาจมาก กดขี่อย่างรุนแรง เขาไม่สนใจว่าคู่ต่อสู้ของเขาคือใคร เขาตัดสินการต่อสู้ภายใน 15 วินาทีโดยไม่มีข้อยกเว้น
ก่อนหน้านี้ฝูงชนยังสนใจในการต่อสู้ของเฟิงหลิน แต่ตอนนี้ความตื่นเต้นทั้งหมดจางหายไป
แม้ว่าการต่อสู้ของเฟิงหลินจะน่าตกใจ แต่คู่ต่อสู้ของเขากลับแพ้เหมือนๆเดิม จะมีความหมายอะไรให้มอง?
หากพวกเขาไม่ทราบว่าการจัดอันดับครั้งนี้จะส่งผลต่อความรุ่งโรจน์ของทุกคนและสถานะในอนาคตของพวกเขาในตระกูล คนหลายคนจะรู้สึกว่าคนเหล่านั้นที่แพ้ต้องร่วมมือกับเฟิงหลินและยอมแพ้โดยเจตนา
พวกเขาอยากเห็นพลังที่แท้จริงของเฟิงหลิน ไม่มีความหมายที่จะดูเขาทำร้ายคนที่อ่อนแอกว่า
มันช่างโดดเดี่ยวจริงๆ ไม่ใช่ว่าเขาทรงพลังเกินไป แต่ในตระกูลใหญ่นี้ดูเหมือนจะไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สามารถต่อสู้ได้
หลังจากประสบกับการต่อสู้บนดาวอังคารและการต่อสู้ที่มีชีวิตเป็นเดิมพันกับไททัน การแข่งขันจัดอันดับครั้งนี้ไม่สำคัญเลย ไร้ซึ่งความท้าทายใดๆ
หลังจากชนะการแข่งขันทั้งหมด 12 รอบ ในที่สุดเฟิงหลินก็พบกับคู่ต่อสู้ที่มีพลังชีวิตสูงถึง 9.6 คนนี้อาจเป็นคู่ต่อสู้ได้
นี่คือผู้บ่มเพาะฝึกหัดรูปร่างผอมแห้ง มันยากมากที่สถานะพลังของเขาจะถึง 9.6 หากยีนของเขาพัฒนา เขาจะสามารถกลายเป็นผู้บ่มเพาะระหว่างดวงดาวได้ทันที
 
ทันทีที่เขาเห็นเฟิงหลิน มันก็เหมือนเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา เขาไม่เสียเวลาพูดเรื่องไร้สาระและตั้งท่าป้องกัน
รูปแบบงูขด!
ร่างของเขานุ่มนวลและยืดหยุ่นได้ในทันทีราวกับว่าไร้กระดูก เขาได้สืบทอดยีนงูขด ที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคนของตระกูลเฟิง และปกป้องตัวเองอย่างแน่นหนา
พลังจิตของเฟิงหลินพุ่งออกมา แต่เขาไม่สามารถสัมผัสความคิดของคู่ต่อสู้ได้ สนามแม่เหล็กชีวภาพของคู่ต่อสู้มีระลอกคลื่นน้อยมาก เหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามของเขาตายไปแล้ว
เมื่อเห็นท่าทางป้องกันของอีกฝ่าย เฟิงหลินก็สนใจ
งูเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่สามารถเข้าสู่สถานะจำศีลได้ ทำให้จิตสำนึกของพวกมันดิ่งลงในสภาวะที่หลับลึกมาก มันเป็นเรื่องยากมากที่จะสะกดจิตมัน
ไม่ว่าในกรณีใด นี่ถือว่าน่าสนใจทีเดียว!
ริมฝีปากของเฟิงหลินขดเป็นรอยยิ้ม คนๆนี้คิดว่าเขารู้แค่วิธีใช้การสะกดจิต?
ความคิดนี้ไม่ไร้เดียงสาเกินไปหน่อยหรอ?
เฟิงหลินยกนิ้วขึ้นแล้วพูดอย่างใจเย็น “นายมีค่ามากพอให้ฉันใช้แค่นิ้วเดียวเท่านั้น!”

Legend of the Mythological Genes

Legend of the Mythological Genes

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ!เมื่อมนุษย์เข้าสู่ยุคดวงดาว การบ่มเพาะโบราณได้ส่องประกายสู่ชีวิตใหม่ ยีนดำรงอยู่ในตัวคุณ!ประโยคเดียวที่แสดงถึงความหมายแท้จริงของการบ่มเพาะ ตำนานไม่ใช่เรื่องในจินตนาการ มันมียีนในตำนานอยู่จริง ยีนของห่าวยี่ช่วยให้ยิงลูกศรได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ลูกศรนัดเดียวสามารถทำลายโดมแห่งสวรรค์ ยีนกัวฟู่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ไล่ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ ยีนมังกรเทวะจะช่วยให้พุ่งทะยานเหนือหมู่เมฆ แหวกว่ายรอบห้วงอวกาศ … เกือบหมื่นปีได้ผ่านไป เฟิงหลินมาจากศตวรรษที่21สู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ ตามความเข้าใจเข้าถึงตำนานของยุคโลกโบราณ เขาได้เริ่มเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะยีนสุดพิเศษ ยีนลิง+ยีนหิน = ยีนลิงหิน ยีนลิงหิน+??? = ยีนลิงหินวิญญาณ ยีนลิงหินวิญญาณ+??? = ยีนราชาลิงสุดหล่อ ยีนราชาลิงสุดหล่อ+??? = ยีนซุนหงอคง ยีนซุนหงอคง+??? = ยีนมหาเทพเทียมฟ้า Every myth and legend is a path to Godhood! When humans enter the interstellar era, ancient cultivation techniques shone with new life. Your genes exist with you! A single sentence showing the true meaning of cultivation. Myths and legends are not a fantasy, there are ancient mythological genes in the bodies of everyone. The Hou Yi Gene allows you to shoot a hundred miles, using a single arrow to break down the dome of heaven. The Kuafu Gene allows you to run with flying speed, chasing after the sun and moon. The Divine Dragon Gene allows you to soar among the clouds, roaming around the starry space. …. Almost ten thousand years have passed. Feng Lin came from the 21st century to this majestic era that surged forth with great momentum. Based on his understanding on the myths and legends of the ancient earth era, he embarked upon a unique genetic cultivation path. Monkey Gene + Stonebirth Gene = Stone Monkey Gene Stone Monkey Gene + ??? = Spiritual Stone Monkey Gene Spiritual Stone Monkey Gene + ??? = Handsome Monkey King Gene Handsome Monkey King Gene + ??? = Sun Wukong Gene Sun Wukong Gene + ??? = Great Sage Equal to Heavens Gene

Options

not work with dark mode
Reset